Your Wishlist

ได้เกิดใหม่ ขอเป็นเถ้าแก่เนี้ย (เตรียมเปิดร้าน (1))

Author: Lucky Lady

สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน

จำนวนตอน : N/A

เตรียมเปิดร้าน (1)

  • 21/05/2564

 

ใกล้เวลาอาหารกลางวันแล้ว หว่าหวาชวนน้องๆ กลับบ้านเพื่อเอาอาหารมาให้คนงาน ก่อนไปได้แวะบอกท่านลุงซ่งว่า ช่วยบอกคนงานที่ทำรั้วและตัดไม้ไผ่ให้ไปรับเงินค่าแรงหลังเสร็จงาน และฝากท่านลุงซ่งช่วยเช็คความเรียบร้อยให้ด้วย

 

ขากลับบ้านน้องรองสอนน้องสามขับเกวียนโชคดีที่เจ้าม้าจิ้นเฟยเชื่อฟังดี ขอเพียงพูดกับมันเพราะๆ ลูบมันเบาๆ มันก็จะทำตามคำสั่งอย่างดี

 

หลังมื้อกลางวัน หว่าหวาและน้องรอง เข้าเมืองเพื่อไปแลกเงินอีแปะมาไว้สำหรับจ่ายค่าแรงคนงาน ซื้อผ้ามาทำผ้ากันเปื้อนและผ้าโพกหัวแล้วแวะไปหาท่านพ่อท่านแม่บุญธรรม

 

"ท่านพ่อท่านแม่บุญธรรม ข้าคิดว่าเราควรจะมีชื่อร้านนะเจ้าคะ ชื่อที่ข้าคิดไว้คือ ฟู่ซิง พวกท่านว่าเป็นอย่างไรเจ้าคะ"

 

"อืม พ่อว่าชื่อนี้ดีนะ ความหมายดี"

 

"แม่ก็เห็นด้วย"

 

"เดี๋ยวพ่อจะไปสั่งทำป้ายมาติดหน้าร้านให้เห็นเด่นชัดไปเลย"

 

"ท่านพ่อท่านแม่บุญธรรมคิดว่าวันเปิดร้าน เราควรเชิญใครมาร่วมงานบ้างหรือไม่เจ้าคะ ข้าคิดรูปแบบของงานวันเปิดร้านไว้แล้วด้วยเจ้าค่ะ"

 

"เดี๋ยวพ่อกับแม่จะจัดการเรื่องเชิญคนมาร่วมงานให้เอง" ท่านพ่อบุญธรรมบอก

 

หว่าหวาจึงบอกถึงสิ่งต่างๆ ที่ตัวเองได้เตรียมการไว้ แล้วบอกน้องรองให้เอาถั่วงอกมาให้ท่านพ่อท่านแม่บุญธรรม และบอกว่ามันทำอาหารอะไรได้บ้าง ซึ่งถั่วงอกนี้หว่าหวาจะนำมาลวกพร้อมกับผักบุ้งใส่ก๋วยเตี๋ยว และแบบดิบให้ลูกค้าหยิบเอง

 

จากนั้นก็เดินดูโต๊ะเก้าอี้ที่มีอยู่ซึ่งสภาพยังดี แล้วจึงเรียกพนักงานมาจัดวางโต๊ะใหม่ ให้แยกโต๊ะที่วางติดกันสองตัวออกจากกันให้หมด แล้วเรียงให้เป็นแนวเดียวกันเพื่อสะดวกในการรับออเดอร์ เสริฟ และคิดเงิน

 

หว่าหวาไปร้านขายเครื่องเทศเพื่อหาวัตถุดิบที่จะทำลูกชิ้นหมู และปลาเส้น ซื้อแป้งไปทำเส้นหมี่ขาว และบะหมี่หยก หว่าหวาคิดในใจ "ดีนะในโลกก่อนเรามีความจำดีเลิศ อ่านหรือดูอะไรผ่านตาก็จำได้ เพราะฉะนั้นการทำลูกชิ้น หรือเส้นหมี่ไม่ใช่เรื่องยากเลย ถึงจะมีวัตถุดิบไม่ครบตามสูตรแต่ก็แค่ประยุกต์ใช้วัตถุดิบที่มีในโลกนี้ก็ได้แล้ว"

 

เมื่อกลับถึงบ้านหว่าหวา เชิญท่านแม่และท่านป้าฝางมาดูวิธีทำลูกชิ้น และปลาเส้นก่อน บอกว่าพรุ่งนี้จะทำเส้นหมี่ขาว กับเส้นหมี่หยกให้ดู

 

ตอนเย็นเมื่อคนงานทำรั้วเสร็จแล้วมารับเงินที่บ้าน หว่าหวาจดชื่อทุกคน พร้อมรายละเอียดการทำงาน และค่าแรงที่ได้ จากนั้นจึงถามว่าภรรยาบ้านใครพร้อมที่จะมาทำงานกับตนบ้าง ค่าแรงวันละ 40 อีแปะ พร้อมบอกเงื่อนไขในการทำงานให้รู้ก่อนแล้ววันพรุ่งนี้ค่อยกลับมาแจ้งกับตนอีกที

 

เมื่อได้คนงานที่จะช่วยท่านแม่กับท่านป้าฝางแล้ว หว่าหวานัดแนะวันที่จะให้ทุกคนมาเริ่มงาน (ก่อนวันเปิดร้าน 3 วัน) 

 

หว่าหวาเห็นผ้ากันเปื้อนกับผ้าโพกผมที่ท่านแม่ทำแล้วมันช่างถูกใจยิ่งนัก นึกภาพของพนักงานในร้านใส่ชุดสีเทา (ชุดพนักงานเดิมท่านพ่อท่านแม่บุญธรรมใช้ผ้าสีเทาตัด) ใส่ผ้ากันเปื้อนสีดำที่มีกระเป๋าด้านหน้า โพกผ้าบนศีรษะ ดูเป็นระเบียบยิ่งนัก

 

ก่อนนอนหว่าหวาแช่ข้าวจ้าวไว้ วันรุ่งขึ้นหว่าหวาดูรายการที่เขียนไว้ว่าต้องทำอะไรบ้างซึ่งดูแล้วก็เกือบจะครบหมดทุกอย่างแล้ว เมื่อกินข้าวเช้าแล้ว ท่านป้าฝางก็มาหว่าหวาจึงเริ่มขั้นตอนการทำเส้นหมี่ขาวกับหมี่หยก ซึ่งทุกกระบวนการทำตั้งแต่โม่แป้ง จนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือตากแดดให้แห้ง ใช้เวลาทั้งวัน (ช่วงที่นำเส้นหมี่ไปผึ่งลม 1 ชั่วยาม ท่านแม่กับท่านป้าฝางจึงมีเวลาทำอาหารกลางวันไปส่งคนงานที่ปลูกโรงเรือนได้)

 

ตอนเย็นท่านลุงเหยียนมาหาพร้อมกับคนงาน บอกว่ามีคนงานอยากเบิกค่าแรงเพราะที่บ้านไม่มีข้าวกินแล้ว

 

"ได้เจ้าค่ะท่านลุงเหยียน พวกท่านนั่งรอที่โต๊ะก่อนข้าจะไปหยิบเงิน" หว่าหวาออกมาพร้อมสมุดจดและเงิน จดชื่อคนงานทุกคน และจ่ายค่าแรงให้ทุกคนตามจำนวนวันที่ทำงานจนถึงวันนี้ หว่าหวาให้ท่านลุงเหยียนกับท่านลุงซ่งเพิ่มอีกคนละ 50 อีแปะ เพราะช่วยเป็นธุระให้เธอหลายเรื่อง 

 

เช้าวันต่อมาหว่าหวาเข้าเมืองกับน้องรองเพื่อดูว่าท่านพ่อบุญธรรมเชิญแขกมาร่วมงานเป็นจำนวนเท่าใด

 

"หว่าหวา ต้าหลี่ พวกเจ้ามาแล้ว เข้ามาเข้ามา พ่อสั่งคนทำป้ายชื่อร้านเสร็จแล้ว"

 

"สวยงามมากเจ้าค่ะท่านพ่อบุญธรรม" หว่าหวาเห็นอักษรคำว่า ฟู่ซิง สีทองเด่นอยู่บนแผ่นไม้ ท่านพ่อบุญธรรมบอกว่า ได้เชิญนายอำเภอมาเป็นประธานเปิดป้าย และมีแขกที่ตอบรับจะมาร่วมงานอีกประมาณ 30 คน หว่าหวาอยู่คุยกับท่านพ่อบุญธรรมว่าตนได้ทำอะไรไปอีกบ้าง ก่อนวันเปิดร้านจะเอาของที่ต้องใช้ทั้งหมดมาไว้ที่ร้าน

 

"เดี๋ยวพ่อไปหยิบเงินมาให้สำหรับซื้อของที่ยังขาดอยู่นะ"

 

"ไม่ต้องเจ้าค่ะท่านพ่อบุญธรรม พวกเรามี" หว่าหวาบอกพ่อบุญธรรมดู

 

"ข้าจะให้พนักงานในร้านทำกากหมูและกุ้งทอด ส่วนลูกชิ้น เส้นก๋วยเตี๋ยว ถั่วงอกจะทำที่บ้านของข้า ทุกเช้าก่อนเปิดร้านจะนำมาให้"

 

แล้วจึงเดินดูพนักงานทำความสะอาดร้านทุกซอกทุกมุมแล้ว จึงบอกท่านพ่อบุญธรรมว่าจะไปซื้อชามก๋วยเตี๋ยวก่อน

 

หว่าหวาไปร้านขายเครื่องเรือน เพื่อหาขาตั้งและไม้เพื่อตั้งหน้าร้านสำหรับติดป้าย จากนั้นก็ไปร้านขายภาชนะดูว่ามีช้อนแบบใหม่บ้างไหม หาซื้อชามก๋วยเตี๋ยว และถ้วยเล็กๆ ใส่กากหมูกับกุ้งกรอบ แล้วจึงนำไปไว้ที่ร้าน

 

"ท่านพ่อบุญธรรมเจ้าคะ ก่อนเปิดร้าน 2 วันข้าจะมาสอนพนักงานอีกรอบนะเจ้าคะ" 

 

ระหว่างทางกลับบ้านหว่าหวานั่งคุยไปกับน้องรอง และสั่งงานไปด้วย เนื่องจากว่าตนเองทำคนเดียวคงไม่ทัน แต่เมื่อพ้นประตูเมืองได้ประมาณ 1 เค่อ ได้มีกลุ่มคนใช้เชือกลากจูงผู้ใหญ่และเด็กรวม 4 คน พอดีเด็กที่เล็กสุดเกิดสะดุดก้อนหินแล้วล้มลงร้องไห้ จึงถูกคนที่คอยคุมกระชากขึ้นอย่างแรง เด็กก็ยิ่งเจ็บเลยร้องไห้ไม่หยุด 

 

"หยุดร้องเดี๋ยวนี้นะ ถ้าไม่อยากโดนหวายตี" คนคุมพูดตะคอก"

 

หว่าหวาที่ไม่ชอบเห็นคนถูกรังแกก็อยู่เฉยไม่ได้ บอกน้องรองหยุดเกวียนแล้วลงไป

 

"พี่ชาย เหตุใดจึงต้องทำกับเด็กรุนแรงแบบนี้ด้วยเล่า"

 

"ทำไมข้าจะทำไมได้ คนพวกนี้เป็นทาสของนายท่านที่อยู่ในรถม้าแล้ว"

 

"เกิดเหตุอันใดขึ้นอาจง" ชายที่อยู่ในรถม้าเปิดม่านออกมา

 

"นายท่าน เป็นแม่นางคนนี้มาขวางข้าไม่ให้ทำโทษเด็กคนนี้ขอรับ"

 

"คุณชาย ไม่ทราบว่าเหตุใดพวกท่านจึงต้องลากพวกเขาเช่นนี้"

 

"พวกนี้ติดเงินพวกเรา 20 ตำลึงเงิน จากค่าเช่าที่นา พวกเขาจึงต้องเขียนสัญญาทาสเพื่อใช้หนี้แทน"

 

"ถ้าเช่นนั้นหากข้าจะใช้เงินแทนพวกเขา ท่านเห็นว่าอย่างไร" 

 

"เช่นนั้นก็ได้ เพราะที่จวนข้าตอนนี้ก็มีทาสเต็มไปหมด" แล้วคุณชายก็หยิบสัญญาทาสของ 4 คนออกมาให้หว่าหวา พร้อมทั้งรับเงิน 20 ตำลึงเงินไป

 

หลังจากเป็นอิสระจากการถูกมัดมือแล้ว ทั้ง 4 คน จึงคุกเข่า ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัวพูดว่า "ขอบคุณแม่นางน้อย ต่อไปพวกเราเป็นทาสของพวกท่านแล้ว"

 

"ท่านลุง พวกท่านไม่ต้องคุกเข่ารีบลุกขึ้นเถอะ มีอะไรเราค่อยคุยกัน ข้าไม่คิดว่าพวกท่านเป็นทาส แต่จะคิดว่าพวกท่านมาช่วยข้าทำงาน"

 

จากนั้นหว่าหวาก็พาทุกคนขึ้นเกวียน เดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางต่างก็แนะนำให้รู้จักครอบครัวของตน ท่านลุงชื่อลี่หยาง ภรรยาชื่อ ลี่ซู ลูกคนโตชื่อลี่ชุน ลูกคนเล็กชื่อลี่เฉียน สาเหตุที่ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าเพราะว่าได้นำเงินไปจ่ายค่าหมอ ค่ายา เพื่อรักษาอาการป่วยของภรรยา

 

 

ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป