หลายวันผ่านไป

หม่ากั๋วหมิง ค้นพบความจริงบางอย่าง โลกนี้เขาไม่ใช่ ลูกชายของหม่ากั๋วเทา ผู้เป็นเศรษฐีวงการไอทีคนนั้น หากแต่เป็นลูกชายของหม่ากั๋วเทา คนธรรมดา ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านห่างไกลบนเขา

นอกจากนี้เขายังค้นพบว่า เขายังมีน้องสาวอีกคนหนึ่ง ทั้งที่ในชีวิตก่อนหน้านี้ ในโลกเก่า เขาไม่มีน้องสาว และที่สำคัญที่สุด มารดา หรือแม่ของหม่ากั๋วหมิงนั้น ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งที่่ในโลกเก่านั้น แม่ของเขาได้ตายไปตั้งแต่เขายังเป็นเด็กตัวเล็กๆ และอาจเพราะอย่างนั้น เขาจึงเป็นคนเจ้าชู้ เพราะวัยเด็ก ได้ขาดความอบอุ่นจากผู้เป็นมารดา

หม่ากั๋วหมิง ทำความเข้าใจอยู่นาน ถึงได้เข้าใจว่า เขาได้ย้ายมาอยู่ในร่างของหม่ากั๋วหมิงอีกคน ที่อยู่ในโลกคู่ขนาน

มีทฤษฎีเรื่องจักรวาลคู่ขนาน ปรากฏขึ้นในวราสารวิทยาศาสตร์ และในวรรณกรรมอยู่มากมาย ทำให้หม่ากั๋วหมิงเข้าใจอะไรได้ไม่ยาก และทุกอย่างก็เป็นไปได้หมด

เนื้อความตอนหนึ่ง เคยมีนักวิทยาศาสตร์ ได้กล่าวเอาไว้ว่า ในทุกๆการตัดสินใจ และในเหตุการณ์หนึ่ง ที่มีหลายทางเลือก หรือหลายตัวเลือก ก็จะเกิดเป็นความจริงอื่น ในทางเลือกอื่น ในมิติอื่น

ยกตัวอย่างเช่น หากไม่เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง เกิดขึ้นมาบนโลก คนที่ตายในสงครามโลกครั้งที่สอง ก็จะยังไม่ตาย และโลกก็จะพัฒนาไปอีกทิศทางหนึ่ง จากคนพวกนั้น นั่นคืออีกมิติหนึ่ง ในจักรวาลหนึ่ง ที่เป็นโลกคู่ขนาน ที่ดำเนินไปในคนละทิศทาง…

…

หม่ากั๋วเทาที่เป็นบิดาของหม่ากั๋วหมิง ในโลกนี้ก็เช่นกัน เขาไม่ได้สร้างตนจนร่ำรวย เหมือนกับอีกโลก แต่กลับอยู่อย่างพอเพียง ปลูกบ้านทำการเกษตรบนดอย ไม่ได้เรียนมหาลัยด้วยซ้ำ อยู่กับครอบครัว มีลูกชาย ลูกสาว และมีภรรยาที่น่ารักและเอาใจใส่ อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ผู้คนถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือเขาแต่งงานกับภรรยาคนเดิม และมีลูกชายอย่างหม่ากั๋วหมิงเหมือนเดิม เหมือนกันกับจักรวาลอื่น

สิ่งนี้ มันก็เหมือนกับหนังของเจทลี ที่เคยออกฉาย ในโลกของหม่ากั๋วหมิงในอดีต ที่คนในจักรวาลหนึ่งเป็นคนดี แต่อีกคนจากอีกจักรวาลเป็นคนชั่ว แล้วต่อสู้กันเพื่อความเป็นหนึ่ง เพราะยังมีอีกหลายคนในอีกหลายจักรวาล เมื่อฆ่าตัวเองในอีกจักรวาลได้แล้ว ตัวเองก็จะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น กลายเป็นเดอะวัน หรือเป็นหนึ่งเดียว ในทุกๆจักรวาล

หม่ากั๋วหมิง รู้สึกดีใจที่มารดาในจักรวาลนี้ยังมีชีวิตอยู่ แต่แอบรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ที่ครอบครัวนี้ยากจน ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกับอีกจักรวาล และเขาต้องหาทาง ทำเงิน สร้างตัวจากจนจนรวยด้วยตัวเอง โดยไม่ได้รับการซัพพอร์ตจากวงศ์ตระกูล แต่สิ่งนี้ก็ทำให้จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาลุกโชน เคยมีคนสบประมาทเขาเอาไว้มาก ในโลกก่อนของเขาว่าหากเขาไม่มีบิดาร่ำรวย บริษัทของเขา เกมของเขา คงไม่ได้ไปไกลในเวทีโลกแบบนั้น

ในโลกนี้ เขาจะทำให้ทุกคนได้เห็นว่า แม้ว่าเขาจะเกิดมาจน เขาก็สามารถสร้างตัวจนร่ำรวยได้ ด้วยตัวเอง

ซึ่งข้อมูลต่างๆเหล่านี้ของหม่ากั๋วหมิงในโลกนี้ หม่ากั๋วหมิง ก็ค่อยๆซึมซับข้อมูลแบบเนียนๆจากคนในครอบครัว ถึงแม้ทุกคนจะรู้สึกแปลกๆอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงความรู้สึกวูบเดียวเท่านั้น แล้วหายไป เพราะยังไงก็เป็นหม่ากั๋วหมิงเหมือนกัน จึงไม่ให้ความรู้สึกแตกต่างมากมายเท่าไหร่นัก

การที่เขาย้อนเวลามาอยู่ในวัยหนุ่ม ของหม่ากั๋วหมิงในอีกจักรวาล นั่นก็คงเป็นเพราะว่า ในแต่ละจักรวาล อาจมีความผันผวนในเรื่องกาลเวลาและอวกาศ มีความต่างในด้านเวลาในห้วงอวกาศ ซึ่งจักรวาลนี้ เวลาอาจเดินช้ากว่าจักรวาลที่เขาจากมา และอาจมีจักรวาลที่เวลาเดินเร็วกว่าจักรวาลก่อนหน้าที่เขาจากมา ด้วยก็เป็นไปได้

ซึ่งนั่นนับเป็นเรื่องดี หากเขาย้ายมาอยู่ในร่างของหม่ากั๋วหมิงที่แก่ชรากว่าตัวเองในโลกก่อน เขาคงโชคร้ายและตายเร็วกว่าเดิม

…

ทิ้งเรื่องที่เขาไม่เข้าใจ มาทำความเข้าใจ ในเรื่องปัจจุบันเร่งด่วนดีกว่า

สิ่งที่หม่ากั๋วหมิง คิดเอาไว้อยู่ตลอดเวลา ในตอนที่เขาอายุมากในชีวิตก่อนหน้านี้ นั่นก็คือ เมื่อเขาสามารถย้อนวัยไปอยู่ในวัยหนุ่มอีกครั้ง เขาจะถนุถนอมความหนุ่มของเขาเอาไว้ จะไม่มั่วผู้หญิง และมักมากในกามเหมือนเดิมอีกต่อไป หรืออย่างน้อยๆ ก็ไม่ปล่อยปะละเลยสุขภาพ และจะไม่นอนกับใครก็ตามที่เข้ามายั่วยวนเขาเหมือนเดิม พยายามไม่ทำอะไรที่มันบั่นทอนสุขภาพจนเกินไป ต้องพยายาม ลด ละ และเลิก สำส่อน และหารักแท้กับใครซักคนที่รักจริง สร้างครอบครัวเล็กๆขึ้นมา และในโลกนี้ ชาตินี้ จักรวาลนี้ เขาก็อยากจะมีลูกกับผู้หญิงที่ตัวเองรัก ซักคนสองคน ไว้สืบทอดกิจการหมื่นล้านของเขา

…

มาคิดถึงปัญหาที่ใกล้ตัวก่อน ก่อนที่จะมโนไปไกล

ในตอนนี้ เงินในกระเป๋าของเขา และกระปุกออมสินของเขา รวมแล้ว มีอยู่ไม่กี่ร้อยหยวน ซึ่งคาดว่าเป็นเงินเก็บมาหลายปี จากค่าขนม นี่ถือเป็นเงินทุนตั้งต้นของเขา และเขาก็ยังไม่มีกระทั่งบัญชีธนาคาร ทุกอย่างคงต้องเริ่มต้นด้วยทุนแค่นี้

ตอนนี้หม่ากั๋วหมิงอยู่มัธยมปลาย ต้องไปโรงเรียนทุกวัน และจะสอบเข้ามหาลัยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และมีความเป็นไปได้ว่า เขาอาจจะต้องหาทุนเรียนด้วยตัวเอง หรือไม่ก็อาจจะ ไม่ได้เรียนต่อมหาลัย แต่ไปเรียนสายอาชีพ แล้วไปทำงานโรงงาน หรืออาจจะไม่ได้เรียนอะไรเลย แล้วไปเป็นกุลีหรือจับกัง หากเป็นแบบนั้นจริง ชีวิตของเขาก็คงธรรมดาเกินไป ไม่สมกับที่ได้เกิดใหม่ ในโลกอื่น

อย่างไรก็ดี ในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาเป็นโปรแกรมเมอร์ และร่ำเรียนมาทางนี้ และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นโปรแกรมเมอร์ขั้นเทพ เพราะมีคนเทพๆทำงานแทนเขาในบริษัทมากมายอยู่แล้ว แต่อย่างน้อย เขาก็เรียนจบมหาลัยเอ็มไอที และมีความรู้ในการเขียนโปรแกรมในระดับปานกลาง นับว่าเป็นสกิลติดตัวของเขา เขายังได้สร้างเกม MOBA ยอดนิยมสองเกม ที่ฮิตและทำเงินมาจวบจนปัจจุบัน ซึ่งนั่นก็ถือเป็นผลงานและความภาคภูมิใจของเขา

ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะถูกสร้างมาจากทีมงานกลุ่มใหญ่หลายร้อยคนก็ตาม แต่เขาก็ยังถือว่าเป็นผู้ริเริ่ม และเข้าใจคอร์ของเกมและเฟรมเวิร์คของเกม ระบบและโปรแกรมของเกมกว่าใคร คงไม่เป็นการยากเกินไป หากจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ในจักรวาลนี้ด้วยเช่นกัน หากสิ่งไหนทำได้ด้วยตัวเองได้ก็ทำไป หากสิ่งไหนทำไม่ได้ ก็แค่หาเงินทุนมา แล้วจ้างคนเก่งๆมาทำงานให้ ก็เท่านั้นเอง

และที่สำคัญเขายังสามารถเขียนโปรแกรมอะไรแบบง่ายๆได้ อย่างสร้างแอปทางมือถือ สร้างเว็บไซต์ สิ่งนี้อาจจะเป็นทักษะที่ทำให้เขาสามารถหาเงินได้ ทั้งเขายังมีประสบการณ์ในการบริหารบริษัท ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนรวยรุ่นที่สอง อาศัยทรัพย์สินของตระกูล ของบิดา ของบริษัท มาดำเนินธุรกิจ มาต่อยอดธุรกิจ แต่อย่างน้อย เขาก็มีประสบการณ์ในการบริหารบริษัทและทำธุรกิจ มาพอสมควร เพียงแต่ในโลกนี้ มันจะยากตรงที่ต้องเริ่มใหม่ ตั้งแต่ศูนย์ โดยไม่ได้รับการซัพพอร์ตจากตระกูลที่ร่ำรวยเหมือนเดิม

หลายวันหลังจากนั้น ในเวลาว่าง หม่ากั๋วหมิง ก็มักจะเข้าไปในร้านอินเตอร์เน็ตในเมือง วันละชั่วโมงก่อนกลับบ้าน หลังเลิกเรียน เพราะที่บ้านไม่มีคอมพิวเตอร์ เขาท่องเน็ต เพื่อหาจุดแตกต่างระหว่างสองโลก ว่าในโลกนี้มีอะไรและในโลกนี้ไม่มีอะไร และไม่นานเขาก็ค้นพบความจริงอะไรหลายอย่าง…