Your Wishlist

โปรแกรมเมอร์ธรรมดา (สร้างแอปไลฟ์สด)

Author: เพื่อนคนหนึ่ง

ย้อนเวลาเปลี่ยนชีวิต จากโปรแกรมเมอร์และนักธุรกิจหมื่นล้าน กลายเป็นเด็กนักเรียนยากจนธรรมดา ในต่างโลก เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ พยายามไม่ใช้ชีวิตผิดพลาดเหมือนโลกที่เคยจากมา และสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยอีกครั้ง

จำนวนตอน :

สร้างแอปไลฟ์สด

  • 26/05/2565

ตลอดทั้งสัปดาห์ ชีวิตก็ดำเนินเป็นกิจวัตร

 

ฝึกวิชาในตอนเช้า เรียนในตอนกลางวัน เล่นกีฬาในตอนเย็น และเขียนโปรแกรมในตอนกลางคืน

 

และถึงแม้ว่าจะมีเวลาไม่มาก แต่หม่ากั๋วหมิงก็สามารถสร้างแฟลตฟอร์มเล็กๆขึ้นมา ให้แลนดิ้งเพจยังเป็นวีดีโอสั้นทั่วไป แล้วมีแถบหรือเมนูด้านบน เป็นเมนูไลฟ์สด ไม่เพียงเท่านี้ เขาเขียนระบบปฏิบัติการ สำหรับรันโปรแกรมบน server ธรรมดาให้กลายเป็น Cloud Server ด้วยโปรแกรม OwnCloud ที่เขียนขึ้นมา ช่วยเพิ่มขีดความสามารถ เสริมสมรรถนะ และขนาดทรัพยากรได้ตามภาระงาน ทำให้ลื่นไหลทั้งการดูวีดีโอและการไลฟ์สด

 

อันที่จริงแล้วในตอนนี้ก็มีเซฟเวอร์ที่ใช้ฮาร์ดิชแบบ SSD กันแล้ว จึงมีความเร็วสูงของการรับส่งข้อมูลพอสมควร ถ้าจะให้ดีต้องเป็นฮาร์ดิชแบบ NVMe ที่มีความเร็วกว่า เพียงแต่ในยุคนี้ยังไม่ได้ผลิตออกมา มีแค่ SSD และในต่างประเทศนั้น ก็มีการให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลเป็นเว็บแล้ว แต่ราคานั้น ยังถือว่าแพงมาก สำหรับธุรกิจแบบเริ่มต้นของหม่ากั๋วหมิง นับว่าเป็นก้าวแรกของการลงทุน

 

หม่ากั๋วหมิงใช้วิธีเช่าเซฟเวอร์แบบ dedicated server ของ interserver เพราะจะได้มีสิทธิในการจัดการเครื่องเซฟเวอร์เต็มที่ ทั้งลงโปรแกรมระบบปฏิบัติการและ ระบบรักษาความปลอดภัย

 

แน่นอนว่ามันเป็นเซฟเวอร์นอก ที่อยู่อเมริกาและสิงค์โปร์ มันก็เลยต้องมีการซิกแซ็กกันเล็กน้อย เพื่อให้ในประเทศใช้ได้ เพราะตอนนี้รัฐบาลยังปิดประเทศอยู่ ไม่สนับสนุนให้ใช้ของนอก แต่ทำไงได้ในเมื่อตอนนี้จีนยังไม่มี datacenter ที่เร็วๆแรงๆและให้แบรนด์วิธสูง แต่เขาก็มีแผนที่จะสร้างเซฟเวอร์ขึ้นมาเองด้วยเหมือนกัน เพียงแต่ต้องรอหลังจากนี้…

 

การจ่ายเงินนั้น ทำได้โดยการผูกบัญชีไว้กับ paypal แล้วเติมเงินเข้าไป

 

ยังดีที่หม่ากั๋วเทานั้นได้ทำบัตรเครดิตเอาไว้แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ ไปซื้อรถแล้วไม่สะดวกอย่างแรง หลังจากนั้นหม่ากั๋วเทาก็ทำบัตรเครดิต บัตรเงินสด เอาไว้ซื้อของโดยเฉพาะ หม่ากั๋วหมิงจึงให้บิดาทำให้อีกใบ เพราะให้เขาได้ใช้เป็นทุนในการจ่ายค่าเซฟเวอร์ ต่างประเทศ

 

คงจะดีหากมีเซฟเวอร์ในประเทศ เพราะจะมีความเร็วและลื่นไหลกว่า แต่ตอนนี้ Alibaba Cloud ยังไม่ได้ถือกำเนิด คงต้องรออีก 2-3 ปี ค่อยสร้างศูนย์ข้อมูล และเซฟเวอร์ฟาร์มของตัวเอง ก็ยังไม่สาย แต่พอถึงตอนนั้น หม่ากั๋วหมิง ก็คิดว่าจะสร้าง datacenter เองได้แล้ว

 

อย่างไรก็ตามเขาต้องเช่า server ภายในประเทศด้วยเพื่อใช้เป็น main server เบ็ดเสร็จแล้วเสียค่าใช้จ่ายไป 100,000 หยวน ซึ่งนับได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาลสำหรับเด็กมัธยม โชคดีที่ได้รับเงินสนับสนุนจากบิดา ออกให้ก่อน

 

หนึ่งแสนหยวนนี้ยังเป็นที่ระยะเริ่มต้นที่รองรับคนใช้งานได้ 50,000-100,000 คนเท่านั้น แต่หากลงทุน 500,000 หยวน จะสามารถรองรับผู้ใช้ได้มากขึ้น ประมาณ 500,000 คน แต่นี่คือค่าใช้จ่ายต่อเดือน

 

หากมากกว่านี้ก็ต้องเพิ่มทุน นอกจากนี้ หากจะต้องจ้างครูเพื่อทำการไลฟ์สดสอน หรือติวข้อสอบ ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย ตามแผนแล้ว หม่ากั๋วหมิงจะจ้างครูสอนพิเศษ วิชาละสิบคน คนละ 50-150 หยวนต่อวัน หรือ 2,000 หยวนต่อเดือน

 

แน่นอนว่าครูเหล่านี้สามารถสมัครได้โดยตรงผ่านแอป และส่งหลักฐานการศึกษาและการทำงานเข้ามา เมื่อผ่านการพิจารณาแล้วถึงจะเริ่มทำงาน โดยการไลฟ์สดสอนและติวข้อสอบต่างๆ มีให้เลือกสองอย่างคือรับรายได้จากแฟลตฟอร์มโดยตรง เป็นวันหรือเป็นเดือน หรือจะรับรายได้จากผู้ใช้ที่เป็นนักเรียน นี่คือแผน

 

การสอนพิเศษนั้นแค่ทำวันละชั่วโมงถึงสองชั่วโมงต่อวัน เพราะฉนั้นคำว่าต่อวันก็คือต่อชั่วโมง

 

ครูคนแรกก็คือครู มู่หยูชิง ที่เป็นมารดาของลู่เสว่ฉี โดยให้สอนติวมัธยมต้น ซึ่งจะถูกกว่า ชั่วโมงละ 50 หยวน หากสอนวิชาของมัธยมปลาย จะได้ชั่วโมงละ 100 หยวน แต่นี่คือการบรรยายรวม ในห้องไลฟ์สดต้องมีผู้ชมอย่างน้อย 100 คน ถ้าติวรายบุคคลก็จะได้ราคาเท่ากัน เพียงแต่ต้องมีคนยอมจ่ายก่อน โดยการให้ทดลองเรียนรวมก่อน

 

นักเรียนมัธยมปลายส่วนใหญ่ ที่กำลังเรียน ม.6 ในจีน มีอยู่มากมาย และส่วนใหญ่ขวนขวายหาความรู้ เพื่อการสอบเข้ามหาลัย ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครเข้ามาเรียนเข้ามาชม ดูแค่ในห้อง 5 ของหม่ากั๋วหมิง ถึงแม้จะเป็นห้องที่เรียนไม่เก่ง แต่ก็มีคนอยากติวเพิ่มหลังเลิกเรียนเกินครึ่งของห้อง

 

ที่สำคัญคือมีการอัดวีดีโอไว้สามารถดูย้อนหลังได้ มันไม่เหมือนกับการเรียนในโรงเรียน ที่ไม่สามารถย้อนไปดูในสิ่งที่ตัวเองยังไม่เข้าใจได้ ผ่านแล้วผ่านเลย แต่แฟลตฟอร์มไลฟ์สดของหม่ากั๋วหมิงทำได้

 

ปัญหาคือเมื่อสร้างแอปเสร็จแล้ว จะต้องมีการโฆษณา ไม่งั้นก็จะไม่มีคนรู้จัก หม่ากั๋วหมิงจึงลงโฆษณาในเว็บพอร์ทัลของจีนของจีน อย่าง Sohu, ifeng และ Douban ซึ่งราคาลงโฆษณาเว็บพวกนี้ก็ไม่ถูกเลย ต้องเสียเงินเป็นแสนต่อเดือนต่อเว็บ หากต้องการแปะหน้าแรก แต่นี่เป็นราคาในยุคอดีต อนาคตนั้นต้องเสียเป็นล้านต่ออาทิตย์ และตอนนี้หม่ากั๋วหมิงลงโฆษณาแค่เดือนเดียวเท่านั้น แต่กลุ่มเป้าหมายก็ไม่ได้ตรงกับนักเรียน แต่เป็นคนกลุ่มใหญ่ หลากหลายอาชีพที่เข้าไปดูเว็บพวกนั้น ถือเป็นการทดสอบน่านน้ำ

 

และเมื่อโปรแกรมแอนตี้ไวรัสของเขาเสร็จ เขาก็ลงโฆษณาด้วยเหมือนกัน เพื่อเป็นการโฆษณาสองต่อ ในหน้าโหลดแอป เขาก็ลงโฆษณาโปรแกรมแอนตี้ไวรัส ในหน้าโปรแกรมแอนตี้ไวรัส เขาก็แปะลิงค์สำหรับโหลดโปรแกรมแอนตี้ไวรัสของเขาด้วย ทั้งโปรแกรมและแอปของเขานั้น โหลดฟรี ใช้ฟรี แต่ต้องลงทะเบียน

 

ส่วนการลงในแอปสโตร์ของกูเกิ้ลนั้น และของแอปเปิ้ลนั้น ก็ต้องลงอยู่แล้ว เพราะเป็นหัวเรือใหญ่ หากมีผู้โหลดและใช้งานเยอะ ก็จะถูกแนะนำโดยผู้ดูแลของแอปสโตร์ ของทั้งสองระบบปฏิบัติการ 

 

ส่วนหน้าเว็บ ที่จะใช้เป็นหน้าเว็บของแฟลตฟอร์มไลฟ์สดหรือวีดีโอ ที่ดูผ่านบราวเซอร์ในคอมพิวเตอร์นั้น ค่อยเปิดตัวหลังจากมีผู้ใช้งานครบหนึ่งล้านคน

 

 

หลังจากทำทุกอย่างแล้วเสร็จ หม่ากั๋วหมิงก็นั่งพิจารณาตัวเอง ในยุคนี้มีเทคโนโลยีหลายอย่างที่เขาคาดไม่ถึง มันไม่เหมือนในชาติก่อนของเขา ที่ล้าหลังกว่ามาก ในยุคของเขานั้นยังใช้เพจเจอร์กันอยู่เลย แถมยังต้องใช้โทรศัพท์ผ่านทางตู้โทรศัพท์ เพื่อโทรหากัน ถึงเขาจะเป็นลูกคนรวย แต่ก็แค่มีมือถือโนเกียรุ่น 2G ก็ว่าหรูแล้ว เวลาควักออกมาโทรก็ดูเท่ห์มาก เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมี ส่วนใหญ่จะโทรผ่านตู้โทรศัพท์สาธารณะ

 

ตอนที่เขาอายุ 18 ปีของชาติก่อนนั้น เป็นปี 2002 และตอนที่เขาได้ทำการทดลองย้ายร่างนั้นเป็นปี 2022 แต่พอเกิดความผิดพลาดแล้วย้ายมาโลกนี้ กลับเป็นปี 2012 ซึ่งมีความแตกต่างกันเป็น 10 ปี และ 20 ปีกับประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านไปหลังเรียนมัธยม จึงเหมือนกับว่า เขาได้เป็นหนุ่มสองเท่า และเป็นหนุ่มสองครั้ง แถมยังต่างช่วงเวลา

 

เทคโนโลยีบางอย่างที่เขาเรียนในตอนนั้น ยังไม่ได้เจริญรุดหน้าแบบนี้ ตอนเขาเรียนนั้นยังไม่มีสมาร์ทโฟน และการเขียนแอปพวกนี้เขาก็ศึกษาเอง จากการทำงานและปฏิบัติจริงหลังจากนั้น ไม่ได้เรียนในมหาลัย ยังดีที่เขาไม่เล่นมากจนทิ้งการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ และไม่ใช้ชีวิตเสียเปล่า ไม่ได้โยนงานให้ลูกน้องทำทุกอย่าง แต่ยังให้ลูกน้องอธิบายระบบการทำงาน และยังแกะโค๊ดพวกเขา เพื่อทำความคุ้นเคย ถือว่าเขาพยายามเรียนรู้และหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา…

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป