Your Wishlist

โปรแกรมเมอร์ธรรมดา (ส่งเธอกลับ)

Author: เพื่อนคนหนึ่ง

ย้อนเวลาเปลี่ยนชีวิต จากโปรแกรมเมอร์และนักธุรกิจหมื่นล้าน กลายเป็นเด็กนักเรียนยากจนธรรมดา ในต่างโลก เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ พยายามไม่ใช้ชีวิตผิดพลาดเหมือนโลกที่เคยจากมา และสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยอีกครั้ง

จำนวนตอน :

ส่งเธอกลับ

  • 21/05/2565

สุดท้ายแล้วทุกคนก็โหวตกัน

 

และสุดท้ายแล้ว คนที่โหวตเห็นด้วย ก็น้อยกว่า คนที่ไม่เห็นด้วย กลายเป็นว่า การที่ต้องลงเงิน ลงขันกันนั้นก็ตกไป หม่ากั๋วหมิงไม่ได้รู้สึกเสียดาย หรือเสียใจอะไร เพราะอันที่จริงแล้ว มันก็คือการลงเงินพนันนี่แหละ เขาแค่อยากจะให้ทุกคนมีส่วนร่วมเท่านั้นเอง แต่ครั้งนี้เขาก็ได้รู้ดีว่า ตัวเขาไม่ได้มีอิทธิพลอะไรในห้องเรียนเท่าไหร่นัก คำพูดของเขาจึงไม่มีน้ำหนักอะไร ไม่สามารถชักจูงผู้คนให้เห็นด้วยได้ ถือว่าเป็นการลองใจผู้คน เท่ากับเป็นการวิจัยตลาด

 

"กั๋วหมิง วันนี้เราจะซ้อมบาสกันที่สนามเอกชนในเมือง อย่าลืมไปละ" เฉินโม่ เพื่อนในทีมบาสทีมสองของเขา ได้เดินมาบอก หม่ากั๋วหมิง

 

"โอเค" หม่ากั๋วหมิงก็พยักหน้ารับ วันนี้เขาได้บอกที่บ้านเอาไว้แล้วเมื่อเช้า ว่าเย็นนี้เขาจะซ้อมบาส อาจต้องกลับค่ำหน่อย

 

เมืองเป่ยหยวนแห่งนี้ เป็นเมืองเล็กๆ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีไฟฟ้าและไฟส่องสว่างตามถนน การกลับบ้านตอนกลางคืนก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด เพียงแต่เขาต้องเดินขึ้นดอย ตอนขึ้นบ้านสองกิโลเมตรเท่านั้นเอง ตรงนั้นจะไม่มีไฟส่องสว่าง ต้องใช้ไฟฉายส่องเอา หากกลับมืด

 

เมื่อเป็นดังนี้น้องสาวก็ต้องไปด้วย และก็เพราะอย่างนี้ หม่ากั๋วหมิงถึงได้เสนอให้ซื้อจักรยานอีกคัน แต่เขาก็กำลังคิดอยู่ว่า ให้น้องสาวปั่นจักรยานกลับบ้านไปเองเลยดีไหม เพราะยังไงเสีย เมื่อเธอขึ้น มัธยมห้า เธอก็ต้องปั่นไปปั่นกลับเองอยู่แล้ว แต่เมื่อคิดไปคิดมา เอาไว้วันหลังดีกว่า วันนี้ก็ไปและกลับด้วยกันไปก่อน

 

"เธอจะไปด้วยหรือเปล่า" หม่ากั๋วหมิงหันไปหาลู่เสว่ฉี

 

เธอชะงักนิดหนึ่ง เหมือนกำลังใช้ความคิดแล้วว่า 

 

"วันหลังได้ไหม"

 

"อืม วันหลังก็ได้" 

 

หม่ากั๋วหมิง คิดว่า เธอไม่ได้บอกที่บ้านไว้ ก็เลยไม่สะดวกที่กลับหลังพระอาทิตย์ตก เพราะกลัวที่บ้านจะเป็นห่วง ในตอนนี้ นักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ แต่ถึงจะมีตู้โทรศัพท์ ที่บ้านก็ไม่มีโทรศัพท์อยู่ดี ทำได้แต่โทรไปที่บ้านของคนที่มีโทรศัพท์ แล้วช่วยส่งข่าวต่อๆกัน และต้องเสียค่าบริการ 5 หยวนต่อหนึ่งครั้ง ซึ่งก็เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะฉนั้นหากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่โทรกัน

 

การที่ยากจนๆไม่มีโทรศัพท์นี้ เป็นอะไรที่ลำบากมาก โลกก่อนมีโทรศัพท์ ที่สามารถโทรแบบเห็นหน้ากันด้วยซ้ำ แต่โลกนี้ กระทั่งโทรศัพท์แบบ 2G ยังนับว่าหายากเลย

 

"ถ้างั้นเลิกเร็วหน่อย แล้วฉันจะส่งเธอกลับบ้านก่อน"

 

"ทำไมนายไม่ส่งน้องสาวกลับบ้านก่อน แล้วค่อยไปเล่นบาส ส่วนฉันก็กลับคนเดียวเหมือนทุกวัน"

 

"ไม่เหมือนสิ เมื่อก่อนเธอยังไม่มีแฟน ตอนนี้มีแฟนแล้ว ก็ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว จะกลับบ้านคนเดียวได้ยังไง"

 

"แหวะ"

 

ยังไม่ทันที่ลู่เสว่ฉีจะพูดอะไร คนด้านข้างก็เข้ามาแซว

 

"เหม็นความรักว่ะ" 

 

"ตอนนี้มีแฟนแล้ว จะกลับบ้านคนเดียวได้ยังไง" 

 

ใครบางคนก็พยายามทำเสียงเลียนแบบ

 

"ไปเลยไป" ลู่เสว่ฉีตวาดไล่เพื่อนด้านข้าง

 

"ฮ่าฮ่าฮ่า" หลายคนก็พากันหัวเราะคิกคัก

 

ในตอนนั้นเองครูประจำชั้นก็เข้ามาพอดี เข้ามาเช็คชื่อ และสอนวิชาคณิตศาสตร์

 

 

วันนี้ที่โรงเรียนก็เหตุการณ์ปกติ จนจบภาคบ่าย

 

พอเลิกเรียนก็แยกย้ายกันไป

 

หม่ากั๋วหมิงได้ถามความต้องการของน้องสาวอีกครั้ง เธอบอกว่าต้องการกลับบ้านก่อน เพราะวันนี้บิดาจะซื้อของเข้าบ้าน หม่ากั๋วหมิงจึงได้ปั่นจักรยานพาเธอกลับบ้านด้วยความเร็วสูง 90 กม./ชม. เพียงใช้เวลาไม่นานก็ปั่นถึงบ้านที่ตีนดอย แล้วให้น้องสาวเดินขึ้นดอยไปเอง ส่วนเขาก็ปั่นจักรยานด้วยความเร็วสูง มาที่หน้าโรงเรียนอีกครั้ง ไปกลับเพียงใช้เวลา 30 นาทีเท่านั้น ตอนนี้ลู่เสว่ฉีก็รออยู่ก่อนแล้ว

 

วันนี้ ฉันจะทำให้เธอรู้ว่า ใครที่ได้ชื่อว่า จ้าวพายุ ขึ้นมาเลยสาวน้อย หม่ากั๋วหมิงกระดิกนิ้ว

 

ลู่เสว่ฉี ก็ขึ้นมาซ้อนท้ายจักรยาน เมื่อนั่งได้ที่แล้ว หม่ากั๋วหมิงก็ออกตัว ปั่นด้วยความเร็วสูง ระยะทาง 15 กม. เพียงใช้เวลา 30 นาที นับว่าปั่นเร็วมาก เพราะมันไม่ได้มีแค่ทางเรียบ มันยังต้องขึ้นเนินลงเนินหลายเนิน 

 

แต่วันนี้ลู่เสว่ฉี ก็กลับบ้านเร็วกว่าปกติ ทั้งที่ปกติต้องใช้เวลา หนึ่งถึงสองชั่วโมงกว่าจะถึงบ้าน

 

เมื่อถึงบ้านแล้วเธอคิดว่าหม่ากั๋วหมิงจะเหนื่อย แต่ไม่เลย ดูเหมือนเขาไม่มีเหงื่อเลยด้วยซ้ำ และวันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้ซ้อนท้ายจักรยานของเด็กผู้ชายซักคน มันทั้งสนุกและตื่นเต้นเร้าใจหาที่ใดเปรียบ 

 

อย่างใดนะหรือ เพราะมันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ลงเนินด้วยความเร็วสูง แต่เขากลับไม่ได้เบรกเลย มันทั้งรู้สึกเสียวว๊าบ เสียวแว๊บที่หน้าอก จนใจหวิวๆ และเลือดลมสูบฉีดดีแท้ ความคิดวูบหนึ่ง เธอคิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุตกดอยตายไปแล้ว เธอแทบอยากจะกระโดดออกจากรถจักรยานให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่เธอทำได้แค่ยึดเกาะเอวเขาเอาไว้เท่านั้น ทั้งเขายังหัวเราะคิกคัก โดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนว่าเธอเองจะหัวเราะและตื่นเต้นไปกับเขาด้วย โดยลืมเรื่องก่อนหน้านี้ไปเลย นี่สินะที่เรียกว่าวัยรุ่น เรื่องเมื่อวานก็เมื่อวาน เรื่องวันนี้ก็คิดแต่เรื่องวันนี้ แม้จะคาดหวังถึงอนาคต แต่ไม่ได้คิดไปไกลเกินตัว 

 

ลู่เสว่ฉีรู้สึกว่า ชีวิตนี้ก็ไม่ได้แย่ไปซะทุกเรื่อง ยังมีเพื่อนที่ดี และช่วงเวลาดีๆ ในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้

 

"กลับมาแล้วค่ะแม่" เมื่อกลับถึงบ้าน ลู่เสว่ฉีก็ร้องบอกคนในบ้าน

 

"กลับมาแล้วเหรอ ทำไมวันนี้กลับเร็วจัง"

 

"เพื่อนมาส่งค่ะ"

 

"อ๋อเหรอ วันหลังแนะนำเพื่อนให้แม่รู้จักด้วยนะ"

 

"ค่ะแม่"

 

ลู่เสว่ฉีอยู่กับมารดาสองคน ความเป็นอยู่จึงไม่ค่อยดีนัก

 

ยังดีที่โรงเรียนมัธยมปลายของรัฐ ไม่ต้องเสียค่าเทอม แต่เมื่อเข้ามหาลัย นั่นต้องจ่ายเอง เธอไม่รู้ว่าจะได้เรียนมหาลัยกับคนอื่นๆได้หรือเปล่า หรืออาจจะแค่ทำงานโรงงานเหมือนลูกป้าข้างบ้าน…

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป