ย้อนเวลาเปลี่ยนชีวิต จากโปรแกรมเมอร์และนักธุรกิจหมื่นล้าน กลายเป็นเด็กนักเรียนยากจนธรรมดา ในต่างโลก เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ พยายามไม่ใช้ชีวิตผิดพลาดเหมือนโลกที่เคยจากมา และสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยอีกครั้ง
ย้อนเวลาเปลี่ยนชีวิต จากโปรแกรมเมอร์และนักธุรกิจหมื่นล้าน กลายเป็นเด็กนักเรียนยากจนธรรมดา ในต่างโลก เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ พยายามไม่ใช้ชีวิตผิดพลาดเหมือนโลกที่เคยจากมา และสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยอีกครั้ง
ณ จักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล
โลก ดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
ในความจริงอื่น
อนาคตเบื้องหน้า หรืออดีตอันยาวนาน ก็ไม่อาจรู้ได้
….
ในคืนพายุฝนโหมกระหน่ำ
เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังเปรี๊ยงปร๊างอยู่ภายนอก…
ภายในห้องนอนแคบๆ ห้องหนึ่ง
อ๊ากก…
เสียงร่ำร้อง คร่ำครวญโหยหวน ของชายหนุ่มผู้หนึ่ง ร้องดังขึ้นอยู่ครู่หนึ่ง แต่เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า ที่ก้องดังอยู่ด้านนอกนั้น มันกลับกลบเสียงร้องโหยหวนของเขาไปจนหมด และพร้อมกันนั้น คล้ายจะมีสายฟ้าที่ผ่าลงมาที่ห้องแห่งนี้ แล้วไหลเข้าไปในร่างของเขา
ไม่นานเท่าไหร่ หลังจากความเจ็บปวดจนแทบศีรษะระเบิด ทุเลาลง เหลือเพียงอาการปวดศีรษะอยู่บ้าง คล้ายไมเกรน จนต้องนวดขมับเพื่อคลายความเจ็บปวด แต่ไม่นานเท่าไหร่ เขาก็สลบไสลและผล๋อยหลับไปทั้งอย่างนั้น…
เช้าวันใหม่
หม่ากั๋วหมิง ลุกขึ้นมาจากเตียง ด้วยความรู้สึกมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า พอเปิดประตูตู้ก็พบกระจกบานใหญ่ตรงประตู จึงสำรวจดูรูปร่างหน้าตาของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกำหมัดด้วยความตื่นเต้น
สำเร็จ
แม้นว่าจะผิดจากที่เขาคำนวนเอาไว้ แต่ตอนนี้เขาก็ไม่ตาย และมีร่างกายเป็นหนุ่มอีกครั้ง
ร่างกายนี้แข็งแรงพอสมควร หม่ากั๋วหมิงถอดเสื้อผ้าออกสังเกตร่างกายของตัวเองจนทั่ว โดยเฉพาะส่วนล่างมันลุกตั้งเสาธงตั้งแต่เช้า สิ่งนี้ทำให้หม่ากั๋วหมิงพอใจมาก และพอมองหน้าตาตัวเองดีๆ อีกครั้ง ทำให้รู้สึกมึนงงเล็กน้อย เหมือนกับว่าตัวเองกำลังส่องกระจกดูหน้าตัวเองเมื่อหลายสิบปีก่อน นี่มันคล้ายกับเขาเมื่อตอนยังเป็นวัยรุ่น
เขารีบกลับไปที่เตียง แล้วสำรวจโต๊ะข้างเตียง มีกระเป๋าสตางค์ ในนั้นมีบัตรประชาชน และมีเงินไม่กี่หยวน มีเสื้อผ้าอยู่ในตู้เสื้อไม่มากนัก แต่มีหนังสือกองเต็มโต๊ะ
หม่ากั่วหมิงกุมขยับ รู้สึกสับสนเล็กน้อย ชื่อก็ยังเป็นหม่ากั๋วหมิง เพียงแต่เป็นหม่ากั๋วหมิงที่อายุ 18 ปี
เขาไม่รู้ว่านี่เป็นการย้อนเวลาหรือเปล่า จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อน แต่เขาจำได้ว่า ช่วงอายุ 18 ปีนั้นเขาอาศัยอยู่ต่างประเทศ เสวยสุขในวิลล่าหรูในเมือง พร้อมกับหญิงงามในชาติตะวันตกหลายนาง ไม่ใช่อยู่ในห้องนอนโกโรโกโสแบบนี้
…
จากข้อมูลในความทรงจำล่าสุด เขาจำได้ว่า เขาได้ทำการทดลองย้ายร่าง ไปอยู่ในร่างชายหนุ่มแข็งแรงผู้หนึ่ง หากการทดลองสำเร็จ และหากไม่มีอะไรผิดพลาด เขาจะสามารถย้ายไปอยู่ร่างใหม่ ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร และร่างเก่าที่เขาเคยอยู่ ก็จะสมองตาย และอยู่ในสภาวะเจ้าชายนิทรา และอีกไม่นานก็คงตกตาย เพราะแก่ชราและโรคภัยไข้เจ็บ
ใช่แล้ว หม่ากั๋วหมิง เป็นชายวัยกลางคน อายุ 39 ปีผู้หนึ่ง ที่ร่ำรวยระดับต้นๆ ของจีน เปิดบริษัทให้บริการเกมหลายเกม ภายใต้ชื่อบริษัท เซ็นเทน ทั้งเกม Glory of Garena และเกมยิงบุคคลที่หนึ่ง อย่าง PUBG ซึ่งเป็นเกมแนว MOBA ที่กำลังเป็นที่นิยม รวมทั้งบริษัทสร้างมังงะ สร้างอนิเมะ บริษัทที่ให้บริการเว็บเครือข่ายสังคมอย่างเว่ยป๋อ และแอปไคว่โซว่ที่ให้บริการคลิปสั้น และอื่นๆ อีกมากมาย รวมแล้วบริษัทเหล่านี้ ได้สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้หม่ากั๋วหมิงและบริษัทเซ็นเทนของเขาเป็นหมื่นๆ ล้านต่อปี
แต่ด้วยความเสเพลและคึกคะนองในวัยหนุ่ม จึงบั่นทอนสุขภาพตัวเองโดยไม่รู้ตัว พอแตกวัยหนุ่ม ก็มีสตรีมากมายเข้ามาพัวพัน และผ่านมือของเขา จนแทบนับไม่ถ้วน มีทั้งคนจีนคนต่างชาติ กระทั่งบางคนยังเป็นดารา แต่สิ่งนี้กลับทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมาน เมื่ออายุมากขึ้น เขามีโรคหยางพร่อง ก่อนวัยอันควร มีภาวะไตวายเรื้อรังเหมือนคนแก่ ตอนตกดึกในตอนกลางคืน เขาต้องลุกไปปล่อยเบาคืนหนึ่งสามถึงสี่ครั้ง จนแทบไม่ได้นอน ทั้งยังมีร่างกายอ่อนเปลี้ยเพียงแรง อ่อนแรงกว่าคนปกติธรรมดาทั่วไป กระทั่งไวอาก้าก็ไม่สามารถปลุกชีพให้กับนกเขาของเขาได้ หรืออาจจะเป็นเพราะตอนเป็นหนุ่ม เขายิงกระสุนออกไป มากเกินไป พออายุมากขึ้น ก็หมดไฟ หมดกระสุน มันจึงไม่ต่างอะไรกับก้อนดินเลน ไม่สามารถตั้งตรงและแข็งขึ้นมาได้
ด้วยเหตุและผลที่มีมากมาย เขาจึงไม่แต่งงาน เพราะถ้าแต่งงานไปก็คงไม่มีความสุข และอาจจะไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้ นี่อาจจะเป็นเพราะผลกรรมของเขาเมื่อตอนเป็นหนุ่ม ก็เป็นไปได้ และพออายุมากขึ้น เขาจึงหันเข้าทางธรรม ฝึกวิชาเต๋า วิชาเซียน ฝึกหัดวิธีการเดินลมปราณ ฝึกมวยหย่งซุ่น มวยไทเก๊ก พร้อมกับเพื่อนๆ ที่อายุมากกว่าเขาสิบถึงยี่สิบปี และเพราะต้องกินยาและฝังเข็มอยู่เสมอ เขาจึงค่อนข้างคุ้นเคยกับสมุนไพรและจุดชีพจรพอสมควร
แต่ดูเหมือนว่า ทั้งหน้าตาเขาและสุขภาพของเขา จะไม่ได้แตกต่างกับคนแก่เหล่านั้นเท่าไหร่นัก เพราะอายุเพียงเท่านี้ เขาก็มีผมหงอกกว่าครึ่งศีรษะแล้ว
ถึงแม้ว่าหลังจากนั้น เขาจะสามารถรักษาสุขภาพให้ฟื้นคืนกลับมาได้เป็นปกติ ด้วยการกินยาสมุนไพร ฝังเข็ม และฝึกวิชาลมปราณของสำนักเต๋า แต่เขาก็ยังอยู่ในวงการไอที และชอบที่จะสร้างสรรเทคโนโลยีใหม่ๆ
…
ระหว่างนั้น หม่ากั๋วหมิง ได้ทุ่มทุนสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาเกมใหม่ขึ้นมาอีกเกม เป็นเกมแนว VR ที่ควบคุมด้วยสมองหรือความคิด เหมือนที่เคยดูในหนังในการ์ตูน โดยการสวมหมวกควบคุม แล้วหลับตาก็เข้าไปในโลกของเกม เหมือนกับการถอดจิตเข้าไปในเกม
ใครจะคิดเล่าว่า ในระหว่างการทดลองนั้น กลับมีเหตุขัดข้องอะไรบางอย่าง โดยไม่คาดคิด ทำให้เกิดความผิดพลาดอะไรบางอย่างเกิดขึ้นมา ทำให้ผู้ทดสอบในเกม สลับวิญญาณกัน
เมื่อออกจากเกม แต่กลับกลายเป็นอีกคน โดยวิญญาณของอีกคน กลับไปอยู่กับอีกร่าง และทำการย้ายวิญญาณกลับร่างเดิมไม่ได้ เพราะร่างเดิมนั้นสมองตาย และร่างใหม่ ที่วิญญาณคนอื่นเข้าสิงร่างนั้น ก็ไม่หลงเหลือความทรงจำหรือจิตวิญญาณเจ้าของร่างเดิมหลงเหลืออยู่เลย
เมื่อเห็นดังนั้น ตอนแรกเขาก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง ที่มีคนตายในระหว่างวิจัยและพัฒนาเกม เขาได้ให้เงินปลอบใจ ผู้ประสบภัยในครั้งนั้นไปหลายล้านหยวน แล้วให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ และพอมานึกดูดีๆ แล้ว หม่ากั๋วหมิงก็เกิดปิ๊งไอเดียดีๆ อะไรบางอย่างขึ้นมา จึงให้ทุนนักวิจัยและพัฒนา วิจัยเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยแอบสร้าง ศูนย์วิจัยลับเอาไว้ในศูนย์วิจัยเกม VR อีกที
หม่ากั๋วหมิง ถึงจะแก่ แต่ก็เป็นชายที่มีความทะเยอทะยานสูง ทุ่มงบไม่อั้นสำหรับงานวิจัยชิ้นนี้ หากสามารถควบคุมทุกอย่างได้ตามที่เขาคาดหวังเอาไว้ นั่นไม่เท่ากับว่า มนุษย์ก็จะมีชีวิตเป็นอมตะดอกหรือ เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย หรือแก่ชราใกล้ตาย ก็สามารถย้ายจิตวิญญาณไปอยู่ในร่างใหม่ได้ ยิ่งในตอนนี้ ก็มีการวิจัยและพัฒนา การโคลนนิ่งมนุษย์ อย่างลับๆ จะเป็นยังไง ถ้าหากเขาสามารถโคลนนิ่งตัวเองขึ้นมาให้อยู่ในวัยหนุ่ม แล้วย้ายจิตวิญญาณไปอยู่ร่างนั้น นั่นไม่เท่ากับเป็นการยืดอายุขัยของตัวเอง อย่างไม่สิ้นสุดมิใช่หรือ…
ด้วยการทุ่มเงินทุนมหาศาล ในที่สุดงานวิจัยก็ให้ผลที่น่าพอใจ ถึงจะไม่ถือว่าเสร็จสมบูรณ์ แต่ก็พอจะแกะร่องรอยของการย้ายร่างในครั้งแรก ที่เกิดความผิดพลาดนั้น เป็นผลสำเร็จได้ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ได้ทำการทดลองกับมนุษย์โดยตรง ทดลองกับสัตว์ทดลองก่อน และผลการทดสอบล่าสุด ก็เป็นที่น่าพอใจ หนูตัวที่หนึ่ง สามารถย้ายวิญญาณไปอยู่ในหนูตัวที่สองได้ เพียงแต่หนูตัวแรกสมองตาย และความทรงจำของหนูตัวที่สองก็หายไป เหมือนกับเคสแรก ที่เกิดจากความผิดพลาดในการทดลองเกมในครั้งนั้น
และเมื่อทดลองกับมนุษย์ ที่มาเป็นอาสาสมัคร ก็สามารถย้ายร่างได้เป็นผลสำเร็จ จากตำรวจที่เคยบาดเจ็บใกล้ตาย กลับสามารถย้ายจิตวิญญาณ ไปอยู่ในร่างของนักโทษประหารหนุ่มคนหนึ่งได้ นั่นเท่ากับว่า นักโทษประหารนั้นได้ตายไปแล้ว เหมือนถูกฟอเมตฮาร์ดิชแล้วลงวินโดว์ใหม่ทับลงไป โดยมีจิตวิญญาณของตำรวจ ที่บาดเจ็บใกล้ตายคนนั้น ย้ายเข้าไปอยู่ในร่างนั้นแทน… ที่เหลือหลังจากนั้น ก็แค่ ต้องคอยเฝ้าระวัง ติดตามอย่างใกล้ชิดถึงผลข้างเคียงกันต่อไป…
เพราะฉนั้น ถึงแม้ในตอนนี้ จะไม่มีการโคลนนิ่งมนุษย์เป็นผลสำเร็จ แต่การย้ายไปอยู่ร่างอื่นนั้น ยังพอทำได้
เมื่อเห็นดังนั้น และด้วยความใจร้อน หม่ากั๋วหมิง จึงซื้อร่างกายของชายหนุ่มแข็งแรงคนหนึ่ง ที่เป็นนักโทษประหาร โดยบริจาคให้กรมกรมราชทัณฑ์หนึ่งล้านหยวน และมอบให้กับญาติของเจ้าของร่าง อีกหนึ่งล้านหยวน โดยบอกว่าเป็นเงินประกัน ซึ่งยังไงชายคนนั้นก็ต้องตายอยู่แล้ว คิดซะว่าเป็นการทำประโยชน์ครั้งสุดท้ายของเขาให้กับครอบครัวก็แล้วกัน และหม่ากั๋วหมิง ก็ทำการ ย้ายจิตวิญญาณของตัวเอง เข้าสู่ร่างนั้น นี่คือสิ่งที่เขาได้คิดเอาไว้
แต่เหตุไฉน เขาถึงกลับมาอยู่ในร่างตัวเองในอดีต เป็นไปได้ไหมว่า การถ่ายโอนจิตวิญญาณครั้งนั้นเกิดผิดพลาด กลับกลายเป็นบังเอิญทำให้เขาย้อนอดีตมาแทน…