สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน
สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน
หลังจากหยิบเงินอีก 50 ตำลึงเงินออกมา หว่าหวาก็จดบันทึกในไดอารี่ และมองหาว่าจะเก็บเงินไว้ตรงไหนดี เอ๊ะ!!! กล่องใส่อุปกรณ์ทำแผลน่าจะพอใส่ได้ถ้าพับให้เล็กหน่อย คิดได้แล้วก็หยิบเฉพาะกล่องออกมาส่วนของที่อยู่ในกล่องเอาใส่ในกระเป๋าไว้ (กล่องเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำจากพลาสติกสีขาวขุ่น ขนาดกว้างประมาณ 8x12x8cm) เพราะพรุ่งนี้ก็จะมีกล่องใหม่มาแทน อิอิ.....จะว่าไปแล้วเราก็ไม่ได้โชคร้ายเสียทีเดียวนะที่ต้องมาอยู่ในยุคโบราณนี้ ยังมีความโชคดีที่ได้พร 3 ข้อ ถ้าไม่มีพรนี้ไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตต่อไปยังไง
หว่าหวาหยิบซองเมล็ดพันธุ์ผักในกระเป๋าออกมา ต้องใช้เวลาหลายวันหน่อยจึงจะได้เมล็ดพันธุ์จำนวนมาก "เกือบลืมไปเมื่อวานเราซื้อเมล็ดถั่วเขียวมาด้วยนี่ เอามาล้างทำความสะอาดเตรียมทำถั่วงอกดีกว่า แค่ 4 วัน ก็กินได้แล้ว เพราะในตลาดไม่เห็นมีขาย จะได้ทำผัดถั่วงอกใส่เต้าหู้
หว่าหวาเดินดูภาชนะที่มีรูเล็กๆ ว่าพอจะมีไหม ทันใดนั้นสายตาก็เหลือบเห็นตะกร้าเล็กๆ ใบหนึ่งทำจากไม้ไผ่สานทรงยาว สูงประมาณ 10cm ใส่ตะเกียบไว้ เมื่อเดินเข้าไปหยิบมาดู หว่าหวาก็ดีดนิ้วแล้วยิ้มด้วยความดีใจ "แจ๋วไปเลย" หว่าหวาเอาตะเกียบวางในชาม แล้วมองหาเมล็ดถั่วเขียว ตักออกมา 1 ชาม เอาไปล้างทำความสะอาด 2 น้ำ จุดไฟตั้งน้ำรอจนน้ำร้อนพอสมควรแล้วเอาผสมเป็นน้ำอุ่นแช่เมล็ดถั่วเขียวไว้ในชาม แล้วหาจานมาทำเป็นฝาปิดไว้รออีก 3 ชั่วยาม (ต้นยามเซิน) ค่อยมาจัดการต่อ
ถึงเวลาอาหารกลางวันหว่าหวาทำก๋วยเตี๋ยวให้ทุกคนคนกิน หลังจากมื้อกลางวันผ่านไปหว่าหวาบอกกับทุกคนว่ากำลังเตรียมปลูกผักชนิดหนึ่งซึ่งไม่ได้ปลูกในดิน
"มีด้วยหรือลูก ปลูกผักที่ไม่ต้องใช้ดิน" ท่านแม่ถาม
"นั่นสิพี่ใหญ่ ข้าไม่เคยรู้มาก่อน" น้องรองถาม น้องสามกับน้องเล็กก็สงสัยเช่นกัน
"ข้าจะพาทุกคนไปดู" หว่าหวาเดินไปในครัวแล้วหยิบถั่วเขียวขึ้นมาจากถุง
"ถั่วเขียวนี้ สามารถปลูกให้เป็นผักอีกอย่างหนึ่งได้โดยไม่ต้องใช้ดิน ใช้เวลาในการปลูกประมาณ 4 วันก็เอามาทำอาหารได้ หรือจะกินแบบดิบๆ ก็ได้ เราเรียกมันว่า ถั่วงอก ข้าจะลองทำให้ทุกคนดูก่อน 1 ถ้วย ซึ่งตอนนี้ข้านำเมล็ดถั่วเขียวมาล้างและแช่น้ำอุ่นไว้ในถ้วยนี้"
หว่าหวาชี้ให้ทุกคนดู และอธิบายวิธีปลูกให้ทุกคนฟัง แล้วหยิบตะกร้าที่ใส่ตะเกียบมาถามท่านแม่ว่าในหมู่บ้าน มีใครสานภาชนะแบบนี้ขายบ้าง
"แม่ก็ไม่แน่ใจ คงต้องลองไปถามผู้ใหญ่บ้านดู"
"รอให้ได้ถั่วงอกที่ข้าปลูกนี้กินได้ก่อนค่อยไปถามผู้ใหญ่บ้านก็ได้เจ้าค่ะท่านแม่"
พอต้นยามเซิน หว่าหวาพาทุกคนมาในครัว เอาจานที่ทำเป็นฝาปิดถ้วยที่แช่ถั่วเขียวไว้ ทุกคนเห็นว่ามีรากขาวๆ ออกมาจากบางเมล็ดแล้ว หว่าหวาจึงนำมาล้างน้ำอีกครั้ง แล้วเทใส่ตะกร้าใส่ตะเกียบที่เตรียมไว้ เอาถังน้ำมาวางแล้วเอาถ้วยใบเล็กใส่ที่ก้นจากนั้นจึงวางตะกร้าถั่วเขียวบนถ้วยและนำผ้าดิบสีขาวมาปิดปากถัง นำไปวางตรงมุมห้องครัว หว่าหวาพูดว่า
"เท่านี้ก็ปลูกเสร็จแล้ว เราต้องรดน้ำทุกวันๆ ละ 2 ครััง เช้า-เย็น การรดน้ำเราจะเอาตะกร้าถั่วเขียวออกมาจุ่มในน้ำแต่ไม่ให้ท่วมต้นมัน พอผ่านไป 3 วันเราควรเปลี่ยนตะกร้าให้ใหญ่ขึ้นเพราะถั่วงอกจะโตและแน่นตะกร้าเกินไป"
ผ่านไป 3 วัน ถั่วงอกโตเร็วจริงๆ จึงต้องเปลี่ยนเป็นตะกร้าใบใหญ่ขึ้น แล้วก็ทำการรดน้ำเหมือนเดิม พอวันที่ 4 ที่จะเปิดผ้าออกทุกคนมาดูพร้อมกัน เปิดผ้าออกมาเห็นถั่วงอกสูงพอที่จะกินได้แล้ว หว่าหวาเอาถั่วงอกมาเด็ดรากออกแล้วล้างน้ำอีกครััง แล้วหยิบให้ทุกคนลองกินแบบดิบๆ ดู
"เย็นนี้ข้าจะผัดถั่วงอกให้ทุกคนกิน ที่จริงมันใส่ในก๋วยเตี๋ยวก็อร่อย" หว่าหวาบอกทุกคน
หว่าหวาชวนท่านแม่ไปหาผู้ใหญ่บ้านเพื่อจะจ้างคนมากำจัดวัชพืชและไถที่ดินเพื่อเตรียมปลูกผักที่มีจำนวนมากพอจะทดลองปลูกได้แล้ว