Your Wishlist

โปรแกรมเมอร์ธรรมดา (ลองเล่นไฟ)

Author: เพื่อนคนหนึ่ง

ย้อนเวลาเปลี่ยนชีวิต จากโปรแกรมเมอร์และนักธุรกิจหมื่นล้าน กลายเป็นเด็กนักเรียนยากจนธรรมดา ในต่างโลก เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ พยายามไม่ใช้ชีวิตผิดพลาดเหมือนโลกที่เคยจากมา และสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยอีกครั้ง

จำนวนตอน :

ลองเล่นไฟ

  • 23/05/2565

เช้าวันใหม่

 

กว่าเขาจะได้นอนเมื่อคืนนั้น ก็ปาเข้าไปห้าทุ่มและผล๋อยหลับไปเอง 

 

ในโลกนี้นั้น ไม่ได้มีกิจกรรมอะไร ก็เลยเข้านอนเร็ว ประมาณสามทุ่ม ก็เข้านอนกันแล้ว และเพราะอย่างนี้ก็เลยสามารถตื่นเช้าได้ 

 

แต่ไม่เพียงแต่หม่ากั๋วหมิงเท่านั้น คนในบ้านวันนี้ก็พากันตื่นสายกันนิดหน่อย เพราะเมื่อคืนดูทีวีกัน ในบ้านพึ่งจะมีทีวี ก็เลยเห่อกันนิดหน่อย อีกทั้งหม่ากั๋วหมิงยังพิมพ์งาน ต๊อกๆแต๊กๆ อยู่ตลอด ใครจะไปหลับลงได้

 

วันนี้หม่ากั๋วหมิง ก็ปวดเมื่อยคอเมื่อยมือเมื่อยแขน เพราะบิดาซื้อมาแต่คอมพิวเตอร์ แต่ไม่ได้ซื้อโต๊ะคอมพิวเตอร์มาให้ด้วย ก็เลยลำบากเล็กน้อย ต้องวางบนเตียงแล้วนั่งบนพื้น แล้วพิมพ์งานเอา 

 

แต่ห้องของเขานั้นเล็กไปหน่อย หากซื้อโต๊ะมาก็ไม่มีที่วางอยู่แล้ว นอกเสียจากจะวางไว้ห้องโถงในบ้าน

 

เช้าวันนี้ ทุกคนขึ้นเขาไป ยกเว้นหม่ากั๋วหมิง เพราะมารดาในตอนนี้ ก็ฝึกวิชาแสงสุริยัน ด้วยเหมือนกัน 

 

ดังนั้นวันนี้ หน้าที่ทำอาหารจึงตกอยู่ที่หม่ากั๋วหมิง เขาจึงทำง่ายๆอย่างไข่ดาว กับข้าวต้ม และต้มไข่ ก่อนหน้านี้ทุกคนในบ้านไม่ค่อยได้กินไข่ หม่ากั๋วหมิงได้บอกให้บิดาและมารดาซื้อไข่ไก่มาไว้ เป็นเสบียง เพื่อที่คนที่บ้านจะได้กินไข่ต้ม ไข่ไก่นั้นมีโปรตีนสูงและยังทำให้ผิวเนียนอีกด้วย แต่ก่อนคนบ้านนี้กินเนื้อจากเนื้อสัตว์ที่หาได้จากบนเขา อย่างพวกไก่ป่า กระต่ายป่า หมู่ป่า 

 

โดยเฉพาะหมูป่า เนื้อโคตรเหนียว เหมือนกับการเคี้ยวยางรถยนต์ ในเมื่อตอนนี้ที่บ้านมีตู้เย็น และมีเงินแล้ว จึงมีเนื้อหมูเนื้อไก่อยู่ในตู้เย็น ซึ่งกินง่ายกว่า เพียงแต่ว่า หม่ากั๋วหมิง ทำเป็นแต่ไข่ดาว ทอดไข่ ต้มไข่ พอได้กินกันได้

 

ส่วนการจับคู่ทางโภชนาการนั้น ก็ลวกผักหรือผัดผักเพิ่มอีกชานก็ใช้ได้แล้ว 

 

เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว คนด้านบนก็ยังไม่ลงมา มองซ้ายมองขวาไม่มีใคร หม่ากั๋วหมิงก็เรียกเอาลูกบอลเพลิงของตัวเองออกมาเล่น ตอนนี้ที่บ้านมีเตาแก๊ชแล้ว หม่ากั๋วหมิงจึงลองนำลูกบอลเพลิงของตัวเองมา แล้วนำไปวางไว้ใกล้ๆกับเตาแก๊ช ผลปรากฏว่า มันสามารถดูดซับความร้อนและแสงจากเตาแก๊ชได้ ในความเป็นจริงแล้ว แสงแดดจากพระอาทิตย์ก็น่าจะได้ และน่าจะดีสุด เพราะไม่เปลือง

 

หม่าจือฉุนนั้น ฝังลูกบอลหยกดำของเธอไว้ใต้ดินที่บ้านทุกวัน ไม่รู้ว่าได้ดูดซับพลังไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว แต่ที่แน่ๆ น่าจะมากกว่าของเขา เพราะดูดซับอยู่ตลอดเวลา ทั้งกลางวันกลางคืน ส่วนของบิดาก็ไปดูดพลังจากต้นไม้ใหญ่ในป่าได้ และยังดูดจากต้นเหอโสว่อูที่มีอายุกหลายพันปีได้ พลังของของลูกบอลหยกเขียวของบิดา จึงมีการพัฒนาอยู่เสมอ และมีแหล่งพลังงานอย่างเพียงพอ เหลือเฟือ ส่วนของมารดานั้น ก็คงบิดาซื้อทองคำกลับมาทุกรอบเมื่อไปตลาด ครั้งละหนึ่งตำลึงสองตำลึง ก็สามารถเติมพลังได้แล้ว และพอมานึกๆดู เป็นไปได้ไหมว่า พลังของมารดานั้น จะสามารถค้นหาสายแร่ทองคำได้ เหมือนกับเขาที่พอถึงจุดๆหนึ่ง ก็สามารถสัมผัสหรือค้นพบแหล่งพลังงานความร้อนได้ ผ่านกระแสจิต หากเป็นเช่นนั้น อนาคตมารดาก็จะพบแหล่งพลังงานของตัวเอง ถึงแม้โลกนี้ทองจะถูกครอบคุมโดยรัฐบาล แต่หากมารดาดูดซับทองมากพอ ก็สามารถหลอมทองออกมาได้เอง เหมือนเสกทอง ก็แค่ต้องเสกให้มันเหมือนทองแท่งที่ซื้อมาจากในร้านก็เท่านั้นเอง 

 

หม่ากั๋วหมิง ปิดเตาแก๊ชและเก็บลูกบอลหยกเพลิงของตัวเองไว้ก่อน เพราะค่อนข้างสิ้นเปลือง คงต้องเสนอให้บิดาซื้อเตาแก๊ชอีกซักอัน เพื่อให้เขาย่างลูกบอลหยกเพลิงของเขาโดยเฉพาะ และเขาก็จะทิ้งลูกบอลหยกเพลิงไว้ที่บ้าน แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะเมื่อไปโรงเรียน เขาจะได้ไม่ต้องนำมันออกมาเล่น

 

นอกจากเตาแก๊ชแล้วก็ยังมีเตาไฟฟ้าที่สามารถให้ความร้อนและแสงได้ อย่างฮีตเตอร์ไฟฟ้า แต่ของพวกนี้ค่อนข้างกินไฟ ค่าแก๊ชน่าจะถูกกว่า เพียงแต่ต้องเปลี่ยนถังบ่อย ประหยัดสุดก็คือพลังงานจากแสงอาทิตย์ เพียงแต่ต้องดัดแปลงเล็กน้อย และดีสุดก็คือล่าสัตว์อสูร แล้วให้ลูกบอลหยกเพลิงกลืนกินพลัง แต่ในโลกนี้ไม่ได้มีสัตว์อสูรมากมายขนาดนั้น และยิ่งต้องเป็นธาตุไฟ ยิ่งหายากเข้าไปอีก 

 

เขาลองทดสอบเล่นกับไฟ ก่อนหน้านี้ เขาสามารถจับไฟได้โดยตรง โดยไม่ร้อน แม้กระทั่งน้ำร้อนก็ไม่ลวกมือเขา เพราะเหมือนร่างกายเขาดูดซับความร้อน เขายังสามารถเสกไฟได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ามือ กำปั้น หรือปลายนิ้ว เหมือนกับไฟแช็ค

เพียงแต่การทนไฟนี้ไม่ได้รวมเสื้อผ้าของเขา หากเขาเล่นมากไป ก็ไหม้เสื้อผ้าของเขาได้ เพราะฉนั้นเขาจึงควบคุมให้อยู่แต่ในมือ ส่วนขาและลำตัว รวมถึงศีรษะนั้นยังไม่ได้ลอง แต่เขาลองดึงเส้นผมออกมา แล้วโยนเข้าเตาไฟ ผลปรากฏว่า มันไหม้ไฟ แถมยังลุกไหม้แรงกว่าปกติ เหมือนโยนน้ำมันเข้าเตาไฟ นี่คือเส้นผมที่ถอนออกมา แต่เส้นผมที่ยังติดอยู่ที่ศีรษะนั้น มันจะให้ผลแตกต่างกันหรือเปล่า เขายังไม่ได้ลอง และคงไม่ลอง เกิดผมติดไฟไหม้ทั้งหัว คงไม่ใช่ภาพที่น่าดูนัก

 

 นอกจากการควบคุมให้ไฟลุกที่มือแล้วนั้น เขายังสามารถกำหนดให้เปลวไฟเป็นรูปร่างต่างๆ สิ่งนี้เขาได้ไอเดียจากน้องสาว เพราะว่าเธอสามารถเสกให้ก้อนหินเป็นตุ๊กตารูปร่างต่างๆได้ เหมือนกับงานแกะสลักหิน เพียงแต่มีขนาดเล็ก เท่าไข่ไก่ ถึงแม้เธอจะเสกออกมาไม่ค่อยสวยงามเหมือนจริงๆ แต่ก็ยังสามารถเสกออกมาได้คล้ายคลึง อย่างกระต่าย และหนูตัวเล็กๆได้

 

เขาจึงลองเสกให้มันกลายเป็นสัตว์บ้าง อย่างนกฟินิกซ์ แต่ตอนนี้เขาทำได้แค่นกกระจิบ เพราะตัวเล็กขนาดสองนิ้ว แต่พอเสกให้มันกลายเป็นงูจงอาง มันก็ตัวใหญ่เท่างูเขียว ยังดีที่หม่ากั๋วหมิงรีบเก็บเข้ามา ไม่งั้นไฟคงไหม้บ้าน เพราะยังควบคุมได้ไม่ดีเท่าไหร่ คาดว่ามันน่าจะได้อานิสงค์จากการที่ลูกบอลหยกเพลิงได้กลืนกินแก่นพลังของงูจงอางยักษ์วันนั้น จึงได้มีรูปร่างคล้ายเหมือนขนาดนั้น และเหมือนมันจะมีจิตวิญญาณของไฟ หรืองูยักษ์ตัวนั้นก็ไม่อาจทราบได้ มันเหมือนบินได้ด้วยตัวเอง แต่การเล่นไฟในบ้านนั้นเสี่ยงเกินไป สงสัยครั้งหน้าต้องเล่นนอกบ้าน

 

การเสกสัตว์นั้น มันก็คล้ายๆกับการเล่นกล ส่วนที่จะใช้เป็นการป้องกันและโจมตีนั้นคงเป็นโล่และลูกศร หม่ากั๋วหมิงจึงพยายามให้มันแปรสภาพเปลวไฟเป็นโล่บาเรีย และควบแน่นเป็นลูกศรธนู เขาสามารถปรับรูปร่างมันได้ เพียงแต่มันมีขนาดเล็กเท่าลูกศรหน้าไม้ แต่แค่นี้ก็โอเคแล้ว 

 

ลูกบอลหยกเพลิงของหม่ากั๋วหมิงในนี้นั้น เหมือนดั่งกับว่า มันจะกลายเป็นตันเถียน หรือแก่นพลังของเขา แต่มันน่าจะเรียกว่าตันเถียนนอกหรือเปล่า หรือว่าอาวุธจิตวิญญาณดี แต่ที่แน่ๆ เมื่อเขาทำสมาธิ เขาจะเริ่มรู้สึกได้ว่า เขาจะสามารถสร้างตันเถียนได้ ในเร็วๆนี้ เหมือนมันขาดอยู่แค่นิดเดียวเท่านั้น ไม่รู้ว่ายังขาดอะไร เขาเดาว่าน่าจะเป็นพลังปราณ หรือพลังวิญญาณ อาจต้องรอให้บิดาและมารดา นึ่งเหอโสว่อูครบเก้าครั้ง และตากแดดเก้าครั้งเสียก่อน ในตอนนั้น น่าจะสามารถกลั่นพลังปราณวิญญาณจากสมุนไพรวิญญาณต้นนี้ เป็นตันเถียนได้

 

 

คนที่ขึ้นดอยนั้นกลับลงมาแล้ว แต่ทุกคนก็ไปอาบน้ำกันก่อน ที่บ้านนั้นไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ก็ไม่มีใครบ่น สามารถต้มน้ำอาบได้หากหนาวมาก… 

 

เมื่อทุกคนกินอาหารเช้า ก็พูดคุยกันนิดหน่อย และพากันแยกย้ายกันไป…

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป