Your Wishlist

Again 17 (รอนานใหม)

Author: ทองทิพย์

จำนวนตอน :

รอนานใหม

  • 10/06/2564

  

  เมื่อได้ยินที่ลูกสาวพูดแบบนั้นซุนเอ้อน์เหนียงก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัววันนี้บุตรสาวของเธอในวันนี้ดูแปลกๆไป แต่ก็นะรู้สึกดีมากอย่างบอกไม่ถูกเลยละนานแล้วที่เธอตั้งใจทำแต่งานไม่ค่อยได้ใส่ใจบุตรสาวคนนี้ ไม่ได้มีโมเม้นกอดกันแบบนี้นานมากจนจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่กอดกันคือวันไหน

 

    “ แม่ก็รักลูกมากเหมือนกันนะ แม่รักหนูมาก แม่ขอโทษลูกด้วยตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่คนนี้ไม่ค่อยจะมีเวลาให้มากเท่าที่ควร”

 

    “ไม่ค่ะ หนูรู้ว่าที่แม่ทำงานหนักทุกวันนี้ก็เพื่อหนู“ ซุนเอ้อร์เหนียงที่จัดโต๊ะเรียบร้อยแล้วก็กันหน้ามาหาซุนเหมี่ยวแล้วสวมกอดช่างเป็นอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นจากนั้นก็เอามือทั้งสองของเธอจับไปที่แก้มนวลของซุนเหมี่ยวแล้วบีบเบาๆ

 

    “ เอาล่ะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จะได้มาทานข้าวกัน”จากนั้นซุนเหมี่ยวก็หอมแก้มแม่ไปทีหนึ่งก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ในตอนแรกซุนเอ้อร์เหนียงก็ตกใจที่บุตรสาวหอมแก้มของตัวเอง ก่อนจะยิ้มในความน่ารักน่าเอ็นดูของบุตรสาว

 

  “ เด็กคนนี้ วันนี้มาแปลกๆ “ ซุนเอ้อร์เหนียงที่ได้แต่ส่ายหัวให้กับลูกสาวคนเดียวของเธอ

 

  “ อ่ะผัดหมูน้ำแดง กินเยอะๆจะได้แข็งแรง “

 

  “ ค่ะแม่ ผัดหมูน้ำแดงของแม่อร่อยที่สุดเลย “

 

  “ จ้าอร่อยก็กินเยอะๆไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วนหรอกเพราะว่าแกตอนนี้ผอมเกินไปจะไม่มีใครชอบจะต้องมีน้ำมีนวล “

 

  “แม่อ่ะ “ ซุนเหมี่ยวเมื่อได้ยินแบบนั้นก็เขินก็ได้แต่กินข้าวไปเงียบๆ แต่ส่วนลึกของจิตใจแล้ววันนี้เธอมีความสุขมาก

 

  “ หรือว่าลูกสาวแม่มีคนที่แอบชอบแล้วใช่ไหม เป็นลูกชายบ้านไหนเหรอบอกแม่มาเดี๋ยวแม่จะช่วยสแกนให้เอาใหม“ เมื่อมองไปที่หน้าลูกสาวที่แก้มแดงระเรื่อก็เอ๋ยปากถามด้วยความสงสัย

 

   “ แม่อ่ะไม่มีหรอกค่ะ กินข้าวกินข้าว เดี๋ยวก็เย็นหมดแล้วนะ “

 

  “ แน่นะว่าไม่มี “

 

  “ แม่….0_+ “

 

  “ ไม่มีก็ไม่มีสิทำไมหน้าต้องแดงขนาดนี้ด้วยห๊ะ ส่อมีพิรุธนะเราอ่ะ “ ซุนเอ้อร์เหนียงตักข้าวกินไปก็มองหน้าลูกสาวไปโตเป็นสาวแล้วสินะเด็กคนนี้เผลอแปปเดียวกาลเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก

 

   ทางด้านหลี่เซียนที่เดินออกมาจากห้องน้ำก็เดินมานั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือจากนั้นก็หยิบสมุดออกมาเปิดดูแบบร่างโครงสร้างของบ้านหลังหนึ่งที่เป็นบ้านสองชั้น ใต้ภาพได้มีลายเซ็นของคนที่ร่างแบบบ้านนี้  นั้นก็ไม่ใช่ใครแต่เป็นของแม่เขาเองที่ทิ้งไว้ให้กับเขาและยังเป็นแบบสุดท้ายก่อนที่จะมาจากไปให้เขาอยู่กับพ่อเพียงสองคนเท่านั้น

 

   “ เซียนทำอะไรอยู่ลงมากินข้าวได้แล้ว “ หลี่หานพ่อของหลี่เซียนที่ทำอาหารเสร็จก็ร้องเรียกหลี่เซียนลูกชายคนเดียวให้ลงมาทานข้าวเย็น

 

   หลี่หานที่นั่งรออยู่นั้นเมื่อเห็นว่าลูกลงมานั่งที่โต๊ะก็ตักข้าวให้

 

  “ ไงไอ้ลูกชายเป็นไงบ้าง มามามากินข้าววันนี้พ่อได้ทำผัดผัก แล้วก็ซุปปลาของชอบแกด้วย “

 

  “ ขอบคุณคับพ่อ “

 

  “ อืม แล้วนี้คิดไว้แล้วยังว่าจะสอบเข้าเรียนที่ไหน “

 

   “ ผมว่าจะเรียนคณะสถาปัตยกรรมมหาวิทยาลัยไห่เฉิง “

 

  หลี่หานนิ่งไปสักพักก่อนที่จะหันไปมองหน้าของหลี่เซียนก่อนที่จะถอนหายใจ 

 

  “ เห้อตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม “

 

 “คับ“

 

 

     ในเมื่อลูกชายนั้นได้ตัดสินใจดีแล้วเขาเองก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากถึงแม้ว่าลึกๆแล้วเขาไม่ต้องการที่จะให้ลูกชายของเขาเรียนคณะสถาปัตยกรรม นั้นก็เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้ดำเนินรอยตามแม่ของเขาที่ต้องมาจบชีวิตลงในขณะที่ปฏิบัติงานอยู่นั้นเอง

 

    หลี่เซียนเงยหน้ามองพ่อของตนที่เงียบไปหลังจากที่ได้ฟังคำตอบจากเขา ใบหน้าของพ่อเขาในตอนนี้ที่เคร่งเครียดคิ้วที่ขมวดเป็นปม เขารู้ว่าพ่อไม่ต้องการที่จะให้เขาเข้าเรียนคณะสถาปัตยกรรม เขาคิดว่าน่าจะมาจากสาเหตุที่แม่ของเขานั้นได้เสียชีวิตลงเนื่องจากตึกถล่มในครั้งนั้นนั่นเอง

 

   

     หลี่เซียนได้แต่บอกพ่อเขาผ่านทางสายตาว่าเขาจะไม่มีวันเป็นเหมือนกับแม่ของเขา เขาจะเอาความผิดพลาดจากแม่ของเขามาเป็นบทเรียน

 

   

     ที่ร้านไออุ่นซุนเหมี่ยวที่นั่งรอหลี่เซียนอยู่นั้นก็ได้มองเห็นหลี่เซียนเดินเข้ามา ผู้ชายอะไรทำไมถึงหล่อดูดีได้มากขึ้นขนาดนี้คนนี้แหละจะเป็นพ่อของลูกในชีวิตก่อนหน้านี้เธอได้ปล่อยโอกาสทองเช่นนี้ไป แต่ในตอนนี้ฉันจะต้องทำให้รุ่นพี่ชอบฉันให้ได้พ่อของลูกต้องเป็นเขาเท่านั้น

 

   หลี่เซียนที่หันมาเห็นซุนเหมี่ยวที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วก็เดินตรงไปหาพร้อมกับส่งยิ้มไปทักทาย

 

   “ รอนานใหม “ 

 

   “ ไม่ค่ะพึ่งมาถึงก่อนหน้ารุ่นพี่ได้สักพักเองค่ะ “ ซุนเหมี่ยวได้ส่ายหัว ถ้าเป็นรุ่นพี่นั่งรอเป็นชั่วโมงสบายๆอยู่แล้ว+_+

 

   “ เอออ…รุ่นพี่จะรับน้ำอะไรใหมค่ะ “ 

 

  “ อืม….น้ำเปล่าก็แล้วกัน “

 

  “ ได้เลยค่ะ “ ซุนเหมี่ยวเดินไปซื้อน้ำให้ตัวเองและซื้อมาให้กับหลี่เซียน

 

   “ ขอบใจ “

 

   

   ซุนเหมี่ยวก็กลับมานั่งลงที่ของตัวเองจากนั้นหลี่เซียนก็ได้เริ่มการสอนโดยในขั้นแรกเขาได้ทำการทดสอบความรู้ก่อนว่าซุนเหมี่ยวนั้นไม่รู้ไม่เข้าใจเนื้อหาที่ตรงไหนโดยเขานั้นเริ่มจากบทแรกเลยนั้นก็คือเรื่องเลขยกกำลังก่อนแล้วกัน

 

   “ เดี๋ยววันนี้เรามาเริ่มเรียนเรื่องเลขยกกำลังก่อนแล้วกันนะ “

 

  ซุนเหมี่ยวเปิดไปหน้าหนังสือเมื่อหลี่เซียนเห็นซุนเหมี่ยวที่หน้าเลขยกกำลังก็เข้าเรื่องสอนทันที

 

  “ ซุนเหมี่ยวดูตรงนี้นะอ่ะถ้า a เป็นจำนวนจริงและ n เป็นจำนวนเต็มบวก แล้ว a ยกกำลัง n หมายถึง….”หลี่เซียนได้ทิ้งช่วงไว้ก่อนจะเงยหน้ามองซุนเหมี่ยวเพื่อที่จะให้เธอตอบตรงที่เขาทิ้งช่วงไว้ 

 

    ซุนเหมี่ยวที่กำลังนั่งฟังอยู่นั้นเมื่อเห็นว่าหลี่เซียนนั้นหยุดพูดเธอก็ได้เงยหน้ามองหลี่เซียนด้วยความงุนงงว่าหยุดทำไมไม่ใช่ว่าจะให้เธอตอบหรอกนะ 0_0

 

   “ ซุนเหมี่ยว ซุนเหมี่ยว “

 

   “ ห๊ารุ่นพี่ว่าอะไรนะค่ะ… “ 

 

    หลี่เซียนได้ร้องเรียกเมื่อเห็นว่าซุนเหมี่ยวนั้นเอาแต่จ้องหน้าเขา ไม่ยอมตอบสักที ซุนเหมี่ยวเมื่อได้ยินเสียงเรียกก็สะดุ้งขึ้นมาทันทีหลังจากที่เธอนั้นเอาแต่จ้องมองหน้าของหลี่เซียน

 

   “ มีอะไรติดที่หน้าพี่อย่างงั้นเหรอ..” 

 

  “ อือ…ปละ…เปล่า..เปล่าค่ะเมื่อกี้รุ่นพี่ว่าอะไรนะค่ะ “

 

  “ พี่ว่าถ้า a เป็นจำนวนจริงและ n ที่เป็นจำนวนเต็มบวก เมื่อ a ยกกำลัง  n  หมายถึง…”

 

  “ เอ่อ….หมายถึง….หมายถึงอะไรเหรอค่ะ “ ซุนเหมี่ยวที่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเห้อใครจะไปจำได้ละผ่านมาก็ตั้งหลายปีแล้วอีกอย่างเมื่อก่อนเธอก็อ่อนวิชาคณิตศาสตร์ด้วย

 

  หลี่เซียนที่หวังว่าจะได้ยินคำตอบแต่ไหงได้ยินเป็นคำถามเขากลับมาได้ถึงกับยิ้มให้กับคำถามของเธอแต่นี้เธอไม่รู้จริงๆใช่ไหม ในตอนแรกเขานั้นคิดว่าเธออาจจะไม่ค่อยเก่งแต่นี้อะไรเธอไม่รู้เลย เขาถึงกับอุทานในใจ เฮ้ยเอาแล้วใหมละงานยากเลยทีนี้ เอาวะไหนๆก็ไหนๆแล้วพี่จะสอนเธอให้เก่งจนได้สิน่า 

 

   หลี่เซียนที่จ้องมองเข้าไปในดวงตาของซุนเหมี่ยวในความใสซื่อนั้นทำให้เขาได้เกิดความสงสารขึ้นมา

    

   “ อือ…..” หลี่เซียนกำลังคิดว่าจะอธิบายยังไงซุนเหมี่ยวถึงจะเข้าใจถึงโครงสร้างของเลขยกกำลังอย่างง่ายๆ

 

  “ เอาอย่างนี้แล้วกัน อย่างเช่น a ยกกำลังสองก็จะเท่ากับ a คูณ a ก็คือ a คูณกันอยู่สองตัว พอจะเข้าใจใหม 

    อย่างห้าที่ยกกำลังสามนั้นก็คือห้าที่คูณกันสามตัวนั้นเอง “เมื่ออธิบายเสร็จก็หันมามองซุนเหมี่ยวที่ตอนนี้กำลังตั้งใจฟังหลี่เซียนที่อธิบายถึงโครงสร้างของตัวเลข

 

   “ อ๋อ…เข้าใจแล้วค่ะ อย่างเช่นหกยกกำลังสี่ก็จะเป็นหกคูณกันอยู่หกตัวใช่ไหมค่ะ

 

  “ ใช่แล้ว “ หลี่เซียนที่พยักหน้าให้กับซุนเหมี่ยวพร้อมส่งยิ้มให้กับเธอ ทั้งสองคนที่นั่งสบตากันก่อนจะหันไปสนใจกับหนังสือ 

 

   คนหนึ่งที่ตั้งใจสอนอีกคนก็ตั้งใจเรียนจนเวลาล่วงเลยจนเกือบจะห้าโมงเย็นแล้ว

 

   ครืดดดดดดด ครืดดดดด 

 

   ซุนเหมี่ยวมองไปยังโทรศัพท์ก็เห็นว่าเป็นแม่ของเธอที่โทรเข้ามานั้นเอง

 

   “ ฮัลโลค่ะแม่….ตอนนี้หนูอยู่ที่ร้านไออุ่นหน้าโรงเรียนค่ะแม่…ค่ะอีกเดี๋ยวก็จะกลับแล้วค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะหนูดูแลตัวเองได้…ค่ะแม่ “

   

    หลี่เซียนเองก็มองดูเวลาเมื่อเห็นว่าเย็นมากแล้วจึงได้บอกกับซุนเหมี่ยวและตัวเขาเองก็เริ่มเก็บปากกาสมุดหนังสือใส่กระเป๋า

 

    “ นี้ก็เย็นมากแล้วพี่ว่าวันนี้เราพอแค่นี้กันก่อนเถอะเหมี่ยวเหมี่ยวอย่าลืมโจทย์ที่พี่ให้ไปนะพรุ่งนี้ทำมาส่งด้วยละ “

 

    “ ค่ะ..วันนี้ขอบคุณรุ่นพี่มากเลยนะค่ะที่ช่วยติวให้เข้าใจง่ายกว่าที่คุณครูสอนอีก “

 

   “ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพี่จะมาสอนดีกว่าคุณครูได้ยังไงกัน “ หลี่เซียนยิ้มที่มุมปาก

 

   เมื่อเก็บหนังสือเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งสองก็พากันเดินออกไปจากร้านไออุ่นมายืนที่หน้าร้าน

 

    “ อย่าลืมทำการบ้านละแล้วพรุ่งนี้เอามาส่งด้วย แล้วก็เดินกลับบ้านดีๆนะ “

 

   “ รับทราบแล้วค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะค่ะบ๊ายบาย “

 

  หลี่เซียนเดินตรงไปที่จักรยานคันเก่งไขกุญแจที่ล็อกรถก่อนจะปั่นออกไปจนลับสายตา

1
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป