Your Wishlist

เมียคนธรรมดา (ไม่ง่ายที่จะอธิบาย)

Author: หยูเสี่ยวถง

เกิดใหม่ เป็นแม่ของตัวร้าย ในช่วงวัยเด็กในนิยาย แถมสามียังเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ แต่พวกเขากลับอยากฆ่านาง นางจะอยู่สอนเด็กๆให้เป็นคนดีไม่กลายเป็นตัวร้ายในอนาคต หรือจะจากไปดี แต่เด็กพวกนี้ก็น่ารักจริงๆ...

จำนวนตอน :

ไม่ง่ายที่จะอธิบาย

  • 13/05/2565

เซี่ยหยุนจินฟังคำพูดของหลู่เจียวคิ้วของเขาก็ไม่เป็นมิตรเล็กน้อย

 

หลู่เจียวยื่นมือออกมาเพื่อช่วยประคองและป้อนยาให้เขา

 

ภายใต้แสงสลัวคิ้วของชายผู้นั้นดูเหมือนจะมีชั้นของแสงคิ้วที่ละเอียดอ่อนอยู่แล้วก็หล่อขึ้นและสามมิติขึ้นเรื่อยๆเขาก้มศีรษะลงเล็กน้อยขนตาของเขายาวเหมือนพัดเล็กๆและอยู่ใต้สะพานสูงของจมูกก็เป็นริมฝีปากบางถึงไม่มีเลือดแต่ก็เซ็กซี่เป็นพิเศษ

 

หากปราศจากความเย็นชาเขาก็คงเป็นชายหนุ่มรูปงามที่สดใสราวกับแสงจันทร์จริงๆ

 

เมื่อมองดูเขาหลู่เจียวก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงประโยคที่เขียนไว้ในหนังสือ‘แม้ว่าหัวหน้าโฉวฟู่จะอยู่ในวัยกลางคนแต่เขาก็ยังเป็นคนในวัยกลางคนที่หน้าตาดีมากที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนักในต้าโจว’

 

ตัวละครที่มีหล่อและมีความสามารถดังกล่าวกลับกลายเป็นวายร้ายตัวใหญ่เพราะลูกๆของเขาเป็นวายร้ายและถูกพระเอกตบเกรียนกลายเป็นหินรองเท้าให้พระเอกก้าวขึ้นไปตัวพ่อจึงกลายเป็นบอสใหญ่ล้างแค้นแทนลูกแต่สุดท้ายก็ตามอนาถจะสู้สกิลพระเอกได้ยังไง

 

แต่ยังมีคนที่ตายอนาถกว่าพวกเขาก็คือตัวประกอบอย่างนางที่ถูกกล่าวถึงไม่กี่บรรทัด…

 

ถึงแม้ว่าจะอยู่มานานหลายวันนางก็ยังไม่ลืมเรื่องนี้ว่านางอาจจะกำลังอยู่ในนิยายซักเรื่องก็เป็นไปได้หรือว่านิยายเรื่องหนึ่งหรือหนังเรื่องหนึ่งมันจะมีมิติเป็นของตัวเองอยู่จริงๆ

 

หลู่เจียวถอนหายใจเมื่อหัวหน้าโฉวฟู่เซี่ยหยุนจินที่ดื่มยาเสร็จแล้วมองขึ้นไปที่นางและสูดอากาศเย็นๆ

 

"เสร็จแล้ว"

 

หลู่เจียวก็ตื่นขึ้นจากภวังค์ทันทีนางคร่ำครวญถึงอะไรผู้ชายคนนี้เกลียดนางแล้วและดวงตาของเขาหวังว่านางจะถูกประหารชีวิตหวังว่านางจะตายจากเขาไปดังนั้นนางควรรักษาขาของเขาแล้วจากไปแต่เนิ่นๆดีกว่า

 

มันคงเป็นเควสอะไรบางอย่างเหมือนอย่างการเล่นเกมส์ที่ต้องทำภารกิจให้เสร็จแล้วค่อยจากไปได้ดังนั้นนางควรเอาใจใส่ในการรักษาขาให้เขามากกว่านี้

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หลู่เจียวก็เอาชามกลับอย่างใจเย็นวางชามเปล่าไว้บนตู้ที่ขาดรุ่งริ่งและช่วยเซี่ยหยุนจินให้นอนลง

 

เมื่อนางหันมาอีกครั้งนางก็พูดอย่างใจเย็น"มันขมไหมเจ้าต้องการกินลูกอมหรือเปล่า"

 

เซี่ยหยุนจินหันศีรษะไปด้านข้างขมวดคิ้วและพ่นลมอย่างเย็นชา"ไม่"

 

หลู่เจียวแอบด่าตัวเองว่าอย่าวุ่นวายไปแต่เมื่อนึกถึงการที่เซี่ยหยุนจินออกไปในวันนี้นางอดไม่ได้ที่จะเตือนอย่างจริงจัง

 

“จากนี้ไปห้ามลุกจากเตียงเด็ดขาดดูแลตัวเองดีๆถ้าลุกจากเตียงบ่อยๆจะดีขึ้นได้ยังไง”

 

แม้ว่านางต้องการจะทำการผ่าตัดกับเขาแต่นางก็ต้องรอให้ม้ามของเขาดีขึ้นเพื่อกำจัดเลือดบางส่วนก่อนการผ่าตัด

 

เขาอ่อนแอแบบนี้และม้ามก็ยังไม่แข็งแรงก็คงเป็นเรื่องยากที่จะรักษาในระหว่างดำเนินการหรือว่าจะนำน้ำพุจิตวิญญาณให้เขากินเพิ่มดี…

 

บนเตียงเซี่ยหยุนจินฟังคำพูดของหลู่เจียวและพูดอย่างเฉยเมย

 

"ข้ารู้สึกว่าร่างกายของข้าดีขึ้นมากดังนั้นจึงไม่ควรเป็นปัญหาใหญ่"

 

หลู่เจียวจ้องมาที่เขาอย่างเย็นชาทันทีเจ้าคิดว่าตัวเองฟื้นตัวด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ?นั่นเป็นเพราะนางให้น้ำพุจิตวิญญาณให้กับเขาต่างหากไม่งั้นปานนี้เขาก็ยังไม่ฟื้นด้วยซ้ำ

 

อย่างไรก็ตามหลู่เจียวไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับน้ำพุจิตวิญญาณได้

 

ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงจ้องที่เซี่ยหยุนจินพร้อมคำเตือน

 

“ยังไงก็ตามข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะเก่งแค่ไหนจากนี้ไปเจ้าต้องอยู่บนเตียงตลอดและนอกจากการกินแล้วเวลาขับถ่ายทั้งฉี่ทั้งอึก็ต้องทำบนเตียง”

 

ใบหน้าของเซี่ยหยุนจินมืดลงทันทีการกินฉี่และอึบนเตียงหมายความว่าอย่างไรคนนี้เป็นผู้หญิงหรือเปล่าทำไมกล้าพูดออกมาได้ไม่ละอายปาก?

 

ในขณะนี้เซี่ยหยุนจินยังสงสัยว่าจิตวิญญาณในที่มาสิงร่างนี้น่าจะเป็นผู้ชายหรือเปล่า

 

“เจ้าเป็นผู้หญิงหรือเปล่า”

 

หลู่เจียวหัวเราะเยาะ"โอ้เป็นผู้หญิงแล้วไม่สามารถพูดคำว่ากินฉี่และอึอย่างนั้นรึ?"

 

เซี่ยหยุนจินจ้องมาที่นางและพบว่าเมื่อนางพูดแบบนี้ท่าทางของนางก็เหมือนผู้หญิงและเขาคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับพฤติกรรมปกติของผู้หญิงคนนี้และมันก็ดูไม่เหมือนผู้ชายเลยคนๆนี้เป็นผู้หญิงเหรอแล้วนางเป็นผู้หญิงแบบไหนกันเป็นผู้หญิงห่ามๆอย่างนั้นเหรอ?

 

ขณะที่เซี่ยหยุนจินกำลังครุ่นคิดหลู่เจียวหันหลังกลับและก้าวออกไปเซี่ยหยุนจินคิดว่านางออกไปทำอะไรบางอย่าง

 

ไม่นานหลู่เจียวก็หยิบของแปลกๆออกมาจริงๆมันทำมาจากไม้ไผ่ทำเป็นภาชนะเล็กๆอะไรซักอย่างนางยกมันขึ้นมาแล้วพูดว่า

 

"ใช้นี่เมื่อเจ้าต้องการถ่ายอุจจาระเจ้าวางมันลงบนเตียงแล้วเจ้าก็ถ่ายใส่มัน"

 

เซี่ยหยุนจินมองดูสิ่งของต่างๆที่อยู่ในมือของหลู่เจียวใบหน้าของเขาก็มืดมนอย่างช่วยไม่ได้คิ้วและตาของเขาถูกย้อมด้วยลมหายใจเย็นชา

 

“นี่มันอะไรกันเนี่ยแปลกชะมัด”

 

หลู่เจียวไม่รู้สึกกลัวเมื่อเห็นลักษณะท่าทางตื่นตระหนกของเขาในทางกลับกันนางรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง

 

“นี่สอดเข้าไปใต้ก้นของเจ้าแล้วปล่อยให้อึไหลลงไปในนี้ก็ใช้ได้แล้วเจ้าทำได้ไหม”

 

ก่อนที่นางจะพูดจบชายที่อยู่บนเตียงก็กัดฟันของเขาทันที"ข้าไม่ต้องการมันเอามันออกไป"

 

เขาสามารถมั่นใจได้ว่าเขาจะไม่สามารถจัดการกับสิ่งนี้ได้อย่างแน่นอน

 

แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่เขาก็สามารถพยุงตัวเองลงกับพื้นได้เขาจะไม่มีวันนอนบนเตียงเพื่อแก้ปัญหาบนของเล่นนั้นแน่นอน

 

เซี่ยหยุนจินยังสงสัยว่าหลู่เจียวตั้งใจทำให้เขาอับอายเขาจ้องที่หลู่เจียวด้วยคิ้วที่ไม่แยแส

 

"เจ้าตั้งใจทำมัน?"

 

หลู่เจียวกลอกตาอย่างดุเดือดหากไม่ตั้งใจทำแล้วจะทำออกมาได้ยังไง

 

หรือคิดว่านางตั้งใจแกล้งเขานางใจดีจัดที่ขับถ่ายให้แต่เจ้ากลับคิดเล่นแง่เล่นงอนไม่รู้จริงๆเหรอว่าคนอื่นอุตส่าห์ทำให้ด้วยความหวังดี

 

หลู่เจียวทิ้งตระกร้าชักโครกไปด้วยความรำคาญและก้าวออกไป"ตามใจไม่เอาก็ตามใจ"

 

แต่เมื่อนางเดินไปที่ประตูนางจำอีกสิ่งหนึ่งได้และมองย้อนกลับไปที่เซี่ยหยุนจินอย่างครุ่นคิด

 

เมื่อเซี่ยหยุนจินเห็นรูปร่างหน้าตาของนางนางสงสัยว่านางจะทำอะไรอีกและกำลังจะขอให้ผู้หญิงคนนี้ออกไป

 

หลู่เจียวพูดอย่างรวดเร็ว"เซี่ยหยุนจินข้าอยากจะถามเจ้าว่าวันนี้เจ้าลุกจากเตียงแล้วพยายามเดินออกจากห้องนอนหรือลุกจากเตียงแล้วคลานออกไป…"

 

หลู่เจียวกังวลว่าเขากำลังเดินด้วยขาของเขามันก็ไม่เท่ากับว่าขาหักซ้ำดอกหรือและอาการบาดเจ็บที่ขาก็จะยิ่งแย่ลงนางอยากให้เขาปีนลงมาแล้วคลานออกไปมากกว่าแต่หลู่เจียวเพิ่งพูดจบ

 

บนเตียงเซี่ยหยุนจินกัดฟันอย่างเศร้าโศก"ไปให้พ้น"

 

หลู่เจียวมองเขาอย่างหงุดหงิดและขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเขาดังนั้นนางจึงหันหลังกลับและเดินจากไป

 

ในบ้านเซี่ยหยุนจินเต็มไปด้วยความโกรธวันนี้สี่แฝดลูกของเขาถูกรังแกอยู่ภายนอก

 

เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะปกป้องลูกชายของตัวเองไม่ได้ตอนนั้นเขาลงไปที่พื้นโดยไม่สนใจขาหักของเขาและเดินออกไปพิงกำแพง

 

แต่ขาของเขาไม่มีแรงเลยดังนั้นในที่สุดเขาก็ล้มลงกับพื้นและเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของลูกชายข้างนอกเขาก็คลานออกไปตลอดทาง

 

เซี่ยหยุนจินนึกถึงความอับอายในตอนนั้นร่างกายเต็มไปด้วยความโกรธดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยไม่ได้ตั้งใจและเป็นครั้งแรกที่ความคิดผุดขึ้นมาในหัวใจของเขาอย่างเร่งด่วนเขาต้องการที่จะรักษาขาของเขาเขาจำเป็นต้องรักษาขาของเขาเพื่อที่เขาจะได้ปกป้องลูกชายของเขาได้

 

หมอโจวกล่าวก่อนหน้านี้ว่าแพทย์ทหารจะทำการผ่าตัดและอาจรักษาขาของเขาได้ดังนั้นเขาจึงต้องหาคนแบบนี้

 

เซี่ยหยุนจินคิดที่จะระงับความโกรธในใจของเขาและคิดอย่างใจเย็นว่าเขาควรหาใครซักคนอย่างไร

 

แม้ว่าหลู่เจียวจะพูดก่อนหน้านี้ว่าเขาสามารถหาหมอรักษาขาให้เขาได้แต่เซี่ยหยุนจินก็ไม่เชื่อนางซึ่งเป็นผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าเป็นวิญญาณสัมภเวสีมาสิงร่างหรือเปล่าจะไปหาหมอรักขาให้เขาได้ยังไงดังนั้นมันคงต้องขึ้นอยู่กับเขาว่าจะหาหมอมาได้ยังไงดังนั้นเขาต้องคิดหาทาง…

 

ในครัวนางปิดประตูครัวให้สนิทหลู่เจียวหยิบเอาหัวหมูตุ๋นกับส่วนที่เหลือเข้าไปน้ำร้อนของหม้อตุ๋นและตอนนี้มันก็กำลังเดือดปุดๆ…

 

สิ่งของต่างๆในพื้นที่ของนางมีอุณหภูมิคงที่และไม่มีวันเสื่อมสลายเช่นเดียวกับสมุนไพรผลไม้หัวหอมและกระเทียมที่กำลังเจริญเติบโตซึ่งมีความสดใหม่อยู่เสมอพวกมันสามารเจริญเติบโตได้ดีและจะไม่มีวันเสียหาย

 

ถึงแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าบรรดาพืชผักสวนครัวหรือสมุนไพรต่างๆในนั้นจะมีคนปลูกเอาไว้ให้หรือเปล่าแต่ตอนนี้พื้นที่มิตินี้เป็นของนางดังนั้นบรรดาพืชผักสมุนไพรพวกนี้ก็ย่อมเป็นของนางไปด้วยแต่พื้นที่มิติดีๆขนาดนี้ปลูกพืชผักสวนครัวจะสิ้นเปลืองไปหรือเปล่าไม่ปลูกสมุนไพรหายากมากๆจะไม่ดีกว่าหรืออย่างสมุนไพรวิญญาณเหมือนอย่างในนิยายฝึกตนบำเพ็ญเพียรอะไรประมาณนั้นนางจะได้ลองฝึกตนบำเพ็ญเพียรอะไรพวกนั้นดูบ้างเฝื่อจะได้เป็นเทพเซียนกับเขาบ้าง…

 

นางหวนคิดถึงนิยายของพันปักษาที่นางเคยได้อ่านมีการสืบทอดพื้นที่มิติหรือระบบให้กับคนอื่นอะไรประมาณนั้นด้วยได้ถูกเขียนบรรยายเอาไว้ในนิยายเมื่อเจ้าของคนเก่าได้ทำภารกิจเสร็จสิ้นหรือได้เลื่อนระดับไปอยู่อีกขั้นหรือเข้าสู่โลกใหม่อีกโลกก็จะทิ้งมรดกอย่างพื้นที่มิติหรือระบบต่างๆที่เคยใช้เอาไว้ให้คนรุ่นต่อไปดังนั้นมันอาจเป็นไปได้ว่านางไม่เพียงใช้ร่างสืบต่อคนอื่นแต่ยังใช้พื้นที่มิติสืบต่อคนอื่นมาอีกด้วย…

 

แน่นอนว่าก็ยังมีคนอีกประเภทหนึ่งนั่นก็คือคนที่ล้มเหลวในการเกิดใหม่ในโลกใหม่คือตายตั้งแต่ยังทำอะไรไม่สำเร็จซักอย่างแล้วพื้นที่มิตินี้ก็จะว่างลงแล้วถูกส่งต่อมาด้วยเหมือนกัน…

 

แต่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอย่างหลังนางก็หวังว่านางจะไม่เป็นเหมือนเจ้าของคนเก่า…คือนางจะต้องประสบความสำเร็จในการเกิดใหม่และได้ใช้พื้นที่มิติแห่งนี้ได้เต็มประสิทธิภาพ…

 

เมื่อหลู่เจียวเข้าไปในพื้นที่มิตินางรู้สึกสบายไปทั้งตัวและทั้งตัวของนางก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากนางเห็นลูกพีชองุ่นแตงโมสตรอเบอร์รี่และเชอร์รี่อยู่ไม่ไกลที่นี่กลับสามารถปลูกพืชผักผลไม้ได้แทบทุกฤดู

 

นางอดไม่ได้ที่จะเดินไปเก็บลูกพีชเพื่อลิ้มรสและกินองุ่นไป2ผลอันที่จริงนางอยากจะให้ลูกพีชเหล่านี้แก่เด็กน้อยทั้งสี่คนจริงๆ

 

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ง่ายที่จะอธิบายและผลไม้พวกนี้ไม่ค่อยมีใครเห็นหากจะบอกว่าเก็บมาจากบนเขาก็ดูจะเหลือเชื่อเกินไปหน่อย

 

หลู่เจียวคิดที่จะเก็บลูกพีชให้เด็กๆสองสามคนในวันพรุ่งนี้ขณะกินองุ่น

 

นางเคยไปที่เมืองมาก่อนและบอกว่านางซื้อลูกพีชจากเมืองเซี่ยหยุนจินจะไม่ถามมากเรื่องนี้อย่างแน่นอน…

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป