Your Wishlist

ได้เกิดใหม่ ขอเป็นเถ้าแก่เนี้ย (ปลาย่างเกลือ)

Author: Lucky Lady

สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน

จำนวนตอน : N/A

ปลาย่างเกลือ

  • 02/06/2564

 

เช้าวันต่อมาหว่าหวาตื่นตามปกติเพื่อจะสอนน้องๆ พี่ลี่ชุนมาขอเรียนด้วย หว่าหวาให้ทุกคนวอร์มร่างกายก่อน โดยพาทุกคนไปไปยังลานหลังบ้านที่ให้ท่านลุงลี่ทำไว้ให้

 

หว่าหวาเริ่มต้นสอนตาม step ที่ตัวเองเรียนมา เริ่มจากยูโดก่อน จับคู่ซ้อมได้พอดี 2 คู่ พี่ลี่ชุนกับน้องรองที่คู่กันนั้นคล่องแคล่วมาก ส่วนน้องสามที่คู่กับหว่าหวาไม่กล้าเท่าไหร่ จนหว่าหวาต้องบอกว่าให้ออกอาวุธให้เต็มที่ ทั้งสามฝึกกันอย่างสนุกไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย หว่าหวายกข้อมือดูนาฬิกาเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วจึงให้ทุกคนพักได้

 

"พี่ลี่ชุนกินข้าวเช้าด้วยกันก่อนค่อยกลับบ้านเถอะ ข้ามีธุระให้ท่านช่วยเล็กน้อย" หว่าหวาบอก แล้วทั้งหมดก็ไปล้างหน้า ล้างมือเพื่อเตรียมกินข้าวเช้า หลังอาหารเช้าหว่าหวาให้พี่ลี่ชุนเอาฟางข้าวมาทำเป็นหุ่น สำหรับใช้ฝึกซ้อม โดยหว่าหวาวาดรูปให้ดู

 

คุณชายหวู่ต้าเฟยมาคุยเรื่องเปิดร้าน ฟู่ซิง กับหว่าหวาตลอดทั้งบ่าย เขาบอกว่าอยากเปิดร้านเร็วๆ ส่วนท่านพ่อท่านแม่ของเขาก็อยากเจอหว่าหวา เพราะว่าเขาได้คุยไว้มากมายถึงความสามารถของนาง

 

หว่าหวาชวนน้องรองไปเดินตลาด เพราะว่าอยากทำอาหารใหม่ๆ ให้ทุกคนกิน เมื่อผ่านแผงปลาจึงคิดว่าวันนี้จะทำปลาย่างเกลือให้ทุกคนได้กินกัน เพราะตัวเองก็อยากกินเหมือนกัน เมื่อซื้อปลาได้แล้ว ก็หาผัก และวัตถุดิบที่จะทำน้ำจิ้ม "ไม่มีมะนาวเราใช้น้ำส้มสายชูหมักแทนก็ได้ กระเทียม พริก เกลือ น้ำตาทราย ซื้อไปเผื่อด้วยดีกว่า "

 

เย็นวันนั้นเมื่อถึงบ้านหว่าหวาบอกท่านแม่ว่าไม่ต้องหุงข้าว เพราะจะทำปลาย่างเกลือให้ทุกคนชิม จากนั้นจึงไปล้างทำความสะอาดปลา 2 ตัวที่ซื้อมาหลายรอบจนสะอาด ผ่าท้องเอาไส้และเหงือกออก ล้างด้วยน้ำเกลืออีกรอบ เอากระเทียมใส่ไปในท้อง เนื่องจากไม่มีตะไคร้ หรือใบมะกรูด จากนั้นก็เอาเกลือมาพอกตัวปลา ระหว่างนั้นท่านแม่เข้ามาช่วยก่อไฟ แล้วก็เอาไปย่าง ระหว่างรอปลาสุกก็ทำน้ำจิ้มซีฟู้ด (แบบไม่เผ็ดมาก) เดินไปหยิบเส้นหมี่ขาวมา 5 ก้อน และล้างผักที่จะนำไปกินกับปลา

 

เมื่อปลาสุก หว่าหวาเอาเกลือออกแล้วก็ใส่จาน ลวกเส้นหมี่ ยกทั้งหมดไปวางบนโต๊ะกินข้าวรวมทั้งน้ำจิ้มและผักด้วย แล้วจึงเรียกทุกคนกิน เมื่อทุกคนเห็นปลาและน้ำจิ้มที่มีกลิ่นหอมท้องของน้องเล็กก็ร้องออกมา

 

"เอ้อ กลิ่นมันหอมจนทำให้ท้องข้าร้องน่ะขอรับ" ทุกคนยิ้ม

 

"เรามาทานปลาย่างเกลือกันเถอะ ไม่รู้ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร" หว่าหวาบอกแล้วเริ่มอาผักมาวาง หยิบเส้นหมี่มาม้วนเป็นคำ ตักเนื้อปลา และเอาน้ำจิ้มมาราด แล้วหยิบใส่ปาก เมื่อลิ้นได้สัมผัสความหวานของปลาและน้ำจิ้ม

 

"หือออ อร่อย"  ทุกคนได้ยินหว่าหวาพูดจึงทำตาม

 

"พี่ใหญ่ เนื้อปลามันหวานดีจังขอรับ น้ำนี้ถึงจะมีรสเผ็ดแต่ก็อร่อย" น้องสามบอก

 

"มันเรียกว่าน้ำจิ้ม เจ้ากินเยอะๆ  เลยน้องสาม" หว่าหวาบอกน้องสาม

 

ทุกคนเอร็ดอร่อยกับปลาย่างเกลือกันจนปลาทั้งสองตัวเหลือแต่ก้างและหนัง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันอร่อย หลังอาหารเย็น หว่าหวาบอกกับทุกคนว่าได้ฝากเงินในชื่อของทุกคนไว้ที่ร้านรับฝากเงิน จากนั้นจึงหยิบใบรับฝากเงินมาให้ทุกคน น้องเล็กที่พอรู้ตัวหนังสือบ้าง เห็นชื่อตนเองในนั้นก็พูดออกมา

 

"มีของข้าด้วยหรือพี่ใหญ่ เย้ๆๆๆ ข้ามีเงินเป็นของตัวเองแล้ว" ทุกคนจึงหัวเราะไปตามๆ กัน

 

"ท่านแม่เจ้าคะ ข้าว่าจะซื้อรถม้าเพิ่ม 1 คันเพราะว่าข้ากับน้องรองจะต้องเดินทางไปอำเภอฉางเย่วสอนพนักงานของร้านสาขาฟู่ซิง ที่นี่เราก็จำเป็นต้องใช้เกวียนขนของไปที่ร้านทุกวันด้วย"

 

"รถม้าหรือพี่ใหญ่ ข้าอยากนั่งรถม้าด้วย" น้องเล็กได้ยินจึงพูดขึ้นมา

 

"ได้เลย รอให้พี่ซื้อรถม้ามาก่อนเจ้าต้องได้นั่งแน่นอน"

 

"ลูกเห็นว่าจำเป็นก็ซื้อเลยแม่ไม่ขัดอะไร"

 

"ถ้าเช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะไปหาซื้อ"

 

"หว่าหวาแม่มีเรื่องจะปรึกษาลูก"

 

"ท่านแม่ว่ามาเลยเจ้าค่ะ"

 

"วันนี้ท่านป้าฝางถามแม่ว่า มีงานให้ทำอีกไหม เพราะตอนนี้ผู้เฒ่าฝางหายดีแล้ว สามารถสานตะกร้าได้ซึ่งงานสานตะกร้าก็ไม่ได้ขายได้มากเท่าไหร่นัก ท่านลุงฝางเลยอยากจะไปหางานทำในเมือง ท่านป้าฝางเลยมาถามแม่ก่อนเผื่อว่าเรามีงานให้ทำจะได้ไม่ต้องเข้าเมือง"

 

"ท่านแม่ลองถามท่านลุงฝางว่าสามารถบังคับเกวียนหรือรถม้าได้หรือไม่ก่อนเจ้าค่ะ ถ้าได้เราจะได้ให้ท่านลุงฝางมาขับให้เรา"

 

"ท่านพ่อ ท่านแม่ใหญ่เจ้าคะ วันนี้ข้าจะไปหาซื้อรถม้าแล้วจะไปตลาดซื้อปลามาทำปลาย่างเกลือให้ท่านกินเป็นอาหารกลางวันนะเจ้าคะ"

 

"ปลาย่างเกลือหรือ พ่อเพิ่งเคยได้ยิน"

 

"เจ้าค่ะ ปลาย่างเกลือ ท่านพ่อกับท่านแม่ใหญ่รอกินนะเจ้าคะ"

 

แล้วหว่าหวาก็เดินออกไปกับน้องรอง ทั้งคู่เดินดูม้าไปเรื่อยๆ พร้อมทั้งสอบถามราคาไปด้วย

 

"ทำไมวันนี้ตลาดขายม้าคนเยอะจังเลยพี่ชาย" หว่าหวาถามคนขายที่ร้านขายม้าร้านหนึ่ง

 

"แม่นาง อีกครู่หนึ่งเจ้าของคอกม้าที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอจะนำม้า 2 ตัวมาให้กับคนที่สามารถขี่มันได้ เพราะได้ยินว่าม้า 2 ตัวนี้ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เลยยกเว้นคนที่เลี้ยงมันมา พวกเขาเก็บไว้ก็ขายไม่ได้"

 

"ขอบคุณพี่ชาย น่าสนใจยิ่งนัก"

 

"พี่ใหญ่ท่านจะขี่มันได้หรือ ข้าว่ามันจะอันตรายนะขอรับ"

 

"พี่ว่าน่าจะลองดูมันไม่เสียหายอะไร ถ้าโชคดีเราก็ได้ม้าฟรี เราลองไปดูกัน" หว่าหวาบอกน้องรอง

 

เมื่อไปถึงลานที่มีผู้คนยืนล้อมเป็นวงกว้างเห็นคนสองคนกำลังจูงม้าเข้ามาคนละตัว ม้าสีขาวกับสีน้ำตาลอ่อน เมื่อถึงเวลาก็มีคนตะโกนบอกกติกาให้ทุกคนได้ฟัง จากนั้นก็มีคนหลายคนขอลองขี่เจ้าม้าทั้งสอง แต่พอพวกเขาเดินเข้าไปใกล้ๆ มันเพื่อจะขึ้นบนอานม้าก็โดนม้าดีดออกไปบ้างก็โดนเตะออกไปได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยามแล้วก็ยังไม่มีใครสามารถขี่เจ้าม้าทั้งสองได้เลย ทุกคนต่างส่ายหน้ากัน

 

หว่าหวาเห็นแล้วนึกถึงตอนที่เธออยู่ในโลกก่อน เมื่อตอนที่ไปหัดขี่ม้าและเจอม้าพยศ ซึ่งเธอสามารถทำให้มันสงบได้และมันก็กลายเป็นม้าประจำตัวของหว่าหวาทุกครั้งที่หว่าหวาไปสนามขี่ม้า (เพราะว่าสายรุ้งในโลกโน้นเป็นนักขี่ม้าที่สามารถเป็นตัวแทนทีมชาติได้เลยทีเดียว แต่สายรู้งไม่มีเวลาไปเข้าค่ายเก็บตัวจึงสละสิทธิ์)

 

"ท่านลุงข้อขอลองขี่ม้าตัวสีขาวได้หรือไม่" หว่าหวาก้าวไปที่ด้านหน้าของชายที่จัดคนไปขี่ม้า

 

"แม่นางไม่กลัวหรือ ข้าเกรงว่าแม่นางจะได้รับบาดเจ็บ"

 

"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านลุง ข้าขอลองดู"

 

หว่าหวาเดินไปที่ม้าสีขาว คนที่ยืนดูอยู่โดยรอบก็ส่งเสียงอื้ออึง เกรงว่าหว่าหวาจะได้รับบาดเจ็บ เมื่อไปถึงม้าสีขาวหว่าหวาไปยืนด้านหน้ามัน และมองที่ตามัน

 

"สวัสดีพี่ม้า ข้าชื่อจ้าวหว่าหวานะ ข้าอยากชวนพี่ม้าไปอยู่ด้วยกัน พี่ม้าอยากไปอยู่กับข้าไหม บ้านข้ามีอาหารอร่อยๆ ให้พี่ม้ากิน มีท่านแม่ที่ใจดี มีน้องๆ ที่น่ารัก แล้วก็มีเพื่อนให้พี่ม้าด้วย" หว่าหวาพูดกับม้าพร้อมทั้งมองตามัน แล้วค่อยๆ ยื่นมือไปสัมผัสมัน เมื่อเห็นว่าเห็นว่ามันยืนเฉยเมื่อหว่าหวาสัมผัส

 

"พี่ม้า ข้าขอขี่หลังพี่ม้านะถ้าพี่ม้าไม่ว่าอะไรก็พยักหน้าแบบนี้ให้ข้าเห็นนะ" หว่าหวาพูดพร้อมทั้งพยักหน้ากับม้า เพียงอึดใจม้าก็พยักหน้ากับหว่าหวา หว่าหวาจึงเดินไปเหยียบบังเหียนแล้วโยนตัวขึ้นนั่งบนหลังม้า 

 

"พี่ม้า เดินไปรอบๆ ด้วย" หว่าหวาพูดพร้อมจับเชือกแล้วใช้เท้าแตะข้างลำตัวม้าเบาๆ ม้าก็เดินไปรอบๆ เสียงผู้คนดังขึ้นมาอีก

 

"นั่นเป็นแค่แม่นางน้อย ทำไม ทำไม ถึงขี่เจ้าม้านั่นได้"

 

 

ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ พอดีไรท์ประสบอุบัติเหตุเล็กน้อยจึงอัพช้าไปหน่อยค่ะ

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป