โต้วหยาทนไม่ได้จึงคิดช่วยพูดแทนกู้ซีหวง เขาเล่าย้อนถึงตอนที่ที่กู้ซีหวงช่วยหยุนโม่เหิงตอนเป็นลมอีกครั้ง รวมถึงตอนที่นางถูกหยุนโม่เจิงกีดกันอย่างไร
หยุนโม่เหิงฟังแล้วก็เริ่มสบายใจ และโต้วหยาก็ใช้กู้ซีหวงเป็นข้ออ้างในการเกลี้ยกล่อมให้เขาเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เป็นงานวันเกิดของเขาแล้ว จะตื่นสายไม่ได้เด็ดขาด
วันต่อมา
ฟ้ายังไม่ทันสว่าง กู้ซีหวงที่พักอยู่ในเมืองก็รีบนั่งรถม้ากลับ และหยุนโม่เหิงที่เพิ่งจะนอนไปได้ไม่นานก็ถูกโต้วหยาปลุกให้ตื่นแล้ว
โต้วหยารับหน้าที่จัดทรงผมให้เขา ปากก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “คุณชาย วันนี้เป็นวันเกิดของคุณชายแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรที่เป็นการขายหน้าเด็ดขาดนะขอรับ”
หยุนโม่เหิงพยักหน้าอย่างเหม่อลอย คิดว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขาแล้ว เซียงซือจะมาร่วมงานหรือไม่ หากนางไม่มาเล่า...
เขาไม่กล้าคิดต่อ ปล่อยให้โต้วหยาสวมชุดคลุมสีแดงขนาดใหญ่ให้เขา ก่อนจะจูงเขาเดินไปยังลานด้านหน้า
เมื่อหยุนโม่เหิงและโต้วหยาเดินมาถึง ตรงลานกว้างก็มีแขกอยู่เต็มไปหมด แน่นอนว่าคนพวกนี้ไม่ได้มาเพื่อฉลองวันเกิดให้กับหยุนโม่เหิงแต่อย่างใด ที่มาในวันนี้ก็เพื่อประจบประแจงตระกูลหยุนเท่านั้น
หยุนมู่หลานที่กำลังต้อนรับดูแลแขกเห็นหยุนโม่เหิงเดินมาก็เอ่ยทักทันที “อาเหิง”
“ท่านแม่”
หยุนมู่หลานเห็นสีหน้าของบุตรชายคนรองไม่มีชีวิตชีวา จึงทิ้งแขกแล้วเดินมาหาเขา ก่อนจะถามด้วยความเป็นห่วง “อาเหิง เจ้าเป็นอะไรไป หรือว่าไม่สบาย?”
หยุนโม่เหิงส่ายหน้าและตอบกลับด้วยสีหน้าคล้ายกังวล “เซียงซือ…นางจะมาหรือไม่ขอรับ?”
หยุนมู่หลานไม่คิดว่าบุตรชายของตนจะถามเช่นนี้ และนางก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบว่าอย่างไร ตอนนั้นกู้ซีหวงบอกแค่ว่ามีวิธีที่สามารถแก้ปัญหาของอาเหิงได้ จากนั้นนางก็ไม่ได้มาที่นี่อีก และนางก็ไม่รู้ว่ากู้ซีหวงจะมาหรือไม่
หยุนมู่หลานทนเห็นบุตรชายผิดหวังไม่ได้จึงพูดปลอบใจว่า “เจ้าเด็กซีหวงนั่นต้องมาอยู่แล้ว คิดว่าน่าจะกำลังเดินทางมา เจ้าทำจิตใจให้สบายเถอะ”
โต้วหยาก็พูดคล้อยตามว่า “ฮูหยินพูดถูก คุณชายอย่าทำหน้าตาเศร้าหมองไปเลย อีกเดี๋ยวหากคุณหนูกู้มาถึงแล้วจะคิดว่าคุณชายถูกใครรังแกเอาได้นะขอรับ!”
หยุนโม่เหิงจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ก่อนจะกลับไปร่าเริงเหมือนเดิม จากนั้นก็ต้อนรับแขกที่ทยอยมากันเรื่อยๆ ในใจก็รอคอยใครการมาของบางคนอยู่
ภายในห้อง เมื่อเหล่าคุณชายคุยเรื่องสนุกกันจนเบื่อแล้ว จู่ๆ ก็มีคนคนหนึ่งเอ่ยปากขึ้นว่า “ทำไมคุณชายหลิวไม่มาล่ะ?”
“คุณชายหลิวคนไหนหรือ?”
คนที่อยู่ข้างๆ เห็นว่าเขาไม่เข้าใจจึงกระซิบข้างหูให้เขาฟัง “ก็คุณชายหลิวชิงเหยาที่มีเรื่องพัวพันกับคุณหนูกู้อย่างไรเล่า...”
ทันใดนั้นก็มีคนหัวเราะเยาะ “คุณหนูกู้ก็ไม่มาเช่นกันหรือ?” เหมือนว่ากำลังตอบกลับคำถามก่อนหน้านี้ที่ว่า ‘ทำไมคุณชายหลิวถึงไม่มา’
จากนั้นเหล่าบรรดาคุณชายที่อยู่ในห้องก็พากันสนทนาเรื่องคุณชายหลิวกับคุณหนูกู้ และเล่าต่อๆ กันว่าสภาพหลังจากที่คุณชายรองหยุนถูกทิ้งเป็นอย่างไร
น่าเสียดายที่กู้ซีหวงกำลังนั่งรถม้ากลับมาพอดี เมื่อบอกให้ท่านป้าทราบว่าปลอดภัยแล้วก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบไปยังจวนแม่ทัพ นางได้ยินมาว่าหยุนโม่เหิงอยู่ในห้องจึงรีบไปหาเขาทันที แต่ไม่คิดว่าจะเจอเข้ากับเหล่าคุณชายที่กำลังนินทานางและสภาพของหยุนโม่เหิงที่ถูกนางทิ้ง
“ไม่นึกเลยว่าคุณชายแต่ละท่านจะพูดจาเก่งกันถึงเพียงนี้ หวังว่าคงจะไม่เมื่อยปากกันหรอกนะ?”
เมื่อสิ้นเสียง ตรงหน้าประตูห้องก็มีสตรีในชุดแดงปรากฏตัวขึ้นทันที สตรีชุดแดงกวาดสายตามองทุกๆ คน แต่ในมือกลับลูบไปยังสัตว์ตัวเล็กขนนุ่มที่อยู่ในอ้อมอกของนางอย่างอ่อนโยน
มีคนตะโกนออกมาว่า “คุณหนูกู้!”