สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน
สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน
เมื่อจะส่งน้องเล็กไปสถานศึกษา หว่าหวาจึงคิดว่าควรจะสอนวิชาป้องกันตัวให้น้องเล็กบ้างเผื่อโดนรังแก จึงบอกน้องเล็กก่อนเข้านอนว่า พรุ่งนี้จะมาปลุกแต่เช้าเพื่อพาไปออกกำลังกาย
เมื่อมีห้องของตัวเอง หว่าหวาเอาครีมบำรุง โลชั่น และยาต่างๆ ออกมาจากกระเป๋าเป้ พรุ่งนี้จะไปหากล่องสำหรับใส่ยาสามัญประจำบ้าน และบอกให้ทุกคนรู้คุณสมบัติของยาแต่ละอย่าง
เมื่อเปิดไดอารี่ลงรายการรายได้แล้ว หว่าหวาจึงนึกขึ้นได้ว่าจะเอาลูกท้อมาทำอะไร อย่างแรกคือพรุ่งนี้เช้าไปหาซื้อตะกร้าที่บ้านท่านลุงฝางเพื่อเอามาใส่ลูกท้อให้ ท่านพ่อท่านแม่ใหญ่ ให้ท่านอ๋องและพระชายา ให้ท่านนายอำเภอ และให้ท่านรองนายอำเภอ ส่วนที่เหลือลองทำลูกท้อลอยแก้ว และทำเหล้าลูกท้อสัก 1 ไหดีกว่าเพราะตอนที่ได้ไปออกค่ายอาสาทางเหนือมีชาวบ้านเคยเอามาให้ชิม เหล้าลูกท้อรสชาติไม่ขมเหมือนเหล้าทั่วๆ ไป คล้ายๆ กับไวน์ ซึ่งชาวบ้านก็พาไปดูวิธีทำแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียด (ในโลกก่อนของเธอเรียกว่าลูกพีช) ต้องหมักไว้ 1 ปีถึงจะได้เหล้าที่มีรสชาติดี อีกอย่างหนึ่งเท่าที่เธอรู้มาจากโลกก่อน คนจีนถือว่าลูกท้อเป็นผลไม้สวรรค์ เพราะมีชื่อเสียงเกี่ยวกับเทพเจ้าผู้เป็นอมตะในตำนานจีนโบราณ อีกทั้งยังสื่อถึงความมั่งคั่งร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง ความอุดมสมบูรณ์ อายุยืนยาว และความเป็นอมตะด้วย โดยดอกท้อจะสื่อถึงโชคลาภ ลูกท้อสื่อถึงความอมตะ ต้นท้อสื่อถึงอายุยืนยาว และกลีบดอกท้อสื่อถึงความรักและความสุข
เช้าวันต่อมาหว่าหวาไปปลุกน้องเล็ก ส่วนน้องรองและน้องสามก็เตรียมตัวพร้อมแล้ว เมื่อเดินไปยังลานฝึกพี่ลี่ชุนก็เดินมาพอดี หว่าหวาให้น้องเล็กวิ่งช้ารอบลานฝึกไปก่อน 5 รอบ ส่วนตัวเธอก็สอนมวยไทยกับน้องๆ ต่อ เมื่อน้องเล็กวิ่งครบ 5 รอบและพักสักครู่แล้วหว่าหวาจึงเริ่มสอนตามสเต็ป เมื่อฝึกเสร็จแล้ว หว่าหวาชวนน้องรองไปบ้านท่านลุงฝางเพื่อหาซื้อตะกร้า
หลังอาหารเช้า หว่าหวาจัดลูกท้อใส่ตะกร้าโดยเอาผ้าขาวบางรองก่อน และตัดเศษผ้าสีแดงมาผูกโบว์ที่หูหิ้ว
"หว่าหวา ลูกจะเอาตะกร้าลูกท้อไปไหน" ท่านแม่ถาม หว่าหวาจึงบอกไปว่าจะเอาไปให้ใครบ้าง และบอกว่าส่วนที่เหลือจะทำไวน์ลูกท้อ เย็นนี้จะกลับมาทำเพราะตอนนี้ในบ้านไม่มีเหล้า
หลังจากเอาของส่งที่ร้านแล้ว หว่าหวาให้ท่านลุงฝางขับรถม้าไปที่จวนท่านนายอำเภอ เมื่อบอกกับเจ้าหน้าที่ด้านหน้าแล้วก็ยืนรออยู่หน้าจวน เมื่อสาวใช้เดินมารับจึงเดินตามไปพร้อมกับน้องรอง
"ถวายพระพร พระชายาเพคะ / พะยะค่ะ"
"คารวะ ฮูหยินท่านนายอำเภอเจ้าค่ะ / ขอรับ" หว่าหวากับน้องรองพูดพร้อมกัน
"ไม่ต้องมากพิธี" พระชายาบอก
"ขอบพระทัยเพคะ / พะยะค่ะ" หว่าหวากับน้องรองขอบคุณพระชายา แล้วนำกระเช้าไปวางบนโต๊ะตรงหน้าพระชายา
"หม่อมฉันนำลูกท้อมาถวายพระชายาเพคะ"
จากนั้นนำอีก 1 ตะกร้าไปวางข้างหน้าฮูหยินท่านนายอำเภอ "และนำลูกท้อมาให้ฮูหยินท่านนายอำเภอด้วยเจ้าค่ะ"
พระชายาเมื่อเห็นลูกท้อเต็มตะกร้าก็ให้รู้สึกแปลกใจ เพราะปกติลูกท้อนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ และก็มีราคาแพง แล้วคนทั่วไปน้อยคนนักที่จะรู้จัก ส่วนใหญ่มีแต่ในวันและพวกขุนนางเท่านั้นที่รู้จัก แล้วการที่เอาผ้ามาผูกที่หูตะกร้าก็เพิ่งเคยเห็นทำให้ตะกร้าสวยแปลกตา ฮูหยินท่านนายอำเภอก็เช่นกันตั้งแต่มาอยู่ที่อำเภอนี้ไม่เคยเห็นลูกท้อมาก่อน
"เจ้าเอาลูกท้อนี้มาจากไหนกัน มันเป็นผลไม้ที่หายากและราคาแพงทีเดียวนะ" พระชายาถามหว่าหวา
"หม่อมฉันไปเจอบนภูเขาเพคะ เลยเก็บมาตะกร้าหนึ่งลองกินแล้วเห็นว่ามันหอม หวาน จึงนำมาให้พระชายา ฮูหยินท่านนายอำเภอ และฮูหยินท่านรองนายอำเภอด้วยเพคะ"
"ขอบใจเจ้ามาก ที่นึกถึงเรา"
"หากพระชายาชอบ วันหลังถ้าหม่อมฉันได้ขึ้นไปบนเขาอีก จะเก็บมาถวายอีกนะเพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันทูลลาเพคะ" หว่าหวาพูดแล้วทำความเคารพพระชายา และฮูหยินท่านนายอำเภอ น้องเล็กก็ทำความเคารพเช่นกัน
จากนั้นสองพี่น้องก็ไปที่จวนท่านรองนายอำเภอ พบเพียงฮูหยินท่านรองนายอำเภอ ส่วนคนอื่นๆ ไปข้างนอกกันหมด เมื่อกลับไปที่ร้านก็เอาตะกร้าลูกท้อส่งให้ท่านแม่ใหญ่
"หว่าหวา เจ้าเอาลูกท้อนี้มาจากไหนกัน" ท่านแม่ใหญ่ถามด้วยความตื่นเต้น เพราะไม่ได้เห็นลูกท้อสดๆ แบบนี้มานานแล้ว ครั้งหลังสุดที่ได้เห็นคือตอนที่ฮูหยินท่านรองนายอำเภอเอากลับมาจากเมืองหลวงเมื่อหลายปีมาแล้ว
"ข้าขึ้นเขาไปกับท่านลุงลี่ แล้วไปเจอมาเจ้าค่ะท่านแม่ใหญ่" หว่าหวาตอบแล้วบอกว่าตนได้นำไปให้ใครมาบ้าง
หว่าหวากับน้องรองไปร้านรับฝากเงิน เมื่อออกจากร้านรับฝากเงินแล้วจึงเดินไปหาซื้อไหใบเล็ก และถังที่มีฝาปิดที่สามารถนำไหไปใส่ได้ จากนั้นก็ไปยังร้านที่ขายเหล้า ซื้อเหล้ามา 1 ไห และน้ำตาลทรายจำนวนหนึ่ง เมื่อได้ของครบแล้วนำของไปเก็บไว้ที่รถม้า แล้วจึงให้ท่านลุงฝางขับรถม้าไปที่สถานศึกษาเพื่อสอบถามรายละเอียด
เมื่อกลับถึงบ้านหว่าก็เริ่มกระบวนการหมักเหล้าก่อน จากนั้นจึงทำลูกท้อลอยแก้ว ส่วนท่านแม่ก็ทำอาหารเย็น เมื่อทุกคนกินข้าวเย็นเสร็จแล้ว หว่าหวาจึงนำชามลูกท้อลอยแก้วมาวางแล้วตักใส่ถ้วยเล็กให้ทุกคน
"ชามนี้คือ ลูกท้อลอยแก้ว ทุกคนลองชิมดูว่ารสชาติเป็นอย่างไร"
"พี่ใหญ่ ลูกท้อลอยแก้วของท่านอร่อยดีขอรับ" น้องเล็กบอกแล้วก็ตักใส่ถ้วยตัวเอง
"จริงด้วยหว่าหวา ลูกท้อลอยแก้วของลูกอร่อยดีจริงๆ"
"พรุ่งนี้ ข้าจะทำไปให้ท่านพ่อ ท่านแม่ใหญ่ ลองชิมดูด้วยเจ้าค่ะ" หว่าหวาบอกท่านแม่
"ท่านแม่เจ้าคะ วันนี้ข้าไปสอบถามที่สถานศึกษามาแล้ว เดือนหน้าให้เราพาน้องเล็ก กับน้องลี่เฉียนไปทดสอบความรู้ก่อนเจ้าค่ะ"
"ถ้าเช่นนั้น ให้ชิงเอ๋อสอนฉีเอ๋อกับเฉียนเอ๋อเขียนหนังสือให้ได้ก่อนไปทดสอบก็แล้วกัน"
"ขอรับท่านแม่" น้องสามตอบ