Your Wishlist

โปรแกรมเมอร์ธรรมดา (แกล้งน้อง)

Author: เพื่อนคนหนึ่ง

ย้อนเวลาเปลี่ยนชีวิต จากโปรแกรมเมอร์และนักธุรกิจหมื่นล้าน กลายเป็นเด็กนักเรียนยากจนธรรมดา ในต่างโลก เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ พยายามไม่ใช้ชีวิตผิดพลาดเหมือนโลกที่เคยจากมา และสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยอีกครั้ง

จำนวนตอน :

แกล้งน้อง

  • 21/05/2565

หม่ากั๋วหมิง เพียงอยากทดลองดูว่า จะสามารถเก็บงูตัวใหญ่นี้ เข้าไปได้หรือเปล่าในทีแรก

 

และเมื่อทดลองดูแล้ว ก็ปรากฏว่าเก็บเข้าไปได้จริงๆ แต่สิ่งนี้กลับทำให้เขา รู้สึกหน้ามืดวูบหนึ่ง คงเพราะใช้พลังจิตมากเกินไป

 

แต่เมื่อเขาคิด และมองเข้าไปสำรวจภายในมิติของลูกบอลหยกเพลิง กลับไม่ปรากฏงูยักษ์ตัวนั้น แม้แต่เศษเนื้อของมันที่โยนเข้าไปก่อนหน้านี้ ก็ไม่มี กระทั่งพิษงูและเลือดของงูที่ใส่ขวดไว้ ก็เหลือแต่ขวด

 

สถานการณ์นี้คืออะไร

 

แต่ถึงแม้จะไม่มีใครอธิบายให้ฟัง เขาก็พออนุมานได้ว่าเกิดอะไรขึ้น พื้นที่มิติแห่งนี้ คงจะกินร่างงูยักษ์นี้เป็นอาหาร และคงย่อยสลายเป็นพลังงานไปแล้ว เพราะฉนั้นความคิดที่อยากได้เขี้ยวงู หรือกระดูงู ก็ตกไป ไม่มีหวังแล้ว เพราะมันหายไปแล้ว

 

"เอ่อ"

 

"หือ เกิดอะไรขึ้น"

 

"อ๋อ ดูเหมือนว่า ตอนผมนำซากงูเข้าไปในมิติ แทนที่จะเป็นการเก็บศพงู พื้นที่มิติกลับกลืนกินร่างของมันแทน แล้วดูดกลืนเป็นพลังให้มัน เสริมความแข็งแกร่งให้กับลูกบอลหยกเพลิงและพื้นที่มิติของผม เพราะผมรู้สึกว่ามันแข็งแกร่งขึ้น

 

"แสดงว่า ไม่สามารถนำคนอื่น หรือสิ่งมีชีวิตอื่นเข้าไปได้งั้นสิ"

 

"เรื่องนี้ ผมก็ไม่แน่ใจ"

 

หม่ากั๋วเทา รู้สึกเย็นวาบที่ศีรษะ หากเขาพาภรรยาและลูกเข้าไปหลบในพื้นที่มิติก่อนหน้านี้ ด้วยความหวังดี ใครจะคิดเล่าว่า มันอาจจะกลายเป็นการสร้างหายนะแทน ดีนะ ที่เขาไม่ได้ทำ

 

"แต่ยังไง เราก็ต้องทดลองดูก่อน เดี่ยวผมจะลองจับไก่ จับสัตว์เข้าไปปล่อยดูว่ามันจะอยู่ได้ไหม"

 

"อืม"

 

"พ่อลองนำหนังงู เข้าไปในมิติของพ่อดู"

 

หม่ากั๋วเทาก็ตัดเอาชิ้นเล็กๆ ทดลองนำเข้าไปก่อน พอเข้าไปแล้วครู่หนึ่ง เขาก็เรียกมันออกมา มันก็ออกมา แสดงว่า สามารถนำหนังงูเข้าไป และนำออกมาได้ เขาจึงเก็บหนังงูทั้งหมดที่ลอกได้ เข้าไปเก็บไว้ในมิติของเขาก่อน…

 

 

หลังจากที่แม่และลูกสาว ที่อยู่ไม่ไกล หายตกใจแล้วนั้น ก็พากันเดินมาที่พ่อและลูกชาย และก็ได้ยินบทสนทนานี้ด้วย

 

หากจะว่าไปแล้ว หม่าจือฉุนเองก็ยังคิดว่า จะพามารดา เข้าไปหลบข้างในมิติของเธอ ยังดีนะที่เธอไม่ได้ทำ ไม่งั้น ก็อาจร้ายมากกว่าดี

หม่ากั๋วหมิง รู้สึกว่า การที่เขาเก็บเอาแก่นพลังของงูยักษ์เอาไว้ในกระเป๋า เขาก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรได้ เขาจึงส่งมันเข้าไปในพื้นที่มิติของลูกบอลหยกเพลิง และก็เป็นไป อย่างที่คิดเอาไว้ เมื่อเขาหลับตาเชื่อมต่อทางจิต สำรวจดูข้างใน ก็ไม่พบแก่นพลังที่ส่งเข้าไปแต่อย่างใด มันคงเป็นการส่งเชื้อเพลิงเข้าเตาไฟ เหมือนกับการเติมพลังให้พื้นที่มิติ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกดีใจ ที่หาวิธีในการเพิ่มระดับให้กับพื้นที่มิติของลูกบอลหยกเพลิงได้แล้ว

 

เขาได้ลองสั่งให้ลูกบอลหยกเพลิงบินออกไป ผลปรากฏว่า มันบินไปได้ไกลกว่าเดิม ซึ่งตอนนี้มันบินไปได้ไกลเกินสามร้อยเมตร ไกลจนแทบมองไม่เห็น แต่มันก็ยังอยู่ในการควบคุม และอาจไปได้ไกลมากกว่านั้น แต่เขาคงต้องหาพื้นที่โล่งๆก่อน เขาเรียกมันกลับมา เพียงพริบตาที่เรียกหา มันก็บินมาปรากฏอยู่ตรงหน้าทันที แสดงว่าความเร็วของมันก็เพิ่มมากขึ้นด้วย ความเร็วตอนนี้ น่าจะพอๆกับกระสุนปืน หรือไม่ก็เร็วกว่านั้น เพราะมองตามไม่ทันเลย

 

"เมื่อกี้ ผมลองทดสอบดู หลังจากนำซากงูยักษ์เข้าไป และนำแก่นพลังของมันเข้าไป ทำให้ลูกบอลเพลิงของผมแข็งแกร่งกว่าเดิม และบินไปได้ไกลกว่าเดิม และเร็วกว่าเดิม"

 

"อาจเป็นไปได้ว่า หากนำสิ่งมีชีวิต หรือร่างสัตว์ที่แข็งแกร่งเข้าไป จะช่วยให้ก้อนหยกของพวกเราแข็งแกร่งขึ้นมาได้ด้วย"

 

"อ๋อ อย่างนี้ก็ได้เหรอ" หม่าจือฉุนรู้สึกอึ้งอยู่บ้าง

 

"อืม เดี่ยวเราลองจับกระต่ายป่าหรือไก่ป่า ลองส่งเข้าไปดู ลองดูสิว่ามันจะอยู่ได้หรือเปล่า"

 

"พ่อ เดี่ยวผมไปเก็บเหอโสว่อูก่อน"

 

"เดี่ยวก่อน" หม่ากั๋วเทา ร้องเรียกจากทางด้านหลัง และคนอื่นๆก็เดินตามมา

 

"ลูกต้องลองดูผลเล็กๆก่อน ว่ามันจะหายไปเหมือนศพของงูยักษ์หรือเปล่า"

 

"นั่นสิ พี่ใหญ่ ลองดูก่อน"

 

หม่ากั๋วหมิงก็พึ่งฉุกคิดขึ้นมาได้เช่นกัน เขาคิดว่า เขาหาวิธีนำเหอโสว่อู ตัวเท่าคนยักษ์อ้วน ลงจากเขาได้แล้ว โดยการเก็บเข้าไปในมิติของลูกบอลหยกเพลิง แต่เขาลืมนึกไปว่า มันอาจจะกลืนกินเหอโสว่อู เพิ่มเสริมพลังให้ตัวเองก็เป็นไปได้ด้วย

 

หม่ากั๋วหมิงจึงทดสอบนำเหอโสว่อูลูกเล็กๆ เข้าไปในพื้นที่มิติของลูกบอลหยกเพลิง

 

โชคดีที่นำเข้าไปแล้ว มันไม่ได้หายไป นั่นเท่ากับว่า พวกเขาไม่ต้องแบกมันลงดอยแล้ว

 

"พ่อ เดี่ยวพ่อลองดูลูกหนึ่ง มันจะเสริมพลังให้มิติของพ่อได้หรือเปล่า"

 

หม่ากั๋วเทา อยากทดลองอยู่แล้ว เขารับเหอโสว่อูลูกหนึ่งจากลูกชาย ส่งเข้าไปในพื้นที่มิติของลูกบอลหยกเขียวของเขา แล้วเขาก็ลองใช้พลังจิตผ่านความคิด เรียกหรือเสกออกมา แต่ก็ไม่ปรากฏอะไร

 

มีคำอธิบายเพียงอย่างเดียวก็คือ ไม่มีเหอโสว่อูอยู่ข้างใน สงสัยว่ามันคงจะดูดซับเหอโสว่อูหัวนั้น กลืนกินไปแล้ว

 

"ผมว่ามันคงเกี่ยวกับพลังธาตุ งูยักษ์ตัวนั้นน่าจะธาตุไฟ พอนำเข้าไปมันก็เลยเสริมพลังของลูกบอลหยกเพลิงของผม แต่พอผมนำเหอโสว่อูเข้าไป มันกลับไม่หายไป เพราะเป็นธาตุไม้ เท่ากับมันไม่ได้ช่วยเสริมพลังให้กับลูกบอลเพลิงของผม ก็สามารถเก็บไว้ข้างในได้ แต่สำหรับพ่อที่เป็นธาตุไม้ เหอโสว่อูที่เป็นพืชสมุนไพร มันก็เลยช่วยเสริมพลังให้กับลูกบอลหยกเขียวของพ่อ"

 

"พ่อลองเสริมกำลังให้มันอีกซักหลายๆหัว ให้มันยิงออกไปได้ไกลหลายร้อยเมตร เดี่ยวที่เหลือ ผมค่อยเก็บเข้าไปในพื้นที่มิติของผม"

 

หม่ากั๋วเทาไม่กล้าหยิบโดยตรง เพราะมันอาจเชื่อมถึงกัน ทางรากที่พ่วงกันอยู่ หม่ากั๋วหมิงจึงตัดเหอโสว่อูทีละหัวส่งให้บิดา ช่วยเสริมกำลัง

 

เมื่อผ่านไปห้าหัวเหอโสว่อู หม่ากั่วเทาก็ทดสอบ สั่งให้ลูกบอลหยกเขียวบินออกไป มันก็บินไปได้ไกลหลายร้อยเมตร ซึ่งมันบินไกลเกินกว่าระยะสายตามองเห็นเสียอีก น่าจะสามร้อยถึงห้าร้อยเมตร แล้วพอสั่งให้มันบินกลับมา เพียงพริบตามันก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา เท่ากับความเร็วของมันก็เพิ่มขึ้นมากด้วย สิ่งนี้จะถูกใช้เป็นท่าไม้ตายของเขาในอนาคต ใครจะรู้เล่าว่าเมื่อขึ้นเขา จะเจอกับสัตว์ป่าอะไรบ้าง เหมือนอย่างเจ้างูยักษ์เมื่อกี้นี้ หากมีเจ้าสิ่งนี้ แม้เขาขึ้นมาคนเดียวก็ยังอุ่นใจ

 

"โอเค ลูกเก็บส่วนที่เหลือเข้าไปเถอะ"

 

"ครับพ่อ"

 

ระหว่างฟังพ่อลูกคุยกัน หม่าจือฉุนผู้เป็นลูกสาว ก็ไม่ได้งงอะไร โชคดีที่ก้อนหยกของเธอเป็นธาตุดิน เพียงฝังดินไว้ ก็คงใช้ได้แล้ว แค่ต้องหาพื้นดินที่มันเก่าๆอยู่มานานเหมือนอย่างดินบนภูเขา หรือก้อนหินบนภูเขา คงช่วยเสริมพลังให้มันได้

 

ลำบากหน่อย ตรงธาตุทองของมารดา คงต้องใช้ทองไม่น้อย ช่วยเสริมพลังให้กับมัน คงจะดีหากมารดาเก็บได้ธาตุน้ำ แค่โยนลงบ่อน้ำลำคลองหรือโยนลงทะเล ก็คงเสริมพลังให้มันได้แล้ว

 

"พ่อ แม่ น้องเล็ก ผมว่าเรื่องนี้สำคัญมาก พวกเราจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น บนเขาแห่งนี้ ให้คนอื่นฟังไม่ได้เด็ดขาด ทั้งเรื่องเหอโสว่อู ทั้งเรื่องหยกห้าธาตุ ทั้งเรื่องพลังวิเศษ ไม่งั้นอาจชักนำภัยมาให้ครอบครัว ของพวกเราได้ รวมทั้งไม่สามารถแสดงให้คนอื่นเห็นอย่างเปิดเผยได้ แม้แต่เพื่อนสนิทก็ห้ามรู้เด็ดขาด" ระหว่างที่พูด หม่ากั๋วหมิงมองมาที่หม่าจือฉุนโดยเฉพาะ

 

"รู้แล้วละน่า" หม่าจือฉุนก็เอ่ยออกมา นางก็พอจะรู้อยู่บ้างว่า เรื่องพลังวิเศษนี้ มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แม้แต่นางเองยังกลัว นับประสาอะไรกับคนอื่น

 

"ใช่แล้ว พ่อและแม่ก็จะปิดเอาไว้เป็นความลับ เรื่องนี้คนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี ให้รู้เฉพาะสี่คนในครอบครัวเรานี้เท่านั้น ห้ามไม่ให้บุคคลที่ห้ารู้เรื่อง เพราะฉนั้นห้ามแสดงพลังส่งเดชเด็ดขาด ลูกรู้แล้วใช่ไหม"

 

"หนูรู้แล้วค่ะพ่อ"

 

"พ่อครับ ผมว่าหลุมนี้ พวกเรามาช่วยกันกลบดีกว่า"

 

"และก็นะ พี่ว่า ก้อนหยกดำธาตุดินของน้องเล็ก ฝังมันไว้ที่นี่ก่อน ดีหรือเปล่า ขึ้นเขามาคราวหน้า น้องค่อยมาขุดเอา ในตอนนั้น มันคงเสริมพลังจนแข็งแกร่งแล้ว"

 

"ต้องฝังไว้ที่นี่จริงๆเหรอ ไม่ฝังไว้ที่นี่ไม่ได้เหรอ" หม่าจือฉุนรู้สึกหน้าจ๋อยทันที ถึงแม้จะลองเล่นดูเพียงวันเดียว เธอรู้สึกว่าตัวเองจะผูกพันกับมันไม่น้อย

 

"ล้อเล่นน่า ของน้องเล็ก เอาไปฝังไว้แถวบ้านก็ได้ คงเป็นดินเก่าเหมือนกัน"

 

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า…"

 

"โธ่พี่ใหญ่ แกล้งน้อง"

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป