“ท่านป้า ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ” กู้ซีหวงเห็นกู้หลิงอวี้รอนางอยู่ตรงหน้าประตูก็รู้สึกซึ้งใจจนอยากจะร้องไห้ ก่อนจะโผเข้ากอดเพื่อแสดงความรัก
นึกไม่ถึงว่ากู้หลิงอวี้จะขยับตัวหนีด้วยท่าทางรังเกียจ “…อยู่ห่างๆ ป้าหน่อย”
กู้ซีหวงทำหน้าตาเหลือเชื่อ นานๆ ทีคุณหนูอย่างนางจะแสดงความรัก ยังกล้าจะรังเกียจนางอีก?!
“ตัวเจ้าสกปรก” กู้หลิงอวี้รีบอธิบายเหตุผลที่รังเกียจให้นางฟังอย่าง
“ท่านป้ารังเกียจที่ข้าสกปรกหรือ?!” กู้ซีหวงรู้สึกเหลือเชื่ออีกครั้ง ก่อนจะพูดจาตัดพ้อ “ข้าอุตส่าห์ขุดของล้ำค่ามาอย่างยากลำบากและคิดจะแบ่งให้ท่านป้าสักครึ่งหนึ่ง แต่ท่านป้ามารังเกียจข้าแบบนี้อย่าหาว่าข้าขี้เหนียวก็แล้วกัน เพราะท่านป้าเป็นคนเลือกเองนะเจ้าคะ…”
“ของล้ำค่าอะไรของเจ้า?” กู้หลิงอวี้รู้สึกมึนงง
กู้ซีหวงพยักเพยิดไปยังอัญมณีและหญ้าที่อยู่ในอกตัวเอง “นี่ไงล่ะ พวกมันนี่แหละ” เกรงว่าท่านป้าจะไม่เชื่อจึงพูดต่อว่า “แต่ละอย่างเป็นของล้ำค่าทั้งนั้น!”
กู้หลิงอวี้คิดในใจว่าตัวข้าก็เป็นของล้ำค่าเหมือนกัน!
กู้ซีหวงเห็นท่านป้าไม่เชื่อแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะนางไม่สามารถบอกความลับที่นางเกิดใหม่ได้ ดังนั้นกู้ซีหวงจึงได้เพียงแกล้งทำเป็นโกรธและหอบสิ่งที่อยู่ในอ้อมอกกลับเรือนของนางไป
ตอนแรกกู้หลิงอวี้รอนางอยู่ที่หน้าประตู แต่ถูกใบหญ้าอันล้ำค่าของนางมารบกวนจนทำให้ลืมไป แต่พอเห็นว่านางยังมีอารมณ์ไปขุดหญ้าแบบนั้นแสดงว่าคงไม่มีเรื่องใหญ่อะไรจึงไม่ได้สนใจนาง ก่อนจะเดินกลับเรือนของตัวเองไป
กู้ซีหวงกลับไปถึงเรือนเซียงซือก็ใช้น้ำล้างใบหญ้าไปหนึ่งรอบ มองดูสภาพหลังจากทำความสะอาดพวกมันแล้วก็ถึงกับอ้าปากค้างทันที
นี่คือยาที่หายากในยุคนี้ บอกว่าเป็นสิ่งล้ำค่าก็ยังไม่ถือว่าเกินจริง
กู้ซีหวงนับแล้วได้ทั้งหมดสามสิบสองต้น ในนั้นประกอบด้วยหญ้าน้ำมรกต ดอกพลับพลึงแมงมุม ใบเทพน้ำเงินและลิ้นมังกรอย่างละห้าใบ นอกจากนี้ยังมีหญ้าต้นทรายหกกอ หญ้าโลหิตสามกอและต้นหัวใจปีศาจอีกสองใบ
และยังมีอีกหนึ่งต้นที่นางดูไม่ออกว่ามันคือต้นอะไร รูปร่างมนแปลกๆ ในหนึ่งใบมีสีทองและสีแดงปะปนกัน นางเพิ่งเคยเห็นพืชที่รูปร่างแปลกประหลาดขนาดนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน
ถึงแม้ว่านางจะเพิ่งเคยเห็นพืชอีกเจ็ดชนิดเป็นครั้งแรก แต่ก็ยังสามารถเรียกชื่อได้ แต่พืชชนิดนี้นั้นไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ
ในขณะที่นางวางพืชทั้งเจ็ดชนิดไว้ในที่ที่เหมาะสมของพืชแต่ละชนิดเรียบร้อยแล้ว นกเฟิ่งหวงที่อยู่กลางหน้าผากก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
ไม่นานมันก็บินออกมาจากหน้าผากของนาง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กู้ซีหวงเห็นมัน นางจึงไม่ได้ตื่นเต้นอีก เพียงแต่สงสัยว่ามันสามารถทำอะไรได้บ้าง
หลังจากที่ร่างของนกเฟิ่งหวงบินออกมาแล้ว ดวงตาของมันจ้องไปยังพืชที่นางไม่รู้จักพลางน้ำลายไหล กู้ซีหวงก็ไม่รู้เช่นกันว่าตัวเองสามารถมองความรู้สึกของเจ้านกเฟิ่งหวงตัวนี้ออกได้อย่างไร
มันมองมายังนางพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก นัยน์ตาของมันเปล่งประกาย กู้ซีหวงถูกสายตาที่ดูมุ่งร้ายของมันจ้องจนขนหัวลุกไปหมด
เมื่อมันเห็นว่านางไม่ได้น่ากลัวจึงบินไปยังพืชต้นนั้นทันที ก่อนจะคาบใบไม้ที่มีสีแดงดั่งเลือดออกมาแล้วยัดเข้าปากนางทันที
“เจ้า…” กู้ซีหวงอยากจะถามว่าให้นางกินพืชนี้ไปทำไม แต่นกตัวนั้นหาได้สนใจนางไม่ มันใช้จะงอยปากงับพืชแปลกประหลาดเข้าไปตรงหว่างคิ้ว ก่อนจะบินกลับเข้าประทับร่างบนหน้าผากของนางอีกครั้ง
ขณะที่ใบไม้ที่เข้าปากนั้นกำลังย่อย กู้ซีหวงรู้สึกแสบร้อนเหมือนมีไฟมาแผดเผาไปทั้งตัว ทั้งๆ ที่ไม่เห็นไฟแม้แต่นิดเดียว
สำหรับกู้ซีหวงนั้น คืนนี้เป็นคืนที่ยาวนานกว่าคืนไหนๆ เปลวไฟลุกโชนอยู่ในร่างกายของนางอยู่ตลอดเวลา และนางก็เจ็บปวดเหมือนตายทั้งเป็นอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
นางแทบอยากจะเป็นลม แต่ร่างกายกลับตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา แม้แต่จะงีบสักพักยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่งนัก