เล่ม 1 ศิษย์ข้า มาฝึกเซียนกัน 11
ตอนที่ 11
หลิงชิงเซวียนนั่งตัวตรงและก้มลงมองกลุ่มคน ที่แววตาเต็มไปด้วยความฝัน เมื่อเห็นพวกเขาเข้าไปที่แท่นทดสอบ เธอเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีออร่าระยิบระยับท่ามกลางฝูงชนที่กำลังตื่นเต้นวิตกกังวล เมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ของเขา ทั้งออร่าความมั่งคั่งมหาศาลของเขา ความมั่งคั่งชื่อเสียงและโชคลาภมากมายล้วนเปล่งประกายออกมาจากร่างของเขา
【นายท่าน เขาก็คือตัวเอกชายมู่หลิน】
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเขาที่เป็นตัวเอกชายซึ่งจะมีออร่าที่แตกต่างจากคนทั่วไป เมื่อหลิงชิงเซวียนมองไปยังคนอื่นๆ เธอก็เห็นชายหนุ่มที่กำลังก้มศีรษะซึ่งดูคุ้นเคย
วายร้ายเฟิงเจี่ยก็อยู่ที่นี่ด้วย
【ระบบจะให้ความสำคัญกับตัวเอกชายในการรายงานเป็นหลัก ดังนั้นข่าวเกี่ยวกับที่วายร้ายเฟิงเจี่ยมาถึวจึงแจ้งเตือนล่าช้า】
ในโครงเรื่องเดิมเฟิงเจี่ยมาที่นิกายเฉียนคุนเพื่อเข้าทดสอบ แต่เขาถูกไล่ออกเพราะพรสววค์ที่ไม่ดี หลังจากนั้นเขาก็เกลียดเส้นทางที่ชอบธรรมและนิกายเซียน หลังจากผ่านความยากลำบากมามากมาย ผลสุดท้ายเขาก็ถูกปีศาจครอบงำ
【นายท่าน นี่เป็นโอกาสที่คุณจะได้รับความชื่นชอบจากวายร้ายแล้ว หากคุณเปิดประตูหลังให้กับวายร้าย!】
คุณเห็นเจ้านายผู้นี้เป็นคนที่จะเปิดประตูหลังหรือไม่?
อาจจะไม่……
เฟิงเจี่ยไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนบนแท่นสูงกำลังมองมาที่เขาอยู่ ท้ายที่สุดสถานะของเขาต่ำต่อย และเขาไม่กล้าแม้แต่ชำเรืองมองผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงในขณะนี้ด้วยซ้ำ เขาต้องฝึกฝนให้หนัก และไม่ทำให้น้ำใจของสาวน้อยหลิงต้องเสียเปล่า
มู่หลินขึ้นไปสัมผัสหินทดสอบวิญญาณต่อหน้าเขา เมื่อเขาวางฝ่ามือลงบนหินทดสอบวิญญาณก็เปล่งแสงระยิบระยับซึ่งดึงดูดความประหลาดใจของทุกคนได้ในทันที กลายเป็นรากวิญญาณที่มีเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม เขาจะต้องเป็นยอดอัจฉริยะอย่างแน่นอน
ผู้อาวุโสทั้งสองที่อยู่ด้านข้างหลิงชิงเซวียนต่างก็พากันยืนขึ้นด้วยความตื่นเต้น นิกายเฉียนคุนของพวกเขาไม่มีต้นกล้าที่ดีเช่นนี้มานานหลายปีแล้ว
ฉีหยวนโค้งคำนับไปที่ผู้นำนิกาย ผู้อาวุโสเทียนและผู้อาวุโสเต๋อที่ลุกขึ้นยืนต่างก็ถูกใจมู่หลิน และต้องการรับเขาเป็นลูกศิษย์ของพวกเขา ผู้อาวุโสทั้งสองเหลือบมองไปที่หลิงชิงเซวียน ราวกับกลัวว่านางจะเข้ามาแย่งลูกศิษย์จากพวกเขา
ฉีหยวนที่อยูในภาพลักษณ์สงบและมีมารยาทก็ถูกแสงดึงดูดเช่นกัน นางมองไปข้างหลังและเห็นจี้หยกที่ห้อยอยู่บนเอวของมู่หลิน
นั่นไม่ใช่บุตรชายของหัวหน้าพันธมิตรคนนั้นหรือไง เหตุใดเขาถึงเปลี่ยนไปราวกับคนละคนหลังจากที่ไม่เห็นเขามาครึ่งเดือนหรือว่านางจำผิดพลาดไป?
นางยังรู้เกี่ยวกับข่าวการสังหารคฤหาสน์ของพันธมิตรศิลปะต่อสู้ ว่ามู่หลินยังมีชีวิตอยู่และในที่สุดเขาก็สามารถออกคำสั่งเมื่อเขากลับมา
ขณะที่ฉีหยวนกำลังรอฟังข่าวอยู่ มู่หลินก็ได้รับการแสดงความยินดีกับทุกคนอยู่ และตอนนี้ก็ถึงลำดับของเฟิงเจี่ยที่ต้องไปทดสอบกับหินวิญญาณ
แสงที่เปล่งออกมานั้นอ่อนจางมากและยังมีแนวโน้มที่จะดับลงอีกด้วย หากไม่สังเกตให้ดีก็จะไม่สามารถเห็นได้ว่าหินทดสอบวิญญาณนั้นเรืองแสงอยู่
ผู้นำนิกายและผู้อาวุโสต่างก็พากันส่ายหัวพร้อมกัน พรสวรรค์ของเขามันแย่เกินไป หากนิกายเฉียนคุนของพวกเขายอมรับศิษย์คนนี้ มันก็จะเป็นการยากที่จะฝึกเขา
เฟิงเจี่ยมองไปที่แสงจางๆ และหัวใจของเขาก็จมลง เขาไม่สามารถแม้แต่จะก้าวเข้าไปในนิกายเฉียนคุนได้?
“พี่ชายอย่าท้อแท้ ท่านมีรากฐานและเฉียนคุนต้องรับท่านเข้านิกายอย่างแน่นอน” เมื่อไหล่ของเขาถูกสัมผัส เฟิงเจี่ยจึงหันศีรษะไปมอง ทันใดนั้นเขาก็เห็นมู่หลินที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แพลวพราว เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงหันมองออกไป ทางอื่นอย่างเงียบๆ
แม้ว่าเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากสาวน้อยหลิง แต่พรสวรรค์โดยธรรมชาติของเขาก็แย่มาก และเขารู้สึกซาบซึ้งหลิงชิงเซวียนเป็นอย่างมากที่ช่วยเขา
【ความชอบของวายร้ายเฟิงเจี่ย +5】
หลิงชิงเซวียน “???”
【ความชื่นชอบโดยรวมของวายร้ายเฟิงเจี่ยขณะนี้อยู่ที่ 50 และความคืบหน้าเสร็จสิ้นไปครึ่งหนึ่ง ขอแสดงความยินดีกับนายท่าน ~】
หลิงชิงเซวียนเงยศีรษะขึ้นมองไปที่ชายหนุ่มที่ยืนโดดเดี่ยวท่ามกลางกลุ่มคน
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นลูกรักของสวรรค์ พรสวรรค์เป็นเพียงคุณค่าพื้นฐาน ถ้าเขาไม่ฝึกหนักในภายหลัง ความได้เปรียบของพวกเขาก็จะกลายเป็นข้อเสีย