Your Wishlist

ได้เกิดใหม่ ขอเป็นเถ้าแก่เนี้ย (วางแผนปลูกผัก (2))

Author: Lucky Lady

สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน

จำนวนตอน : N/A

วางแผนปลูกผัก (2)

  • 13/05/2564

 

ผู้ใหญ่บ้าน ท่านอยู่หรือไม่" ท่านแม่เรียกผู้ใหญ่บ้านเมื่อเดินมาถึง ผู้ใหญ่บ้านและครอบครัวเป็นคนดี ตอนท่านแม่พาลูกๆ กลับมาอยู่ที่หมู่บ้านก็ให้ความช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี

 

เมื่อได้ยินเสียงคนเรียก ภรรยาผู้ใหญ่บ้านจึงพูดขึ้นว่า "คงจะมีลูกบ้านมาหาท่านพี่ เดี๋ยวข้าไปดูให้"

 

"นั่นจือชิงหรือ มีเรื่องอันใดกันเข้ามาก่อน ผู้ใหญ่บ้านอยู่ข้างใน แล้วที่มาด้วยกันกับเจ้าใช่หว่าหวาลูกสาวเจ้าหรือไม่" ภรรยาผู้ใหญ่บ้านกล่าวทักทาย

 

"ใช่เจ้าค่ะข้าคือหว่าหวา ท่านป้าเหลียง" หว่าหวาตอบแล้วทั้งสามก็เดินไปที่ผู้ใหญ่บ้าน

 

"จือชิง มีเรื่องอันใดหรือไม่ จึงได้มาหาข้า" ผู้ใหญ่บ้านถาม

 

"พอดีข้าต้องการหาคนงานไปพลิกหน้าดินในที่ดินตรงตีนเขา ไม่ทราบว่าผู้ใหญ่บ้านพอจะหาคนให้ได้หรือไม่"

 

"ท่านลุงผู้ใหญ่บ้านเจ้าคะ เราต้องการคน 2-3 คน ให้ค่าแรงวันละ 40 อีแปะ เจ้าค่ะ" หว่าหวาพูดเสริม

 

"ได้ เดี๋ยวข้าจะถามให้ ถ้าหากหาครบแล้วจะให้พวกเขาไปหาเจ้าที่บ้าน"

 

"ขอบคุณผู้ใหญ่บ้าน" ท่านแม่กล่าว

 

"ท่านลุงผู้ใหญ่บ้านเจ้าคะ ในหมู่บ้านมีใครสานตะกร้าบ้างหรือไม่เจ้าคะ" หว่าหวาถาม

 

ผู้ใหญ่บ้านคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบว่า "สานตะกร้าหรือ เห็นจะมีเพียงบ้านเฒ่าฝางกับลูกชายแกที่อยู่ท้ายหมู่บ้านเท่านั้นที่สานตะกร้าขาย"

 

"ขอบคุณท่านลุงผู้ใหญ่บ้านเจ้าค่ะ / ขอบคุณผู้ใหญ่บ้าน" ท่านแม่กับหว่าหวากล่าวขอบคุณ และลาผู้ใหญ่บ้านกับภรรยา

 

"ท่านแม่เราไปบ้านท่านผู้เฒ่าฝางกันนะเจ้าคะจะได้ดูว่าพวกเขาจะสานตะกร้าตามแบบที่เราต้องการได้หรือไม่" หว่าหวาชวนท่านแม่ แล้วทั้งสองก็เดินไปยังท้ายหมู่บ้าน เมื่อถึงบ้านผู้เฒ่าฝางแล้วเห็นประตูรั้วเปิดอยู่จึงเดินเข้าไป เห็นชายวัยกลางคนกำลังนั่งทำงานอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นลูกชายผู้เฒ่าฝาง ใกล้ๆ กันก็มีเด็กชายอีกคนกำลังนั่งเล่นไม้ไผ่อยู่

 

"สวัสดีเจ้าค่ะท่านลุงฝางใช่ไหมเจ้าคะ" ชายวัยกลางคนหันไปตามเสียง

 

"พวกเราจะมาขอดูแบบตะกร้าที่ท่านทำว่าจะเอาไปใช้กับงานของเราได้หรือไม่เจ้าค่ะ" หว่าหวาพูดขึ้นมาเมื่อเดินเข้ามายังบริเวณบ้าน

 

"ได้เลยๆ พวกเจ้าเข้ามาดูก่อน เลือกเอาเลยว่าแบบไหนที่เจ้าต้องการ" ท่านลุงฝางพูดพร้อมกับแนะนำให้สองคนแม่ลูกดู ท่านแม่และหว่าหวาเดินไปดูตะกร้าที่สานเสร็จแล้ว กวาดตามองไปทั่วๆ แล้วหว่าหวาก็เห็นตะกร้าทรงกลมสูงประมาณ 50cm กว้างประมาณ 30cm จึงหยิบขึ้นมาดูและสำรวจช่องว่างที่ก้นตะกร้า เห็นว่าใหญ่เกินไปเมล็ดถั่วเขียวร่วงออกได้ง่าย จึงเดินไปที่ท่านลุงแล้วพูดว่า

 

"ท่านลุงฝางเจ้าคะ ข้าอยากได้ตะกร้าแบบนี้ แต่ขอให้ตรงก้นมีช่องว่างแค่เล็กน้อยไม่ให้เมล็ดถั่วเขียวร่วงออกมาได้ และความสูงแค่นี้พอเจ้าค่ะ" หว่าหวาพูดพร้อมกับบอกชี้บอกขนาดความสูงของตะกร้า

 

"พี่ฝางสามารถทำตามแบบที่ลูกสาวข้าบอกได้หรือไม่" ท่านแม่พูดเสริม

 

"ได้ๆ ข้าทำได้ไม่มีปัญหาเลย"

 

"ท่านลุงฝางขายใบละเท่าไหร่เจ้าคะ"

 

"ปกติถ้าใบขนาดเท่าที่สานไว้แล้วใบละ 20 อีแปะ แต่ถ้าเป็นแบบที่เจ้าบอกมันมีขนาดสั้นลง ข้าคิดใบละ 10 อีแปะก็แล้วกัน" ท่านลุงฝางบอก

 

"ท่านพ่อ เช่นนี้เราก็จะมีเงินไปตามท่านหมอมารักษาท่านปู่แล้วใช่หรือไม่" เด็กชายที่นั่งใกล้ๆ พูดขึ้นมาอย่างดีใจ อายุน่าจะพอๆ กับน้องเล็กได้ เมื่อหว่าหวาได้ยินดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า

 

"ท่านลุงฝางเจ้าคะ ไม่เป็นไรท่านคิดราคา 20 อีแปะนั่นแหละเจ้าค่ะ ข้ารู้ว่ากว่าจะได้ตะกร้าแต่ละใบมันใช้เวลาพอสมควร ท่านลุงฝางทำให้ข้าก่อน 20 ใบนะเจ้าคะ" หว่าหวาพูดแล้วก็หยิบเงิน 1 ตำลึงเงินยื่นให้ท่านลุงฝาง

 

"ข้าไม่มีเงินทอนให้เจ้าหรอกแม่นางน้อย ทั้งบ้านข้ามีเงินเพียง 20 อีแปะ" ท่านลุงฝางบอกกับหว่าหวา หว่าหวามองหน้าท่านแม่ แล้วท่านแม่ก็ตอบไปว่า

 

"พี่ฝางท่านไม่ต้องทอนให้พวกเราหรอก จะได้มีเงินไปตามหมอมาดูอาการท่านพ่อของท่าน พวกเรารู้ดีเมื่อยามเจ็บป่วยแล้วไม่มีเงินไปตามหมอมารักษามันทุกข์ทรมานแค่ไหน" ท่านแม่บอกกับท่านลุงฝางไปด้วยความเห็นใจ เพราะอดนึกถึงตอนที่หว่าหวาหกล้มแล้วครอบครัวไม่มีเงินไปตามหมอมาไม่ได้

 

ท่านลุงฝางมองหน้าสองแม่ลูกแล้วจึงรับเงิน 1 ตำลึงเงินมา พร้อมกับพูดว่า "ขอบใจเจ้าทั้งสองมาก ข้าจะรีบสานตะกร้าให้เสร็จโดยเร็ว"

 

"ท่านลุงฝางไม่ต้องรีบเจ้าค่ะ" เมื่อเสร็จธุระแล้ว ทั้งสองคนก็กล่าวลา

 

ระหว่างทาง หว่าหวาพูดขึ้นมาว่า "ท่านแม่ ข้ารู้สึกมีความสุขจังเลยเจ้าค่ะที่ได้ช่วยเหลือคนที่กำลังลำบาก"

 

ท่านแม่โอบไหล่หว่าหวาแล้วพูดว่า "เห็นลูกมีความสุข แม่ก็มีความสุขเช่นกัน" สองแม่ลูกยิ้มให้กัน

 

ตอนเย็นหว่าหวาเอาถั่วงอกที่เด็ดรากแล้วมาผัดกับเต้าหู้ให้ทุกคนกิน 1 ถ้วยใหญ่ ผลก็คือถั่วงอกผัดเต้าหู้หมดเกลี้ยง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอร่อยหรือไม่อร่อย

 

วันรุ่งขึ้นปลายยามเฉิน (15.00-16.59) มีคนมาเคาะประตูบ้าน น้องรองออกไปดูก็เห็นผู้ชาย 3 คนมายืนอยู่หน้าประตูแล้วพูดว่า "พอดีผู้ใหญ่บ้านบอกกับพวกเราว่าบ้านเจ้าต้องการจ้างคนไปพลิกหน้าดิน พวกเราก็เลยมา" ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา

 

หว่าหวาเดินออกมาจากในบ้านพอดี จึงตอบไปว่า "พวกท่านมากันแล้วหรือ เชิญเข้ามาข้างในก่อนเจ้าค่ะ" ทุกคนเดินตามมาที่ลานบ้าน หว่าหวาเชิญทุกคนนั่งตรงโต๊ะใต้ต้นไม้ ท่านแม่ก็เดินออกมาสมทบ

 

หว่าหวาจึงพูดว่า "นี่คือท่านแม่ของพวกเรา จ้าวจือชิง ตัวข้า จ้าวหว่าหวา และนี่น้องรอง จ้าวต้าหลี่ ไม่ทราบว่าพวกท่านแซ่อะไรกันบ้างเจ้าคะ"

 

ผู้ชายทั้ง 3 คนแนะนำตัวเองเสร็จ หว่าหวาพูดต่อว่า "ท่านลุงผู้ใหญ่บ้านคงบอกพวกท่านแล้วว่าต้องทำอะไร ไม่ทราบว่าพวกท่านมีวัวหรือไม่ จะได้ไถหน้าดินไปด้วยเลย"

 

"พวกเรามีวัวกันแม่นางหว่าหวา" ท่านลุงเหยียนเป็นตัวแทนพูดขึ้นมา

 

"ดีเลยเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้ค่าแรงคนละ 45 อีแปะ ไม่รวมอาหารกลางวัน พรุ่งนี้เช้าเราไปเจอกันตรงที่ดินที่จะทำงาน ที่ของพวกเรามี 20 หมู่ อยู่ตรงตีนเขาติดลำธารเจ้าค่ะ"

 

วันรุ่งขึ้นหว่าหวากับน้องรองก็ไปยังที่ดินของตนเพื่อดูคนงานทำงาน โดยให้พวกเขาไถกลบหน้าดินทั้งหมด น่าจะใช้เวลา 2 วันก็เสร็จ ตอนพักกินข้าวกลางวันหว่าหวาบอกทุกคนว่าพรุ่งนี้เธอจะมาจ่ายค่าแรงตอนปลายยามเซิน (15.00-16.59) แล้วจึงกลับไปเตรียมเมล็ดถั่วลายเสือเพราะใช้เวลาปลูก 3 เดือนกว่าๆ จึงจะเก็บเกี่ยวได้

 

หว่าหวานอนกลิ้งบนเตียงนอนหลังจากเก็บเงินอีก 50 ตำลึงเงินเข้าไปในกล่อง คิดถึงเงินที่จะหลั่งไหลเข้ามาจากเมล็ดพันธุ์ที่ติดกระเป๋ามา และร้านก๋วยเตี๋ยวที่ตั้งใจว่าจะเปิดในเมือง ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างมีความสุขเสียจริงเรา

 

 

 

ตอนต่อไป หว่าหวาจะเข้าเมืองไปหาทำเลเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว และได้ใช้ศิลปะการป้องกันตัวอีกแล้ว คอยติดตามนะคะว่าใครจะเป็นผู้โชคร้าย

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป