วันเสาร์ทั้งวัน ลามไปถึงวันอาทิตย์ หม่ากั๋วหมิงก็ดูแลระบบ และนั่งแก้บั๊ก ที่มีเล็กน้อย แต่พอตกตอนเย็น ก็มีผู้ลงทะเบียนถึง 252,857 คน ซึ่งเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายของเขามาก และตัวเลขก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนแฟลตฟอร์มจะติดไฟ และกำลังลุกลามไหม้ สงสัยว่าจะต้องมีดาราใหญ่ซักคนสองคน เข้ามาใช้แฟลตฟอร์ม แล้วบอกต่อ แอปถึงได้มีผู้ใช้มากขนาดนี้ แต่ไม่รู้ว่า ตอนนี้ เขากำลังทำอะไรเกินตัวหรือเปล่า

ตอนแรกนั้นเขาคิดว่า วันแรกนั้นมีซักหมื่นคนหรือเต็มที่ก็ห้าหมื่นคน เขาก็พอใจมากแล้ว แต่นี่กลับมีถึงสองแสนกว่าคน ซึ่งเป็นอะไรที่ประสบผลสำเร็จมาก และสิ้นเปลืองทรัพยากรมากพอสมควร และมีแววจะพุ่งสูงขึ้นกว่านี้อีก

หม่ากั๋วหมิง จึงเพิ่มแบรนด์วิธและทรัพยากรขึ้นไปอีก ให้สามารถรองรับผู้ใช้ได้ 100 ล้านคนไปเลย เพื่อให้การใช้งานมีความลื่นไหลและไม่สะดุด รวมไปถึงการโทรด้วยภาพและเสียง เพื่อให้ผู้ใช้งานเกิดความประทับใจ และติดใจใช้ซ้ำ จนกลายเป็นชีวิตประจำวันของผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างน้อยๆวันหนึ่งต้องเข้ามาส่อง โมเม้นท์ของคนที่พวกเขาติดตาม หรือเข้ามาส่องโมเม้นท์ของเพื่อนๆของพวกเขา และคอยคอมเม้นท์เม้ามอยกันไปตามประสา เว็บเครือข่ายสังคม และใช้การโทรผ่านแอปแทนการโทรด้วยโทรศัพท์ จะได้ไม่สิ้นเปลืองค่าโทรศัพท์ และผู้ใช้ยังสามารถติดตามแทรนด์ของสังคมในช่วงนี้ ด้วยการติดตามเฮชเทก ที่เป็นกระแส ตามแทรนด์ คำค้นหาที่กำลังฮอตฮิต จะได้ไม่ตกแทรนด์

แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะต้องเพิ่มขึ้นอีก เป็นเดือนละ 1 ล้านหยวน เป็นอย่างน้อย แต่หม่ากั๋วหมิง ก็ไม่ได้จำกัดการสมัครสมาชิก เพราะยิ่งมีสมาชิกยิ่งเยอะยิ่งดี และพอมีผู้ใช้ 80 ล้านคนค่อยอัพเกรด และเพิ่มทรัพยากรอีกครั้ง เพื่อสร้างประสบการณ์ดีๆแก่ผู้ใช้ ไม่ให้เกิดความสะดุด

โชคดีที่ช่วงนี้ เงินค่าโสมที่นำไปฝากประมูลนั้น ได้ถูกโอนเข้าบัญชีของหม่ากั๋วเทาแล้ว 120 ล้านหยวน จึงมีเงินทุนให้หม่ากั๋วหมิงได้นำมาถลุง ได้อีกหลายเดือน และในอีก 3 เดือน เพดานผู้ใช้ก็คงเพิ่มสูงขึ้นไปอีก แต่น่าจะไม่เกิน 100 ล้านคน ดังนั้นทรัพยากรในตอนนี้นับว่าเพียงพอ ถ้าเกินก็คงต้องกัดฟันลงทุนเพิ่ม

เมื่อมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น เกิน 100 ล้านคน ก็อาจจะเพิ่มทุนเข้าไปอีก น่าจะประมาณ 5-10 ล้านหยวนต่อเดือน เงินจำนวนนี้ก็อาจจะไม่พอ ค่าใช้จ่ายให้ครบขวบปี แต่บนภูเขานั้นยังมีโสมภูเขาอีกนับร้อยต้นที่ปลูกเอาไว้ หากเร่งอายุพวกมันแล้วนำไปขาย ก็สามารถกลายเป็นทุนต่อเนื่องได้ ถือว่าห่วงโซ่ทุนของหม่ากั๋วหมิง เหนียวแน่นพอสมควร 

แต่นี่ยังไม่รวมค่าบริหารจัดการ อาจต้องหาเจ้าบ้านที่เป็นครูไลฟ์สดติวสอบ หรือสอนหนังสือ ในแฟลตฟอร์มเพื่อไม่ให้แฟลตฟอร์มของเขา หลุดออกไปไกลกว่าความตั้งใจแรก ของเขามากเกินไป ยังคงคอนเซ็บป์เดิมไว้ คือเพื่อการศึกษา และใช้สำหรับ บันทึกและแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ

ดังนั้นเขาอาจต้องจ้างครู หรือนักวิชาการ มาไลฟ์สดบรรยาย ในหมวดไลฟ์สด อย่างน้อยๆ ก็หาครูสอนภาษาจีนและภาษาอังกฤษมาสอนในแฟลตฟอร์ม เพราะวิชาภาษาจีนและวิชาภาษาอังกฤษนั้น ก็เป็นวิชาหลัก ที่ใช้สอบเกาเข่า และเป็นวิชาที่นักเรียนมีความเข้าใจง่ายกว่าวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์…

การหาครูสอนพิเศษนั้น ก็ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด ก็แค่แทรกโฆษณาเข้าไปในแอปของเขาเท่านั้นเอง และเดี่ยวก็ต้องมีคนเข้ามาสมัครมากมาย เพราะคนหลายแสนคน อย่างน้อยๆก็ต้องมีหลายร้อยหลายพันคนอยู่ในนั้น ที่เก่งวิชาการและสอนคนเป็น ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นครูหรือข้าราชการ ย่อมต้องมีคนที่อยากทำงานพิเศษ แต่นี่คือแผนการณ์ ยังต้องใช้เวลาอีกซักพัก ถึงจะเริ่มดำเนินการตามแผนนี้

…

สิ่งสำคัญนั้น ไม่ใช่เงินทุน แต่เป็นระบบ หากระบบมีเสถียรภาพสูง ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะขาดเงินทุน เพราะเมื่อมีผู้ใช้สมัครครบ 1 ล้านคน บรรดานักลงทุนต่างๆ ก็จะพากันแตกตื่น และเข้ามาหาเอง 

ดังนั้นในตอนนี้ เขาต้องรีบเร่งพัฒนาบอท หรือเอไอที่คอยควบคุมระบบ บีบอัดและลดขนาดไฟล์ และคอยตรวจสอบวีดีโอที่อัพโหลดเข้ามา และวีดีโอที่ไลฟ์สด ให้อยู่ในกฏหมายและอยู่ในกฏการใช้งานแฟลตฟอร์มที่เขาสร้างขึ้นมา

หม่ากั๋วหมิงเขียนเอไอขึ้นมาโดยเฉพาะ ตั้งชื่อมันว่า หมิงหมิง ที่มาจากชื่อของเขา แปลว่า แสงสว่าง

โดยตั้งหมิงหมิง ทำงานเป็นผู้ดูแลแฟลตฟอร์ม ให้เป็น maincore ของปลั๊กอินตรวจสอบ ของแฟลตฟอร์ม และยังเขียนโปรแกรมกำหนดให้เอไอตัวนี้ สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง และเติบโตขึ้นได้ด้วยตัวของมันเอง โดยใช้วัสดุการเรียนรู้ จากการรายงานของผู้ใช้ เพียงแต่ในระยะเริ่มต้นนี้ จะต้องคอยชี้นำการพัฒนาสติปัญญาของหมิงหมิง ด้วยตัวเองด้วยเช่นกัน

หมายความว่าจะต้องสอนให้หมิงหมิง รู้จักแยกแยะก่อนว่า สิ่งไหนดีสิ่งไหนไม่ดี สิ่งไหนต้องคัดทิ้งและสิ่งไหนต้องตัดออก คนแบบไหน คำพูดแบบไหนที่ต้องถูกแบน และยังต้องเพิ่ม ระบบจดจำใบหน้าและตรวจสอบลายนิ้วมือ ระบบระบุตำแหน่งผู้ใช้ ที่นำมาจากข้อมูลของโทรศัพท์มือถือ เพื่อยืนยันตัวตน

หากผู้ใช้ที่ก่อปัญหาอาชญากรรม อย่างการพนัน หรือใช้ความรุนแรง ก็สามารถโยนให้ตำรวจจัดการได้เลย 

เพราะไม่เพียงแต่คลิปวีดีโอและไลฟ์สดเท่านั้น แม้แต่การโทรด้วยภาพและเสียง ก็จะถูกดักฟังโดยหมิงหมิง และมันยังเก็บข้อมูลและหลักฐานเอาไว้ตลอด ทั้งยังสามารถระบุตัวตนและตำแหน่งของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา ซึ่งในอนาคตสิ่งนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ยังเป็นการช่วยลดอาชญากรรมในอีกรูปแบบหนึ่ง

และมันจะไม่มีความเป็นส่วนตัวอยู่จริง หากคุณต้องการใช้บริการฟรี หากต้องการความเป็นส่วนตัวก็ต้องใช้การโทรแบบปกติ และในอนาคต หมิงหมิง ก็จะใช้ข้อมูลส่วนตัวพวกนี้ แยกตามประเภทของผู้ใช้ อายุ เพศ การศึกษา เพื่อแสดงโฆษณาจากผู้สนับสนุน ให้ตรงกับข้อมูลของผู้ใช้ เรียกว่าเก็บคุกกี้ของผู้ใช้เอาไว้ใช้งาน…

สิ่งนี้นับว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่หม่ากั๋วหมิงก็ได้เพิ่มไว้ในกฏการใช้งานของแฟลตฟอร์มเอาไว้แล้ว โดยผู้ใช้ต้องกดยอมรับในข้อนี้ ถึงจะสมัครเข้าใช้งานแฟลตฟอร์มได้ และเขาก็ไม่ได้กะจะเอาข้อมูลส่วนบุคคลพวกนี้ไปทำอย่างอื่นอยู่แล้ว เก็บคุกกี้ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้เท่านั้นเอง

…

หม่ากั๋วหมิงได้ฟรีแซนต์งานให้บิดาและมารดาดูแล้ว ก่อนหน้านี้ ทั้งสองก็ไม่มีความเห็นอะไร และยังบอกอีกว่า หากคิดว่ามันมีประโยชน์ก็ทำไปเลย พ่อและแม่จะให้การสนับสนุน และทั้งสองยังแอบภาคภูมิใจ ที่ลูกชายมีความคิดริเริ่มสร้างสิ่งใหม่ๆ 

แน่นอนว่ามันต้องมีประโยชน์อยู่แล้ว เพียงแต่ในตอนนี้มันยังไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองเท่านั้นเอง จึงเหมือนกับการโยนเงินถมทะเล หรือเผาเงินทิ้ง คงต้องใช้เวลาซักปี เพื่อให้ผู้ใช้ติดแฟลตฟอร์มของเขาก่อน ถึงตอนนั้นมันถึงจะสร้างผลกำไรตอบกลับมา…