Your Wishlist

ได้เกิดใหม่ ขอเป็นเถ้าแก่เนี้ย (เตรียมที่ดิน)

Author: Lucky Lady

สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน

จำนวนตอน : N/A

เตรียมที่ดิน

  • 17/05/2564

 

หลังจากปิดป้ายหน้าร้านว่าจะปิดปรับปรุงร้านแล้ว ทุกคนจึงมานั่งรวมกันอีกครั้ง จากนั้นพ่อบุญธรรมแนะนำพ่อครัวให้ทุกคนรู้จัก พ่อครัวชื่อเจียจิ่วหวาง ทำงานที่ร้านมาตั้งแต่ร้านเปิดแล้ว มีความซื่อสัตย์มากถึงแม้จะมีคนมาซื้อตัวให้ค่าแรงราคาแพงก็ไม่ทิังพ่อแม่บุญธรรม และรับรู้เรื่องราวที่จะปิดร้านเพื่อปรับปรุงดี ท่านพ่อบุญธรรมบอกพ่อครัวว่าให้หว่าหวาเป็นคนจัดการเรื่องปรับปรุงร้าน

 

 

หว่าหวาบอกพ่อแม่บุญธรรมว่าจะทำก๋วยเตี๋ยวให้ลองชิมดู รวมถึงพนักงานทุกคนด้วย จึงขอเข้าไปดูในครัวว่าต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมบ้าง

 

 

"ท่านพ่อบุญธรรมเจ้าคะ ข้ากับน้องรองขอพาท่านลุงจิ่วหวางไปหาซื้อวัตถุดิบที่จะทำก๋วยเตี๋ยวด้วยนะเจ้าคะ"

 

 

ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วยามหว่าหวากลับมาพร้อมวัตถุดิบทำก๋วยเตี๋ยว ท่านแม่จึงเดินเข้าไปช่วยเตรียม

 

 

"ท่านพ่อท่านแม่บุญธรรม ก๋วยเตี๋ยวของพี่ใหญ่อร่อยที่สุดเลยนะขอรับ" น้องเล็กพูดกับพ่อแม่บุญธรรม

 

 

"จริงหรือต้าฉี" ท่านแม่บุญธรรมพูด

 

 

"จริงขอรับ ข้าขอยืนยันอีกหนึ่งคน" น้องสามพูดสมทบอีกเสียง

 

 

"ดีดี พ่อจะรอชิม" ท่านพ่อบุญธรรมพูดขึ้นบ้าง

 

 

เนื่องจากครัวมีหลายเตา จึงสามารถเตรียมของได้หลายอย่างพร้อมๆ กัน หว่าหวาบอกรายละเอียดกับพ่อครัวทุกขั้นตอน 

 

 

ประมาณ 1 ชั่วยามผ่านไป หวาหวาจึงออกมา บอกกับทุกคนว่าก๋วยเตี๋ยวพร้อมเสริฟแล้ว ให้พนักงานช่วยไปยกมา เมื่อทุกคนนั่งพร้อมกันจึงเริ่มกิน เสียงชื่นชมว่าอร่อยไม่ขาดปาก

 

 

"ข้าว่าร้านเราต้องขายดีแน่นอนนายท่าน" พ่อครัวพูดกับท่านพ่อบุญธรรม แล้วหันไปพูดกับหว่าหวาต่อ

 

 

"คุณหนู ก๋วยเตี๋ยวของท่านอร่อยจริงๆ ขอรับ"

 

 

"ท่านลุงจิ่วหวาง นี่ก็เป็นฝีมือของท่านด้วยเช่นกันนะเจ้าคะ" หว่าหวาพูดพร้อมยิ้ม

 

 

"อืม รสชาติอร่อยจริงๆ หว่าหวา เจ้าช่างมีฝีมือนัก" ท่านพ่อบุญธรรมชม

 

 

หว่าหวาลุกขึ้นยืน ถือชามกากหมูและกุ้งทอดกรอบเดินไปยังโต๊ะที่พนักงานนั่งอยู่แล้วพูดว่า

 

 

"กุ้งทอดกรอบนี้เราจะใส่ในชามก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้าจำนวนหนึ่งฟรี หากลูกค้าต้องการเพิ่มก็สามารถซื้อเพิ่มได้ เช่นเดียวกับกากหมู เราจะให้ฟรี 1 ถ้วย ลูกค้าซื้อได้หากต้องการเพิ่ม โดยถ้วยที่ใส่ของฟรีกับซื้อเพิ่มเราจะใช้คนละสีกันเพื่อง่ายต่อการคิดเงิน"

 

 

ทุกคนฟังแล้วพยักหน้า 

 

 

หลังจากที่ทุกคนกินก๋วยเตี๋ยวกันคนละ 2-3 ชามจนต้องลูบท้องกันแล้ว หว่าหวาก็บอกพนักงานว่าจะจัดวางโต๊ะอย่างไร และก่อนเปิดร้านจะสอนการรับคำสั่งของลูกค้าให้กับทุกคน

 

 

หว่าหวาบอกท่านพ่อท่านแม่บุญธรรมว่าจะไปหาซื้อเกวียนเทียมวัวสำหรับครอบครัว เพราะต่อไปคงต้องเดินทางเข้าเมืองบ่อยๆ

 

 

เมื่อเดินมาถึงตลาดขายวัว ก็เดินดูไปเรื่อยๆ 

 

 

"พี่ใหญ่ท่านดูม้าตัวนี้สิ มันน่าสงสารจัง ตามันมีน้ำตาด้วย" น้องเล็กไปหยุดตรงม้าตัวหนึ่ง

 

 

ทุกคนเดินตามไป หว่าหวาเอามือไปเช็ดน้ำตาของม้า คนขายจึงพูดขึ้นว่า

 

 

"แม่นาง ม้าตัวนี้มันไม่ยอมวิ่งตั้งแต่ที่แม่มันตายไป คนที่ซื้อมันไปก็เอามาคืน"

 

 

"ท่านจะขายมันเท่าไหร่" หว่าหวาถามคนขาย

 

 

"ถ้าแม่นางต้องการ ข้าขายแค่ 25 ตำลึงเงิน" 

 

 

หว่าหวาหันไปมองม้าตัวนั้น แล้วเอามือลูบขนที่คอของมัน "ไปอยู่กับพวกเรานะ บ้านเรามีท่านแม่ที่ใจดี"

 

 

"ใช่ๆ ท่านแม่ของเราใจดี" น้องเล็กพูดตาม

 

 

ม้าตัวนั้นมองหาว่าหวาและทุกคน แล้วผงกหัวขึ้นลง หว่าหวาจึงลูบมันอีกครั้ง แล้วจ่ายเงินให้คนขาย น้องรองจึงเข้ามารับเชือกจากคนขาย แล้วทั้งหมดก็เดินไปหาซื้อเกวียนเทียมม้า เพราะสามารถบรรทุกของได้มากกว่ารถม้า หว่าหวาถามทุกคนว่าจะตั้งชื่อมันว่าอะไรดี 

 

 

"ชื่อ จิ้นเฟย ดีหรือไม่ มันจะได้ซื่อสัตย์กับเรา" หว่าหวาพูดขึ้นมา และทุกคนก็เห็นด้วย หว่าหวาจึงไปลูบที่ตัวมัน

 

 

"จิ้นเฟย นี่เป็นชื่อของเจ้า ต่อไปพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ"

 

 

เมื่อซื้อเกวียนที่มีหลังคาได้แล้ว น้องรองจึงใช้เวลาหัดขับเกวียนโดยการแนะนำของคนขายอยู่ประมาณครึ่งชั่วยาม ก็ขับคล่องขึ้น จิ้นเฟยให้ความร่วมมืออย่างดี หว่าหวาหาซื้ออานม้ามาด้วย 

 

 

หว่าหวาชวนท่านแม่ไปซื้อของอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะถังใบใหญ่สำหรับเอาไว้ปลูกถั่วงอก น้องรองขับเกวียนมาเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบอะไรจิ้นเฟยวิ่งเหยาะๆ ไปตามทาง พอถึงบ้านหว่าหวาก็เข้าห้องไปวาดแบบโรงเรือน เสร็จแล้วมองดูเมล็ดพันธุ์ว่าแต่ละอย่างมีจำนวนเท่าใดแล้ว หยิบถุงเมล็ดถั่วลิสง (เมล็ดถั่วลิสงที่ซื้อมาเป็นแบบถุง ครึ่งกิโลกรัม ส่วนเมล็ดพันธุ์อื่นๆ เป็นซอง) มาเทรวมกันลงในถังที่ถือติดมือเข้ามาด้วย หว่าหวาคิดว่าน่าจะปลูกได้เกือบสิบหมู่

 

 

วันรุ่งขึ้นคนงาน 3 คนมาหาแต่เช้าหว่าหวาเอาแบบให้พวกเขาดู บอกว่าอยากได้หลังคาเป็น กระเบื้อง ส่วนผนังและพื้นใช้ไม้ ซึ่งแบบที่หว่าหวาวาดเป็นบ้านชั้นเดียวยกสูงขึ้นจากพื้น 3 ขั้นบันได มีห้องโล่ง 1 ห้อง มีลานหน้าบ้าน และมีห้องสำหรับเก็บของไม่ยกพื้นอยู่ติดกัน

 

 

ท่านลุงเหยียนดูแบบแล้วบอกว่าจะไปหาซื้อไม้ที่หมู่บ้านใกล้ๆ เพราะมีร้านใหญ่ราคาไม่แพงมาก พร้อมทั้งกระเบื้องมุงหลังคาด้วย แต่จะไปคำนวณก่อนว่าต้องใช้จำนวนเท่าใด หว่าหวาจึงชวนทุกคนไปดูตรงบริเวณที่จะปลูกเรือน

 

 

หว่าหวาอยากให้ช่วยหาคนมาทำรั้วรอบบริเวณที่ดินให้ก่อน ให้ค่าแรงวันละ 40 อีแปะ น่าจะใช้เวลาสัก 2 วัน คือวันนี้กับพรุ่งนี้ มีอาหารกลางวันเลี้ยง และให้ท่านลุงทั้งสามช่วยหาคนมาตามที่เห็นว่าเหมาะสม 

 

 

"เรื่องสร้างโรงเรือนข้าต้องหาคนมาช่วยอีก 5-6 คน แล้วจะเริ่มสร้างพรุ่งนี้เลย วันนี้ข้าจะไปซื้อของก่อน" ท่านลุงเหยียนบอกหว่าหวา

 

 

"เอาตามที่ท่านลุงเหยียนว่าเลยเจ้าค่ะ ค่าแรงสำหรับคนที่จะมาสร้างโรงเรือน ข้าจะให้วันละ 50 อีแปะ และเลี้ยงอาหารกลางวันนะเจ้าคะ"

 

 

 

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป