หวงถูมองแสงสองดวงนี้ราวกับเห็นผี เรียกได้ว่ากู้ซีหวงเหยียบขนมเปี๊ยะให้โชคเข้าแล้ว
ถึงแม้ว่าแก่นแท้ของหินตั้วเฟิ่งจะเข้าไปในตัวของกู้ซีหวงแล้ว แต่อย่างแรกคือนางยังไม่รู้ตัว อย่างที่สองคือหินตั้วเฟิ่งอยู่ในที่ตรงนั้นมานาน ถึงแม้ว่ายังไม่มีเจ้าของแต่หินลูกนี้ก็มีพลังมหาศาลอยู่เหมือนกัน
จากนั้นกู้ซีหวงก็ฝึกวิทยายุทธอยู่ข้างซากหินแตกที่ไร้พลังตั้วเฟิ่งไปแล้ว และไม่ได้สังเกตว่าตนใช้เวลาไปนานเท่าไหร่แล้ว
หวงถูทนเห็นคุณชายหยุนผิดหวังไม่ได้จึงขัดจังหวะการฝึกของนางเสียก่อน เพราะชาติที่แล้วมันเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาโดยตลอด
“ถูถู?” กู้ซีหวงไม่เข้าใจที่ถูกหวงถูขัดจังหวะการฝึกซ้อมอย่างกะทันหัน
‘มะรืนนี้ก็จะเป็นวันเกิดของสามีเจ้าแล้วนะ’
‘มะรืนนี้แล้ว?’ กู้ซีหวงอุทาน ก่อนจะเงียบไปสักพัก กว่านางจะมาถึงที่นี่ใช้เวลาตั้งหลายวัน ถ้าจะกลับไป…เกรงว่าจะไม่ทันวันเกิดของหยุนโม่เหิง
‘ตอนนี้เจ้าก็ฝึกถึงระดับสองแล้ว กลับไปตอนนี้ก็ยังทัน’
กู้ซีหวงพยักหน้าเข้าใจและกล่าวขอบคุณถวงหูอย่างจริงใจ “ถูถู ขอบใจเจ้ามาก”
‘ไม่ต้องเกรงใจข้าหรอก’
กู้ซีหวงใช้เวลากว่าสองเค่อในการว่ายขึ้นจากก้นบ่อมาถึงผิวน้ำ ซึ่งนางใช้เวลาเร็วกว่าตอนที่ดำลงไปครั้งแรก สิ่งนี้ทำให้นางสบายใจขึ้นมากและมั่นใจว่านางจะต้องกลับไปทันแน่นอน
จากนั้นนางก็รีบตรงดิ่งทะลุถ้ำมาถึงหน้าปากถ้ำทันที
ด้านนอกถ้ำ เหลืองเพียงเจ้าลูกจิ้งจอกน้อยที่นอนขดตัวเหมือนลูกบอลอยู่บนพื้น เหมือนว่ามันกำลังงีบหลับอยู่
กู้ซีหวงโน้มตัวลงพลางมองเจ้าจิ้งจอกน้อยน่ารัก “จิ้งจอกน้อย เจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่?”
“ฮูกฮูก~” จิ้งจอกน้อยออดอ้อนนางและยังทำท่าทางพยักหน้าอีกด้วย ทำเอากู้ซีหวงยิ้มตาม ช่างเป็นจิ้งจอกน้อยที่มีอารมณ์ขันเหลือเกิน
กู้ซีหวงอุ้มเจ้าจิ้งจอกน้อยไว้ในอ้อมอกพลางพูดเสียงเบา “เราไปกันเถอะ”
ถึงแม้จิ้งจอกน้อยจะขดอยู่ในอ้อมอกของนาง แต่สายตาของมันกลับมองไปยังสถานที่หนึ่งด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์ ผ่านไปสักพักจึงหันกลับมานัวเนียแขนของนางเพื่อบอกให้นางรู้ว่าไปได้แล้ว
ตลอดทั้งทาง กู้ซีหวงใช้วิชาตัวเบาในการเหาะกลับ หนึ่งชั่วยามต่อมานางก็อุ้มเจ้าจิ้งจอกน้อยออกจากเขาอัคนี
กู้ซีหวงยังอยากจะเหาะกลับไปถึงบ้าน แต่ก็ต้องฟังคำพูดของหวงถู ‘ถ้าเข้าไปในเมืองแล้วอย่าลืมหารถม้าเดินทางด้วยล่ะ’
นางนิ่งไปสักพัก ไม่นานก็เข้าใจความหมายของหวงถู หากนางเหาะกลับไปรวดเดียว คนอาจจะมองนางเป็นตัวประหลาดได้
ระยะทางประมาณหกสิบลี้ หากคิดจะเดินทางด้วยรถม้าย่อมใช้เวลาไม่นาน ทว่าคนที่อยู่ในเมืองกลับไม่มีใครยอมให้นางออกเดินทางตอนกลางคืนเลยสักคน เพราะเวลากลางคืนในช่วงนี้ไม่ค่อยปลอดภัยและมีคนตายไปหลายบ้านแล้ว
กู้ซีหวงอธิบายว่านางมีวิชาป้องกันตัวและสามารถดูแลตัวเองได้ แต่ชาวบ้านต่างหวาดกลัว “คนร้ายยามค่ำคืน” ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมให้นางไป
กู้ซีหวงหมดหนทาง ทำได้เพียงหาที่พักอยู่ในเมืองก่อนหนึ่งคืน รอคอยให้ถึงเช้าพรุ่งนี้แล้วจึงจะออกเดินทางกลับ
เรื่องการกลับมาของกู้ซีหวงนั้น ย่อมมีทั้งคนดีใจและเสียใจ หากกล่าวถึงคนที่ดีใจ แน่นอนว่าต้องไม่ใช่คนใกล้ตัวของหยุนโม่เหิงอย่างหยุนมู่หลานและหยุนโม่เจิง รวมถึงคุณชายสามอย่างหยุนโหย่วจือด้วย
นั่นก็เพราะว่าคุณชายสามมักไม่ลงรอยกับคุณชายรอง และด้วยความที่เขาค่อนข้างมีฐิติ จึงชอบหัวเราะเยาะเย้ยรูปลักษณ์ของคุณชายรองเสมอ