Your Wishlist

เมียคนธรรมดา ภาค 2 (รอยยิ้มนั้นช่างดูน่ากลัวเหมือนเกิน)

Author: หยูเสี่ยวถง

ภาคต่อของเมียคนธรรมดา

จำนวนตอน :

รอยยิ้มนั้นช่างดูน่ากลัวเหมือนเกิน

  • 13/05/2565

หลู่เจียวเก็บของและก้าวออกจากบ้าน

 

นางเข้าไปในเมืองครั้งนี้ นอกจากจะเตรียมการผ่าตัดให้กับเซี่ยหยุนจินแล้ว นางยังต้องซื้อหม้อและกระทะด้วย อื่นๆ ยังพอหาได้ แต่หม้อเหล็กนี้เป็นของหายาก ไม่รู้ว่าในเมืองจะมีขายหรือเปล่า

 

หลู่เจียวพอคิดถึงฉีเหล่ย ที่เป็นหมอของเป่าเหอถัง และได้ยินว่า เขามาจากเมืองหลวง หากนางดูในเมืองแล้วไม่มี บางทีเขาอาจจะมีวิธีหาหม้อเหล็กจากในเมืองหลวง ให้นางได้ซักใบสองใบ 

 

หลังจากที่หลู่เจียวคิดและตัดสินใจได้แล้ว นางก็ตรงไปบ้านหัวหน้าหมู่บ้าน

 

ระหว่างทาง ชาวบ้านที่เห็นนางเดินมา ซึ่งบางคนเคยไม่ชอบนางมาก่อน ก็พากันทักทายนางอย่างอบอุ่น…

 

เมื่อถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน เซี่ยเถี่ยหนิว ก็ได้นำเกวียนวัวออกมารอ ในเวลานี้ ยังมีคนอีกสองสามคนนั่งอยู่บนเกวียนวัว รวมถึง เฉินหลิว พี่สะใภ้ของหยุนจิน ยังมีลูกสาวคนเล็กของท่านย่าสอง ฉางเหมย, เซี่ยเซียวจวน ลูกสาวหัวหน้าหมู่บ้าน และยังมีอีกสองคน คือหลัวกุ้ยฮวา หรือป้ากุ้ยฮวา กับเสิ่นซิ่ว ที่เป็นคู่ปรับเก่าของหลู่เจียว

 

เสิ่นซิ่ว พอได้เห็นหลู่เจียว ดวงตาของนาง ก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง นางจ้องมองไปที่หลู่เจียว ราวกับว่านางต้องการจะกระโจนใส่หลู่เจียวและกัดหลู่เจียวซักคำด้วยความแค้นเคือง

 

หลู่เจียวไม่สนใจนางและยิ้มให้ เซี่ยเซียวจวน ที่อยู่ข้างๆ เซี่ยเซียวจวน ก็เอื้อมมือออกไปทันทีและดึงนางขึ้นนั่งข้างนาง

 

ทันทีที่หลู่เจียวนั่งลง เกวียนวัวก็เริ่มออกตัว

 

ฝั่งตรงข้าม ก็คือเฉินหลิว เมื่อนางเห็นว่า หลู่เจียวไม่ได้ทักทายนาง ตั้งแต่เจอและหลังจากขึ้นรถ เฉินหลิว ก็รู้สึกโกรธโดยไม่รู้ตัว และมองไปที่หลู่เจียวแล้วพูดออกมา

 

“โอ้ว น้องสามขาไม่ดี หรือว่าตาของเขาไม่ดี ที่ไม่ยอมหย่ากับภรรยานิสัยแบบนี้ ”

 

หลู่เจียวหันกลับมาและยิ้มให้เฉินหลิว แล้วพูดอย่างใจเย็น "นิสัยข้ามันเป็นยังไงหรือ แต่ถึงนิสัยข้าจะไม่ดี ก็คงไม่เท่ากับเจ้า คนในหมู่บ้านนี้ต่างก็ดูถูกเจ้า ในสิ่งที่เจ้าทำ”

 

พอหลู่เจียวพูด คนบนเกวียนวัวก็พากันมองไปยังเฉินหลิวพร้อมกัน

 

แม้แต่ป้ากุ้ยฮวาซึ่งไม่ค่อยถูกกับหลู่เจียว ก็ยังมองนางด้วยสายตาดูถูก

 

ใบหน้าของเฉินหลิว มืดมนลงด้วยความโกรธ ดวงตาของนางแทบลุกเป็นไฟ นางอยากจะเอื้อมมือออกไป และทุบตีหลู่เจียว แต่จิตใต้สำนึกก็ทำให้นางคิดได้อย่างรวดเร็ว ถึงความแข็งแกร่งของหลู่เจียว และนางไม่กล้าที่จะทำอะไร

 

ผู้หญิงคนนี้ถึงกับเมินแม่สามีของนางด้วยซ้ำ นับประสากับนาง นางกล้าที่จะทุบตีนางอย่างแน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม เฉินหลิวคิดอย่างรวดเร็วถึง สิ่งที่แม่สามีของนางตัดสินใจทำเมื่อคืนนี้ และมุมปากของนางก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างพอใจ

 

ตอนนี้ก็ปล่อยให้หลู่เจียวหลงระเริงไปก่อน อีกไม่นาน น้องสามก็จะหย่ากับนางแล้ว เมื่อนั้นนางถึงจะรู้สึก

 

พอคิดได้ดังนี้ เฉินหลิวก็รู้สึกสบายใจขึ้นนิดหน่อย จ้องไปที่หลู่เจียวเล็กน้อย แล้วหันไปมองที่อื่น

 

เฉินหลิวพอหยุดพูด แต่เสิ่นซิ่วที่อยู่ด้านข้างก็พูดออกมาบ้าง

 

“หลู่เจียวเจ้าเป็นคนสั่งให้ หลัวว่านไฉ ขโมยเงินของข้า และใช้เงินนั้นให้แม่ข้าเพื่อแต่งงานกับข้าหรือ เจ้าเป็นคนทำร้ายข้า”

 

ทันทีที่หลู่เจียวได้ยิน ก็คิดได้ว่า เสิ่นซิ่ว คงต้องรู้มาจากปากของหลัวว่านไฉ 

 

แต่นางก็ไม่กลัวหรือกังวลใจเลย

 

บางคนในเกวียนวัวได้ยินคำพูดของเสิ่นซิ่ว พวกเขาก็พากันหันกลับมามองหลู่เจียวด้วยความประหลาดใจ เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?

 

หลู่เจียวกล่าวอย่างสงบ "เสิ่นซิ่ว ก่อนหน้านั้น เจ้าขอให้หลัวว่านไฉ มาหลอกล่อข้า แล้วจ้างเขาด้วยเงินห้าตำลึงก่อน แล้วข้าก็สู้กลับ บอกให้เขาคิดได้ว่า จะง่ายกว่าถ้าเขาแต่งงานกับเจ้า และสิ่งที่ข้าทำลงไป ก็ไม่มีอะไรเทียบกับของเจ้าได้"

 

"ข้ามีสามีแล้ว เจ้ากลับสั่งผู้ชายคนหนึ่งมาเกลี้ยกล่อมข้า และเจ้ามีเจตนาร้ายที่จะทำลายชื่อเสียงของข้า ดังนั้น ข้าก็เลยบอกหลัวว่านไฉ ว่าเขาไม่มีทางเกลี้ยกล่อมข้าสำเร็จ และชี้ช่องทางให้เขา จะยังไง เจ้าก็เป็นม่าย หลัวว่านไฉ ก็เป็นคนโสด และชายและหญิงยังไม่แต่งงาน จะมีปัญหาอะไร หากให้หลัวว่านไฉแต่งงานกับเจ้า ข้าเลวกว่าเจ้าหรือไม่"

 

หลังจากหลู่เจียวพูดจบ ทุกคนในเกวียนวัวก็พากันหันไปมองเสิ่นซิ่ว เมื่อนึกถึงความคิดของเสิ่นซิ่ว ที่มีต่อเซี่ยหยุนจิน ทุกคนก็เชื่อว่า สิ่งที่หลู่เจียวพูดออกมาต้องเป็นความจริง

 

เสิ่นซิ่วคนนี้ ต้องการให้ร้ายหลู่เจียว ก็เพราะต้องการที่จะเป็นภรรยาของหยุนจิน โดยหลอกให้หลัวว่านไฉเข้าหาหลู่เจียว และหลู่เจียวผู้นี้ ก็หลอกหลัวว่านไฉ ให้ย้อนกลับไปทำร้ายเสิ่นซิ่วแทน กลับกลายเป็นว่านางทำร้ายตัวเอง และที่แย่ยิ่งกว่าก็คือหลัวว่านไฉ ที่โดนผู้หญิงสองคนปั่นหัว แถมยังเหมือนคนโง่งมอีกด้วย จะยังไงก็แล้วแต่มีคนรู้เรื่องเบื้องหลังยิ่งน้อยยิ่งดี กลับกลายเป็นว่า เขากลับยอมบอกเสิ่นซิ่ว นั่นไม่เท่ากับแสดงความโง่งมของตัวเองให้คนอื่นรู้มากยิ่งขึ้นดอกหรือ และเสิ่นซิ่วเมื่อรู้แล้ว ก็ยังมาโวยวายกับหลู่เจียว ให้รู้กันไปทั่ว นี่ไม่เท่ากับประจานตัวเอง ให้รู้กันไปทั้งหมู่บ้านดอกหรือ…

 

จะอย่างไรก็ตาม คนบนเกวียนวัน ทั้งหมดก็มองไปที่เสิ่นซิ่ว ด้วยความรังเกียจ

 

เสิ่นซิ่ว มองดูสายตาของชาวบ้านรอบๆ ตัวนาง และเมื่อนางนึกถึงภาพลักษณ์ที่ดีของนางในหมู่บ้านกลับกลายเป็นเสื่อมทรามลง ความเกลียดชังก็เต็มหัวใจของนางมากยิ่งขึ้น

 

“หลู่เจียว ข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไป”

 

หลู่เจียวพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา 

 

“ข้าจะรอ ยังไงก็ตาม ข้าก็ไม่กลัวเจ้า”

 

หลู่เจียวกล่าวด้วยรอยยิ้ม ดวงตาของเสิ่นซิ่วก็เป็นสีดำ และจ้องมองแรงไปที่หลู่เจียว ด้วยความเกลียดชังอยู่เต็มหัวใจ นางแอบตัดสินใจ ว่าจะต้องจัดการผู้หญิงคนนี้ ในวันนี้ อย่างแน่นอน

 

บนเกวียนวัว เซี่ยเซียวจวน เอื้อมมือไปจับมือ หลู่เจียวอย่างกังวล

 

หลู่เจียวยกมือขึ้นและตบมือของ เซี่ยเซียวจวน และพูดอย่างอบอุ่นว่า 

 

"ข้าสบายดี ไม่ต้องกังวล"

 

นางมองไปที่ไข่ในตระกร้าในมือของเซี่ยเซียวจวน และพูดด้วยความกังวลบ้างว่า  "เจ้ากำลังจะไปในเมืองเพื่อขายไข่?"

 

"อืม ข้ามีไก่ไข่สองสามตัวที่บ้าน และแม่ของข้าขอให้ข้าไปขายไข่ที่เมืองทุกสองสามวัน"

 

หลู่เจียวพอได้ฟัง ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และตัดสินใจเรื่องราวบางอย่างในใจ เดี่ยวนางจะเซี่ยเซียวจวนว่า ให้นางส่งไข่ไปที่บ้านของนางได้

 

เซี่ยหยุนจิน และเด็กๆทั้งสี่ต้องการเสริมโภชนาการ กินไข่ก็เสริมโปรตีนเป็นอย่างดี และครอบครัวก็ต้องการไข่ และครอบครัวของหัวหน้าหมู่บ้าน ก็ต้องการขาย ไข่ ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสอันดี 

 

แต่หลู่เจียวไม่เคยคิดจะบอกเซี่ยเซียวจวน เกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อหน้าคนอื่น หรือบอกนางในตอนนี้ ดังนั้นนางจึงไม่รีบพูดถึงมันบนเกวียนวัว

 

เซี่ยเซียวจวน คิดถึงสิ่งที่พ่อของนางพูดก่อนหน้านี้ และถามหลู่เจียว ออกไปด้วยเสียงต่ำ 

 

"ป้าสามข้าได้ยินมาจากพ่อของข้า เจ้าต้องการสอนชาวบ้านให้รู้จักสมุนไพรบนภูเขาใช่หรือไม่"

 

หลู่เจียวพยักหน้า " ใช่”

 

เซี่ยเซียวจวน เปิดปากของนาง นางต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่นางก็อายเกินกว่าจะพูดออกมา

 

หลู่เจียวจับมือนางแล้วพูดว่า "เจ้าก็มาที่บ้านของข้าด้วยสิ แล้วข้าจะสอนเจ้า"

 

เซี่ยเซียวจวน ก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก "ขอบคุณป้าสาม"

 

"ไม่เป็นไร"

 

แม้ว่าทั้งสองจะพูดด้วยเสียงต่ำ แต่บนเกวียนวัวนั้นไม่ได้ใหญ่มากนัก คนอื่นๆ จึงได้ยินโดยธรรมชาติ

 

โดยเฉพาะเฉินหลิว ก็โกรธจนแทบอาเจียนเป็นเลือด นางไม่ได้สอนพี่สะใภ้ แต่นางกลับสอนคนนอก นางสติไม่ดีหรือ อ้อ เมื่อแม่สามี ให้น้องสามหย่ากับนาง ก็นับว่าสมควรแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น นางจะไม่ช่วยพูดให้นางเลย… เฉินหลิวคิดในใจ

 

บนเกวียนวัว แม้ว่าเฉินหลิวจะรู้สึกรำคาญ แต่ป้ากุ้ยฮวา กลับเป็นกังวล นางรู้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้พอสมควร เรื่องที่ว่า หลู่เจียวต้องการสอนชาวบ้านให้รู้จักวัสดุยาโดยเฉพาะสมุนไพร และเรื่องนี้ก็ใช่เรื่องแปลกใหม่ หรือเรื่องโม้เกินจริงแต่อย่างใด เพราะหลู่เจียวก็รู้จักยาอย่างดีด้วยเช่นกัน 

 

เมื่อได้ยินว่าเด็กจากตระกูลหลิน มีไข้สูง แม้แต่หมอในเมือง ยังไม่มีใครทำอะไรได้ แต่เมื่อได้กินยาจากนางเข้าไป กลับไม่มีไข้แล้ว

 

นอกจากนี้ นางยังได้ล้างพิษงู ของงูแหวนทอง ให้กับนายพรานของตระกูลซู ที่ชื่อซูต้าจินคนนั้น และนางก็เห็นกับตาว่า ซูต้าจินคนนั้น ก็ยังอยู่สุขสบายดี และไม่มีผลข้างเคียงอันใด

 

นั่นแสดงให้เห็นว่า หลู่เจียวผู้นี้ มีทักษะการแพทย์ที่แข็งแกร่งมาก พอป้ากุ้ยฮวาคิดถึงเรื่องนี้ แล้วเหมือนนางจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้…

 

จากความขัดแย้งในอดีต ระหว่างนางกับหลู่เจียว ที่มีมาตลอด ทำให้หลู่เจียว ตัดสินใจไม่สอนครอบครัวของพวกนาง ให้รู้จักยาสมุนไพร และถ้าหากมีคนในครอบครัวนางป่วย ผู้หญิงคนนี้จะไม่สนใจพวกเขาด้วยหรือเปล่า เพราะว่าก่อนหน้านี้ นางมักจะมีเรื่องกับหลู่เจียวอยู่บ่อยๆ…

 

เช่นนั้นก็แย่แล้ว เพราะเดี่ยวเซี่ยหยุนจิน เมื่อขาของเขาหายดี ก็อาจจะสอบได้ตำแหน่งขุนนางระดับสูง การมีเรื่องกับนางต่อไป คงไม่ใช่เรื่องฉลาดนัก…

 

ป้ากุ้ยฮวาตัวสั่นอย่างรุนแรง ดังนั้นแล้ว นางต้องปรับตัวอย่างเร็วที่สุด นางต้องตีสนิทกับผู้หญิงคนนี้ แล้วลืมเรื่องบาดหมางครั้งเก่าไปให้หมด

 

ป้ากุ้ยฮวาพอคิดได้ดังนี้ และรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางทันที แล้วเอ่ยออกไปบ้างว่า

“ภรรยาหยุนจิน เจ้ากำลังจะไปขายของในเมืองหรือ”

 

คราวนี้ไม่เพียงแต่หลู่เจียวเท่านั้น ที่มองที่ป้ากุ้ยฮวาด้วยท่าทางแปลกๆ แม้แต่คนอื่นๆ บนเกวียนวัว ก็พากันมองที่ป้ากุ้ยฮวาอย่างแปลกๆ

 

ไม่มีใครในหมู่บ้านเซี่ยเจีย จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับป้ากุ้ยฮวากับหลู่เจียว ที่มักจะเป็นศัตรูและคู่กัดกันเสมอ เมื่อยามพบหน้า ต้องหาเรื่องทะเลาะกัน คล้ายว่าจะเป็นกิจวัตรประจำวันของพวกนาง

 

หลู่เจียวก็มองไปที่ป้ากุ้ยฮวาอย่างสงสัย นางกำลังพยายามทำอะไรอยู่หรือเปล่า และถึงแม้ว่านางจะกำลังยิ้มแย้มแจ่มใส่ แต่รอยยิ้มนั้นช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน…

กลับหน้าหลัก ตอนถัดไป