Your Wishlist

Who Is Barbaric? (Chapter 2-2)

Author: Kōri-San

เมื่อหนึ่งคนในหมู่ของพวกเขาเป็นฆาตกรที่ต้องมาอาศัยอยู่ด้วยกัน โดยไม่มีทางเลือก ในโรงแรมที่ไร้ซึ่งทางออก

จำนวนตอน : N/A

Chapter 2-2

  • 01/07/2564

Chapter 2

-2-

       "คนที่เราพบร่องรอยก็คือคุณบงกชครับ" หลังจากคำพูดนั้นของกันต์ ทุกคนในห้องอาหารก็จับจ้องไปที่บงกชอีกครั้ง แต่เพียงไม่นานเจ้าตัวก็ปฏิเสธทันที

       "ไม่ใช่เว้ย! นี่มันรอยตอนยัยนั่นแทรกตัวเข้ามาห้ามกูกับไอวี่เมื่อวานต่างหาก" บงกชพูดออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรนปนจริงจัง แต่ดูเหมือนไอวี่จะไม่ยอมเลิกลาง่ายๆ เธอเข้าไปหาเรื่องบงกชต่อทันทีหลังจากที่เจ้าตัวปฏิเสธไป

       "ฉันว่าแล้วว่าต้องเป็นนาย! " ไอวี่พูดพลางเดินเข้าไปผลักบงกชจนเกือบล้ม แต่ก็มีชายคนหนึ่งมาขวางไอวี่เอาไว้ก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้าไปผลักบงกชอีกครั้ง

       "อย่ามาขวางฉันนะเท็น" เธอพูดใส่ชายตรงหน้าที่มาขวางหน้าเธอเอาไว้ ส่วนชายอีกคนที่เข้ามานั้นไปช่วยพยุงบงกชที่เกือบล้มนั่นเอง

       "ไม่ใช่บงกชหรอกไอวี่" คำพูดของเท็นทำไอวี่ชะงักไปเล็กน้อย และเหมือนเท็นจะรู้ว่าไอวี่จะพูดอะไรต่อไปจึงพูดเสริมขึ้นมาก่อน "เมื่อคืนเราสามคนนั่งช่วยกันคิดหาทางออกอยู่ด้วยกันทั้งคืน"

       "จริงเหรอ.." ไอวี่เอ่ยขึ้นมาเสียงเบาอย่างไม่อยากเชื่อ

       "ใช่ เมื่อคืนพวกเราสามคนอยู่ด้วยกัน" ชายคนที่เข้าไปประคองบงกชพูดตอบไอวี่แทนบงกชที่กำลังโดนไอวี่กล่าวหาอยู่ในขณะนี้

       "แล้วมีใครอยู่ด้วยกันอีกไหมครับ" กันต์เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ในห้องเริ่มสงบลงบ้างแล้ว

       "เมื่อคืนผมกับเบรฟอยู่ด้วยกันครับ" ผมพูดออกไปโดยมีกันต์พยักหน้ารับ

       หลังจากนั้นทุกคนในห้องก็กลับมาเงียบกันอีกครั้ง โดยในที่นี้ก็เหลือเพียง ไอวี่ อินทัช และภูผาเท่านั้นที่ยังไม่มีใครยืนยันให้กันได้

       "หรือว่าจะเป็นเธอล่ะ" บงกชเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงยียวนเหมือนกับต้องการประกาศสงครามกับไอวี่อีกครั้ง

       "คนที่จะเข้าไปหาเรนะในห้องได้ง่ายที่สุดก็คือเธอนะ" เมื่อสิ้นเสียงของบงกชก็เหมือนกับว่าความอดกลั้นของไอวี่นั้นได้มาถึงขีดสุด เธอใช้ฝ่ามือเล็กฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของบงกชอย่างแรงจนเกิดเสียงดังระงมไปทั่วห้องอาหาร

       "ฉันไม่มีทางฆ่าเพื่อนของตัวเองแน่! " ไอวี่พูดพลางน้ำตาคลอบริเวณรอบดวงตาราวกับร่างกายต้องการที่จะหลั่งน้ำตาแต่เจ้าตัวกลับอดกลั้นเอาไว้ เธอปาดน้ำตานั้นออกไปก่อนจะพูดขึ้นต่อ "การที่มีพยานยืนยันที่อยู่ไม่ได้แปลว่านายไม่ใช่คนร้ายนี่ พวกนายอาจจะสมรู้ร่วมคิดกันก็ได้"

       จริงอย่างที่ไอวี่บอก ไม่มีอะไรมาบอกได้เลยว่า Barbaric ที่เกมมาสเตอร์หมายถึงนั้นจะมีเพียงคนเดียว เพราะสิ่งที่เกมมาสเตอร์บอกพวกเรามาก็คือ ให้เราหาตัว Barbaric ในหมู่ของพวกเราให้เจอเท่านั้น ฉะนั้นแล้วพยานยืนยันที่อยู่อาจไม่สามารถใช้ได้จริง

       "ไอวี่พูดถูก..ทำไมพวกเราไม่สงสัยคุณนักสืบกับน้องเขากันบ้างล่ะ" หลังจากประโยคนั้นของเท็นทุกคนก็เริ่มจับจ้องไปที่กันต์และเกลทันที

       "นั่นสิคุณนักสืบ..พวกเรายอมให้พวกคุณเช็กร่างกายแล้ว แต่พวกเรายังไม่ได้เช็กพวกคุณเลยนะ" ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างบงกชพูดขึ้น

       "ถ้าทุกคนไม่พอใจ ก็เชิญมาเช็กร่างกายของผมกับเกลได้เลยครับ" เมื่อพูดจบกันต์ก็กางแขนออกให้เท็นและบงกชเข้าไปเช็คทันที

       "หนูเกล..พี่ขอเช็คหน่อยนะ" ไอวี่พูดก่อนจะพาเกลเดินตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อเช็กร่องรอยทางฝั่งของผู้หญิง

       "หมอเรน! มาช่วยทางนี้หน่อยสิครับ" บงกชตะโกนเรียกผมให้ผมไปเช็กคุณกันต์แทนพวกเขา

       ผมที่กำลังจะเดินเข้าไปหาพวกเขาก็โดนเบรฟดึงตัวเอาไว้ก่อน ผมหันไปมองเบรฟเล็กน้อยด้วยความสงสัย เจ้าตัวก็มองผมยิ้มๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า "ให้ผมไปกับพี่นะครับ" ผมพยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนที่จะเดินไปพร้อมๆ กับเขา

       "ขออนุญาตนะครับ.." ผมพูดขึ้นก่อนจะค่อยๆ ถกแขนเสื้อไหมพรมของคุณกันต์ขึ้นเล็กน้อยเพื่อเช็กรอยเล็บที่อาจเกิดขึ้นได้กับแขนทั้งสองข้าง

 

       แขนของเขาหนาไปด้วยกล้ามเนื้อในระดับหนึ่ง มีรอยแผลเป็นเล็กน้อยบางแห่งประปราย แต่ดูแล้วไม่มีรอยที่เพิ่งเกิดอยู่เลย ผมจึงละจากแขนแกร่งของเขาแล้วลงมาเช็กบริเวณมือหน้าที่สากเล็กน้อยของเขาแทน ผมพยายามเช็กในทุกซอกนิ้วแต่มันก็ไม่มีรอยอะไรอยู่เลย

       "ไม่มีครับ" ผมพูดขึ้นพร้อมกับดึงแขนเสื้อของเขาลงมาเหมือนเดิม ก่อนจะผละตัวออกไปอย่างช้าๆ

       "ผมบอกแล้วไงครับ ว่าไม่ใช่ผมกับเกลแน่นอน" กันต์พูดขึ้นเสียงเรียบพลางกอดอกของตัวเองอย่างเบื่อหน่าย

       "ทางนี้ก็ไม่มี" ไอวี่ที่จูงมือของเกลออกมาจากห้องน้ำพูดขึ้นมาสมทบ

       "แล้วมันยังไงกันวะ ไหนมึงบอกมาเช็กร่างกายพวกกูแล้วจะจับตัวคนร้ายได้ไง" บงกชพูดอย่างไม่เข้าใจเมื่อไม่มีใครมีรอยเล็บนั้นเลยนอกจากตัวเขา

       "มึงเช็กดีแล้วใช่ไหมเก็ต" เขาถามเช็กกับชายอีกคนที่เช็กรอยเล็บบนตัวกันต์กับเท็นก่อนหน้านี้

       "ดีแล้วดิ อีกนิดจะแก้ผ้ามันอยู่ละ" เก็ตตอบกลับบงกชไปอย่างส่งๆ

       "แล้วคุณหมอไม่เจอเศษชิ้นเนื้อในเล็บของเรนะเหรอครับ" กันต์หันมาถามผมถามกลางวงสนทนาที่ยังคงพูดคุยกันถึงเรื่องรอยเล็บนั้นอยู่

       "ไม่เลยครับ..สภาพเล็บของเธอนั้นแทบจะฉีกขาดออกมาจากโคนเล็บอยู่แล้ว ผมจึงไม่ได้เช็กมันมาก" สภาพแบบนั้นแพทย์ฉุกเฉินอย่างผมยังไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเลย สมแล้วกับที่เขาเป็นนักสืบมืออาชีพเช็กได้ละเอียดมากจริงๆ

       "หืม? คุณหมอไม่เห็นเหรอครับ" กันต์ถามย้ำผมอีกครั้ง นี่คงไม่ใช่ว่าสงสัยผมอยู่หรอกนะ

       "ไม่เห็นจริงๆ ครับ" ผมยังคงตอบไปตามความจริง แต่สายตาทุกคนที่มองมาที่ผมนั้นกลับเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

       แต่ก็นะ ถึงไม่มีใครเชื่อผมก็ไม่เป็นไรหรอก ในเมื่อผมพูดความจริง

       "หมอเรน..คงไม่ใช่คุณใช่ไหมคะ" ไอวี่ถามผมเสียงสั่นพลางถอยห่างออกจากตัวผมเล็กน้อย

       "ไม่ใช่พี่เรนหรอกครับ! เมื่อคืนผมอยู่กับพี่เขาทั้งคืนจริงๆ นะ" เบรฟออกมาตอบแทนผม ในตอนนี้คงมีแค่เขานั่นแหละที่จะเชื่อคำพูดของผม และคงเป็นเขาเช่นกันที่ผมจะเชื่อในคำพูดของเขา

       "แหมๆ สงสัยกันไปมาแบบนี้คงได้ตัวคนร้ายแล้วล่ะสิ" ขณะที่พวกเรานั้นยังคงโบ้ยกันไปมา จอโทรทัศน์ขนาดเล็กที่ถูกติดตั้งไว้ด้านบนของประตูทางเข้าก็ได้เปิดขึ้นพร้อมกับเกมมาสเตอร์ที่ออกมาหัวเราะเย้ยหยันพวกเรา

       "โหวตกันเลยดีไหมเอ่ย? " เขายังคงพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงที่ยียวน จนบงกชถึงกับเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็มีเท็นและเก็ตคอยห้ามเอาไว้

       "มึงใจเย็นดิวะ" เท็นพูดห้ามเพื่อนของเขาที่ทำท่าจะเข้าไปหาเรื่องกับเกมมาสเตอร์ในจอนั่น

       "โธ่ๆ คุณลูกนายตำรวจใหญ่" เกมมาสเตอร์พูดพลางหัวเราะดังลั่น ก่อนจะพูดเสริมไปอีก "อย่ามาหาเรื่องประชาชนตาดำๆ แบบผมสิครับ"

       จนในที่สุดบงกชที่ฟังอยู่ก็ตบะแตก เขายกเก้าอี้ในห้องอาหารขึ้นมาตัวหนึ่งก่อนจะฟาดเก้าอี้ตัวนั้นไปที่จอนั่นอย่างสุดแรง แต่เสียงหัวเราะของเกมมาสเตอร์นั้นยังคงอยู่

       "ไม่ทำลายข้าวของสิครับ" เขาพูดกลั้วหัวเราะพลางย้ายจอจากหน้าประตูทางเข้าไปที่จอยาวที่บาร์ตักอาหารแทน

       "แบบนี้..คงต้องเจอบทลงโทษแล้วสิ" หลังจากเกมมาสเตอร์พูดจบช่องแอร์ทั้งหมดจู่ๆ ก็ปิดลง โดยไม่นานนักทุกคนก็เริ่มเห็นควันบางอย่างตกลงมาจากท่อลมต่างๆ ที่อยู่ตามมุมของห้อง

       "อะไรวะ!? " บงกชยังคงเป็นคนแรกที่แสดงปฏิกิริยากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนเคย

       "ควันพิษ.." กันต์พูดขึ้นทำให้ทุกคนรีบเอามือหรือผ้าเช็ดหน้าของตัวเองมาปิดจมูกอย่างรวดเร็วในทันที

       "แค่นั้นมันไม่พอหรอกครับ.." เกมมาสเตอร์กลับมาพูดกับพวกเราด้วยเสียงเรียบเฉย แล้วพูดขยายความในทันที

       "ถ้าพวกคุณอยากรอดละก็..กลับไปที่ห้องของพวกคุณซะ แล้วหาหน้ากากและถังออกซิเจนให้เจอ"

       "รีบกลับห้องกันเร็ว!" อินทัชตะโกนบอกทุกคนทำให้สติของคนในห้องเริ่มกลับมา 

       หลังจากนั้นพวกเราทุกคนก็รีบวิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเอง 

 

       เมื่อผมถึงห้องแล้วที่แรกที่ผมนึกถึงคือตู้เสื้อผ้า เพราะมันคงเป็นที่เดียวที่ใหญ่พอจะใส่ถังออกซิเจนเอาไว้ด้านในได้มิดชิดที่สุด

       และมันก็เป็นไปตามคาด มันอยู่ในตู้เสื้อผ้าจริงๆ ผมรีบหยิบหน้ากากกันแก๊สที่ถูกต่อเข้ากับถังออกซิเจนเอาไว้แล้วขึ้นมาสวมทันที 

       โดยหลังจากที่ผมได้สวมหน้ากากกันแก๊สนั้นได้ไม่นานเสียงของเกมมาสเตอร์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง 

       "เอาล่ะๆ พวกคุณทุกคนคงจะถึงห้องกันแล้วสินะ" 

       "ทางเราเองมีอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ให้พวกคุณด้วย แต่ใครจะเป็นผู้โชคดีคนนั้นกันนะ" หลังจากจบประโยคนั้นใบหน้าของเกมมาสเตอร์ก็หายออกไปจากหน้าจอ และเป็นเสียงผู้หญิงที่เหมือนกับเสียงสิริดังออกมาแทน

       "ขอให้ทุกคนโชคดี"

       มันหมายความว่าไงกัน!? หรือจะมีห้องใครบางคนไม่มีหน้ากากกันแก๊สนี้อยู่ในห้อง

       เมื่อผมคิดได้แบบนั้นผมก็พยายามดึงถังออกซิเจนออกจากตู้เสื้อผ้าเพื่อที่จะออกไปดูคนอื่นๆ แต่ดูเหมือนเกมมาสเตอร์จะเตรียมการมาแล้วที่จะไม่ให้พวกเราช่วยเหลือกัน ถังออกซิเจนนั้นถูกยึดติดกับตู้โดยไม่มีทางที่จะดึงออกไปได้ และตู้นั้นก็ถูกยึดติดกับผนังห้องเอาไว้แล้ว ช่างเป็นการเตรียมการที่แยบยลเสียจริง

 

       เมื่อเวลาผ่านไปราว 2-3 ชั่วโมง ควันทั้งหมดก็เริ่มจางลงไป ส่วนก๊าซออกซิเจนในถังก็หมดลงได้อย่างพอดิบพอดี 

       "อ้าวๆ ก๊าซหมดกันแล้วสินะ รู้สึกยังไงกันบ้างล่ะ" เกมมาสเตอร์มาปรากฏตัวบนหน้าจออีกครั้งด้วยคำพูดที่สุดแสนจะยียวน ซึ่งถ้าผมเดาไม่ผิดบงกชคงกำลังหัวเสียอยู่ที่ห้องของเขาเป็นแน่

       "แล้วพวกคุณคิดว่า..เซอร์ไพรส์จากเราคืออะไรกันล่ะ" เกมมาสเตอร์พูดทิ้งท้ายเอาไว้พร้อมกับเสียงหัวเราะก่อนจะจากไป

       แล้วหน้าจอก็ปรากฏจำนวนผู้เข้าเล่นเกมอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ใช่ 10 คนแบบเมื่อเช้า แต่กลับเหลือเพียง 9 คนเท่านั้น

       แต่การเปิดเผยในครั้งนี้กลับต่างออกไป เพราะทั้ง 2 ครั้งก่อนหน้านี้จะปรากฏใบหน้าของพวกเราในจอภาพนั้นทั้งคนที่ยังมีชีวิตอยู่และคนที่ตายไป แต่ครั้งนี้กลับไม่มี..หรือเกมมาสเตอร์ต้องการให้เราไปเจอกันเองอย่างนั้นเหรอ คงไม่ใช่เบรฟหรอกนะ!?

       ผมรีบเปิดประตูห้องออกไปแล้วเคาะที่ห้องข้างๆ ซึ่งเป็นห้องของเบรฟในทันที แต่เคาะเท่าไหร่เขาก็ไม่ตอบ คงไม่ใช่ว่าเป็นอะไรไปจริงๆ หรอกนะ!?

To Be Continued

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป