เล่ม 1 ศิษย์ข้า มาฝึกเซียนกัน 10
ตอนที่ 10
หลังจากอยู่ที่เฉียนคุนมาครึ่งเดือน ZZ พบว่านายท่านของเขากลายเป็นสาวติดบ้านไปเสียแล้ว เธอสามารถอยู่แต่ในบ้านได้นานขนาดนี้!
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาฉีหยวนได้เอาชนะใจผู้คนมากมาย นอกจากนี้ครั้งสุดท้ายที่การลงโทษถูกยกเลิกผู้คนทั้งนิกายต่างก็พากันคิดว่าเป็นเพราะหลิงชิงเซวียนริษยาฉีหยวนจึงได้หาเรื่องนาง
【นายท่าน คุณจะต้อวออกไปข้างนอกวันนี้ มู่หลินกำลังมาที่นิกายเฉียนคุนเพื่อรับคัดเลือก
ใครคือมู่หลิน?
【บุตรชายของผู้นำพันธมิตรศิลปะต่อสู้ ตัวเอกชาย!】
หลิงชิงเซวียนลงจากเปลญวนแตะไปที่ดาบ ไม่สิ ตัวเอกชายไม่ได้ทำอะไรแย่ๆ กับเจ้าของดั้งเดิมของร่างกายนี้
ZZ ขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้นกับนายท่านที่อยากจะกำจัดผู้คนเมื่อพบหน้า
การคัดเลือกศิษย์ประจำปีและการชุมนุมสานุศิษย์ที่จัดขึ้นทุก 10 ปีตรงกัน มีเก้าอี้ที่สวยงามหลายตัวบนแท่นที่สร้างโดยนิกายเฉียนคุน เก้าอี้ระดับบนสุดถูกสงวนไว้สำหรับเจ้านิกายฉีฉินจื่อ
“วันนี้หลิงชิงเซวียนจะไม่มาหรือ”
นอกจากฉีฉินจื่อผู้นำนิกายเฉียนคุนแล้วยังมีผู้อาวุโสอีก 5 คนที่ดูแลยอดเขาทั้ง 5 ชื่อทางเต๋าของพวกเขาได้แก่ เทียน เต๋อ เซวี่ยนและหวง ผู้ที่เพิ่งพูดคือผู้อาวุโสหวง เขาเหลือบมองเก้าอี้ที่ว่างเปล่า ดวยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจชัง
อย่างไรก็ตาม หลิงชิงเซวียนนั้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเหล่าผู้อาวุโสทั้งห้า มันคงจะไม่มีปัญหาอะไรหากผู้ที่อยู่เหนือพวกเขาเป็นบุรุษ หากแต่พวกเขากลับถูกสตรีกดทับ ผู้อาวุโสหวงจะสามารถทนให้เป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไร
ไม่ใช่ว่านางฝึกฝนตั้งแต่อยู่ในครรมารดาหรอกนะ สตรีผู้นั้นได้รับการฝึกแบบไหนกัน!
“มันคงไม่ดีที่จะปล่อยเก้าอี้ที่ว่างเปล่าอยู่ตรงนี้ ให้คนมายกมันลงไป” ผู้อาวุโสเซวี่ยนปฏิบัติตามคำพูดของผู้อาวุโสหวงอย่างไร้ข้อโต้แย้งใดๆ ฉีฉินจื่อกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นบุคลคนในชุดขาวที่โบกสะบัดรอบกายแผ่กลิ่นอานเย็นชาก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้นอย่างสง่างาม
“ผู้อาวุโสเซวี่ยนเจ้าคงจะชรามากแล้ว ดวงตาของเจ้าถึงไม่ดี เจ้าเห็นว่ามีพื้นที่ว่างอยู่ตรงไหน?” การปรากฏตัวของหลิงชิงเซวียนทำให้เกิดเสียงอุทานจากทั้งศิษย์เก่าและใหม่ ศิษย์เก่าเหล่านี้บางคนไม่ได้เห็นหลิงชิงเซวียนมานานกว่าสิบปี และสาวกใหม่บางคนมาที่นี่โดยเฉพาะหลังจากได้ยินข่าวเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของหลิงชิงเซวียน
“นั่นคือผู้อาวุโสหญิงที่แข็งแกร่งที่สุดของนิกายเฉียนคุนหลิงชิงเซวียน ในที่สุดข้าก็ได้พบนางในวันนี้ ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้รับเลือกในวันนี้ ข้าก็รู้สึกว่าชีวิตของข้าไม่เสียเปล่าแล้ว”
“ด้วยความงดงามที่เยือกเย็น และความแข็งแกร่งที่โดดเด่นไม่เป็นสองรองใคร จะมีคนที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ได้อย่างไร”
“โอ้… ข้าเกรงว่าเจ้าคงไม่เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการรังแกศิษย์ของผู้อาวุโสหลิงเมื่อไม่นานนี้แน่นอน อย่าได้มองบุคลคนที่รูปลักษณ์ภายนอกมากเกินไป”
เหล่าศิษย์ใหม่เหล่านี้เพิ่งกลับมาจากการฝึกฝน ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมาก่อน
คนที่มาเข้าร่วมการคัดเลือกปีนี้อยู่อีกฝั่ง
เฟิงเจี่ยสวมเสื้อผ้าธรรมดาแต่สะอาด เขาเอาจี้หยกปลอมซ่อนไว้ใต้เชือกถัก และรีบเดินทางข้ามวันข้ามคืน หากเขามาช้าเป็นไปได้มากที่นักฆ่าเหล่านั้นจะค้นพบและตามล่าเขาอีกครั้ง
ในกลุ่มนี้มีเพียงสิบสองคนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีคนน้อยมากในดินแดนนี้ที่มีรากฐาน เฟิงเจี่ยยืนอยู่ที่ขอบสนามและพยายามอยู่ห่างจากผู้คน ชั่วพริบตาดวงตาของเขาก็กระทบเข้ากับจี้หยกที่คุ้นเคย เฟิงเจี่ยเม้มริมฝีปากของเขาเล็กน้อยและเงยหน้ามองขึ้นไปเห็นชายที่ดูอ่อนโยนและสง่างามกำลังพูดคุยกับคนอื่นอย่างสงบ
ข่าวการสังหารหมู่ของพันธมิตรศิลปะต่อสู้ได้แพร่กระจายไปแล้ว และมู่หลินก็เชื่อฟังคำพูดของบิดาของเขาและเลือกสถานที่แห่งนี้สำหรับการเริ่มต้นแก้แค้นในอนาคต
เฟิงเจี่ยมองไปยังบุคคลที่เปล่งประกายจากนั้นก็มองดูตนเอง มันทำให้เขารู้สึกหดหู่เล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาจะหลบหนีจากการถูกกวาดล้างมาก่อน แต่เขาก็ยังคงดูดีและเปล่งประกาย
“การทดสอบคัดเลือกเริ่มต้นได้!” ด้วยเสียงฆ้องดังขึ้น ทุกคนต่างก็พากันหยุดพูดและยืนตัวตรงสายตาจ้องมองไปยังหินด้วยดวงตาเป็นที่เป็นประกาย
ผู้ที่ลงทะเบียนจะต้องผ่านการทดสอบของหินวิญญาณ