วันจันทร์ยังคงมีสอบ 

เป็นการสอบวิชาฟิสิกส์ ในคาบที่สอง 

หลังการแข่งกีฬาชั้นปี อีกสองอาทิตย์หลังจากนั้น ก็จะสอบกลางภาค 

เด็กนักเรียนมัธยมปลายจึงถือว่ามีกิจกรรมมากมาย ทั้งเรียน ทั้งกีฬา แต่ยังไงก็ยังเน้นเรียน ส่วนกีฬานั้นเป็นส่วนเสริม ให้เล่นคลายเครียด 

หม่ากั๋วหมิงไม่ได้มีปัญหากับข้อสอบฟิสิกส์ของมัธยมปลาย เพราะเขาได้กวาดสายตาอ่านมาหมดแล้วในตอนกลางคืน ทั้งความทรงจำเก่า และความทรงจำใหม่ ที่อ่านใหม่ ก็ได้รับการขัดเกลา จนเข้าใจใหม่อีกครั้ง จึงไม่มีปัญหาอะไรหากจะสอบเข้ามหาลัยในจีน

แต่หม่ากั๋วหมิง ก็ได้รู้ถึงความจริงข้อหนึ่ง ห้อง 5 นั้น แม้ว่าจะมีคนเล่นกีฬาเป็น แต่การเรียนนั้นยังนับว่าอ่อนด้อย เวลาที่ครูสอนแต่ละคาบนั้น นักเรียนส่วนใหญ่ในห้องจะมึนงง เกาหน้าเกาศีรษะ ไม่รู้จะสอบเข้ามหาลัยกันได้กี่คน 

บางทีเขาอาจต้องติวเพื่อนร่วมห้องหรือเปล่า อืม ติวเพื่อนร่วมห้องนั้นเยอะไป ติวเฉพาะเพื่อนนักกีฬาดีหรือเปล่า แต่นั่นไม่เท่ากับว่า ติวเฉพาะผู้ชายดอกหรือ และพอเขาคิดไปคิดมา ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีวิธีได้ประโยชน์ทั้งสองทาง

…

เมื่อการสอบจบลง หม่ากั๋วหมิง ก็เขียนแผนการณ์ของเขาออกมาใส่สมุด ร่างเป็นแผนการสร้างแอป

จุดประสงค์หลักของแอปก็คือ รวมวีดีโอสั้น และติวหนังสือแบบไลฟ์สด และยังบันทึกให้สามารถย้อนดูทีหลังได้ เหมือนแอป พันล้านวิว ของเขาเมื่อชาติก่อน แต่แอปนี้ จะยังเป็นจุดกำเนิดของแอป หรือเว็บเครือข่ายสังคมของเขาด้วย โดยเน้นไปที่กลุ่มนักเรียนนักศึกษา หรือคนวัยทำงานที่มีโทรศัพท์และเน็ตความเร็วสูง

ในตอนนี้ ก็คงเริ่มที่นักเรียนมัธยมปลาย ที่รวมกลุ่มกันติวเพื่อสอบเข้ามหาลัย

โดยเขาเขียนแอปที่สามารถสร้างเป็นห้องถ่ายทอดสด โดยเขาใช้โทรศัพท์มือถือของเขาถ่ายทอด เสร็จแล้วก็สามารถติวออนไลน์ เหมือนกับการบรรยายวันแมนโชว์ แล้วแยกเป็นหมวดหมู่รายวิชาไป

แต่ถึงเขาจะเรียนเก่ง แต่ไม่ใช่ว่าจะสอนเก่ง ดังนั้น เขาสามารถให้คนอื่นสร้างห้องติวขึ้นมาเองได้ ภายในแฟลตฟอร์ม 

ในระยะแรกเริ่มของแอป เขาอาจจะจ้างครูสอนพิเศษ ให้บรรยาย ซักหลายๆคน โดยเป็นครูมัธยมจากทั่วประเทศ และในอนาคตครูพวกนี้ก็สามารถหารายได้จากการไลฟ์สดติวหรือไลฟ์สดสอนพิเศษ โดยได้รับของรางวัลจากนักเรียนและผู้ปกครอง และมีระบบสมัครสมาชิก เฉพาะรายบุคคล เพื่อเข้าถึงการไลฟ์สดของอาจารย์ได้ รายได้ของอาจารย์และของผู้ให้บริการก็จะมาจากจุดนั้น

พอมีครูเข้ามาสอนแบบออนไลน์มากๆ คนที่รักเรียนก็จะเข้ามาเอง และนักเรียนมัธยมปลายทั่วประเทศ ก็มีหลายสิบล้านคนที่ต้องสอบเข้ามหาลัย และครูเก่งๆก็มีหลายแสนคนที่อยากมีอาชีพเสริม ดังนั้นแล้วเขาไม่ต้องทำเองทั้งหมด และมันน่าจะทำได้…

…

เมื่อเห็นหม่ากั๋วหมิงขีดๆเขียนๆเป็นช่องๆตีตารางเป็นสีเหลี่ยมเล็กๆแล้วเขียนลงไป และยังเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เหมือนกับลายมือหมอ แม้อ่านออกบางคำ แต่ไม่เข้าใจว่าเขาเขียนอะไร เหมือนจะเป็นคีย์เวิร์ด คล้ายหมอผีลงอักขระอาคม คนทั่วไปย่อมอ่านไม่เข้าใจ ลู่เสว่ฉีชำเลืองดูอยู่ครู่หนึ่ง แต่พอเห็นเขากำลังตั้งใจเขียน ก็เลยไม่ได้รบกวน

"ลูกพี่ วันนี้เราจะซ้อมบอลหรือซ้อมบาส" จางฮั่นหยา ที่อยู่ไม่ไกลก็เข้ามาถาม

หม่ากั๋วหมิงหยุดปากกาที่กำลังเขียนอยู่ แล้วหันไปหา ซือฮัวเจ๋อ

"ฮัวเจ๋อ นายพาลูกทีมซ้อมบอลได้เลย ส่วนตำแหน่งโกลนั้น ฉันจะเล่นเป็นตัวจริง แต่ฉันขอลงซ้อมบาสก่อนช่วงนี้" 

"ส่วนมือโกลตอนซ้อมนั้น นายก็ให้ใครสักคนเป็นตัวสำรองซ้อมกับพวกนายไปก่อน ส่วนวันแข่งฉันจะลงโกลเอง และก่อนแข่งไม่กี่วัน ฉันค่อยไปซ้อม นายคิดว่าไง"

ซือฮัวเจ๋อ ก็คิดเรื่องนี้เอาไว้ ตำแหน่งโกลนั้นไม่ต้องลงซ้อมอะไรมากก็ได้ สำคัญที่มีฝีมือในการรักษาประตู ที่เหนียวเป็นพอ และตอนแข่ง ก็อาจจะมีการส่งลูกให้คนในทีม ซึ่งซ้อมซักสองสามครั้งก่อนแข่งก็ใช้ได้แล้ว ดังนั้นหม่ากั๋วหมิงไม่ต้องไปซ้อมก็ได้ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้ารับ

"โอเค ถ้างั้นเขาให้ห้องอื่นไปเล่นที่สนามมัธยมต้นด้วยดีหรือเปล่า"

"ดีสิ เพราะพวกเราจะได้เล่นกันครบทีม ส่วนบาส เราก็สามารถซ้อมกับ ม.6 ห้องอื่นได้ โดยคิดซะว่า เป็นการแข่งกระชับมิตร" พอกล่าวจบก็หันมาทางลู่เสว่ฉี

"หัวหน้าห้อง เธอช่วยดูให้หน่อยสิ ว่ามีห้องใหนอยากแข่งกระชับมิตรกับพวกเราบ้าง สามารถมาที่สนามมัธยมต้นได้เลย โดยเราจะยึดสนามมัธยมต้นเป็นของเรา ส่วนทีมบาสในห้องอื่นนั้น เป็นทีมเยือน หากมีหลายทีม ก็จัดคิวซักหน่อย" 

"โอเค เดี่ยวฉันจะถามให้…"