Your Wishlist

เมียคนธรรมดา ภาค 2 (ทำไมไม่บอกเขาโดยตรง)

Author: หยูเสี่ยวถง

ภาคต่อของเมียคนธรรมดา

จำนวนตอน :

ทำไมไม่บอกเขาโดยตรง

  • 13/05/2565

หลู่เจียวไม่อยากคิดให้วุ่นวายใจ เลยไม่ได้พูดอะไร ป้ากุ้ยฮวา กลับไม่รู้สึกอายเลย นางลุกขึ้นอย่างเรียบร้อย และขยับไปนั่งอีกด้านของหลู่เจียว

 

"ภรรยาหยุนจิน ข้ารู้สึกเสียใจมาหลายวันแล้ว เสียใจที่ข้าไม่ควรทะเลาะกับเจ้า ข้าไม่ควรทำอย่างนั้นเลยจริง ตอนนี้ข้าสำนึกแล้ว และป้ากำลังจะบอกเจ้าว่า ข้าขอโทษ เจ้ายกโทษให้ข้าได้หรือไม่"

 

ป้ากุ้ยฮวา เอื้อมมือออกไปและจับมือของหลู่เจียว ดูเหมือนว่านางจะรู้สึกเสียใจมากจริงๆ

 

ทุกคนบนเกวียน ก็พากันจ้องมองที่ป้ากุ้ยฮวา ด้วยดวงตาเบิกกว้าง ผู้หญิงคนนี้ทำไมเปลี่ยนหน้าได้มากขนาดนี้

 

แม้ว่าทุกคนจะไม่รู้ว่า ทำไมป้ากุ้ยฮวา ถึงทำเช่นนี้ แต่มันก็ไม่ง่ายเลย ที่นางจะละทิ้งใบหน้าแก่ๆของนางแบบนี้ แล้วไม่ฝ่ายลงให้กับหลู่เจียว

 

ทุกคนหันไปมองหลู่เจียว ว่านางจะจัดการยังไง

 

หลู่เจียว ก็ไม่อาจทนกับการเปลี่ยนสีหน้าของป้ากุ้ยฮวาต่อได้จริงๆ แต่จะอย่างไรก็ตาม ก็ต้องไว้หน้าแก่ๆ ในฐานะผู้อาวุโสของนางบ้าง

 

"เมื่อป้าขอโทษแล้ว เช่นนั้น ก็ปล่อยให้อดีตมันผ่านไปเถิด"

 

ถึงแม้ป้ากุ้ยฮวาคนนี้ จะปากร้ายไปหน่อย แต่เจ้าของร่างเดิม ก็ไม่ได้เกลียดชังหรือทะเลาะอะไรกันกับนางมากมาย เป็นเพียงคู่กัดกัน ที่เหงาปากก็หาเรื่องด่ากันเฉยๆ และหลู่เจียวคนเก่าก็ปากร้ายไม่ต่างกัน ในเมื่อป้ากุ้ยฮวา สามารถปล่อยวางได้แล้ว เช่นนั้น นางก็ควรที่จะ ปล่อยวางด้วยเช่นกัน เพราะไม่ใช่ใครก็ปล่อยวาง และทำได้เหมือนอย่างป้ากุ้ยฮวา

 

เมื่อป้ากุ้ยฮวาได้ยินคำตอบของหลู่เจียว นางก็เริ่มปาดน้ำตา "ทำไมเจ้าถึงใจดีขนาดนี้ ป้าเคยทำอะไรผิดพลาดไปจริงๆ ป้าเสียใจกับเจ้าจริงๆ ป้าเสียใจมาก"

 

ใบหน้าของหลู่เจียว รู้สึกตึงเล็กน้อย รำคาญนิดหน่อย ยังไม่จบอีก

 

"เมื่อป้าสำนึกผิดแล้ว ก็ลืมมันไปเถอะ อย่าเป็นเหมือนเมื่อก่อนก็พอ"

 

ป้ากุ้ยฮวาได้ยินดังนั้น มองดูลู่เจียวด้วยตาสีแดงก่ำ และพูดออกมาด้วยอาการสำนึกผิดอีกครั้ง…

 

"เจียวเจียว เจ้าเป็นผู้ใหญ่มาก ไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนบอกว่าเจ้าเป็นคนดี เจ้ามีจิตใจบริสุทธิ์จริงๆ แม้แต่คนอย่างข้าที่ทำผิดครั้งใหญ่ก็ยังให้อภัยข้า เจียวเจียว เจ้าคือพระโพธิสัตว์ที่ยังมีชีวิต" ทุกคนพอได้ฟัง ถึงกับรู้สึกขนลุก…

 

หลายคนบนเกวียนวัวรู้สึกอึดอัด สวรรค์ นี่มันน่ารำคาญเกินไปแล้ว

 

โชคดีที่รถเกวียนวัววันนี้ มาถึงเมืองเร็ว หลังจากนั้น หลู่เจียวก็รีบลงจากรถ และ เซี่ยเซียวจวน ก็ลงจากรถไปพร้อมกับนางทันที

 

ป้ากุ้ยฮวา ก็ออกจากรถช้าเล็กน้อย เพราะนางแก่และการเคลื่อนไหวของนางไม่ยืดหยุ่นเท่าไหร่นัก นางลงจากรถช้ากว่าคนอื่น และพอมองไปอีกที ก็เห็นว่าหลู่เจียว เดินไปไกลแล้ว แต่นางก็ยังคงเรียกจากด้านหลัง…

 

"เจียวเจียว ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้า ทำไมเจ้าถึงเดินเร็วขนาดนั้น…"

 

เส้นสีดำก็ปรากฏบนใบหน้าของเซี่ยเถี่ยหนิว ที่เป็นพลขับเกวียน อยู่บนเกวียนวัว ข้างหลังนาง หญิงชราคนนี้ ชั่งไร้ยางอายเกินไป…

 

เซี่ยเซียวจวน เมื่อเดินมากับหลู่เจียว ก็เอ่ยออกมาบ้างว่า "อยู่มาหลายปี ข้าก็พึ่งรู้ว่าป้ากุ้ยฮวา ยังคงมีทักษะที่ไร้ยางอายแบบนี้ติดตัวด้วย คงเป็นเพราะป้าสาม รู้จักยา และต้องการสอนชาวบ้านให้รู้จักวัสดุยาและสมุนไพร และนางกลัวว่านางอาจจะไม่ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับคนอื่น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นางยอมเสียหน้าขนาดนี้"

 

หลู่เจียวยิ้มและเอ่ยออกมาว่า "จริงๆ แล้วมันก็ไม่ง่ายเลยสำหรับนาง เช่นนั้นก็ลืมมันไปเถอะ"

 

หากว่าแม่สามีของนาง นางเหยียน ยอมปล่อยวาง และประพฤติปฏิบัติดีกับนาง คงเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก และคงเป็นอะไรที่ดีมาก…

 

หลังจากคุยกันสักพัก ทั้งสองก็แยกจากกัน หลู่เจียวก็เดินไปที่เป่าเหอถัง และ เสิ่นซิ่ว ก็ตามนางมาไกลๆ เมื่อนางเห็นหลู่เจียวเข้าสู่เป่าเหอถัง นางหันหลังกลับไปและเดินไปอีกทิศทางหนึ่ง

 

หลู่เจียวไม่รู้เรื่องนี้ นางไปที่เป่าเหอถัง พร้อมตะกร้าบนหลังของนาง…

 

….

 

ในห้องโถงเป่าเหอ หมอฉีกำลังตรวจคนไข้ ผู้จัดการและพนักงานของเขากำลังสั่งจ่ายยา

 

แต่ทันทีที่หลู่เจียวปรากฏตัว หลงจู๊หลี่ ก็ให้พนักงานของเขาจัดการงานต่อแล้วเขาก็ออกมาต้อนรับหลู่เจียว

 

เขาได้ยินจากหมอฉีว่า นางหลู่ผู้นี้ มีความชำนาญด้านการแพทย์สูงมาก ไม่เพียงแต่นางจะสามารถแก้พิษงูได้อย่างง่ายดาย แต่นางยังสามารถทำการผ่าตัดได้อีกด้วย คนที่กล้าทำศัลยกรรมนั้นหายากมากในต้าโจว เช่นนั้นนางย่อมไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เห็นเป็นแน่

 

นายจ้างของพวกเขายังตั้งใจ อยากจะจ้างนาง มาเป็นหมอประจำที่เป่าเหอถัง

 

"ฮูหยินเซี่ย มาแล้วหรือ"

 

หลู่เจียวพยักหน้า และเจ้าของร้านหลี่ก็ถามด้วยรอยยิ้ม "วันนี้ฮูหยินมาที่นี่เพื่อซื้อยาหรือขายสมุนไพร?"

 

หลู่เจียวหันไปมองที่ฉีเหล่ยซึ่งกำลังตรวจคนไข้ "วันนี้ข้ามาหาหมอฉีและต้องการถามอะไรบางอย่าง"

 

หลงจู๊หลี่เมื่อได้ยินก็ตื่นเต้นมาก นางหลู่มาที่นี่ ก็เพื่อคุยกับหมอฉีเกี่ยวกับการผ่าตัดสามีของนางหรือเปล่า?

 

ทั้งสามคนในเป่าเหอถังรู้เรื่องนี้ดี หลงจู๊หลี่ แค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว แล้วเขาจะไปดูการผ่าตัดนี้ได้หรือเปล่า?

 

เมื่อฉีเหล่ย ได้ยินคำพูดของหลู่เจียว เขาก็ตรวจคนไข้เสร็จพอดี แล้วลุกขึ้นทักทายนาง

 

"ฮูหยินเซี่ย เชิญคุยกับข้าที่ด้านหลัง"

 

หลู่เจียวพยักหน้าและตามฉีเหล่ยไปที่สวนหลังบ้าน พร้อมกับตะกร้าบนหลังของนาง ระหว่างทาง นางไม่ลืมที่จะขอบคุณฉีเหล่ย "ขอบคุณหมอฉีที่ให้ข้า ใช้เตียง โต๊ะ เก้าอี้ ราคาเท่าไหร่ ข้าจะจ่ายให้เจ้าทีหลัง"

 

ฉีเหล่ยปฏิเสธทันที สิ่งที่เขาให้หลู่เจียวนั้นไม่ได้อะไรแพงมาก

 

ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องการผูกมิตรกับหลู่เจียว และยังต้องการเรียนรู้การผ่าตัดจากนางอีกด้วย

 

เขาแค่ไม่รู้ว่านางหลู่จะสอนเขาหรือเปล่า

 

"ไม่ ไม่ต้อง มันไม่ใช่ของมีค่าอะไร"

 

ฉีเหล่ยปฏิเสธ เมื่อหลู่เจียวอยู่ข้างๆเขานางก็พูดออกมาว่า "ถ้าอย่างนั้นหมอฉีจะช่วยข้าหาหม้อเหล็กสองอันได้หรือไม่"

 

เมืองบ้านนอกอย่างนี้ ยังมีคนจำนวนมากในหมู่บ้านที่ทำอาหาร และกินในหม้อดิน ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากซื้อหม้อเหล็ก แต่พวกเขาหาซื้อไม่ได้

 

หลังจากฟังคำพูดของหลู่เจียว ฉีเหล่ยก็เห็นด้วย "ตกลง ข้าจะจัดการให้ ทางเมืองฝูเฉิงคงจะพอหาได้"

 

"ขอบคุณหมอฉี เช่นนั้นข้าจะต้องให้เงินท่านก่อนหรือเปล่า"

 

"ไม่ๆ ไม่ต้อง เป็นเงินเพียงเล็กน้อย แต่ข้ายังพอมีเงินที่จะจัดการให้ท่านได้"

 

หลู่เจียวเลิกคิ้วขึ้นและมองไปที่ฉีเหล่ย นี่มันมากเกินไปหรือเปล่า? เขาทำแบบนี้ เพื่อจุดประสงค์อะไร

 

ฉีเหล่ยหัวเราะ และเมื่อเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง พวกเขาก็ได้ยินเสียงคนในอาคารเล็กๆ ข้างหน้าเขาขัดจังหวะเขา

 

"ท่านหญิงหลู่มาแล้วหรือ?"

 

หลู่เจียวหันกลับมามองอาคารเล็กๆ ตรงหน้านาง ในห้องโถงใหญ่ของอาคารเล็กๆ เจ้าของเป่าเหอถังมองดูนางอย่างเย็นชา และเรียกนางออกไป หลู่เจียวพยักหน้าให้เขา

 

"ท่านเจ้าของร้านนั่นเอง"

 

จ้าวหลิงเฟิงก็พยักหน้า และโบกมือให้พวกเขาเข้ามานั่ง หลู่เจียว ก็ไม่เกรงใจ นางก็เดินไปนั่งที่โต๊ะ บนโต๊ะ เห็นมีแผ่นกระดาษหลายแผ่น มีตัวหนังสือเขียนอยู่มากมาย แต่หลู่เจียวไม่ได้สนใจ มันเป็นของคนอื่น และอาจมีความลับบางอย่าง

 

หลู่เจียวกับฉีเหล่ยเมื่อนั่งลง นางก็พูดอย่างตรงไปตรงมา "ข้ามาที่นี่เพื่อพูดคุยกับท่านเกี่ยวกับสิ่งที่ข้าพูดครั้งล่าสุด ขาของสามีของข้าถูกรถม้าวิ่งทับ และกระดูกขาของเขาแตกและเคลื่อน จึงต้องทำการผ่าตัดแก้ไขกระดูกของเขาและนำกระดูกที่แตกหักหลายชิ้นพวกนั้นออกมา"

 

เมื่อคำพูดของหลู่เจียว จบลง ฉีเหล่ยไม่ได้พูดอะไร และจ้าวหลี่เฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็พูดอย่างใจเย็นว่า

 

"ท่านหญิงหลู่เรียนรู้เกี่ยวกับศัลยกรรมได้อย่างไร"

 

เขาต้องการรู้ว่า นางเรียนรู้มาจากอาจารย์คนไหน 

 

หลู่เจียวก็มองไปที่จ้าวหลี่เฟิง ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน และกล่าวว่า 

 

"ข้าเคยเรียนรู้สิ่งนี้จากแม่เฒ่าที่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ มาประมาณเจ็ดหรือแปดปีที่แล้ว ดังนั้นข้าคิดว่า ข้าสามารถแก้ไขกระดูกขาของเขาได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยการผ่าตัด"

 

จ้าวหลี่เฟิง เมื่อได้ฟัง เขาก็ยังสงสัยไม่หาย แล้วเขาก็เอ่ยถามต่อ

 

"ในเมื่อเจ้ามีทักษะทางการแพทย์ที่ทรงพลังเช่นนี้ ทำไมเจ้าถึงไม่บอกสามีของเจ้า แต่กลับบอกว่าหมอฉีเป็นคนผ่าตัดให้เขา" ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจอะไรมากนัก แต่เขาก็เอาว่านางคงไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อสามีตัวเอง หากจะบอกว่านางจะเอาหมอฉีรับโทษแทนหากมีการผิดพลาด ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะนางคงไม่เอาชีวิตสามีตัวเองมาล้อเล่น

 

หลู่เจียวยิ้มแล้วตอบออกไป "มีกี่คนในโลกนี้ ที่เชื่อว่า ผู้หญิงสามารถเป็นหมอ และมีกี่คนที่เชื่อว่า ผู้หญิงก็เป็นศัลยแพทย์ได้ และตอนนี้ สามีข้าก็สุขภาพไม่ค่อยดี ถ้าข้าบอกกับเขาไปตามตรง เขาคงจะกังวลใจแน่นอน มันไม่ดีต่อสุขภาพของเขา ดังนั้นข้าจึงต้องทำผ่านมือของหมอฉี"

 

และความจริงแล้ว หากนางบอกเซี่ยหยุนจินไปตรงๆ เขาอาจจะเข้าใจผิดคิดว่านาง ต้องการทำร้ายเขาก็เป็นไปได้…

 

จ้าวหลิงเฟิงกับฉีเหล่ยก็หันมามองหน้ากัน เมื่อได้ฟังคำตอบของหลู่เจียว…

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป