Your Wishlist

Again 17 (รุ่นพี่ที่รัก)

Author: ทองทิพย์

จำนวนตอน :

รุ่นพี่ที่รัก

  • 13/06/2564

  ซุนเหมี่ยวส่งยิ้มไปให้กับหลี่เซียนในใจของเธอในตอนนี้นั้นอยากจะบอกข่าวดีให้เขาได้ฟังว่าเธอสอบได้ที่สามร้อยสี่สิบห้านั้นก็เป็นเพราะเขาที่ช่วยติวให้กับเธอช่วยดึงเธอออกมาจากลำดับที่ห้าร้อยกว่า

 

   จินม่ายเมื่อเห็นหลี่เซียนและหวังเฉิงชุนที่เดินตรงมาก็รีบเดินเข้าไปหา  “ พี่เซียนมาดูผลคะแนนเหรอ อย่างพี่ไม่ต้องดูก็รู้ว่าได้ที่เท่าไหร่ ไม่เหมือนใครบ้างคนหรอก “ จินม่ายที่ส่งสายตาล้อเลียนไปที่หวังเฉิงชุน 

 

  “ ทำไมคนอย่างพี่เนี่ยนะมันยังไงถึงแม้ว่าพี่นะจะสอบไม่ได้ที่หนึ่งแต่ก็ยังอยู่ในระดับต้นๆอยู่แล้วอย่าหาว่าคุย “ หวังเฉิงชุนเมื่อถูกสาวที่ตนแอบชอบแขวะ ก็อดไม่ได้ที่จะบอกให้สาวเจ้าได้รู้ว่าเขาก็เก่งอยู่เหมือนกันนะ 

 

   ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายหลี่เซียนก็ได้หันไปพูดคุยกับซุนเหมี่ยว  “ แล้วเราละเป็นยังไงบ้าง พอได้ใหม?”

 

  “ เกินคาดเลยค่ะ ต้องขอบคุณรุ่นพี่มากเลยที่ช่วยติวให้ไม่งั้นก็คงอยู่ที่ลำดับที่ห้าร้อยกว่าเหมือนเดิม “ หลี่เซียนส่งยิ้มให้ “ พี่แค่ช่วยติวให้นิดหน่อยเท่านั้นเอง “

   

   “ ถึงยังงั้นก็เถอะค่ะ ยังไงก็ต้องขอบคุณรุ่นพี่อยู่ดี“ รอยยิ้มของหลี่เซียนช่างเหมือนกับน้ำทิพย์ที่ชะโลมจิตใจ รู้สึกถึงความอบอุ่บจากชายคนนี้ ขอบคุณสวรรค์ที่ได้ให้โอกาสเธอได้กลับมาแก้ไขและยังได้ให้เธอมีโอกาสใกล้ชิดกับผู้ชายที่แสนดีแบบนี้

 

 

“ ปะเข้าห้องเรียนกันเถอะ “ จินม่ายจูงมือซุนเหมี่ยวไปที่ห้องเรียน  “ ไปก่อนนะค่ะรุ่นพี่ “ หลี่เซียนนั้นพยักหน้าให้เล็กน้อย

 

   ในห้องเรียนซุนเหมี่ยวกับจินม่ายและเพื่อนอีกสองสามคนท่ีกำลังพูดคุยกันอยู่ จู่ๆเพื่อนร่วมชั้นอีกคนที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องมองไปที่ซุนเหมี่ยวและเดินเข้ามาหา

 

  “ซุนเหมี่ยวเธอไปทำอะไรมานะช่วงนี้ดูผิวเธอใสขึ้นมากเลยนะ “ สายตาทุกคู่ก็จ้องมองไปที่ซุนเหมี่ยว 

 

 “ เอ่อจริงด้วยฉันว่าแหละทำไมช่วงนี้เธอถึงได้ดูแปลกแต่ก็นึกไม่ออก “ เพื่อนอีกคนก็พูดเสริมขึ้นมาอีกเสียง “ นั้นนะสิไปทำอะไรมาบอกกันบ้างสิ “

 

  “ ใช่ๆๆๆบอกกันหน่อยสินะนะซุนเหมี่ยวเพื่อนรัก ” ซุนเหมี่ยวที่มองเพื่อนๆที่รอคำตอบจากเธออย่างใจจดใจจ่อ “ ก็ไม่มีอะไรมาก ฉันก็แค่กินคอลลาเจน วิตามินซีและzinc ก่อนจะนอนก็ทาครีมบำรุงผิวบางคืนก็จะมาร์คหน้าบลาบลาบลา “

 

   เพื่อนๆต่างอึ้งกับซุนเหมี่ยวที่บอกว่าไม่มีอะไรมาก “ ไม่ใช่มั่งที่บอกว่าไม่มีอะไรของเธอเนี่ยยาวเป็นหางว่าวเลย อีกอย่างเธอก็พึ่งจะสิบเจ็ดปีทำไมถึงรีบกินอาหารเสริมพวกนี้ด้วยละ “ “ นั่นสิไม่เร็วไปหน่อย เหรออีกอย่างอีกอย่างของพวกนี้ราคาแพงๆทั้งนั้น “

 

  “ ใช่ๆๆ “ เพื่อนต่างคิดว่ามันยังไม่จำเป็นที่จะต้องกินอาหารเสริมพวกนี้แต่ถ้าเป็นครีมก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ในสมัยนี้เรื่องอาหารเสริมความงามยังถือว่าเป็นเรื่องไกลตัวและยังไม่ค่อยมีโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมากนัก

 

   ถ้าเป็นซุนเหมี่ยวในเมื่อก่อนนี้เธอก็คงจะคิดเหมือนกับเพื่อนๆแต่ว่าเธอไม่ใช่เธอในตอนนี้นั้นคือสาวใหญ่ในวัยสามสิบสี่ปีที่ได้รับพรจากสวรรค์ให้ได้กลับมาใช้ชีวิตช่วงอายุสิบเจ็ดปีอีกครั้ง 

 

  และเมื่อเธอได้รับโอกาสนี้เธอจะไม่ยอมปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยที่ไม่ทำอะไรไม่ได้เพราะเธอนั่นได้รู้แล้วว่าถ้าหากเธอยังใช้ชีวิตไปเรื่อยๆก็คงไม่พ้นตามรอยเดิมซึ่งเป็นอะไรที่เธอจะไม่ยอมเด็ดขาด “ อืมมันเป็นการเตรียมความพร้อมตั้งหากละ ถ้าเราดูแลตั้งแต่เนิ่นๆความสาวและความสวยก็จะอยู่กับเรานานขึ้น แต่ถ้าหากเราไม่ดูแลใส่ใจก็จะ…..นะคงไม่ต้องบอกนะว่าจะเป็นยังไง “ 

 

  “ โหหหหห “ ทุกคนต่างอ้าปากค้างไปเลยกับคำอธิบายของซุนเหมี่ยวแต่ก่อนที่จะได้พูดคุยต่อก็ได้ยินเสียงของคุณครูประจำชั้นเข้ามาในห้อง

 

  “ เอาล่ะทุกคนเข้าที่ เป็นยังไงกันบ้างกับประกาศผลสอบทุกคนไปดูกันแล้วละยังพอใจกันมั้ย “ จากนั้นคุณครูประจำชั้นก็ได้วางหนังสือลงบนโต๊ะ “ ครูดีใจกับซุนเหมี่ยวด้วยนะที่สามารถพัฒนาตัวเองจนสอบได้ที่สามร้อย พวกเราทุกคนก็ดูไว้เป็นตัวอย่างนะเข้าใจมั้ย “

 

  “ ค่ะ/ครับ “ เมื่อคุณครูประจำชั้นเรียนนั่งลงก็ได้เปิดหน้าหนังสือภาษาอังกฤษ “ ทุกคนเปิดหนังสือไปที่หน้าหนึ่งร้อยห้าวันนี้เราจะมาพูดถึงหลักการใช้ซัม และเอ็นนิกันนะ “

 

   จากนั้นคุณครูก็หยิบหนังสือหันหลังไปเขียนบนกระดำ จินม่ายที่ยังไม่หายสงสัยเกี่ยวกับครีมบำรุงผิวก็หันไปซุบซิบคุยกันจนคุณครูทนไม่ไหวหันมามอง    “ จินม่ายซุยเหมี่ยวออกมาอธิบายให้เพื่อนๆฟังหน่อยสิ “

 

  จินม่ายรีบลุกขึ้นไปที่หน้าชั้นเรียนตรงกระดานดำ “ ซัมหมายถึงบางหรือบ้างโดยมักจะใช้ในประโยคบอกเล่าบางครั้งก็พบได้ในประโยคคำถามเช่นการใช้ซัมในประโยคคำถามหรือขอร้อง แคน ไอ แฮ็ฝ ซัม   มิลล์ พรีส หรือ แคน ยูกิฝ มี ซัม ซอลท “

 

   คุณครูประจำชั้นที่นั่งฟังจินม่ายอธิบายก็รู้สึกภูมิใจในตัวของลูกศิษย์มาก “ โอเคดีมาก!!เป็นยังไงพวกเธอพอจะเข้าใจที่จินม่ายอธิบายหลักการใช้ซัมคร่าวๆแล้วใช่ไหมอ่ะคราวนี้มาฟังเรามาฟังซุนเหมี่ยวอธิบายหลักการใช้เอ็นนิกันต่อ “

 

  ใบหน้าของซุนเหมี่ยวนั้นเป็นกังวลมากเธอไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ถึงแม้ว่าชีวิตก่อนหน้านี้เธอจะทำงานในโรงแรมก็จริงอยู่ส่วนเธอเองนั้นก็พอจะพูดสื่อสารกับต่างชาติได้นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเข้าใจในหลักการของมันเธอแค่จำเขาคุยกันและคิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้ก็เท่านั้น “ เอ่อ…เอ็นนิ..หมายถึงเอ่อบางและบ้างความหมายก็จะคล้ายกับซัมส่วนวิธีการใช้นั้นเอ่อ…..เอ่อแต่เอ็นนิจะใช้ในประโยคปฏิเสธอย่างเช่นไอ ด้น แฮ็ฝ เอ็นนิ ด็อกส หรือ เด ด้น แฮ็ฝ เอ็นนิ ว๊อเทอะ “ 

 

   “ โอเคซุนเหมี่ยวกลับโต๊ะได้ แต่ครูจะเสริมนิดหน่อยเรื่องเอ็นนิเมื่อกี้เพื่อนบอกว่า….เอ็นนิใช้ในประโยคปฏิเสธใช่มั้ยคือนอกจากปฏิเสธแล้วยังใช้ในประโยคคำถามได้เช่นกันยกตัวอย่างเช่น ดู เด แฮ็ฝ เอ็น นิ   ว๊อเทอะ ได้เช่นกัน “

 

  ติ้ง….ต่อง…….

 

 “ วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนแล้วกันอย่าลืมไปทบทวนแล้วทำการบ้านมาส่งครูด้วย จินม่ายพรุ่งนี้เธอรวบรวมเอาสมุดการบ้านมาส่งที่โต๊ะครูนะ อ้อ!!เกือบลืมอาทิตน์หน้ามีสอบวัดระดับความรู้อย่าลืมเตรียมความพร้อม”

 

  “ ค่ะ/ครับ “

 

  “ เฮ่อ~~เกือบไปแล้วฉัน “ ซุนเหมี่ยวรู้สึกเหมือนยกถูเขาออกจากอกนึกๆๆไปแล้วอีกสิบปีข้างหน้าภาษาที่สองนี้ก็จำเป็นมากอยู่เหมือนกันนะเนี่ยลืมไปได้ไงเนี่ยได้การละเดี๋ยวเย็นนี้ต้องไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

 

  “ นี้!!นี้!!คิดอะไรอยู่ไม่กลับบ้านหรือไง “ จินม่ายที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าจะกลับบ้านได้หันไปมองซุนเหมี่ยวที่เอาแต่นั่งเหม่อลอยไม่เก็บหนังสือสักที

 

 “ โอ้วต้องกลับอยู่แล้ว “ ซุนเหมี่ยวส่งยิ้มให้กับจินม่ายแก้เขินที่ตัวเองมัวแตนั่งเหม่อ “ แฮ่ แฮ่ “

 

 

 

 

1
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป