สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน
สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน
สองผัวเมียตระกูลหลิว เมื่อขึ้นมาบนบ้านเห็นระเบียงกว้างขวาง เข้ามาในตัวบ้านก็เห็นความโอ่อ่ากว้างขวางของห้องโถง โต๊ะรับแขกที่มีเบาะรองนั่งกับที่พิงหลังก็ให้แปลกใจเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน การออกแบบดูแปลกตา ถึงในบ้านจะไม่มีของประดับราคาแพงแต่ก็ดูดี เมื่อหว่าหวาเอาน้ำชามาวางให้แล้ว จึงเดินไปตามท่านแม่
"ท่านพี่ตอนที่มองจากด้านนอกข้าเห็นว่าบ้านหลังใหญ่ ไม่คิดว่าพอเข้ามาแล้วจะกว้างขวางเช่นนี้ เบาะรองนั่งกับที่พิงหลังนี่ก็สวยงามแปลกตา ไม่คิดว่าพวกนางจะสร้างบ้านหลังใหญ่โตเช่นนี้" ฮูหยินรองกล่าวกับสามี
"ข้าก็ไม่คิดเหมือนกัน"
ท่านแม่และหว่าหวาเดินเข้ามา ก็นั่งฝั่งตรงข้ามกับสองคน
"ท่านทั้งสองมาหาข้า มีธุระอันใด" ท่านแม่ถามขึ้นมา
"จือชิง ที่พวกเรามาหาเจ้าเพราะอยากจะขอโทษ และจะพาเจ้าและลูกๆ กลับไปสกุลหลิวของเรา" พ่อของหว่าหวาพูดขึ้น
ท่านแม่รู้จากหว่าหวามาก่อนแล้วจึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจ แต่ก็ยังไม่ตอบทันที
"ที่จริงพวกเราก็ออกมาจากตระกูลหลิวแล้ว และไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ถึงแม้ตอนนี้พวกเราจะสบายแล้วแต่ก็ไม่ลืมความยากลำบากที่ผ่านมา ข้าจะไม่กลับไปตระกูลหลิวกับพวกท่าน" ท่านแม่พูดแบบไม่อ้อมค้อม
"ข้าขอโทษเจ้าจริงๆ จือชิง ที่ไม่ฟังเจ้าอธิบายก็ขับไล่เจ้ากับลูกๆ ออกมา แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด เป็นข้าที่ผิดเองขอให้เจ้ายกโทษให้ข้าด้วย เรากลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันเหมือนเดิมเถอะนะ จือชิง"
"ข้าก็ต้องขอโทษเจ้าด้วยเช่นกัน จือชิง ที่ไปบอกท่านพี่ว่าเจ้าคบชู้ เจ้ายกโทษให้ข้าด้วยนะ แล้วพวกเราก็กลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมเถิด" ทั้งสองคนช่วยกันพูดให้ท่านแม่กลับไปสกุลหลิวอีก
"ตอนนี้ข้าไม่ถือโทษพวกท่านแล้ว แต่ถึงอย่างไรข้าก็ไม่กลับไปสกุลหลิวอีก พวกท่านอย่าได้เสียเวลาเลย" ท่านแม่บอก
หว่าหวาไม่ได้พูดเสริมเลยได้แต่นั่งฟัง และแอบคิดในใจ "อย่าหวังนะว่าท่านแม่ของข้าจะใจอ่อน"
ท่านป้าลี่เข้ามาทำความสะอาดบ้านเห็นมีแขกจึงเดินไปที่ห้องครัวก่อน
"เจ้ายังไม่กลับสกุลหลิวตอนนี้ไม่เป็นไร จือชิง วันนี้พวกเราจะกลับไปก่อนแล้วจะมาหาเจ้าใหม่วันหลัง" ฮูหยินรองพูดขึ้นมา
"ข้าไม่ส่งนะ หว่าหวาลูกเดินไปส่งพวกเขาหน่อย" ท่านแม่บอก
หว่าหวาเดินนำพวกเขาออกจากห้องโถงไป เมื่อถึงระเบียงก่อนลงบันไดจึงพูดขึ้นว่า
"พวกท่านอย่าเสียเวลามาอีกเลยเพราะคำตอบของพวกเราก็คือ ไม่กลับไปอยู่ตระกูลหลิว พวกท่านก็เห็นว่าเราไม่ได้ลำบากอะไร ข้าต้องขอตัวก่อน" แล้วหันไปบอกท่านลุงลี่
"ท่านลุงลี่เจ้าคะ ฝากส่งนายท่านทั้งสองนี้ด้วยเจ้าค่ะ"
"ขอรับคุณหนู เชิญนายท่านทั้งสองขอรับ"
เมื่อเดินมาถึงรถม้า ฮูหยินรองถามท่านลุงลี่ว่า
"เจ้าเป็นบ่าวรับใช้พวกนางมานานแล้วหรือ"
"ไม่นานขอรับ ข้าน้อยต้องขอตัวก่อนนะขอรับ" พูดจบท่านลุงลี่ก็ทำความเคารพและเดินเข้าประตูไป
เมื่อรถม้าขับออกไปแล้ว ภายในรถม้าสองสามีภรรยาตระกูลหลิวก็คุยกัน
"ท่านพี่ ท่านต้องมาอีกนะเจ้าคะ ยังไงเราต้องเอาพวกนางกลับมาตระกูลหลิวของเรา ยังไงท่านก็เป็นพ่อของพวกเด็กๆ ถึงท่านจะไม่รักนางและลูกๆ ก็ตาม (ท่านพ่อต้องแต่งกับท่านแม่เพราะตอนที่ท่านพ่อไปทำงานแล้วเดินทางไปตำบลต้นน้ำ บังเอิญมีเหตุให้ต้องถูกเนื้อต้องตัวท่านแม่จึงจำเป็นต้องแต่งงานด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วท่านพ่อมีฮูหยินรองเป็นคนรักอยู่แล้ว)
"แล้วข้าจะลองมาอีก แต่ถ้าเราทำวู่วามก็อาจจะเกิดผลเสียได้เพราะเราได้ตกลงทำสัญญากันไว้แล้ว ข้าไม่อยากให้หน้าที่การงานของข้ามีปัญหา"
หว่าหวาเดินไปดูแปลงกุหลาบที่ท่านลุงชุนปลูกไว้ บอกลุงชุนให้หาซื้อมูลวัวตามบ้านที่เลี้ยงวัวแล้วนำไปรวมไว้ที่ไร่ตรงจุดที่ท่านลุงลี่ไม่ได้ปลูกข้าวโพดถ้ายังเปียกก็เอาตากให้แห้ง ส่วนที่แห้งเรากองรวมกันไว้ แล้วฝากให้ไปบอกท่านลุงเหยียนให้ช่วยมาทำหลังคากันแดดกันฝนให้ด้วย ซึ่งหว่าหวาจะวาดแบบให้ เพราะหว่าหวาจะเอาไว้เก็บปุ๋ยหมัก และให้เก็บต้นข้าวโพดที่แห้งมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ แยกไว้ด้วย หว่าหวาจะทำปุ๋ยหมักไว้ใช้
วันนี้หว่าหวาทำหมี่กรอบราดหน้าให้ท่านพ่อท่านแม่ใหญ่ และพนักงานกินซึ่งแน่นอนว่าได้รับคำชมว่าอร่อย ท่านลุงจิ่วหวางพ่อครัวบอกว่าน่าจะเปิดร้านขายหมี่กรอบราดหน้าอีกร้านหนึ่ง หว่าหวาจึงบอกว่าในอนาคตอาจจะเปิดร้าน "ราดหน้าฟู่ซิง" ก็ได้
"คุณหนูขอรับมีลูกค้าห้องพิเศษ 1 ต้องการพบคุณหนูขอรับ" พนักงานเข้ามาบอกหว่าหวาที่ห้องทำงาน
"ขอบใจมาก เดี๋ยวข้าออกไป" หว่าหวาบอกพนักงาน
เมื่อเคาะประตูและเปิดประตูเข้าไปในห้องพิเศษ 1 ก็เห็นคุณหนูหลิวมี่ฮวานั่งอยู่
"หว่าหวาเจ้ามาแล้ว มา มา นั่งก่อนข้ามีเรื่องอยากคุยกับเจ้า"
"เจ้ารีบว่าธุระของเจ้าเถิด ข้ายังมีงานที่ต้องทำอีกหลายอย่าง อีกอย่างหนึ่งเจ้าเองก็ไม่ได้ชอบข้า เหตุใดจึงอยากคุยกับข้า" หว่าหวาถามออกไป
"แหม นั่นมันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ข้าไม่เป็นแบบนั้นแล้ว" หว่าหวาได้ยินแล้วก็รู้สึกได้ถึงการเสแสร้างของนาง
"ข้าอยากให้พวกเจ้ากลับไปตระกูลหลิวจริงๆ พวกเราจะได้อยู่กันเป็นครอบครัวเหมือนเดิมไง"
"ท่านแม่ ข้า และน้องๆ ได้บอกไปแล้วว่าไม่กลับไปตระกูลหลิวอีกอย่าเสียเวลาเลย"
"แล้วทำอย่างไร พวกเจ้าถึงจะยอมกลับไปตระกูลหลิว"
"ไม่ต้องทำอะไร เพราะอย่างไรพวกเราจะไม่กลับไป หากเจ้ามาเพื่อพูดเรื่องนี้ ก็ได้รับคำตอบไปแล้ว ข้าต้องขอตัวก่อนเพราะมีงานที่ต้องทำอีกมากมาย" หว่าหวาพูดจบก็ลุกเดินออกไป
"เชอะ....ให้มันรู้ไปข้าจะมาหาเจ้าแบบนี้เรื่อยๆ ดูว่าเจ้าจะใจแข็งไปได้นานแค่ไหน" คุณหนูหลิวมี่ฮวาพูดหลังจากหว่าหวาออกไปแล้ว
เมื่อออกจากห้องมาหว่าหวาเข้ามาในห้องทำงาน "พวกนี้ไม่ยอมเลิกราเสียทีน่าเบื่อจริงๆ ในโลกก่อนไม่เคยเจอคนตามตื๊อแบบนี้เจอแต่ผู้ชายตามตื๊อ ... แต่ช่างเถอะจะมาแบบไหนหว่าหวารับได้ทุกรูปแบบ แล้วมาดูกันว่าใครจะมีความอดทนมากกว่ากัน"
ผ่านไปประมาณ 2 เค่อ พนักงานเข้ามาบอกหว่าหวาว่ามีลูกค้าห้องพิเศษ 4 ต้องการพบ เมื่อหว่าหวาเข้าไปในห้องก็เห็นผู้ชาย 2 คนนั่งอยู่ในห้อง คนหนึ่งวัยเดียวกับท่านพ่อ และอีกคนดูอ่อนกว่าน่าจะ 20 ปีต้นๆ
"ไม่ทราบว่าท่านทั้งสอง มีธุระอันใดกับข้า" หว่าหวาถามเมื่อเข้าไปในห้อง
"เชิญแม่นางนั่งก่อน" ชายที่สูงวัยกว่าพูดขึ้น
"แม่นางคงสงสัยว่าพวกเราเป็นใคร ท่านนี้คือนายน้อยของเรานามว่า เหว่ยต้าเกอ ส่วนข้าเป็นหลงจู๊ของร้านชื่อว่า จิ่นวู่ฟง พวกเรามาจากอำเภอฉางกวางเมื่อหลายวันก่อน พอดีมาติตต่อการค้าที่อำเภอฉางซินนี้และได้ยินผู้คนล่ำลือถึงร้านฟู่ซิงกันก็เลยมาลองชิมดู" หลงจู๊พูดขึ้นมา แล้วคุณชายน้อยก็พูดต่อ
"รสชาติก๋วยเตี๋ยวที่ร้านฟู่ซิงทำนั้นดีมาก ไม่แปลกใจเลยที่ลูกค้าแน่นร้านตลอดเวลา ถึงแม้จะต้องนั่งรอก็ยอม"
"พวกเราทำการค้าข้าวสารอาหารแห้งอยู่ที่ฉางกวาง อยากจะเปิดร้านฟู่ซิงที่นั่นบ้าง แม่นางคิดเห็นเช่นไร"