สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน
สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน
เมื่อพี่ม้าพาหว่าหวาเดินไปรอบแล้วมาหยุดใกล้ๆ กับม้าอีกตัว หว่าหวาลงมาจากหลังพี่ม้าแล้วใช้มือตบที่ลำตัวมันเบาๆ
"แม่นางเจ้าสามารถขี่เจ้าม้าตัวนี้ได้ ตามกติกามันเป็นของท่านแล้ว"
"ขอบคุณเจ้าค่ะท่านลุง" หว่าหวาตอบ น้องรองเดินมาหาแล้วพูดว่า
"พี่ใหญ่ ท่านทำได้อย่างไรกัน ม้ามันไม่ทำอะไรท่านเลย แถมยังเชื่อฟังท่านด้วย"
"มันคงฟังที่ข้าพูดรู้เรื่องน่ะ เพราะข้าชวนมันไปอยู่ด้วย"
"ท่านลุงแล้วม้าอีกตัวนึงไม่มีใครลองขี่มันอีกหรือเจ้าคะ"
"ดูเหมือนทุกคนจะไม่กล้า กลัวโดนมันทำร้าย"
"พี่ใหญ่ ข้าอยากลองดู ถึงแม้ข้าจะยังขี่ม้าไม่เก่งก็ตาม" (หว่าหวาสอนน้องรองกับน้องสามขี่เจ้าจิ้นเฟยซึ่งตอนนี้ทั้งสองทรงตัวบนหลังม้าได้แล้ว)
"เจ้าไม่กลัวหรอกหรือ"
"ไม่ขอรับ ข้าเป็นลูกผู้ชายต้องไม่กลัวเจ็บ"
"งั้นก็ได้" แล้วหันไปบอกคนที่คอยควบคุม
"ท่านลุงเจ้าคะ น้องชายข้าอยากลองขี่ม้าตัวนั้นดูเจ้าค่ะ"
ท่านลุงมองหน้าน้องรอง และมองดูรูปร่าง คิดว่าเด็กคนนี้ดูแข็งแรง ถ้าโดนม้าทำร้ายคงไม่บาดเจ็บถึงชีวิต
"ได้ คุณชายน้อยเชิญท่านไปลองขี่ได้เลย"
น้องรองพยักหน้าแล้วเดินไปที่ม้าตัวสีน้ำตาลอ่อน คิดถึงคำพูดที่พี่ใหญ่บอกว่า สัตว์ทุกตัว ต้นไม้ทุกต้น ล้วนมีชีวิตเหมือนคน หากเราอยากให้ใครปฏิบัติอย่างไรกับเรา เราก็ควรปฏิบัติแบบนั้นกับคนอื่นๆ เช่นกัน เหมือนม้ากับกระต่ายที่บ้านพวกเราทุกคนจะคุยกับมันทุกวันด้วยคำพูดปกติไม่เกรี้ยวกราดหรือดุด่า ไม่ว่าจะตอนให้อาหารหรือตอนจะใช้งานมัน ซึ่งไม่รู้ว่ามันฟังรู้เรื่องหรือไม่แต่พวกมันก็ทำตามที่บอก
"พี่ม้าสุดหล่อ ข้าจะชวนพี่ม้าสุดหล่อไปอยู่บ้านข้าด้วยกัน" น้องรองมองตามันแล้วพูด ส่วนเจ้าม้าก็มองหน้าน้องรอง ทำจมูกฟุตฟิตๆ น้องรองจึงค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้อีกแล้วลูบข้างลำตัวมัน เจ้าม้าหันมามองแล้วทำจมูกฟุตฟิตเหมือนเดิม
"ข้าชื่อจ้าวต้าหลี่ ข้าจะขึ้นไปขี่หลังพี่ม้าสุดหล่อแล้วนะ" เจ้าม้าสะบัดหางไปมาแล้วเชิดหน้าขึ้น น้องรองจึงเหยียบอานม้าแล้วโยนตัวขึ้นไปแล้วจับเชือกทรงตัวอยู่สักครู่ จึงเอาเท้ายกแตะลำตัวมันเบาๆ 2 ที เจ้าม้าก็ออกเดินไป
"นั่น นั่น นั่น เด็กน้อยคนนั้นทำไมถึงขี่ม้านั้นได้ ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อจริงๆ" เสียงคนที่ได้ลองขี่ม้าแล้วถูกม้าเตะออกมาพูดขึ้น แล้วก็มีเสียงพูดคุยกันไม่ขาดสาย
ม้าเดินมาหยุดตรงที่หว่าหวายืน น้องรองจึงลงจากหลังม้าแล้วตบข้างลำตัวมันเบาๆ
"ขอบคุณมากพี่ม้าสุดหล่อ" เจ้าม้าเชิดหน้าแล้วทำจมูกฟุตฟิตๆ
"คุณชายน้อยท่านเก่งจริงๆ ม้าตัวนี้เป็นของท่านแล้ว"
"ขอบคุณท่านลุงขอรับ" น้องรองกล่าวออกไป
คนดูแลม้า 2 คนก็เดินมาที่ท่านลุง แล้วพูดว่า
"แม่นางน้อย คุณชายน้อย ข้าไม่คิดว่าท่านทั้งสองจะขี่เจ้าม้านี้ได้ เพราะพวกข้าที่เลี้ยงมันมาตั้งแต่เกิดพวกมันยังไม่ยอมให้ขี่เลย"
"นับเป็นโชคดีของพวกเรามากกว่าที่ม้าทั้งสองตัวเลือกพวกเรา" หว่าหวาตอบ
ท่านลุงจึงประกาศให้ทุกคนที่ยังยืนล้อมรอบอยู่ว่าม้าสองตัวนี้เป็นของแม่นางน้อยและคุณชายน้อยทั้งสองนี้ตามกติกาที่ตั้งไว้ ผู้คนรับฟังแล้วต่างก็แยกย้ายออกไป
หว่าหวาหยิบตั๋วเงิน 3 ใบออกมา ยื่นให้ท่านลุงและคนเลี้ยงม้าทั้งสองคนละใบ แล้วบอกว่า
"ขอบคุณท่านลุงและพี่ชายทั้งสองที่ผ่านมาดูได้ดูแลม้าสองตัวนี้เป็นอย่างดี นี่ถือเป็นค่าน้ำชาที่พวกเราขอมอบให้พวกท่านอย่าได้ปฏิเสธเลยนะเจ้าคะ"
ทั้งสามคนรับตั๋วเงินไปแล้วกล่าวขอบคุณ หว่าหวากับน้องรองกำลังจะจูงม้าเดินออกไป
"แม่นางหว่าหวา เจ้าบังคับม้าเก่งยิ่งนัก" หว่าหวามองหน้าคุณชายที่เรียกนาง แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน
"คุณชายชมเกินไปแล้ว" หว่าหวาพูดพร้อมกับก้มหัวเล็กน้อย
"ไม่ทราบว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือไม่" หว่าหวาถามออกไป
"ข้ารู้จักแม่นาง แต่แม่นางคงไม่รู้จักข้า เช่นนั้นข้าขอแนะนำตัว ข้าหลี่เลี่ยงซือ เป็นบุตรชายผู้ช่วยนายอำเภอ"
"ข้าจ้าวหว่าหวา ยินดีที่ได้รู้จักคุณชายเลี่ยงซือ นี่คือน้องชายข้า จ้าวต้าหลี่" หว่าหวาแนะนำตัวเองและน้องรอง
"ข้ายังมีธุระที่ต้องทำคงต้องขอตัวก่อน"
"เชิญแม่นางหว่าหวา โอกาสหน้าค่อยคุยกันใหม่"
จากนั้นหว่าหวากับน้องรองก็เดินจูงม้าไปด้วยกัน เพื่อหาซื้อรถม้า ในตลาดขายม้าข่าวของสองพี่น้องได้ถูกพูดไปทั่วทั้งตลาด เมื่อสองพี่น้องผ่านมาถึงร้านที่ขายจิ้นเฟยให้นั้น
"แม่นางน้อยเป็นพวกเจ้าเองหรือที่สามารถขี่ม้าสองตัวนี้ได้" คนขายทักทายหว่าหวา
"เป็นโชคดีของพวกเราเจ้าค่ะเถ้าแก่" หว่าหวาตอบแล้วพูดว่า
"เถ้าแก่พวกเรากำลังมองหารถม้า ท่านพอจะแนะนำพวกเราได้หรือไม่เจ้าคะ"
"ได้สิแม่นาง น้องชายข้าทำรถม้าขาย ข้าจะพาเจ้าไปดู" เถ้าแก่บอกแล้วตะโดนบอกเด็กที่ให้อาหารม้าอยู่ว่าตนเองจะไปข้างนอก
หว่าหวากับน้องรองเลือกรถม้าขนาดกำลังดี เพียงพอสำหรับผู้โดยสาร 7-8 คน แล้วฝากคนขายไว้ก่อนตอนเย็นจะมารับพร้อมกับฝากม้าทั้งสองตัวไว้ด้วย จากนั้นหว่าหวาจึงตรงไปซื้อปลาเพื่อจะทำปลาย่างเกลือให้ท่านพ่อกับท่านแม่ใหญ่กิน
ขณะเดินกลับร้านก็ได้ยินเสียงคนเถียงกันอยู่หน้าร้าน ต่างคนต่างไม่ยอมบอกว่าตนเองมาก่อน ต้องได้ห้องพิเศษก่อน พนักงานก็ไม่รู้จะจัดการอย่างไรเพราะตอนนี้ห้องพิเศษว่างเพียงห้องเดียว
"ขอประทานโทษ คุณชายทั้งสองโปรดหยุดก่อนเจ้าค่ะ" หว่าหวาพูดขัดจังหวะคุณชายทั้งสองด้วยสำเนียงอ่อนหวาน
"คุณชายทั้งสองต่างก็ตั้งใจมากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านฟู่ซิง ไม่ทราบว่าคุณชายมากันกี่คนเจ้าคะ"
"คนเดียว/คนเดียว" คุณชายทั้งสองตอบพร้อมกัน
"ถ้าเช่นนั้น จะเป็นไปได้หรือไม่เจ้าคะหากคุณชายทั้งสองจะนั่งในห้องเดียวกัน แต่คนละฝั่ง ต่างคนต่างสั่งต่างจ่าย พวกท่านจะได้ไม่เหงาและค่าห้องพิเศษท่านก็จ่ายกันคนละครึ่ง"
เมื่อหว่าหวาพูดจบคุณชายทั้งสองก็มองหน้ากัน เงียบไปสักครู่คุณชายชุดม่วงก็ตอบว่า
"ก็ได้" ส่วนคุณชายชุดขาวมองหน้าหว่าหวาแล้วตอบว่า "เช่นนั้นก็ได้"
"ขอบคุณคุณชายทั้งสองเจ้าค่ะ" หว่าหวาจึงให้พนักงานพาคุณชายทั้งสองไปยังห้องพิเศษ
หว่าหวาหันมาบอกกับน้องรองว่า หากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกลองใช้วิธีนี้ดู แต่หากไม่ได้ผลก็ต้องหาวิธีอื่นที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุดทั้งสองฝ่าย
หลังจากท่านพ่อ และท่านแม่ใหญ่กินปลาย่างเกลือของหว่าหวาแล้วก็ชื่นชอบมาก จึงเรียกพ่อครัวมากินด้วยกัน
ตอนจะกลับบ้านน้องรองขับเกวียนไปรับรถม้าและม้า 2 ตัว หว่าหวาจ้างคนขับรถม้าให้ตามไปส่งที่บ้าน น้องรองขับเกวียนเทียมม้า ส่วนหว่าหวาขี่พี่ม้าสีขาวกลับบ้าน โดยตั้งชื่อให้ว่า "จิ้นหนิง" น้องรองก็เลยตั้งชื่อพี่ม้าสุดหล่อว่า "จิ้นเทียน"
ติ ชม งานเขียนของไรท์ได้นะคะ เป็นเรื่องแรกที่เขียนอาจจะไม่โดนใจใครหลายๆ คนต้องขออภัยด้วยนะคะ