Your Wishlist

โปรแกรมเมอร์ธรรมดา (เลือกกัปตันทีม)

Author: เพื่อนคนหนึ่ง

ย้อนเวลาเปลี่ยนชีวิต จากโปรแกรมเมอร์และนักธุรกิจหมื่นล้าน กลายเป็นเด็กนักเรียนยากจนธรรมดา ในต่างโลก เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ พยายามไม่ใช้ชีวิตผิดพลาดเหมือนโลกที่เคยจากมา และสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยอีกครั้ง

จำนวนตอน :

เลือกกัปตันทีม

  • 23/05/2565

สนามบาสเอกชน

 

พอหม่ากั๋วหมิงมาถึง ทุกคนก็ยืดเส้นยืดสายรออยู่แล้ว แต่บางคนใส่กางเกงขาสั้น บางคนก็ใส่ขายาว บางคนก็ใส่เสื้อกล้าม บางคนก็ใส่เสื้อยืด ดีหน่อยตรงที่ไม่มีใครถอดเสื้อ เพราะที่นี่มีกฏห้ามถอดเสื้อ

 

แต่ปัญหามันก็อยู่ตรงนี้นั่นเอง เพราะต้องจำหน้ากันเอาเอง ไว้ใครอยู่ทีมใคร ความจริง เจ้าของสนามน่าจะมีเสื้อกั๊กเสื่อทีมให้เช่าด้วย แต่ที่นี่ไม่มี แค่มีสนามให้เช่าก็ดีแค่ไหนแล้ว 

 

สนามเช่านี้ไม่ได้สร้างตามมาตรฐานสนามบาสเท่าไหร่นัก เอาเป็นว่ามีแป้น มีห่วงให้ยัดลูกอยู่สองฝ่าย เป็นใช้ได้

 

พื้นเป็นปูนซีเมนต์ หากเล่นแรงล้มลงบาดเจ็บก็ดูแลตัวเอง อาจเหตุนี้ บางคนจึงใส่ขายาว 

 

เมื่อเห็นแป้นบาส หม่ากั๋วหมิงก็รู้สึกว่า สนามบาสของโรงเรียนมัธยมต้นใกล้บ้านน่าจะดูดีกว่าเล็กน้อย หรืออาจจะไม่ได้ต่างกันมากนัก น่าจะขอทำเรื่องขอใช้สนามชั่วคราว สนามโรงเรียนมัธยมต้น ในตอนเย็น น่าจะดีกว่า ว่างๆหม่ากั๋วหมิง ว่าจะลองไปติดต่อโรงเรียนมัธยมต้นนั้นดู 

 

พอหม่ากั๋วหมิงที่เป็นสุดท้ายมาถึง ทุกคนก็มารวมตัวกัน 

 

"เอาล่ะ ตอนนี้เราจะยังไม่แข่งกัน เราจะคัดเลือกกัปตันทีมกันก่อน มีทีมหนึ่งกับทีมสอง คนที่เป็นกัปตัน ก็คัดเลือกลูกทีมอีกที" 

 

หยินซินหยา เอ่ย เขาเป็นผู้เล่นบาสอยู่ก่อน และยังอยู่ชมรมบาส ทั้งยังเป็นนักกีฬาของโรงเรียนตั้งแต่มัธยมห้า เอ่ยออกมา ดูมีความมั่นใจในตัวเองไม่น้อย…

 

 

การคัดเลือกกัปตันก็ไม่ได้ยุ่งยาก แค่ใครซู๊ดลูกสามแต้มได้เยอะกว่าก็ชนะ หากยังข้องใจก็แข่งกันเองอีกครั้ง 

 

ในทีมบาสนี้ มีแต่คนสูงๆ อย่างน้อยๆก็ 170 ซม. มีบางคนอย่าง หยินซินหยา สูงถึง 180 ซม. และเขายังสูงได้อีก จนกว่าจะอายุ 20 ปี แสดงว่าอนาคตเขาอาจสูงกว่านี้

 

ส่วนหม่ากั๋วหมิงนั้นสูงแค่ 165 ซม. จากการวัดส่วนสูงครั้งสุดท้าย แต่เมื่อเขาได้ฝึกฝนร่างกายตอนเย็นกับบิดา เขายังได้โหนบาร์หลายสิบยกทุกเย็น รวมแล้วนับร้อยครั้ง จึงดูเหมือนว่าจะสูงขึ้นอีก 3 ซม. ในด้านรูปร่างจึงไม่ได้ต่างจากคนอื่นมากนัก

 

พอถึงคิวของหม่ากั๋วหมิง เขาก็ซู๊ดลูกสามแต้มเข้าทั้งสามลูก เขายังบอกให้เพื่อนส่งลูกให้อีก และโยนเข้าห่วงไปอีกสองลูก รวมเป็นห้าลูก

 

หยินซินหยา โยนเข้าสามลูก ไปแล้วก่อนหน้านี้ พอหม่ากั๋วหมิงโยนเข้ามากว่า เขาจึงโยนเพิ่ม แต่ลูกที่สี่เพียงพลาดไปเล็กน้อย

 

ส่วนเฉินโม่โยนเข้าสี่ลูก แต่พลาดลูกที่ห้า

 

คนอื่นๆ ก็เข้าสองลูกบ้าง เข้าหนึ่งลูกบ้าง และก็มีบ้างที่ไม่เข้าเลย

 

เป็นอันว่าหม่ากั๋วหมิงต้องแข่งกับหยินซินหยาและเฉินโม่ ด้วยการเล่นบาสแป้นเดียว 

 

คนสามคนแย่งบอลลูกเดียว และวัดกันที่ว่า ใครจะซู๊ดได้มากสุด ตามเวลาที่กำหนด

 

หยินซินหยากับเฉินโม่ นับว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์และความพยายามสูง พวกเขาสามารถดังค์ได้หลายแต้ม แต่ก็เสียโอกาสไปหลายครั้ง ที่จะทำคะแนน เพราะถูกหม่ากั๋วหมิงแย่งลูกไปได้

 

หม่ากั๋วหมิงนำลูกยัดห่วง ดังก์ไปได้หลายแต้มด้วยเช่นกัน ใครจะคิดเล่าว่าหม่ากั๋วหมิงที่ดูเหมือนตัวเตี๊ยๆจะดังก์ได้ อย่างสง่างาม กระโดดสูงซะขนาดนั้น แถมเขายังเลี้ยงลูกหลบหลีกได้เก่ง สับขาหลอก ซ่อนลูกไว้ด้านหลังได้ดี จนหยินซินหยากับเฉินโม่หัวหมุน พอถูกเขาแย่งลูกไป คนอื่นๆก็ไม่สามารถแย่งลูกได้อีกเลย แล้วพอเขาเลี้ยงลูกไปกลางลาน ก็ยังหันกลับมาโยนลูกสามแต้มได้อย่างสบายๆ ตอนนี้เหมือนเขาเป็นนักกีฬามืออาชีพ มาเล่นกับนักกีฬาสมัครเล่น เหมือนผู้ใหญ่ที่เล่นกับเด็กมากกว่า ใครจะคิดว่าในห้องห้า จะมีเสือซุ่มมังกรซ่อน หรือที่เขาไม่เข้าชมรมบาสก่อนหน้านี้ อาจเป็นเพราะว่าในชมรมบาส มีแต่คนอ่อนๆเหมือนพวกเขาหรือเปล่า ทั้งหยินซินหยากับเฉินโม่ ต่างก็ได้แต่คิดในใจ

 

แต่นี่มันเป็นการรังแกกันเกินไปหรือเปล่า ตอนหลังๆพวกเขาไม่สามารถครองลูกได้เลย

 

สุดท้ายแล้วทั้งหยินซินหยากับเฉินโม่ก็ยอมแพ้ก่อนหมดเวลา เพราะหม่ากั๋วหมิงทำแต้มขาดเกินไป

 

หม่ากั๋วหมิงได้ตำแหน่งกัปตันทีมหนึ่งไป ส่วนหยินซินหยากับเฉินโม่ ก็ยังต้องแข่งกันต่อ ว่าใครจะชนะ

 

ระหว่างที่ทั้งสองยังคงแข่งกัน หม่ากั๋วหมิงก็มานั่งพักข้างสนาม เขาได้เป็นกัปตันทีมและต้องเลือกลูกทีม เพียงแต่ว่า เขาไม่รู้ว่าคนอื่นๆนั้นเล่นบาสกันเป็นยังไงบ้าง แต่เขาคิดว่าคงจะไม่มีปัญหา แค่ต้องฝึกซ้อมบ่อยๆ ก็คงจะเล่นเก่งเอง ส่วนของเขานั้น ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะปกติตอนเรียนมหาลัย เขาก็เล่นบาสตลอด และในเอ็มไอทีเขายังเล่นอเมริกันฟุตบอล กีฬาที่ต้องใช้กำลังแย่งลูกบอลกันด้วยซ้ำ 

 

ส่วนบาสเกตบอลนี้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้เล่นจนเทพ แต่อย่างลืมว่า เขามีจิตวิญญาณที่มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าเด็กพวกนี้ สองเท่า อีกทั้งยังเป็นผู้เดินทาง กลืนกินร่างและจิตวิญญาณจากต่างโลก ทั้งพละกำลัง ความว่องไว ก็คูณสอง คนธรรมดาทั่วไป ย่อมไม่ใช่คู่มือเขา

 

และไม่นานก็ได้ผู้ชนะ กลับกลายเป็นหยินซินหยา ที่ทำคะแนนได้มากกว่า แต่ทั้งสองเล่นแบบจับเวลา เพราะฉนั้นหยินซินหยาจึงชนะเฉินโม่เพียงสามแต้มเท่านั้น

 

แน่นอนว่า หม่ากั๋วหมิงก็เลือกเฉินโม่เข้าทีมหนึ่งเป็นคนแรก และให้เขาเลือกเพื่อนอีกคนของเขาเข้าทีม คือเย่จุน ส่วนอีกคนหม่ากั๋วหมิงก็เลือกจางฮั่นหยา ที่ซู๊ดลูกสามแต้มได้สองลูก ทีนี้ก็ครบห้าคน ส่วนที่เหลือ ก็เป็นคนของทีมสอง ถือว่าเป็นตัวสำรองในการแข่งขัน และเป็นทีมที่ใช้สำหรับฝึกซ้อมของห้อง…

 

แต่ในเมื่อหม่ากั๋วหมิงเป็นกัปตันทีมหนึ่งและเล่นเป็นตัวจริง เขาจึงคิดว่าจะให้หยินซินหยาเล่นเป็นตัวจริงด้วย ในวันแข่งจริง รวมแล้วมีตัวจริงที่คิดเอาไว้คือเขา หม่ากั๋วหมิง เฉินโม่ และหยินซินหยา ส่วนอีกสองคนที่เหลือ ต้องรอดูว่า ใครจะมีแววและเล่นเข้าขาได้ดี ยังเหลือเวลาอีกเป็นเดือนกว่าจะแข่ง เพราะฉนั้นยังมีเวลา

 

และเมื่อจัดทีมได้แล้ว วันนี้จึงเล่นกันแบบผ่อนคลาย แบบสบายๆ

 

ในเมื่อตอนนี้หม่ากั๋วหมิงเป็นกัปตันทีม จึงอยู่กองหน้า เป็นตัวทำคะแนน และต้องคอยจ่ายลูกให้คนอื่น ทั้งยังคอยออกคำสั่ง 

 

การเล่นครั้งแรกด้วยกัน ย่อมมีความผิดพลาดมากมาย แต่ทีมสองนั้นต้องใช้ความพยายามสูงมาก ถึงจะสามารถทำคะแนนได้แต่ละลูก และดูเหมือนว่าทีมหนึ่งนั้นจะเล่นกันแบบสบายๆ เพราะมีหม่ากั๋วหมิงและเฉินโม่อยู่ โดยเฉพาะหม่ากั๋วหมิง เขาเล่นเก่งมาก จนดูเหมือนว่าเขาจะสามารถทำแต้มได้ ถ้ามีโอกาสเสมอ แต่ส่วนใหญ่เขายังส่งลูกให้เฉินโม่ เป็นตัวทำคะแนน สุดท้ายเกมก็จบลงที่ทีมหนึ่งชนะอย่างขาดลอย ทีมสองต้องจ่ายค่าสนาม

 

หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป คาดว่า ทีมสองคงต้องจนกรอบเป็นแน่ เพราะต้องคอยเป็นเบ๊ คอยจ่ายค่าสนามตลอด หม่ากั๋วหมิงกลัวคนในทีมสองจะหมดไฟ จึงบอกว่าครั้งหน้าจะสลับกันเล่น โดยเขาจะนำทีมสองเอง และให้หยินซินหยา มาอยู่ทีมหนึ่ง ดูสิว่าผลจะเป็นยังไง พอเพื่อนในทีมสองได้ยินก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย… 

 

ส่วนการจองสนามนั้นให้หยินซินหยาเป็นคนจัดการ วันนี้ลองไปถามดูว่า พรุ่งนี้จะจองสนามได้หรือเปล่า…

 

แต่วันมะรืนนั้น เป็นคิวใช้สนามของโรงเรียน เพราะฉนั้นก็ไม่ต้องจอง…

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป