Your Wishlist

ได้เกิดใหม่ ขอเป็นเถ้าแก่เนี้ย (ตระกูลหลิวจอมป่วน (1))

Author: Lucky Lady

สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน

จำนวนตอน : N/A

ตระกูลหลิวจอมป่วน (1)

  • 11/07/2564

 

พวกท่านมีอะไรก็พูดมาเถอะ ข้ารอฟังอยู่" หว่าหวาบอก เพราะเห็นทั้งสองคนนั่งมองหน้ากันไปมาไม่มีใครพูดสักที

 

ฮูหยินรองจึงพูดขึ้นว่า "หว่าหวา คือ....พวกเราตระกูลหลิวอยากรับพวกเจ้าทั้ง 5 คนกลับมาอยู่ด้วยกัน เจ้าเห็นว่าอย่างไร"

 

หือ!!!! แบบนี้ก็ได้เหรอ ไล่เขาออกไปแล้วคิดจะรับกลับเนี่ยนะ ไม่ง่ายไปหน่อยหรือ หว่าหวาคิดในใจ

 

"พูดไปก็แปลก ครั้งก่อนที่เจอกันพวกท่านยังร้องขอให้พวกข้าต้องมีความกตัญญูต่อท่านซึ่งเป็นบิดาอยู่เลย อีกทั้งพวกเรายังมีหนังสือที่ศาลออกให้ว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกันอีก พวกท่านลืมไปแล้วหรือย่างไร" หว่าหวาพูดขึ้นมา

 

"แต่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดอย่างไรก็ตัดไม่ขาดนะลูก" หลิวมี่อิงพูดบ้าง

 

"ตอนที่ท่านไล่พวกเราออกจากตระกูล มิใช่เป็นการตัดความสัมพันธ์กันหรือไร ทำไมตอนนั้นท่านไม่คิดแบบนี้บ้าง"

 

"ตอนนั้นเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ทำให้พ่อตัดสินใจแบบนั้นไป แต่ตอนนี้พ่อไม่ได้คิดเช่นนั้นแล้ว พวกเจ้าคงอยู่กันอย่างแออัด มาอยู่ที่จวนตระกูลหลิวด้วยกันเถอะ"

 

"พวกเราหาได้อยู่อย่างแออัดไม่ และคงไม่สะดวกไปอยู่จวนตระกูลหลิว" หว่าหวาบอก

 

"ข้าก็เช่นกัน จะไม่ไปอยู่จวนตระกูลหลิว" น้องรองก็บอกเหมือนกัน

 

หว่าหวาไม่รอให้พวกเขาพูดอะไรอีกจึงพูดขึ้นว่า "หากพวกท่านมีธุระเพียงเท่านี้ พวกเราคงต้องขอตัวเพราะมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก"

 

แล้วก็พยักหน้ากับน้องรอง ลุกขึ้นเดินออกไป

 

"ท่านพี่ ท่านต้องเอานางกลับเข้ามาตระกูลหลิวให้ได้นะเจ้าคะ ข้าได้ยินฮูหยินฉีเล่าว่าพ่อแม่บุญธรรมของนางให้นางจัดการทุกอย่างในร้านฟู่ซิง แม้แต่เรื่องเงิน แล้วอีกอย่างท่านก็รู้ว่าตอนนี้จวนเรามีแต่รายจ่าย รายได้มีเพียงเล็กน้อยตั้งแต่ที่มีรองนายอำเภอคนใหม่มา"

 

"พรุ่งนี้ข้าจะไปบ้านจือชิงที่นอกเมืองแต่เช้า นางน่าจะคุยง่ายกว่าลูกสาว"

 

"ข้าจะไปช่วยพูดกับนางอีกเสียงหนึ่งเจ้าค่ะ" สองสามีภรรยาวางแผนกันว่าจะพูดอย่างไรเมื่อไปถึงบ้านของหว่าหวา

 

เมื่อหว่าหวากลับถึงบ้าน ก็ให้น้องรองไปเก็บข้าวโพดอ่อนที่ไร่มาจำนวนหนึ่ง ส่วนเธอเดินขึ้นบ้านก็เห็นน้องสามสอนน้องเล็กและน้องลี่เฉียนคัดอักษรอยู่ในห้องโถงจึงเดินไปหาแล้วบอกว่า

 

"เย็นนี้พี่จะทำ ราดหน้าหมี่กรอบ ให้ทุกคนชิม น้องลี่เฉียนวันนี้อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันแล้วข้าจะไปส่งกลับบ้านนะ"

 

"ขอรับพี่ใหญ่" น้องลี่เฉียนตอบรับ (น้องลี่เฉียนจะเรียกทุกคนในบ้านตามน้องเล็ก ยกเว้นท่านแม่จะเรียกว่าท่านน้าจือชิง)

 

หว่าหวาเข้าครัวเพื่อหมักหมูก่อน แต่พอเห็นว่าหมูที่ซื้อมาน่าจะทำราดหน้าได้มากพอสมควรจึงคิดว่าจะชวนครอบครัวท่านลุงลี่อยู่กินอาหารเย็นด้วยกันทั้งหมด เมื่อน้องรองกลับมาพร้อมข้าวโพดอ่อนจึงบอกให้ไปที่โรงงานเพื่อบอกท่านลุงลี่ให้อยู่กินข้าวเย็นด้วยกัน เมื่อท่านแม่กลับมาถึงก็เข้าไปในครัวเพื่อจะช่วยหว่าหวาทำอาหาร แล้วบอกกับหว่าหวาว่า

 

"วันนี้ท่านป้าชุนมาถามแม่ว่า ยังมีงานอะไรให้ท่านลุงชุนทำบ้างหรือไม่ แม่บอกให้เขามาพรุ่งนี้เช้า ลูกมีงานอะไรให้ท่านลุงชุนทำบ้างไหมหว่าหวา"

 

"ปกติท่านลุงชุน ก็ช่วยท่านป้าชุนปลูกผักใช่หรือไม่เจ้าคะท่านแม่"

 

"ใช่ แต่ขายผักให้บ้านเราแล้วก็ไม่ได้ไปขายที่ในเมืองอีก"

 

"ถ้าเช่นนั้น ข้าจะให้ท่านลุงชุนมาช่วยปลูกและดูแลต้นท้อ และกุหลาบที่ข้าเพาะชำไว้นะเจ้าคะ ให้ค่าแรงเท่ากับคนงานที่โรงงานคือวันละ 50 อีแปะ ท่านแม่อย่าลืมบอกเรื่องหนังสือที่ต้องลงนามเมื่อมาทำงานที่บ้านเราให้ท่านลุงชุนทราบนะเจ้าคะ" (หว่าหวาขึ้นค่าแรงให้คนงานมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะที่ร้านต้องการลูกชิ้นกับปลาเส้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีลูกค้าที่ติดใจรสชาติความอร่อยจึงขอซื้อกลับไปบ้านด้วย) จากนั้นหว่าหวาก็เล่าเหตุการณ์วันนี้ที่ได้เจอท่านพ่อให้ท่านแม่ฟัง

 

"สำหรับแม่แล้วก็ไม่คิดที่จะกลับไปตระกูลหลิวอีกแล้วเหมือนกัน ตอนนี้แม่เห็นลูกๆ มีความสุขแม่ก็ไม่คิดอะไรอีกแล้ว"

 

สองแม่ลูกจึงช่วยกันทำราดหน้า หว่าหวาเริ่มทอดบะหมี่ก่อน เมื่อเสร็จแล้วจึงทำน้ำราดหน้า เนื่องจากไม่มีผักคะน้าจึงใช้ข้าวโพดอ่อนแทน ท่านแม่เป็นคนชิม เมื่อทำเสร็จแล้วก็ยกมาที่โต๊ะกินข้าวท่านแม่จึงไปเรียกทุกคนมากิน หว่าหวาบอกทุกคนอีกครั้งว่ามันคือ ราดหน้าหมี่กรอบ ท่านแม่เอาหมี่กรอบใส่จาน หว่าหวาตักน้ำราดหน้าใส่แล้วส่งให้ทุกคน

 

"พี่ใหญ่ ราดหน้าหมี่กรอบ นี้อร่อยจริงๆ ขอรับ" คราวนี้เป็นน้องลี่เฉียนที่พูดขึ้นมาก่อน

 

"จริงด้วยพี่ใหญ่ มันอร่อยมาก" น้องเล็กพูดเสริม ทุกคนก็บอกว่าอร่อยเช่นกันเพราะไม่เคยเห็นและไม่เคยกินมาก่อน อาหารมื้อเย็นนี้จบลงพร้อมกับราดหน้าก็หมดไปด้วย

 

เช้าวันต่อมาหว่าหวาตื่นขึ้นมาสอนน้องๆ เหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้น้องลี่เฉียนขอตามพี่ลี่ชุนมาด้วย หว่าหวาจึงให้เริ่มต้นแบบง่ายๆ ก่อน และพยายามเน้นย้ำกับทุกคนว่า เราเรียนไว้เพื่อป้องกันตัวไม่ใช่เอาไว้คอยรังแกผู้อื่น

 

หลังกินอาหารเช้าแล้วหว่าหวากำลังจะเดินไปหลังบ้านเพื่อให้อาหารพี่ม้าทั้ง 3 ตัว ท่านลุงชุนก็เดินมาพอดี

 

"แม่หนูหว่าหวา แม่ของเจ้าอยู่หรือไม่"

 

"ท่านแม่อยู่บนบ้านเจ้าค่ะ ท่านลุงชุนมาเรื่องงานใช่หรือไม่เจ้าคะ"

 

"ใช่ ใช่ ลุงมาถามเรื่องงาน"

 

"เช่นนั้น ท่านลุงมากับข้าเลยเจ้าค่ะ" หว่าหวาบอกแล้วเดินนำท่านลุงชุนไปยังบริเวณหลังบ้าน โดยบอกว่าให้ท่านลุงชุนรับผิดชอบดูแลต้นท้อที่ปลูกรอบๆ รั้ว และต้นกุหลาบที่เพาะชำไว้ ซึ่งยังไม่ได้ลงดิน ถ้ามีเวลาว่างก็ให้ไปช่วยที่โรงงานว่าพอจะทำอะไรได้บ้าง และต้องรับทราบข้อตกลงก่อนทำงานด้วย ท่านลุงชุนยินดีทำตามข้อตกลงและบอกว่าจะขอเริ่มงานวันนี้เลย

 

กำลังจะเดินขึ้นเรือนท่านลุงฝางก็เดินมาหา

 

"แม่นางหว่าหวา มีคนมาพบท่านแม่ของเจ้าเขามาที่โรงงาน ข้าเลยพามาที่นี่ เขานั่งอยู่บนรถม้าคันนั้น" ท่านลุงฝางบอกหว่าหวาพร้อมกับชี้ไปที่รถม้าที่จอดอยู่ด้านนอกประตูรั้ว

 

หว่าหวาเดินไปที่ประตูรั้ว แล้วก็เห็นท่านพ่อของเธอและฮูหยินรองกำลังลงมาจากรถม้า

 

"หว่าหวา นี่พวกเจ้าปลูกบ้านใหม่หรือ หลังใหญ่โตทีเดียว" ท่านพ่อถามหว่าหวาพร้อมกับมองเข้าไปยังบริเวณบ้าน ส่วนฮูหยินรองก็กวาดตามองตัวบ้านและบริเวณบ้านที่กว้างใหญ่ แอบคิดว่าบ้านใหญ่โตเช่นนี้คงหมดเงินไปไม่น้อยเป็นแน่

 

"ท่านแม่ของเจ้าล่ะ พ่อมีเรื่องจะคุยกับท่านแม่ของเจ้า"

 

"ท่านแม่อยู่บนเรือน สักครู่คงลงมา" หว่าหวาบอก

 

"เจ้าจะไม่เชิญพวกเราขึ้นเรือนเลยหรือ" ฮูหยินรองพูดขึ้นมา

 

"ข้าขอบอกไว้ก่อนว่าเรือนของพวกเราไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกับจวนของพวกท่านนะ" เพื่อเป็นการไม่เสียมารยาทเกินไป หว่าหวาจึงต้องพาทั้งสองขึ้นเรือนไปแล้วเชิญไปนั่งที่โถงรับรองแขก

 

"พวกท่านนั่งก่อน เดี๋ยวข้าจะไปเอาชามาให้ และจะไปตามท่านแม่" หว่าหวาพูดแล้วเดินไปหยิบชา คิดในใจว่า “ไม่อยากจะเสวนากับพวกตระกูลหลิวเลย นี่ขนาดข้าพูดแบบไม่ให้ความเคารพแล้วยังไม่รู้สึกอะไรกันเลยหรือ”

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป