Your Wishlist

บุปผาสวรรค์นางร้ายข้ามภพ (มัวเมาเงาจันทร์)

Author: หนิงเซียน

ดวงดอกท้อผลิตบานพร้อมกันถึง 3 ดอก ❤️ นี้คือเรื่องราวของภพชาติใหม่ที่ดวงดอกท้อผลิตบานพร้อมกันถึง 3 ดอก ในความใกล้ชิด สายสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ซ้อนเร้น พี่ชายแท้ๆชอบน้องสาว และอีกสองบุรุษ กวนเพื่อนรักที่ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ความทรงจำอาจจะเลือนลางเเต่มันจะไม่มีทางหายไป ด้วยว่าการกระทำ และนิสัยของนางหลุดจากกรอบของสังคมปัจจุบันไปมาก บุรุษเพื่อนซี้ทั้งสามคนนั้นมองนางด้วยสายตาที่หลากหลาย ในใจก็มีความคิดที่แตกต่างกันออกไป

จำนวนตอน :

มัวเมาเงาจันทร์

  • 19/04/2564

โรงเตี๊ยม

หลังจากที่เขาส่งนางกลับไปยังที่ห้องพักแล้ว มู่หรงหยวนเดินไปตามทางเดินเพื่อลงไปชั้นล่าง คืนนี้เขา ฉู่อู่เว่ย ฝูเหยียนอวี้ องค์ชายฉินยูเหวินนัดหมายกันไปสำรวจเมืองในเหลาสุรา ดูความเป็นอยู่ของชาวเมือง หลังจากร่ำสุราจนค่อนคืนดึกดื่นแล้ว ก็พากันกลับมายังโรงเตี๊ยมเมื่อเดินเข้ามาใกล้ก็ได้ยินเสียงเหมื่อนคนกำลังต่อสู้กัน ตอนนี้เทียงคืนแล้วประตูไม้ ไม่ได้ลงดาลประตู แต่แง้มประตูไว้ พวกเขาผลักประตูออกก็เห็นการต่อสู้ที่โรมรัน ฟันแทงกันแล้ว คนจำนวนมากเข้าต่อสู้กับคนชุดดำ เขารีบกวาดตามองไปโดยรอบ คว้ากระบี่ในมือศพที่อยู่ด้านข้างมาถือไว้ ประเมินสถานการณ์เห็นได้ชัดว่า มีคนสองกลุ่มกำลังต่อสู้อย่างดุเดือนอยู่ที่บันไดทางขึ้นฝั่งซ้าย พวกเขาเห็นแล้วก็ตกใจอย่างมากเพราะทางนั้นคือฝั่งที่พักของสตรี เขามองไม่เห็นนาง หรือแม้กระทั้งน้องสาวของตนเอง พวกเขาก็พุ่งตัวเข้าไปสังหารชายชุดดำที่บุกรุกเข้ามาในที่ของพวกเขา เมื่อเข้ามาใกล้มู่หรงหยวนถึงได้เห็นป้ายห้อยเอวตราพยัคฆ์ขาวขององค์รักษ์ลับแฝงตัวอยู่ด้วย เขายังไม่ทันได้คิดอะไรก็ต้องรับมือกับชายชุดดำอีกคน

ภายในห้องพักสตรี

กลิ่นกำยานมะลิ ลอยละล่อง อ่อยอิ่ง อบอวล อยู่ภายในห้องเหมื่อนกำลังขับกล่อมผู้คนให้หลับไหล อาหนิงหลับตาพริ้มนอนหลับสนิดไม่ได้รับรู้เรื่องราวใดๆ ในคำคืนนี้เลยแม้แต่น้อย ที่หน้าทางเดินขณะนี้มีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง ฮุ่ยจือใช้อาวุธลับ สกัดไม่ให้ชายชุดดำเข้ามาใกล้ไปมากกว่านี้ ขณะที่คิดจะหลบหนีออกไปจากที่นี้ ม่อหลันใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูก ดับกำยานแล้วเปิดหน้าต่างชั้นสองระบายอากาศออกทันที ก่อนจะรีบป้องปากเรียกปลุกองค์หญิงที่โดนวางยาสลบ นางนำผ้าชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดใบหน้าองค์หญิงเขย่าตัวปลุกให้ตื่น ก่อนจะหันมองที่ประตูจุดที่ฮุ่ยจืออยู่ ผิวปากส่งสัญญานเรียกนางมาช่วยภายในห้อง ฮุ่ยจือได้ยินเสียงม่อหลันหลังจากผละร่างชายชุดดำแล้วก็ไปดูลาดเลาที่ชั้นหนึ่ง เมื่อเห็นแล้วว่าชายชุดดำเสียเปรียบตายลงไปมากแล้ว เหล่าองค์รักษ์ลับก็เข้ามาช่วยสกัดกั้นไว้ได้ทันเวลา ก่อนจะกลับห้องพักเมื่อเปิดประตูก็เห็น ม่อหลันประคองไหลขององค์หญิงเตรียมจะใช้ผ้ารัดเอวรั้งร่างองค์หญิงไว้ที่หน้าต่างแล้ว ฮุ่ยจือเห็นดังนั้นก็รีบรุดเดินมาหาทันทีเอ่ยอย่างเร่งร้อนว่า “ม่อหลันเจ้าจะเอาอย่างนี้จริงรึ จะส่งองค์หญิงไปทางหน้าต่าง ข้างล่างสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว” ม่อหลันพยัคหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ยังวางใจไม่ได้ ไม่มีทางเลือกแล้ว เจ้าลงไปรับตัวองค์หญิงที่ด้านล่างเถอะ หากมันดีขึ้นจริงแล้วก็ดี แต่หากพวกมันพากองหนุนมาบุกเพิ่ม ถึงตอนนั้นจะไม่ทันกาล ยังไงเสียพวกเราต้องพาองค์หญิงหนีไปในที่ปลอดภัยก่อน” ฮุ่ยจือพยัคหน้าเห็นด้วย หากมีกองหนุนบุกมาพวกนางจะหนีก็สายไปเสียแล้ว หลังจากตรวจดูด้านล่างรอบหนึ่ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีคนร้ายในบริเวณนี้ฮุ่ยจือก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดลงไปรอด้านล่างทันที ภายในห้องม่อหลันยังได้ยินเสียงการต่อสู้อยู่นางก็ไม่รั้งรอตรวจผ้าห่มที่รัดเอวให้แน่นหน้าอีกครั้ง ก่อนจะจัดร่างองค์หญิงให้ดีแล้วหย่อนตัวลงไปตรงตำแหน่งที่ฮุ่ยจือรอรับอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นองค์หญิงปลอดภัยดีแล้ว ม่อหลันก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดลงตามไปทันที ทั้งสองพาองค์หญิงไปหลบมุมที่กองฟางขนาดใหญ่ไม่ไกลจากคอกพักม้าหลังโรงเตี๊ยมมากนัก

ก่อนจะลัดเลาะไปหาอาวุธและลอบนำม้ากลับมาด้วย ระหว่างเดินผ่านประตูหลังก็เห็นเหตุการณ์ที่ กลุ่มเพื่อนองค์รัชทายาทและองค์ชายฉินยูเหวิน กำลังต่อสู้และเข้าจับกุมชายชุดดำไว้ได้ 5-6 คน ม่อหลันเห็นดังนั้นก็รีบเอ่ยให้ฮุ่ยจือไปเฝ้าองค์หญิงไว้ก่อน เดียวนางจะเข้าไปข้างในเอง ฮุ่ยจือเองก็เห็นด้วยพยัคหน้าเล็กน้อยแล้วรีบเดินย้อนกลับไปทันที ม่อหลันเห็นฮุ่ยจือไปแล้วก็ก้าวเข้าไปภายในโรงเตี๊ยม เหล่าองค์รักษ์ลับเห็นม่อหลันเข้ามาต่างก็มองหน้ากันทีหนึ่งก่อนจะเร้นกายถอยออกไปจากโรงเตี๊ยม นางนั้นคาราวะเหล่าบุรุษก่อนจะเอ่ยว่า “ทั้งคุณหนูและองค์หญิงปลอดภัยดีเจ้าคะ ข้าคิดว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่กำยาน กำยานรอบแรกปกติดี แต่รอบสองอาจถูกสับเปลียนเลย..” ม่อหลันยังเอ่ยไม่ทันจบดี ก็มีกรีดร้องเสียงแหล่มสูงของนางกำนัลคนสนิดองค์หญิงฉินยูซิน ออกมาจากห้องพัก แล้วเดินตัวสั่นมาอยู่หน้าทางลงบันไดชั้นสอง เสียงกรี้ดร้องดังอยู่หลายครั้งดึงความสนใจของคนทั้งหมดไป องค์หญิงฉินยูซินใบหน้าซีดขาว มองดูเลือดและศพที่ระเกะระกะ เอ่ยเสียงที่สั้นระริก “หรงหรง หรงหรงข้ากลัว” ก่อนจะเดินโซซัดโซเซ ใบหน้าขาวซีดลงบันไดมาหลบอยู่ข้างหลังมู่หรงหยวน กำชายเสื้อเขาไว้แน่น ม่อหลันแปลกใจหลีตาลงมองดูองค์หญิงฉินยูซินอย่างครุ่นคิด แล้วมองไปที่บันไดอีกครั้งหนึ่งกลับไม่เห็นมีใครออกมาเลย แสดงว่าคุณหนูถังถัง และคุณหนูจือจือ ก็คงโดนสับเปลียนกำยานเป็นกำยานแสนสุข หนึ่งในยานอนหลับแต่หากผู้ใดกินสุราใบไผ่เหมันต์ เมื่อสองอย่างนี้อยู่ในจังหวะเวลาเดียวกันจะกลายเป็นยาปลุกกำหนัดที่ถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง ไม่นานที่เกิดเหตุก็มีคนของทางการที่เข้าเวรอยู่มากันหลายคน ในเรื่องของนักฆ่าชายชุดดำครั้งนี้ มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจนกลายเป็นสรุปอะไรยังไม่ได้ และตอนนี้ก็เทียงคืนไปแล้ว คงต้องรอช่วงเช้าดังนั้น องค์ชายฉินยูเหวินสั่งคนของตัวเองให้มันมือจับกุมคนไว้ก่อนรอพาไปไต่สวน แต่แล้วชายชุดดำก็เลือดไหลออกที่มุมปาก ฉู่อู่เว่ย มู่หรงหยวนต่างเข้าไปตรวจดูศพอย่างร่วดเร็วจึงพบยาพิษที่ฝั่งไว้ในฟัน ฉู่อู่เว่ย มู่หรงหยวนส่งเสียงเข้มให้คนสนิดขึ้นไปดูอาการน้องสาว มู่หรงหยวนผละปลีกตัวเดินตามม่อหลันออกไปข้างโรงเตี๊ยม องค์หญิงฉินยูซินที่ตื่นตระหนกก็คว้ามือหมายจะตามไปด้วย แต่มู่หรงหยวนเอ่ยขัดเสียงเรียบว่าเขาจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ก่อนที่จะปลีกตัวหลบไปยังกองฟางที่อาหนิงและฮุ่ยจือหลบอยู่

เช้าวันถัดมาฉันตื่นนอนแล้วก็งุนงง? หลังจากนั้นฮุ่ยจือและม่อหลันก็เข้ามาปฏิบัติ ฉันรีบเอ่ยถามอย่างสงสัยว่าตัวเองมาอยู่ที่ไหน? ม่อหลันจึงยิ้มปลอบใจเอ่ยอธิบายว่า เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้และข้อสันนิฐานที่นางคิดเรื่องกำยาน กับท่าที่ขององค์หญิงฉินยูซินและตอนนี้พวกนางมาพักอยู่ที่จวนรับรองของท่านเจ้าเมื่อง แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็ช่วยได้มากเพราะช่วงสายของวันนี้จะต้องเดินทางเข้าเมื่องหลวง เป็นไปตามกำหนดการเดิมเพราะที่สำนักศึกษาสตรีขององค์หญิงมีสอบจบการศึกษา ส่วนคุณหนูจือจือกับคุณหนูถังถัง สบายดี ไม่มีปัญหาอะไร ฉันได้ยินแล้วก็พยัคหน้าหลีตาลงอย่างครุนคิดเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่าได้รับรู้แล้ว

ที่สำนักศึกษาสตรี

จริงนักเรียนใหญ่ก็พร้อมที่จะออกเรื่อนกันแล้ว นักเรียนในห้องต่างมีคู่หมั้นคู่หมายกันแล้วเหลือแค่เรียนจบ หากไม่มีเหตุก็ตบแต่งได้เลย พวกเรากลับมาก็พอดีกับสอบแล้ว..หลังสอบแล้วฉันได้แต่ทอดถอนใจอยู่เงียบๆ สอบครั้งนี้ทำให้ฉันใจหายไม่น้อยเลย..ฉันอยู่มานานจนเรียนจบแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะเป็นเช่นไรยังไม่รู้เลย ไม่รู้ว่าต่อไปจะยังออกนอกวังได้เหมื่อนเดิมหรือไม่นะ? เฮ้อ..ชีวิตนี้..ช่างยาวนาน แต่แสนสั้น เห็นเพื่อนๆ ในห้องทะยอยออกไปจากห้องแล้ว ก็อดคิดบ่นอยู่ในใจไม่ได้ว่าจริงๆ การเลือกคนรักก็สำคัญ เลือกคนที่ทำให้เรารู้สึกรักตัวเองไปพร้อมกับรักเขา คนที่จะพาทั้งตัวเขาและเราเป็นคนดีขึ้นกว่าเดิมไปพร้อมๆ กัน คนที่เป็นมากกว่าแค่คนรัก ให้เลือกคนแบบนั้นแหละ..มาเป็นคู่ชีวิต

ตำหนักเฉียนชิง ห้องทรงอักษร

บางคนเย็นชาแข็งกระด้าง เพราะรู้ดีว่าหัวใจของตนอ่อนนุ่มเกินกว่าจะเปิดเผย ตั้งแต่เมื่อไรกันที่ความจริงก็รับได้ยาก รัชทายาทหยางหมิงเข้ามาภายในตำหนักเฉียนชิง ของฮ่องเต้ ก็พบว่าภายในห้องทรงอักษรมีเสด็จแม่ประทับอยู่ด้วยเช่นกัน เขาทำความเคารพเสด็จพ่อ และเสด็จแม่ เห็นจ้าวกงกงเดินออกไปเฝ้าหน้าประตูห้องทรงอักษร เขาไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น? กับท่าทีเคร่งครึ่มเช่นนี้ หวังฮ่องเต้เอ่ยเสียงเรียบตัดสิ้นความหวังใดๆ “รัชทายาท..วันนี้เสด็จแม่ของเจ้ามาปรึกษาเรา เรื่องพระชายารอง แต่เรื่องนี้เราไม่เห็นชอบด้วยองค์หญิงหนิงเซียนนางยังเด็กนัก และเรายังไม่คิดให้นางแต่งกับเชื้อพระวงค์ ตอนนางยังเด็กเราเคยให้สัญญาว่าจะให้นางเลือกคู่หมายได้เอง” เขาเงยหน้าขึ้นมองเสด็จแม่ เห็นนางก้มหน้าอยู่พักใหญ่ก็เอ่ยว่า “ตอนนี้ลูกก็โตแล้ว ยังมีเรื่องอะไรจะรับรู้ไม่ได้อีกละเพคะ? ขนาดหม่อมฉันเองก็ยังเพิ่งทราบ” ว่าแล้วนางก็เบื้อนหน้าหนี หากนางไม่ไปเล่าเรื่องนี้ให้ไทเฮาฟังว่าจะยกหนิงเอ๋อร์ขึ้นเป็นพระชายารองก็คงยังไม่รู้เรื่องความลับของราชวงค์ พอถูกไทเฮาห้ามปรามไม่ให้พูดถึงเรื่องนี้อีก ฮ่องเฮาก็ได้แต่สงสัยจนมาเอ่ยหยั่งเชิงฮ่องเต้ เมื่อเห็นช่องโหว่ก็แกล้งเซ้าซี้จนฮ่องเต้เล่าความจริงให้นางฟัง..ว่าจริงๆ หนิงเอ๋อร์ก็เป็นลูกสาวของฮ่องเต้อีกคน ในอดีตแม่ของนางเป็นคนในยุทธภพลูกสาวเล็กเจ้าสำนักร้อยพิษ ถือว่าเป็นหมอมีความสามารถมากคนหนึ่ง ตอนนั้นเขาบาดเจ็บจากการลอบฆ่าของศัตรูอยู่ที่ชายป่าแถบชายแดนและนางมาเก็บสมุนไพรหายากจึงพบเขาเข้าและช่วยชีวิตรักษาเขาจนห่ายป่วย ก่อให้เกิดความรักบริสุทธิ์เล็กๆ ขึ้น ตอนที่นางช่วยเขาก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นใคร เขาก็เช่นกันคนทั้งคู่ใช้ชีวิตเล็กๆ เป็นคนธรรมดาสามัญ ชอบกัน รักกัน โดยไม่มีเงื่อนไข หรือเล่ห์เหลียมใดๆ เขาคืออาหวัง ชายคนหนึ่ง และนางคือ เหม่ยฮวา แค่หมอชาวบ้านคนหนึ่ง ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองไปไวมาก การดื่มด่ำกลิ่นกายนางทุกวันคื่นขณะที่เขาเป็นคนธรรมดา ยิ่งผูกพันและรักใครแต่สุดท้ายเขาก็ยังมีภาระที่ต้องดูแล พอองค์รักษ์ลับแสดงตัวขอรับโทษทุกอย่างก็สิ้นสุดลง ชีวิตคนธรรมของชายที่ชื่ออาหวัง เขาพานางกลับมาด้วยและบอกความจริงกับนาง มาถึงตรงนี้เขาจึงได้รู้ว่านางเป็นใคร ไม่ว่าจะตระกูลของนาง หรือตัวนางเองก็ไม่เหมาะที่จะเข้าวัง แต่เขารักนางเกินกว่าจะปล่อยมือ นางเป็นผู้หญิงของเขา เขาให้นางอยู่ในเมื่องหลวงใช่ชีวิตอย่างที่ชอบและมอบจวนไม่ใหญ่เล็กให้นางอยู่กับองค์รักษ์และสาวใช้ ไม่นานนางก็ตั้งท้องขึ้น และตกเลือดจนตาย หวังฮ่องเต้ถอนหายใจเงียบๆ เอ่ยเสียงเรียบว่า “หนิงเอ๋อร์ก็เป็นน้องสาวเจ้าคนหนึ่ง..รัชทายาท..น้องสาวแท้ๆ หาใช่บุตรบุญธรรมอย่างที่คนอื่นเข้าใจ เราไม่สามารถอนุญาติให้พี่น้องแท้ๆ ตบแต่งกันได้ เรื่องนี้อย่าได้เอ่ยถึงอีก” รัชทยาทหยางหมิงเดินใจลอยออกมาจากทำหนักเฉียนชิง ภายในใจของเขามีหลายประโยคผุดขึ้นมาในหัว ถ้ารักมากพอจะพยายาม กับบางคนก็ใช้ไม่ได้ กับบางคนถ้ารักมากพออาจจะหมายถึงต้องปล่อยเขาไป แต่กับเขาเรื่องนี้ภาพในหัวของรัชทยาทคิดถึงค่ำคื่นในวันประพาสเรื่อนร่าง รสจูบ และเขาอยากครอบรองนาง..บางครั้งการ"หลับตา"ก็ไม่ได้ช่วยให้เราลืมบางสิ่ง แต่แค่ช่วยให้เรา"ไม่เห็นบางอย่าง"

จวนตระกูลมู่หรง

ในภายในห้องหนังสือใหญ่ของท่านแม่ทัพใหญ่ มู่หรงหยวนนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม เขาเข้าไปปรึกษาเรื่องขอสมรสพระราชทานกับท่านพ่ออยู่พักใหญ่ ผลลัพธ์ในครั้งนี้ถือว่าดีเกินขาด เขาตัดสินใจพูดความในใจไม่ปิดบังเห็นท่านพ่อเงียบไปซักพักก็ตกลง เรื่องนี้เขาจะจัดการเอง มู่หรงหยวนออกจากห้องหนังสือไปไม่นาน ก็มีนกพิราบบินออกจากจวนตระกูลมู่หรงไปยังทิศทางของวังหลวง

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป