Your Wishlist

ได้เกิดใหม่ ขอเป็นเถ้าแก่เนี้ย (ทำก๋วยเตี๋ยว)

Author: Lucky Lady

สาวยุค 2020 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สวรรค์ยังให้เธอไปอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคจีนโบราณที่ท่านแม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมหนังสือหย่าและลูกๆ ครอบครัวของเธอจะร่ำรวยได้อย่างไร มาเป็นกำลังใจให้เธอไปพร้อมกัน

จำนวนตอน : N/A

ทำก๋วยเตี๋ยว

  • 10/05/2564

 

"ขอบคุณพี่สาวที่ช่วยเหลือ" เด็กชายที่โดนรังแกพูดกับหว่าหวา

 

"ไม่เป็นไร เจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ แล้วทำไมจึงมานั่งขอทานอยู่คนเดียว พ่อแม่ของเจ้าล่ะอยู่ที่ไหน" หว่าหวาถามเด็กชาย

 

"พ่อแม่ข้าตายเพราะโรคระบาดเมื่อ 2 ปีก่อน เหลือข้าอยู่คนเดียวไม่มีญาติพี่น้อง ข้าอาศัยอยู่ที่วัดร้างท้ายตลาดกับพวกขอทานหลายคน" เด็กชายตอบ น้องรองกับน้องสามได้ยินก็มองหน้าหว่าหวา ส่วนหว่าหวาเมื่อได้ฟังแล้วพลันรู้สึกสงสารในโชคชะตาของเด็กชาย แล้วก็หยิบเงิน 1 ตำลึงยื่นให้เด็กชาย 

 

"เจ้ารับไว้" 

 

"แต่มันมากเกินไป" เด็กชายเห็นก้อนเงินตำลึงจึงพูดออกไป

 

"รับไว้เถอะ พวกเราไม่เดือดร้อน" น้องรองพูดเสริม เด็กชายจึงรับเงินไว้แล้วพูดว่า

 

"ขอบคุณพี่สาวและพี่ชายทั้งสอง ข้าจะไม่ลืมบุญคุณในวันนี้ ข้าชื่อ หนิงเม่ยหวาง หากมีอะไรที่สามารถช่วยพวกท่านได้ข้ายินดี"

 

"ข้าชื่อจ้าวหว่าหวา นี่น้องรอง จ้าวต้าหลี่ และน้องสาม จ้าวต้าชิง พวกข้าต้องไปแล้ว เจ้าสามารถนำเงินนี้ไปซื้ออาหารแบ่งปันให้กับพวกขอทานที่วัดร้างได้ข้าไม่ว่าเจ้าหรอก น้องรอง น้องสาม เราไปกันเถอะ" เด็กชายเอามือกุมเงินที่ใส่ไว้ในเสื้อ มองทั้งสามคนเดินจากไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย

 

"พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ ท่านเก่งมากเลย ท่านทำได้อย่างไรเมื่อสักครู่นี้" น้องรองถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น

 

"ชู้วววว เงียบไว้ เป็นท่านเทพองค์นั้นที่สอนข้า" หว่าหวาเอานิ้วชี้ขึ้นมาที่ปากและบอกกับน้องๆ

 

"แล้วพี่ใหญ่สอนข้าด้วยได้หรือไม่ ข้าอยากเก่งแบบพี่ใหญ่บ้าง" น้องรองถาม

 

"ได้เลย พี่จะสอนพวกเจ้าถ้ามีเวลา" แล้วทั้ง 3 ก็เดินไปยังร้านขายข้าวสาร คนงานในร้านช่วยขนของโดยนำรถเข็นมาใส่ของทั้งหมดแล้วเดินตาม 3 พี่น้องไปยังจุดที่เกวียนจอดอยู่ เมื่อท่านลุงหวังเห็นของที่คนงานเข็นมาก็ตกใจจึงพูดขึ้นว่า

 

"จือชิง พวกเจ้าร่ำรวยมาจากไหนกันถึงได้ซื้อของมากมายเช่นนี้"

 

"พอดีพวกเราโชคดีเก็บสมุนไพรหายากได้จำนวนหนึ่ง ขายได้ราคาดีเจ้าค่ะ" หว่าหวาตอบแทนท่านแม่

 

"อ้อ..เป็นเช่นนี้นี่เอง นับว่าเป็นโชคดีของพวกเจ้า" 

 

เมื่อคนงานวางของบนเกวียนเสร็จแล้ว หว่าหวาก็มอบเงินให้เขาไป 5 อีแปะ เพื่อตอบแทนน้ำใจ เมื่อชาวบ้านที่จะเดินทางกลับหมู่บ้านมาครบแล้ว ท่านลุงหวังจึงขับเกวียนกลับหมู่บ้าน

 

ถึงบ้านแล้ว หว่าหวาเดินสำรวจรอบบ้าน เห็นหลังบ้านมีลำธารเล็กๆ อยู่ด้วยจึงเดินไปดู เห็นปลาและกุ้งฝอยจำนวนมาก จึงเดินเข้าไปในบ้านหาตาข่ายที่พอจะจับกุ้งฝอยได้แต่ก็ไม่มี จึงเดินเข้าไปในห้องของตัวเองที่นอนกับท่านแม่ เลือกชุดที่ดูเก่าที่สุดมา 1 ชุด แล้วเรียกน้องรองให้ตามไปที่ลำธารหลังบ้านพร้อมกับถือถังตักน้ำไปด้วย 1 ใบ

 

"พี่ใหญ่ท่านเอาชุดมาทำอะไร" น้องรองถามด้วยความสงสัย

 

"เจ้าเห็นกุ้งตัวเล็กๆ ในลำธารนั่นไหม เจ้าลงไปจับให้ข้าทีเอาชุดนี้แผ่ออกแล้วช้อนกุ้งเข้ามา"

 

"ได้ แต่ปกติไม่มีใครกินกุ้งตัวเล็กๆ แบบนี้เลยนะพี่ใหญ่"

 

"พี่จะทำให้เจ้าดูว่ามันกินได้แล้วอร่อยด้วย"

 

น้องรองกางเสื้อออกช้อนกุ้งแล้วส่งให้หว่าหวาเอาใส่ถัง เมื่อได้ครึ่งถังแล้วหว่าหวาจึงบอกให้ขึ้นมาจากลำธาร เดินเข้าไปในครัวเห็นท่านแม่หุงข้าวเสร็จแล้ว และกำลังจัดเก็บของที่ซื้อมา ยังไม่ได้เริ่มทำกับข้าว

 

หว่าหวาวางถังแล้วเดินไปหยิบของที่ตัวเองซื้อมา บอกกับท่านแม่ว่า "ท่านแม่ข้าจะทำอาหารให้ท่านลองชิมดูเจ้าค่ะ น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วยาม ตอนนั้นก็ได้เวลาทานอาหารเย็นพอดี" 

 

"ลูกจะทำอะไร ให้แม่ช่วยไหม"

 

"เจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าล้างเนื้อหมูพวกนี้ก่อน ท่านแม่ช่วยเอาหม้อใบกลางใส่น้ำเกือบเต็มหม้อแล้วใส่เกลือครึ่งช้อน ตั้งบนเตาให้ข้าทีเจ้าค่ะ" ท่านแม่พยักหน้าแล้วทำตามที่หว่าหวาบอก

 

ส่วนหว่าหวาก็พับแขนเสื้อแล้วลงมือทำความสะอาดของที่ซื้อมา แล้วเอาหม้ออีกใบใส่น้ำเพื่อต้มหมูสันใน พอเห็นน้ำในหม้อที่ท่านแม่ตั้งไว้เดือดแล้วจึงนำกระดูกหมูทั้งหมดใส่ลงไป หั่นหัวไชเท้า 1 หัวใส่ไปด้วย รอให้น้ำเดือดอีกรอบ บอกกับท่านแม่ให้ช่วยตักฟองออกจากหม้อให้ด้วย แล้วเหลือบไปเห็นโถใส่กระเทียมดองวางอยู่พอดีจึงตักกระเทียมมา 3 หัว เทน้ำกระเทียมดองออกมา 1 ถ้วย

 

พอน้ำเดือดก็ใส่รากผักชีไป 3 ราก ใส่กระเทียมดอง 3 หัว พร้อมน้ำกระเทียมดอง 1 ถ้วย น้ำตาล 1 ช้อน แล้วเคี่ยวไว้ 1 ชั่วยามโดยใช้ไฟอ่อน

 

พอดีกับน้ำอีกหม้อเดือด จึงใส่หมูสันในลงไปครึ่งหนึ่งต้มไว้จนสุก อีกครึ่งก็นำมาสับเพื่อจะทำหมูสับ จากนั้นก็นำหมูเนื้อขาวมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมแบบลูกเต๋าเตรียมทำน้ำมันหมูและกากหมู (มีดที่ใช้หั่นคมมากจึงหั่นได้เร็ว) หั่นเสร็จก็เอาเกลือคลุกลงไปเล็กน้อย หมูที่ต้มไว้สุกแล้วจึงตักมาพักไว้ในชาม แล้วเอาหมูสับลงไปลวกกับกระชอน (ทำจากไม้ไผ่สานมีรูเล็กๆ ให้น้ำรั่วได้และมีด้ามจับ) จนสุก แล้วจึงตั้งกระทะเพื่อทำน้ำมันหมูและกากหม ซึ่งกากหมู พอกากหมูสุกแล้วแต่ยังไม่พองก็ยกออกจากเตามาตั้งให้เย็นก่อนแล้วจึงเคี่ยวกากหมูในน้ำมันหมูอีกรอบ ครั้งทึ่ 2 นี้จะได้กากหมูสีเหลืองกรอบอร่อย

 

เมื่อตักกากหมูขึ้นมา เทน้ำมันใส่ภาชนะเสร็จ ก็นำแป้งข้าวโพดมาผสมน้ำ ใส่เกลือเล็กน้อยคนจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วก็เอากุ้งฝอยใส่ลงไปเตรียมทอด หลังตั้งกระทะจนน้ำมันร้อนได้ที่ ก็ตักกุ้งทอดใส่ลงไปเป็นแพ พอสุกเหลืองแล้วก็ได้กุ้งทอดกรอบอร่อย เมื่อท่านแม่เห็นวิธีทำแล้วจึงรับช่วงทอดต่อจนเสร็จ หว่าหวาจึงน้ำหมูที่ต้มไว้มาหั่นเป็นชิ้นบางๆ ขนาดพอประมาณ จากน้ันก็นำผักบุ้งมาหั่น นำเส้นบะหมี่มาแบ่งเป็นก้อนๆ แล้วก็นำกุ้งทอด 3-4 แพมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 

 

ทุกอย่างทำเสร็จแล้วรอเวลากินข้าว ซึ่งน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวก็น่าจะใช้ได้พอดี หว่าหวาลองชิมน้ำซุปแล้วรสชาดไม่แตกต่างจากที่เคยกินในโลกก่อนเลย เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น หว่าหวายกชามกากหมู กุ้งทอด มาวางไว้ที่โต๊ะ ท่านแม่จึงเรียกน้องๆ ที่กำลังเห่อกับเครื่องเขียนที่ซื้อมาใหม่ให้มาทานอาหารเย็น

 

หว่าหวากับท่านแม่เข้าไปในครัวลวกเส้นบะหมี่กับผักบุ้งใส่ชาม 5 ชาม แล้วใส่หมูสับ หมูชิ้นลงไป ตักน้ำซุปพร้อมหัวไชเท้าใส่พอท่วมเส้น ตามด้วยกุ้งกรอบ บะหมี่น้ำสูตรสายรุ้งก็พร้อมเสริฟ

 

 

 

ใครอยากกินก๋วยเตี๋ยวสูตรของหว่าหวา ลองทำดูนะคะ

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป