Your Wishlist

โปรแกรมเมอร์ธรรมดา (หาคนช่วยงาน)

Author: เพื่อนคนหนึ่ง

ย้อนเวลาเปลี่ยนชีวิต จากโปรแกรมเมอร์และนักธุรกิจหมื่นล้าน กลายเป็นเด็กนักเรียนยากจนธรรมดา ในต่างโลก เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ พยายามไม่ใช้ชีวิตผิดพลาดเหมือนโลกที่เคยจากมา และสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยอีกครั้ง

จำนวนตอน :

หาคนช่วยงาน

  • 01/06/2565

เช้าวันใหม่

 

คล้ายว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เป็นเหมือนความฝันตื่นหนึ่ง แต่เมื่อเขาลองทดสอบดูแล้ว เขาก็ค้นพบว่ามันคือความจริงและไม่ได้ฝันไป 

 

แต่เรื่องนี้มันใหญ่เกินไป ยังไม่เหมาะที่จะเล่าให้คนในบ้านฟัง เขาต้องคิดหาคำโกหกให้มันแนบเนียนเสียก่อน และที่สำคัญที่สุด ตอนนี้เขาสามารถใช้พลังธาตุไม้เหมือนกับบิดาได้แล้ว ต่อไปในยามว่าง เขาจะค่อยๆฝึกควบคุมพลังในการเยียวยารักษาพืชและสัตว์ และควบคุมพลังธาตุไม้ 

 

และหากขาดเงิน เขาก็อาจจะสามารถไปนำทองมาจากอีกโลกมาขายได้ หรือนำโสมจากโลกนี้ไปขายโลกนั้น โดยแลกเป็นทอง เพราะไม่รู้ว่าเมื่อนำแบงก์จากอีกโลกมา มันจะกลายเป็นเงินปลอมในโลกนี้หรือเปล่า เพื่อความชัวร์คงต้องมีทรัพย์สินที่มีค่าอย่างเพชรหรือทอง 

 

เสียดายที่เมื่อคืนมีเวลาน้อยไปหน่อย ไม่รู้ว่าเทคโนโลยีในโลกนั้นเป็นยังไงบ้าง หากมันเจริญกว่าก็คงจะดี เพราะเขาอาจจะสามารถซื้อเครื่องเซฟเวอร์แรงๆ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์แรงๆมาใช้ในโลกนี้ได้

 

 

เช้าวันนี้ หม่ากั๋วหมิงให้หม่าจือฉุน ปั่นจักรยานไปโรงเรียนด้วยตัวเอง และเขาปั่นไปรับลู่เสว่ฉีที่บ้านของเธอ เมื่อพบกับลู่เสว่ฉี เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อย ว่าลู่เสว่ฉีในอีกโลก จะเป็นแฟนของเขาด้วยหรือเปล่า หรือว่าหม่ากั๋วหมิงผู้นั้นจะคบกับคนอื่น 

 

"กำลังคิดเรื่องอะไรอยู่" ลู่เสว่ฉี ถามออกมา เมื่อเห็นหม่ากั๋วหมิงใจลอย

 

"อ๋อ ไม่มีอะไร ฉันกำลังคิดอยู่ว่า ถ้าหากเธอดังขึ้นมา จะมีคนมาแย่งกันจีบเธอหรือเปล่า"

 

ลู่เสว่ฉี อมยิ้มเล็กน้อย แล้วจึงว่า

 

"ฉันว่าไม่หรอก แต่นายนะสิ คงจะมีสาวๆสวยๆเข้ามาชอบเยอะเลย"

 

"เรื่องนี้ก็เป็นไปได้นะ แต่ฉันรู้ว่าฉันชอบใครมากที่สุด เพราะฉนั้น แม้จะมีสาวๆเข้ามามากมาย ฉันก็ไม่สนใจหรอก"

 

"จริงหรือหลอก"

 

"จริงจริ๊ง"

 

"ให้มันจริงเถอะ"

 

"แต่ว่านะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย"

 

"ว่า…"

 

"ฉันว่าจะสมัครเข้าเรียนมหาลัยแพทย์ปักกิ่ง"

 

"…"

 

"เธออยากเป็นหมอเหรอ" หม่ากั๋วหมิงรู้สึกตกใจอยู่บ้าง ที่อยู่ดีๆเธอก็เปลี่ยนเรื่อง เป็นคุยเรื่องสำคัญ

 

"อืม ฉันอยากเป็นศัลยแพทย์"

 

"อืม ถ้างั้นเธอก็สมัครเลย เธอสามารถสอบได้อยู่แล้ว เธอเรียนเก่งจะตาย"

 

ลู่เสว่ฉี เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงว่า "แล้วนายจะสมัครเข้าเรียนมหาลัยไหน"

 

ตอนแรกเขาไม่ได้คิดอะไรมากในเรื่องนี้ แค่มองหามหาลัยดีๆที่สอนเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม มหาลัยจินหลิง หรือมหาเจียงเฉิงก็ได้ หรือไม่ก็แค่เลือกมหาลัยที่ลู่เสว่ฉีเลือก จะได้เรียนมหาลัยเดียวกัน แต่เมื่อได้ยินว่าเธอเลือกเรียนหมอ นี่กลับกลายเป็นปัญหาอยู่บ้าง แถมยังต้องไปเรียนไกลถึงปักกิ่งเมืองหลวง ถึงแม้ว่าเขาจะพึ่งได้รับลูกบอลหยกเขียวมา และอยากมีพลังเยียวยาอะไรพวกนี้ แต่จุดประสงค์หลักของเขาจริงๆ คืออยากใช้พลังในการรักษาเยียวยาตัวเอง ไม่ได้คิดว่าจะนำไปรักษาใคร และหากไปเรียนหมออะไรพวกนั้น มันก็เรียนหนักมาก และไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน หรือเที่ยวเล่นผจญภัย จึงไม่ใช่สไตร์ของเขาเท่าไหร่

 

"ฉันชอบคอมพิวเตอร์ เขียนโปรแกรม สร้างเกม หรือไม่ก็ตัดต่อสร้างซีจีในหนัง แต่เรื่องพวกนี้ฉันพอจะทำเป็นอยู่แล้ว หากสมัครเรียน ก็แค่ต้องเรียนรู้ซ้ำอีกรอบ ถ้างั้นฉันไปเรียนหมอเป็นเพื่อนเธอดีหรือเปล่า" หม่ากั๋วหมิงตอบทีเล่นทีจริง หากเรียนคณะเดิม เพิ่มเติมแค่เขาจะเรียนเก่งกว่าใคร เพราะเป็นอยู่แล้ว ถ้างั้นมิสู้ไปเรียนคณะอื่นดีกว่าไหม แต่เรียนหมอนี่ก็ค่อนข้างลำบากใจจริงๆ เพราะทั้งชีวิตก่อนและชีวิตนี้ เขาก็ไม่เคยคิดที่จะเป็นเรียนหมอเลย

 

"เรื่องนี้…" ลู่เสว่ฉีรู้สึกลังเลเล็กน้อย อีกอย่าง เธอก็ไม่แน่ว่าจะมีเงินเรียนหมอ เธอแค่อยากปรึกษาใครซักคน

 

"เอาไว้พอเทอมหน้า เราค่อยช่วยกันคิดดีไหม" หม่ากั๋วหมิงกล่าวออกไป

 

"อืม เอางั้นก็ได"้ ลู่เสว่ฉีตอบกลับมา

 

การวางแผนอนาคต นับว่าเป็นเรื่องดี และถือว่าเป็นเป้าหมายในชีวิต ดังนั้นแล้ว พอถึงห้องเรียน และเจอเพื่อน หลายคนจึงพากันพูดถึงเป้าหมายของตัวเอง แต่ก็ไม่มีใครอยากเรียนหมอ เพราะคิดว่ามันยากเกินไป และหมอส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีเวลาว่าง ช่วงนี้เขาฮิตเรียนจัดการธุรกิจหรือบริหารธุรกิจ

 

หยินซินหยากับซือฮัวเจ๋อ ที่เข้ามาคุยกับหม่ากั๋วหมิง ก็บอกว่าตัวเองอยากเรียนเป็นวิศวกร คนหนึ่งอยากเรียนวิศวกรรมโยธา อีกคนอยากเรียนวิศวกรรมก่อสร้าง สองคนนี่น่าจะไปด้วยกันได้

 

ที่น่าแปลกใจคือ เฉินโม่นั้นอยากเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ส่วนเย่จุนกับจางฮั่นหยา อยากเรียนสายบันเทิง

 

ต่างคนต่างก็มีความใฝ่ฝันเป็นของตัวเอง 

 

 

ในช่วงพักคาบเรียนที่สองนั่นเอง หม่ากั๋วหมิง ก็ออกไปหน้าชั้น

 

"เอาล่ะ เพื่อนๆทุกคนครับ ฟังทางนี้แป๊บหนึ่ง"

 

"เสาร์อาทิตย์นี้เราจะแข่งกีฬาชั้นปี และอาทิตย์หน้าพวกเราจะสอบกลางภาค สอบเสร็จพวกเราก็จะปิดเทอม ดังนั้นแล้ว ทุกคนก็จะมีเวลาว่างในช่วงปิดเทอม" 

 

"ฉันกำลังทำงานบางอย่าง และต้องการผู้ช่วย ซัก 30-40 คน มาช่วยงาน พิมพ์งานใส่เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นงานง่ายๆไม่ได้ยากอะไร ฉันจะให้วันละ 50 หยวน รับเพียงแค่ 40 คน เพราะมีคอมพิวเตอร์แค่ 40 เครื่อง ฉันจึงมาถามเพื่อนๆดูก่อนว่า ใครจะทำบ้าง หากใครไม่ว่าง ก็สามารถแนะนำคนมาทำงานได้หนึ่งคน ใครที่สนใจก็มาลงชื่อไว้ที่หัวหน้าห้องได้ เริ่มงานหลังจากสอบเสร็จและปิดเทอมแล้ว และทำงานในเมืองตงหยวนของเรา ตอนนี้พ่อของฉันได้เช่าสำนักงานเอาไว้แล้ว…"

 

"จริงหรือหลอก"

 

"วันละ 50 หยวนเลยเหรอ ทำวันละกี่ชั่วโมง ทำไมให้เยอะจัง"

 

"ฉันทำๆ"

 

"ฉันทำด้วย"

 

"หัวหน้าห้อง ฉันลงชื่อทำ"

 

หลายคนก็ตะโกน หลายคนก็เข้ามารุมที่โต๊ะของลู่เสว่ฉีโดยตรง

 

เพราะโดยปกติแล้วตอนปิดเทอม หากใครไม่ได้ช่วยงานที่บ้าน ก็มักจะหางานพาสทามทำ หากเป็นผู้ใหญ่หรือนักศึกษามหาลัยก็จะได้ประมาณ 80-100 หยวน แต่หากเป็นเด็กมัธยมปลายได้ 50 หยวนและทำงานง่ายๆอย่างพิมพ์งานก็นับว่าไม่ได้ยากอะไร และราคาก็พอรับได้ ดังนั้นเมื่อหม่ากั๋วหมิงประกาศ จึงมีคนต้องการสมัครทำงานทันที และถึงแม้ว่าไม่อยากทำ แต่เมื่อเพื่อนไปทำ ก็เลยอยากทำด้วยกันก็มี

 

เรื่องนี้หม่ากั๋วหมิงเคยได้บอกลู่เสว่ฉีเอาไว้แล้ว และได้ซื้อสมุดเอาไว้เล่มหนึ่งต่างหาก เธอก็นำมันออกมา ให้เพื่อนๆได้ลงชื่อ หม่ากั๋วหมิงเมื่อเห็นเพื่อนๆสนใจ จึงเดินไปหลังห้องคุยกับพวกผู้ชาย เพราะตอนนี้หลายคนกำลังรุมล้อมโต๊ะของเขาอยู่

ในเรื่องสำนักงานหรือคอมพิวเตอร์นั้น เขาได้ให้บิดาเป็นคนช่วยจัดการ คาดว่าจะหาได้ก่อนปิดเทอมอยู่แล้ว เพียงแต่หลังปิดเทอม ไม่รู้ว่าจะหาคนงานมาจากไหนมาช่วยงาน แต่พอถึงตอนนั้นก็ค่อยว่ากันอีกที…

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป