หลี่เซียนที่เดินเข้าบ้านมาเขาได้หยุดยืนตรงประตูหน้าห้องรับแขก เขาได้จ้องมองไปที่บิดาที่นั่งมองดูรูปที่ถือไว้อยู่ในมือแววตาที่จ้องมองดูรูปนั้นช่างหม่นหมองเศร้าสร้อย และยังบ่งบอกว่าคิดถึงคนในรูปมากแค่ไหน พร้อมทั้งถอดถอนใจซึ่งตัวเขาเองก็คิดถึงคนในรูปนั้นมากเหมือนกัน
สามปีแล้วสินะที่แม่ได้จากพวกเราไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมันช่างเป็นเวลาที่แสนยาวนานมากสำหรับพวกเรากับการสูญเสียในครั้งนี้
“ พ่อนั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คับ วันนี้มีอะไรกินใหมหิวข้าวมากเลยคับพ่อ “
“ โอ้ว กลับมาแล้วเหรอเอ่อวันนี้มีซุปปลา หมั่นโถว ผัดเต้าหู้เหม็น มามามากินข้าวพ่อตั้งโต๊ะรอแกอยู่ตั้งนาน “
“ คับพ่อ หืมหอมมากเลย “
“ กินเยอะๆ หน่อยลูกผู้ชายร่างกายต้องแข็งแรงกำยำ สาวๆชอบ “
“คับผม “ หลี่เซียนที่ตอบรับคำแซวของพ่อของเขา พ่อลูกที่ทานข้าวไปคุยกันไปอย่างมีความสุข
ซุนเหมี่ยวที่กำลังออกกำลังกายอยู่บนดาดฟ้าเคล้าเสียงเพลงเบาๆอยู่นั้นก็เป็นอันต้องหยุดพักก็เพราะว่านางซุนเอ้อร์เหนียงที่เดินมาตามได้ปิดเสียงเพลงลงด้วยใบหน้าที่โมโห
“ แม่เรียกแกให้ไปกินข้าวจนคอจะแตกอยู่แล้ว ไม่ได้ยินหรือไงต้องให้เดินมาตาม “
“ แม่เรียกหนูเหรอ หนูไม่ได้ยินจริงๆค่ะ “
“ แล้วนี้คิดว่ายังไงมาออกกำลังกายร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นจะทำอะไรแบบนี้เลย “
“ แม่ก็ออกกำลังกายนี้นะนอกจากจะช่วยขับเหงื่อแล้วยังทำให้ร่างกายแข็งแรง รูปร่างดี ทรวดทรงองเอวก็มีดีจะตาย“ ซุนเหมี่ยวที่อธิบายถึงเหตุผลพร้อมกับท่าทางประกอบ
“ เอาล่ะแม่ละขี้เกียจมาฟังเหตุผลของแกแล้ว ยังไงก็ลงไปทานข้าวก่อน “
“ จ้าคุณนายเอ้อร์เหนียง ลงไปเดี๋ยวนี้แหละ “
หลังจากที่ทานข้าวกันเรียบร้อยซุนเหมี่ยวก็เก็บจานชามไปล้างก่อนที่จะขึ้นห้องอาบน้ำ
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง
“ ฮัลโล ว่าจะโทรไปหาอยู่พอดีเลยมีเรื่องจะเล่าให้ฟังเยอะเลย “
“ จ้า ตลอดแหละแกอ่ะฉันเริ่มจะชินแล้วอือแล้วเป็นไงบ้างพี่เซียนเขาสอนดีใหม “
“ อืมรุ่นพี่สอนเข้าใจง่ายมากเลยนะไม่เห็นเหมือนที่คุณครูสอนเลย “
“ หึหึหึไม่เหมือนที่คุณครูสอนจะเกินไปหรือเปล่าเหมี่ยวเหมี่ยวอวยพี่ชายฉันขนาดนี้คิดอะไรอยู่กันแน่บอกมาเดี๋ยวนี้ “
“ ก็เอ่อก็ไม่มีอะไร “
“ แน่นะว่าไม่มีอะไร “
“ ที่จริงก็มีนิดหน่อย คือฉันแอบชอบรุ่นพี่เขาอยู่ “
“ นั้นไง ฉันคิดอยู่แล้วว่าแกอ่ะต้องชอบพี่เขาอยู่แน่ๆ อืมก็อย่างว่านะพี่เขาทั้งหล่อใจดีดูอบอุ่นเรียนก็เก่งเล่นบาสสุดยอดอีกสาวที่ไหนจะอดใจได้ “
“ อืม แล้วฉันต้องทำไงดีละ “ เมื่อได้ยินว่าสาวๆก็ชอบหลี่เซียนซุยเหมี่ยวก็เริ่มคิดหนัก
“ อืม……นั้นนะสิ ฉันว่าแกอย่าพึ่งคิดมากเลยเท่าที่ฉันเห็นพี่เซียนยังไม่ได้สนใจใครหรอก “
“ จริงด้วยนะยังไงก็ขออย่าให้รุ่นพี่ชอบใครเลยนอกจากฉันอิอิอิ “
“จ้าแล้ววันนี้ไปไหนมาตอนที่ฉันนั่งรถกลับบ้านเห็นแกยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถประจำทางด้วย “
“ ก็ไปซื้อของใช้นะแล้วก็อาหารเสริมมานิดหน่อย “
“ ห๊า!!!นี้แกกินอาหารเสริมด้วยเหรอ “
“ อือ ทำไมเหรอ “
บลาบลาบลาบลา
“ เหมี่ยวเอ๋อร์ดึกแล้วยังไม่นอนอีกเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ตื่นไปโรงเรียนไม่ทันหรอก “
“ จินม่าย งั้นแค่นี้ก่อนนะพรุ่งนี้เจอกันฝันดีนะ “
“ อืมเจอกันพรุ่งนี้ฝันดีนะ “
ทุกๆเช้าซุนเหมี่ยวจะตื่นมาออกกำลังกายทุกวันก่อนที่จะไปโรงเรียนและเมื่อกลับมาจากโรงเรียนก็จะมาทบทวนเนื้อหาที่เรียนในวันนั้น
เช้านี้ก็เหมือนกันเมื่อออกกำลังกายเสร็จก็อาบน้ำทานอาหารเช้าก่อนจะปั้นจักรยานไปที่โรงเรียน
วันนี้เป็นวันประกาศผลสอบสอบวัดระดับความรู้ในครั้งแรกที่เธอได้กลับมาใช้ชีวิตของเด็กสาวในวัยสิบเจ็ดปี ซุนเหมี่ยวรู้สึกตื่นเต้นมาก
ในชีวิตก่อนหน้านี้เธอมักจะสอบได้ที่ห้าร้อยกว่าเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้เธอได้ลุ้นกับคะแนนในครั้งนี้มาก
ตรงทางเดินไปยังห้องเรียนนั้นมีประกาศผลสอบติดไว้ให้สำหรับนักเรียนทุกคนได้มาดู ซึ่งตรงนี้มีนักเรียนหลายคนที่มุงดู หลายๆคนที่พอเห็นคะแนนก็มีทั้งดีใจและเสียใจ
และเมื่อซุนเหมี่ยวที่เดินเข้าไปดูผลสอบก็ปรากฏว่าเธอนั้นสอบได้ลำดับที่ สี่ร้อยกว่า ซุนเหมี่ยวที่อึ้งกับคะแนนก็เดินออกมาจากกลุ่มด้วยท่าทางตะลึง
จินม่ายที่เดินเข้ามาเห็นซุนเหมี่ยวอยู่ในอาการตะลึงเธอก็เข้าไปปลอบใจเพื่อนเพราะกลัวว่าซุนเหมี่ยวจะเสียใจ
“ ไม่เป็นไรหรอกนะก็แค่คะแนนสอบมั้ยไม่ได้มีแค่หนนี้หนเดียวนิ กว่าเธอจะจบก็ยังให้เธอมีโอกาสได้สอบแก้ตัวใหม่อยู่ “
ซุนเหมี่ยวหันมามองจินม่ายแล้วแสร้งทำเป็นว่าเธอนั้นเสียใจมากกับคะแนนสอบครั้งนี้
“ ม่ายม่าย ฉัน….ดีใจมากตั้งหากละเธอลองคิดดูนะเมื่อก่อนฉันสอบได้ที่ห้าร้อยกว่า ตอนนี้นะ..ฉันสอบได้ที่สามร้อยสี่สิบห้าเชียวนะ “
จินม่ายเมื่อได้ยินก็พลอยดีใจไปกับเพื่อนรักด้วย “ ฉันดีใจด้วยนะ เพื่อนฉันเก่งมาก “ ในระหว่างทางเดินไปยังห้องเรียนก็ได้สวนทางกับหลี่เซียนและหวังเฉิงชุน