กู้ซีหวงมองใบหน้าอันหม่นหมองของกู้ชิงเฉิงก่อนจะเอ่ยว่า “ข้ารู้ว่านางท้องกับใคร”
เมื่อได้ยินคำพูดของญาติผู้พี่ กู้ชิงเฉิงก็นิ่งไปก่อนจะเผยแววตาตกใจกลัวออกมา เหมือนกำลังขอร้องไม่ให้กู้ซีหวงพูด
กู้หลิงอวี้ถามกลับ “เรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่?” ถึงจะรู้ว่าท้องกับใครก็เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าท้องก่อนแต่งไม่ได้ และนางจะปกปิดเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ได้อย่างไร?!
“ท่านป้า!” กู้ซีหวงขมวดคิ้วคิดหวังพึ่งสายใยป้าหลาน “อย่างไรลูกในท้องของชิงเฉิงก็เป็นหลานของท่านป้า! ท่านป้าก็อยากจะอุ้มหลานไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”
กู้หลิงอวี้ถอนหายใจ “เฮอะ! หลานนอกคอกที่มาอย่างไม่บริสุทธิ์แบบนี้ ข้าไม่มีทางรับหรอก!”
กู้ซีหวงรู้ว่าถึงแม้ปกติแล้วท่านป้าของนางดูเหมือนจะไม่ใช่คนเคร่งครัดอะไร แต่แท้จริงแล้วกลับเคร่งครัดในเรื่องศีลธรรมและจารีตประเพณีเป็นที่สุด และเรื่องใดที่ท่านป้าตัดสินใจแล้ว เอาวัวสิบตัวมาลากก็ฉุดนางกลับมาไม่ได้
“เจ้าค่ะ ท่านป้าพูดถูก เซียงซือก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่บริสุทธิ์เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นก็ให้หลานเป็นคนจัดการเด็กคนนี้ไม่ดีกว่าหรือ?” กู้ซีหวงพูดทั้งๆ ที่นางก็รู้ว่าการที่นางทำแบบนี้นั้นเป็นการก้าวก่ายอำนาจหน้าที่ของท่านป้า แต่ถึงอย่างไรก็ต้องลองดู
ขณะที่กู้หลิงอวี้ยังไม่ได้พูดอะไร กู้ชิงหยวนก็พูดขึ้นมาก่อน “เจ้าเป็นเพียงญาติของตระกูลกู้บ้านข้า เจ้าถือสิทธิ์อะไรมายุ่งเรื่องของครอบครัวข้า? ยิ่งกว่านั้นหากลูกของชิงเฉิงเป็นทายาทอสูรก็แค่ตีมันให้ตายเสียก็สิ้นเรื่อง ทำไมถึงต้องจัดการเรื่องให้มันยุ่งยากด้วยเล่า?”
กู้ชิงเฉิงได้ยินกู้ชิงหยวนบอกว่าลูกของนางเป็นทายาทอสูรแล้วก็โกรธจนตาแดง แต่เมื่อได้รับคำปลอบโยนจากกู้ซีหวงจึงระงับอารมณ์ของตนลง
“เจ้าบอกว่าลูกของชิงเฉิงเป็นทายาทอสูร แล้วเจ้าที่เป็นญาติสายตรงนั้นเป็นอะไร?”
กู้ชิงหยวนได้ยินกู้ซีหวงพูดจาประชดตนเองเช่นนี้แล้วก็ทนไม่ไหวและเอ่ยปากต่อว่าทันที “กู้ซีหวง เจ้า…”
กู้ชิงหยวนยังไม่ทันได้เอ่ยปากด่าก็ถูกตบจนนิ่งไป เสียง ‘เพี๊ยะ!’ ดังขึ้นก่อนบรรยากาศทั้งห้องจะเงียบจนน่ากลัว
กู้หลิงอวี้เก็บมือข้างที่เพิ่งตบบุตรสาวกลับมา ก่อนเอ่ยว่า “เซียงซือถือว่าเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลกู้ ใช่ว่าเจ้าจะพูดดูถูกดูแคลนพี่สาวของเจ้าได้!”
กู้ชิงหยวนแผดเสียงตะโกนระบายอารมณ์กับมารดา “ท่านแม่! ทำไมท่านแม่เอาแต่เข้าข้างมัน อย่าลืมนะว่าข้าต่างหากที่เป็นลูกของท่านแม่!”
ถึงจะได้ยินคำพูดโวยวายของกู้ชิงหยวน แต่กู้หลิงอวี้ไม่มีอารมณ์จะจัดการปัญหาของกู้ชิงเฉิงแล้ว จึงตอบรับคำขอของกู้ซีหวงแล้วส่งกู้ชิงเฉิงให้นางจัดการ แล้วจึงลุกเดินออกไป
เมื่อทุกคนเห็นกู้หลิงอวี้เดินไปแล้วก็พากันแยกย้ายไป และห้องโถงหลักก็เหลือเพียงกู้ซีหวงและกู้ชิงเฉิงเท่านั้น
กู้ชิงเฉิงรีบเอ่ยปาก “ชิงเฉิงขอบคุณท่านพี่มากที่ช่วยลูกของข้า” นางรู้ว่าถ้าวันนี้ไม่ได้กู้ซีหวงช่วยเอาไว้ ลูกของนางคงต้องตายสถานเดียว
กู้ซีหวงก็แค่จัดการไปตามเหตุผล “อย่าลืมว่าเจ้าเป็นน้องข้า เรื่องที่ช่วยเจ้าเป็นที่สมควรทำอยู่แล้ว แต่อย่างไรข้าก็ต้องทำโทษเจ้า”
กู้ชิงเฉิงสีหน้าเปลี่ยนทันที
กู้ซีหวงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบอกวิธีทำโทษออกมา “ข้าขอทำโทษให้เจ้านั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ในห้องก็แล้วกัน!”
กู้ชิงเฉิงคิดในใจว่ายังดี ถึงแม้ไม่รู้ว่าจะให้เย็บอะไร แต่ขอให้ไม่กระทบถึงลูกของนางกับพี่เซียวก็เพียงพอแล้ว
จากนั้นเรื่องนี้ก็จบไป กู้ชิงเฉิงกลับไปยังห้องของตน ส่วนกู้ซีหวงกลับไปยังเรือนเซียงซือ
กู้ซีหวงไม่เคยคิดว่าตนเองจะสามารถช่วยกู้ชิงเฉิงด้วยสองมือของตัวเองได้
เมื่อจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จ ท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิทแล้ว
กู้ซีหวงยังคงคิดว่าควรจะหาใครมาเจียระไนหินก้อนนี้ดี ทันใดนั้นก็มีเสียงของเฟิ่งหวงผุดขึ้นมาในหัว ‘ก็ทำเองเลยสิ เจ้าไม่คิดจะทำเองเพื่อชายอันเป็นที่รักหน่อยรึ?’
กู้ซีหวงชินกับเสียงที่โผล่ขึ้นมาอย่างกะทันหันของเฟิ่งหวงแล้ว จึงตอบกลับด้วยใบหน้าเฉยชา “ข้าทำไม่เป็น”
‘ธาตุไฟเฟิ่งหวงสามารถหลอมละลายได้ทุกอย่าง มีมันอยู่ ขอแค่เจ้าอยากจะทำก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้!’ ในใจของเฟิ่งหวงรู้สึกสิ้นหวัง หรือการเกิดใหม่นี้จะทำให้คนโง่ลงด้วย?
“ธาตุไฟเฟิ่งหวงคืออะไร?” กู้ซีหวงนิ่งไปและไม่เคยได้ยินคำว่าธาตุไฟเฟิ่งหวงมาก่อน