เกิดใหม่ เป็นแม่ของตัวร้าย ในช่วงวัยเด็กในนิยาย แถมสามียังเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ แต่พวกเขากลับอยากฆ่านาง นางจะอยู่สอนเด็กๆให้เป็นคนดีไม่กลายเป็นตัวร้ายในอนาคต หรือจะจากไปดี แต่เด็กพวกนี้ก็น่ารักจริงๆ...
เกิดใหม่ เป็นแม่ของตัวร้าย ในช่วงวัยเด็กในนิยาย แถมสามียังเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ แต่พวกเขากลับอยากฆ่านาง นางจะอยู่สอนเด็กๆให้เป็นคนดีไม่กลายเป็นตัวร้ายในอนาคต หรือจะจากไปดี แต่เด็กพวกนี้ก็น่ารักจริงๆ...
ทันทีที่เซี่ยหยุนจินคิดเรื่องนี้เขาก็ด่าตัวเองทันทีที่คิดอย่างนั้นแต่เขามองไปที่หลู่เจียวด้วยดวงตาที่ชัดเจน
“เจ้าอยากพักผ่อนหรือเปล่า”
หลู่เจียวส่ายศีรษะ"ข้าไม่เหนื่อย"
เซี่ยหยุนจินไม่ค่อยเชื่อเลยนางจะไม่เหนื่อยได้อย่างไร
ภาระทั้งหมดของครอบครัวตกอยู่กับนางไม่น่าแปลกใจที่นางไม่ได้พักผ่อน
เซี่ยหยุนจินครุ่นคิดนางสามารถทำทุกสิ่งอย่างเหมือนง่ายได้จริงๆและนางก็ทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลเขาและดูแลเด็กน้อยทั้ง4คนจุดประสงค์ของนางที่ทำเช่นนี้คืออะไร?
แค่ดูแลแล้วจากไปจริงหรือเปล่า?แต่ถึงจะเป็นการประนีประนอมก็ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้สรุปว่าเซี่ยหยุนจินไม่เชื่อว่ามีคนในโลกนี้ที่ไม่ขออะไรตอบแทนแต่หากนางทำทุกอย่างนี้แล้วคำเรียกร้องของนางไม่มากเกินไปในอนาคตเขาก็จะเห็นด้วยกับนางแม้ว่านางจะไม่อยากอยู่่ต่อก็ตาม
เซี่ยหยุนจินคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้…
หลู่เจียวไม่รู้ว่าเขากำลังคิดมากนางพูดในขณะที่ให้อาหารเซี่ยหยุนจินกินอาหาร
“ข้าไม่ได้พูดไปก่อนหน้านี้เหรอว่าอยากสอนชาวบ้านเรื่องยาสมุนไพรเจ้าสามารถสอนพวกเขาได้เมื่อสุขภาพดีขึ้นตอนนี้เจ้าแค่ต้องดูแลลูกสี่คนเท่านั้นและต้องดูแลเจ้าข้าก็เลยไม่มีเวลาสำหรับตอนนี้"
“พรุ่งนี้ข้าจะกลับไปบ้านแม่เพื่อดูสถานการณ์ที่บ้านข้าก่อนข้าไม่อยากให้คนที่บ้านโกรธเคืองกันเพราะเงินห้าตำลึงที่แม่นำมา…”
เซี่ยหยุนจินฟังคำพูดของหลู่เจียวและรู้ว่าสิ่งที่นางพูดนั้นสมเหตุสมผลดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเห็นด้วยแต่เตือนว่า
“ระวังเมื่อกลับไปบ้านแม่ของเจ้าบนภูเขามีงูพิษและสัตว์มีพิษมากมายผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตจากพิษพวกนั้น”
หลู่เจียวพยักหน้า“อืมข้ารู้ข้าจะระวัง”
เมื่อนางพูดจบเมื่อนึกถึงความกังวลของเซี่ยหยุนจินนางอดไม่ได้ที่จะพูดว่า"เจ้าเป็นห่วงข้าหรือ…"
เซี่ยหยุนจินฟังคำพูดของนางใบหน้าของเขาเย็นชาเล็กน้อยและเขาพูดอย่างโกรธเคือง"ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าครอบครัวของเราจะทำอย่างไรอย่าทำให้อารมณ์เสีย…"
หลู่เจียวทำหน้าบึ้งและไม่สนใจเขาจริงๆแล้วนางไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้นางแค่ล้อเลียนเขาแต่นางรู้ว่าหัวหน้าโฉวฟู่มีภรรยาที่ถูกลิขิตไว้แล้วและนางก็จะปรากฏขึ้นในภายหลังตอนนี้นางก็เป็นแค่ตัวประกอบของเรื่องราวก่อนหน้าที่จะเกิดสถานการณ์พลิกผันในชีวิตเขาเป็นแค่คนงานชั่วคราวไม่ใช่พนักงานประจำและนางก็เป็นแค่เมียจำเป็นและแม่จำเป็นเพราะสถานการณ์บังคับด้วยเช่นกัน…
“ตกลงข้ารู้ข้าจะไม่พูดแบบนี้อีกในอนาคต”
นางยกโต๊ะและตะเกียบออกไปเซี่ยหยุนจินก็ไม่แม้แต่จะมองนางเขาหลับตาลงและดูเหมือนจะผล็อยหลับไป
หลังจากเก็บของเสร็จแล้วหลู่เจียวก็พร้อมที่จะขึ้นไปบนภูเขาเพื่อล่าเหยื่อก่อนจากไปนางไปที่บ้านของย่าสองและขอให้ย่าสองช่วยดูแลเด็กๆทั้งสี่นางจะไปไม่นานและเดี่ยวก็จะกลับลงมา
ย่าสองก็ไม่ได้เอ่ยอันใดและบอกให้นางเรียกเซี่ยเสี่ยวเป่าที่อยู่บนเขาให้ลงมาก่อนจะได้กินอาหารเที่ยง
เซี่ยเสี่ยวเป่าหมกมุ่นอยู่กับกับดักจนไม่ได้กลับมาทานอาหารตอนเที่ยง
หลังจากที่หลู่เจียวตอบรับนางก็ขึ้นไปบนภูเขาพร้อมกับตะกร้าบนหลังของนาง
ที่สี่แยกของภูเขาเขาได้พบกับเซี่ยเสี่ยวเป่าที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยโคลนเซี่ยเสี่ยวเป่ากำลังอุ้มกระต่ายตัวน้อยตัวหนึ่งกระต่ายตัวไม่ใหญ่มากแต่เซี่ยเสี่ยวเป่าอดไม่ได้ที่จะมีความสุขเมื่อเห็นหลู่เจียวเขาก็ตะโกนออกมา
“ป้าสามข้าจับได้แล้วข้าจะกลับไปขอให้แม่ตุ๋นให้…”
หลู่เจียวมองไปที่กระต่ายน้อยและพยักหน้าเห็นด้วย
“เอาล่ะกลับไปให้แม่เจ้าทำความสะอาดก่อนข้าจะกลับบ้านตอนเย็นและเทน้ำซุปสำหรับตุ๋นแล้วเจ้าก็นำกลับไปทำอาหารได้…”
"อือ.."
เซี่ยเสี่ยวเป่าลงจากภูเขาอย่างมีความสุขพร้อมกับกระต่ายที่หนักกว่า1จินก่อนเขาจะไปเขาก็รับรองกับหลู่เจียวว่า"ป้าสามข้าจะช่วยท่านดูแลสมบัติทั้งสี่เมื่อข้ากลับถึงบ้านไม่ต้องกังวล"
“ตกลงถ้าป้าคนที่สามจับเหยื่อได้ข้าจะส่งกลับไปให้เจ้าหนึ่งตัว”
เซี่ยเสี่ยวเป่ามีความสุขมากขึ้นป้าสามมักจะโชคดีและจับเหยื่อได้เขาก็กำลังอยากกินเนื้ออยู่อาจบางทีหากมีเนื้อชิ้นใหญ่เขาก็อาจจะเลี้ยงกระต่ายน้อยเอาไว้ก่อนได้
หลังจากที่หลู่เจียวขึ้นไปบนภูเขานางไปที่กับดักตามธรรมชาติที่นางค้นพบก่อนหน้านี้ซะก่อนหยิบหมูตุ๋นชิ้นหนึ่งออกมาจากพื้นที่มิติทามันด้วยน้ำพุจิตวิญญาณแล้วโยนมันเข้าไปในกับดักจากนั้นนางก็ปล่อยวางและขึ้นไปในภูเขาเพื่อหาสมุนไพรและดูว่าจะพอมีสมุนไพรอะไรบ้าง
นางเลือกหาสมุนไพรไม่ได้เพื่อขายแต่เพื่อมาสอนชาวบ้านว่าสมุนไพรที่หาได้ง่ายในป่าเขาข้างหมู่บ้านสามารถนำมาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างนางเลือกสมุนไพรบางอย่างที่พบเจอบ่อยๆ
หลู่เจียวรวบรวมยาในขณะที่คิดเกี่ยวกับมันว่าจะพอเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
ในเวลาอันสั้นนางเก็บได้มากแต่นางใส่เพียงส่วนเล็กๆในตะกร้าด้านหลังแต่ส่วนใหญ่นางเก็บไว้ในพื้นที่มิติ
หลังจากทำเช่นนี้มันก็สายมากแล้วและนางก็รีบเดินไปที่กับดักที่นางทำไว้ก่อนหน้านี้
ก่อนที่นางจะไปถึงกับดักนางก็ได้ยินเสียงดังมาจากกับดักซึ่งค่อนข้างดัง
หลู่เจียวดีใจมากและก้าวเข้าไป
มีกวางหมูบาดเจ็บอยู่ในกับดักกวางหมูดูเหมือนหมูและหนักประมาณ30ถึง40จิน
แต่กวางได้รับบาดเจ็บสาหัสและดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาหรือเอาไปเลี้ยง
เมื่อเห็นเลือดกระเซ็นที่คอหลู่เจียวก็เอนตัวลงไปและเหยียดกวางออกอย่างรวดเร็วจากนั้นจึงนำชามพลาสติกออกจากพื้นที่มิติและเก็บเลือดของกวางเอาไว้
เลือดกวางนี้เป็นสิ่งที่ดีมันสามารถเติมเต็มพลังปราณและพลังชีวิตและเซี่ยหยุนจินก็ต้องการสิ่งนี้ในตอนนี้
อย่างไรก็ตามเนื่องจากกวางได้รับบาดเจ็บสาหัสลู่เจียวจึงได้เพียงครึ่งชามแล้วกวางก็ตาย
นางใส่เลือดกวางและกวางลงไปในพื้นที่มิติทันทีแล้วเอนตัวไปมองที่กับดักจริงๆแล้วมีกระต่ายตายสองตัวติดอยู่ที่ปลายไม้ไผ่
หลู่เจียวรีบนำกระต่ายที่ตายแล้วออกไปวางตัวหนึ่งลงในพื้นที่มิติและอีกตัวในตะกร้า
นางสัญญากับเซี่ยเสี่ยวเป่าไว้ก่อนหน้านี้กระต่ายป่าตัวนี้ก็จะมอบให้กับเขา
หลังจากที่หลู่เจียวเก็บข้าวของนางก็ลุกขึ้นและลงจากภูเขาการเก็บเกี่ยวของวันนี้ถือว่าค่อนข้างโชคดีและนางก็รู้สึกอารมณ์ดีอย่างสุดจะพรรณนา…
เพียงแต่นางเดินมาไม่ไกลนางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอันเร่งรีบต่อหน้านางพร้อมกับเสียงร้องไห้อย่างตื่นตระหนก
“พี่ซูอดทนไว้ท่านต้องอดทนไว้”
“ลุงเสี่ยวการแสดงออกของพี่ใหญ่ซูผิดปกติมากข้าเกรงว่าพวกเราจะไม่สามารถลงไปถึงก้นภูเขาได้”
“สวรรค์เจ้าถูกงูแหวนทองกัดได้ยังไง”
“ถ้าพี่ซูประสบอุบัติเหตุครอบครัวซูจะทำอย่างไร”
“พี่ซูขึ้นไปบนภูเขาในครั้งนี้เพื่อพี่หยุนจินไม่งั้นเขาก็คงไม่ได้รับความเดือดร้อนเช่นนี้”
หลู่เจียวได้ยินเรื่องซุบซิบต่อหน้านางอย่างคลุมเครือและยังได้ยินใครบางคนพูดถึงเซี่ยหยุนจินจนนางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและก้าวไปข้างหน้า
ในไม่ช้านางก็เห็นคนห้าหรือหกคนข้างหน้าถือเหยื่อบางส่วนลงมาจากภูเขาด้วยความตื่นตระหนกมีสองคนยกเปลหามธรรมดาอยู่ในมือและมีคนคนหนึ่งนอนอยู่บนเปลหามนั้นคาดว่าจะบาดเจ็บสาหัส
หลู่เจียวจำคนที่อยู่บนเปลหามได้อย่างรวดเร็วเขาเป็นนักล่าในหมู่บ้านที่มีประสบการณ์เขามักจะหาเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์แต่ถึงแม้เขาจะไม่ได้ขึ้นมาล่าสัตว์ครอบครัวของพวกเขาก็ยังได้ทานอาหารดีๆได้
ต่อมาเซี่ยหยุนจินแนะนำร้านอาหารให้เขาทำงานในเมืองและอีก2ครอบครัวใหญ่ในเขตปกครองและสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาก็ดีขึ้น
เนื่องจากคนๆนี้รู้สึกขอบคุณสำหรับความเมตตาของเซี่ยหยุนจินเขาจึงส่งสิ่งเล็กๆน้อยๆไปที่บ้านเซี่ยเมื่อไม่มีอะไรทำ
หลู่เจียวจำครอบครัวซูที่เคยปกป้องเด็กสี่คนก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าจะเป็นพวกเขา
ผู้ชายคนนี้มีอะไรผิดปกติ?บางเจ็บตรงไหน…
หลู่เจียวก้าวขึ้นไปตรวจสอบและพบทันทีว่าน่องของชายคนนั้นถูกงูพิษกัดน่องบวมเหมือนต้นขาและอาการบวมยังคงลุกลามต่อไป
เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมากที่ทำลายเส้นประสาทหลังจากกัดคนงูพิษนี้สามารถกัดคนตายได้เพียงใช้เวลาตั้งแต่แปดถึงเจ็ดสิบสองชั่วโมงยิ่งจัดการกับมันได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเพราะมันคือพิษที่ทำลายประสาท
ถ้าไม่รีบรักษาหรือรักษาได้ทีหลังพิษงูก็ไม่สามารถเคลียร์จนหมดในร่างและในอนาคตเขาจะแก่เร็วผมและฟันจะหลุดเร็วกว่าปกติและอาจจะเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ตลอดชีวิต…
หลู่เจียวคิดอย่างรวดเร็วและพูดออกไปว่า"ช้าก่อน"