Your Wishlist

บุปผาสวรรค์นางร้ายข้ามภพ (พิษรักแรง(แอบ)หึง)

Author: หนิงเซียน

ดวงดอกท้อผลิตบานพร้อมกันถึง 3 ดอก ❤️ นี้คือเรื่องราวของภพชาติใหม่ที่ดวงดอกท้อผลิตบานพร้อมกันถึง 3 ดอก ในความใกล้ชิด สายสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ซ้อนเร้น พี่ชายแท้ๆชอบน้องสาว และอีกสองบุรุษ กวนเพื่อนรักที่ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ความทรงจำอาจจะเลือนลางเเต่มันจะไม่มีทางหายไป ด้วยว่าการกระทำ และนิสัยของนางหลุดจากกรอบของสังคมปัจจุบันไปมาก บุรุษเพื่อนซี้ทั้งสามคนนั้นมองนางด้วยสายตาที่หลากหลาย ในใจก็มีความคิดที่แตกต่างกันออกไป

จำนวนตอน :

พิษรักแรง(แอบ)หึง

  • 19/04/2564

กระโจมส่วนตัว

สองสาวนั้นหลังจากเล่าความในใจกันออกมาแล้วก็คิดไม่ตก ว่าจะแก้แค้นยังไงดี? องค์หญิงฉินยูซินนั้นโหดร้ายถึงขั้นฆ่าคนปิดปาก ไม่ให้ใครตามสืบหาข้อเท็จจริงได้ แถมยังมาเก็บงาน ร้องให้เป็นสายเลือด เรียกร้องคะแนนความสงสารอีก แต่ไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ใช่นิสัย!!

“จริงๆจะว่า ไม่มีวิธีก็ไม่ได้ แต่ข้าไม่อยากทำ”จู่ๆฉันก็เอ่ยอย่างใจลอยขึ้น เพราะไม่แน่ใจ ถังถังก็รู้สึกถึงทางตัน ไม่รู่จะทำยังไงดี เมื่อได้ยินแล้วก็หันมามองหน้าด้วยคำถาม ฉันเห็นแล้วก็เอ่ยว่า “องค์หญิงฉินนั้นชอบพี่มู่หรงหยวน พวกเราก็ขัดขวางแต่มันจะไม่ดี เหมื่อนไปขัดขวางพรมลิขิตของพวกเขา นอกซ่ะจากว่า ได้รับความยินยอมจากเจ้าตัว และให้เขาเข้าร่วมแผนเอาคืนด้วย” ฉันถอนหายใจเอ่ยต่อว่า”องค์หญิงโตกว่าพวกเรา ก็ต้องกล้ากว่าพวกเรา แต่พวกเราสนิดกับพวกพี่ชายมากกว่า เขาว่ากันว่ารักนก ก็ต้องรักรังนกด้วย” ถังถังได้ยินแล้วก็พยัคหน้าสองหัวก็ดีกว่าหัวเดียว ยิ่งตอนนี้ก็คิดอะไรไม่ออกด้วย ไปหาพวกพี่ชายก็ดีเหมื่อนกัน เอ่ยว่า “ไปกัน ไปหาพวกพี่ชายกัน”

พวกเราเดินกันไปฝั่งโจมผู้ชาย ระหว่างทางกลับเห็นกลุ่มรัชทายาทกับพวกพี่ชายกำลังควบม้า และมีองค์ชายฉินยูเหวิน กับองค์หญิงฉินยูซิน แห่งแค้วนฉินก็อยู่ด้วยกัน ฉันรีบรั้งแขนถังถังให้หยุดไว้ก่อน ดูท่าคงไม่มีอะไรฉุดได้อีกแล้ว คงอาจจะมีงานมงคลจริงๆองค์หญิงฉินยูซินรุกไม่ปล่อย อยู่ไม่ห่างมู่หรงหยวนเลยทีเดียว ฉันนั้นหลีตามองนิ่ง เหตุการณ์ตายของบ่าวคนสนิดเพิ่งผ่านไปไม่กี่ชั่วยามก็รีบรุดมาอ้อยผู้แล้ว และลูกสาวคนเดียวของแม่ทัพบาดเจ็บก็ได้คะแนนความสงสารไปอีก ฉันเห็นแล้วก็หมั่นใส้จริงๆ ผู้ชายเป็นสัตว์เซลล์เดียวรึไงกัน! ถึงได้ไม่รู้สึกอะไรแปลกๆ หรือว่ารู้สึกมีสายสนกลในซ้อนอยู่กัน ฉันรู้สึกหัวร้อน อารมณ์เสียพุ่งพลานกระทันหัน เสหน้าออกไปทางอื่นไม่อยากเห็นคู่นั้นอีกเอ่ยเสียงดังว่า “ถังถัง! เราไปขี่ม้ากัน”ไม่นานฉันกับถังถังก็ขี่ม้า มาหยุดอยู่หน้าทางเข้าป่า จะให้พวกเราตามพวกนั้นเข้าป่าก็ใช่เรื่อง ไม่รู้ว่าพวกเขาไปตรงไหน ถึงไหนกันแล้ว พวกเราเลยหน้าม่อยคอตก เดินกลับกระโจมกันไปอย่างเงียบๆ หันมามองกันแล้วก็ถอนหายใจพร้อมกัน

กระโจมฝั่งสตรี ที่พักจือจือ

พวกเรามาหยุดอยู่หน้ากระโจมของจือจือ มองหน้ากันแล้วเปิดเขาไป ก็เห็นจือจือกำลังกินขนมอยู่กับม่อหลัน ม่อหลันเห็นฉันแล้วก็รีบลุกยื่น ทำความเคารพแล้วถอยห่างออกไป ฉันอารมณ์ไม่ดีเป็นทุนเดิมพยัคหน้าแล้วเอ่ยเสียงเรียบเรื่อยว่า ”ม่อหลัน ฮุ่ยจือ ไปดูต้นทางข้าจะคุยเรื่องสำคัญ”จือจือมองอย่างสนใจใครรู้เอ่ยเสียงในลำคอ “หืม? ” ฉันและถังถังนั่งประกบซ้ายขวาก่อนจะเอ่ยว่า “จือจือ ตั้งใจฟังนะข้านะ เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ข้าว่าไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ” จือจือได้ยินแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว ถังถังและฉันเริ่มเล่าขอสงสัยรวมถึงรอยยิ้มสะใจ เมื่อองค์หญิงฉินยูซินที่ออกไปนอกกระโจมร่วมถึงทำการทำตัวติดใกล้ชิดกับมู่หรงหยวนให้จือจือฟังทั้งหมด จือจือได้ยินแล้วก็หน้าดำคล้ำลงทันที่ “หึ! นางอยยากเป็นพี่สะใภ้ข้าจริงๆ สินะ! แต่ข้าจะไม่ให้นางสมหวัง ไปข้างนอกกับข้า เย็นนี้ไม่ต้องรอให้พี่ใหญ่ฉู่หาเนื้อมาหรอก พวกเราก็หาเองได้”

เขาป่าย

ไม่นานพวกเราก็ขี่ม้าควบตรงไปทางเข้าป่า ฉันกับถังถังขี่คนล่ะตัว จือจือให้องค์รักษ์หญิงขี่ม้าให้ พวกเราเรียกองค์รักษ์มาอีกเพื่อล่าสัตว์ ฮุ่ยจือ และม่อหลันก็ตามมา ถังถังและจือจือเป็นพวกบ้าพลัง ฉันปล่อยให้สองสาวล่ากระต่าย แค่สัวต์เล็กๆแต่ว่าหลายตัวเสียหน่อย ฉันนั้นอยู่เงียบๆคอยดูแล แต่กลับได้ยินเสียงกิ่งไม้ กรอบแกรบอยู่บนศรีษะ ก็ค่อยๆเอื่อมมือไปหยิบมีดสั้นใกล้ตัวแล้ว เงยหน้าขึ้นไปมองเห็นงูเลือยผ่าน หลีตาดูก่อนจะออกแรงเหวียงฟันไปที่งูสุดแรง มีดนั้นคาระหว่างงูและกิ่งใหญ่ มันนั้นดิ้นกระตุกเพื่อให้หลุดออกไป ฉันลงจากหลังม้าเดินไปคว้าดาบองค์รักษ์ฟันไปที่หัวงูทันที ร่างนั้นกระตุกเล็กน้อยก่อนจะนิ่ง ฉันชักมีดออกพร้อมกับรับลำตัวงูมาด้วยก่อนจะยกยิ้มมุมปาก หันเอางูไปใส่กระเป๋าล่าสัตว์แล้วก็ต้องเห็นสายตาแปลกๆของทุกคน ฉันเอียงคอเอ่ยยิ้มๆ “ข้าว่า ข้าคิดเมนูเพิ่มได้อีกหนึ่งแล้วล่ะ องค์หญิงฉินจะต้องชอบแน่ๆ” แล้วหันไปดูรอบๆ อยากได้หนอนจัง ขาวๆอวบๆมีไหมน้า

หลังค่ายพักกระโจมหลวง

เริ่มเย็นแล้วพวกเราก็ออกจากป่า ตรงกลับหลังกระโจมทันที หลังจากผูกม้าแล้วก็หาที่ตั้งก่อกองไฟที่ตั้งใจไว้เตรียมทำเนื้อย่าง ฉันนั้นหยิบต้นหญ้าอ่อนชูเหนื่อศรีษะ เพื่อดูทิศทางลมก่อนจะเลือกทำเล แล้วสั่งให้คนไปขนอุปรณ์ทำครัวและจัดที่ทาง พวกเราขนกระต่ายที่ช่วยกันล่าได้วันนี้มา 8 ตัวและงู ฉันไม่สนใจใคร ตรงไปทำงูก่อนเลยลวกน้ำร้อนก่อนจะทำให้เซลล์ของงูตาย และเตรียมถลอกหนังออก โดยกรีดตามยาวแล้วดึงเครื่องในออก สับเป็นท่อนแผ่กับเขียงแล้วเอามีดด้านข้างทุบให้กระดูกแตก แล้วใส่ถ้วยไว้ก่อนจะอมยิ้ม จริงๆแล้วเนื้องูรสชาติคล้ายเนื้อไก่ ก่อนจะมาในยุคนี้ฉันก็เคยกินและเคยเรียน รด.กับ ตระกลูปะป๊าสุดที่รัก ก็เป็นทหารทั้งหมดฉันเลยได้รับอธิพลมามากไม่ได้กลัวการเข้าป่า ผู้ชายทำอะไรได้ฉันก็ทำได้หมดเพราะปะป๊าเป็นคนสอน แต่แค่ยุคโบราณชอบลอบฆ่ากันเลยไม่อยากไปก็เท่านั้นเอง แล้วเตรียมทำกระต่ายต่อจริงๆแล้วคุณภาพทางโภชนาการของกระต่ายมีความสำคัญมากกว่าไก่เนื้อวัวและเนื้อหมู มีโปรตีนคุณภาพสูง แต่ก็มีข้อเสียไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเกาต์

ไม่นานก็มีกลุ่มของรัชทายาทและพวกพี่ชาย กับองค์ชายฉินยูเหวิน กับองค์หญิงฉินยูซิน แห่งแค้วนฉินก็มา ฉันปรายตามองไม่สนใจ ให้ถังถัง จือจือ รับมือกันไป ก่อนจะหันไปมองม่อหลัน ให้ไปตามพระชายารัชทายาทเสิ่นอีอี กับพระชายาจางซินอวี่ ขององค์ชายห้า มาร่วมทานด้วยกัน ฉู่อู่เว่ยล่าเนื้อกวางมาให้ตามสัญญา ฉันเห็นแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเอ่ยว่า “กวางนี้ข้าแร่เนื้อมันไม่เป็น แต่ข้ารู้ว่าทำอะไรอร่อย” ฉู่อู่เว่ยได้ยินแล้วก็ยิ้มขำ”ใครเขาจะให้องค์หญิงทำเล่า ไม่งั้นพ่อครัวคงตกงานแล้ว” ฉันได้ยินแล้วก็ต้องยิ้ม เมื่อเห็นว่ามีพ่อครัวมาจริงๆตามหลังฉู่อู่เว่ยมา ฉู่อู่เว่ยเดินสำรวจที่ฉันแบ่งส่วนไว้แล้วก่อนจะพยัคหน้า “องค์หญิงน้อยคิดจะทำเมนูอะไรกินบ้าง ข้าเหนื่อยและหิวมาก” ก่อนจะทำท่าสายหัวอย่างจนใจ ฉันเห็นแล้วก็หมั่นใส้เอ่ยเสียงประชด”ข้านึกว่าอยู่กับหญิงงามมาทั้งวัน ไม่เหนื่อยไม่หิว พร้อมบุกน้ำลุยไฟเพื่อหญิงงามเสียอีก” ฉู่อู่เว่ยได้ยินแล้วก็เลิกคิ้ว ก่อนจะเหลียวไปมองแล้วดวงตาเป็นประกาย ใจนั้นเต้นแรงขึ้นเอ่ยแซ่วๆว่า”องค์หญิงน้อยหึงข้าหรือ” แล้วตั้งใจรอฟังคำตอบของนาง ฉันมองหน้าเขา”พี่ฉู่อู่เว่ยหิวไม่ใช่หรอ ก็อยู่รอ มาเป็นลูกมือข้าตรงนี้ล่ะ” ฉันนั้นเริ่มทำกระต่ายผัดเผ็ด ระหว่างรอพ่อครัวแร่เนื่อกวางไม่นานก็มี สเต็กเนื้อกวาง บาบีคิว กวางผัดเผ็ดผัด ผัดกระเพรา (งู) กระต่ายผัดเผ็ด กระต่ายทอดกระเทียมพริกไทย สุรา สุราผลไม้ ไวน์ และเนื้อกวางแร่สำหรับปิ่งย่าง ฉันนั้นเก็บของดีอย่างเลือดกวางไว้ตั้งใจจะแบ่งให้หลงจู้เหยา หยางหยาง และฉู่อู่เว่ยไว้ใช้บำรุงร่างกาย

เมื่อทำกับข้าวครบฉันก็ช่วยยกถือจานผัดกระเพรา (งู) ไว้ในมือ วางไว้ข้างหน้า องค์หญิงฉินยูซิน จะได้คว้าถนัดไม้ ถนัดมือ มืออีกข้างก็เป็น กวางผัดเผ็ดผัดรสจัดจ้านวางไว้ใกล้กัน พ่อครัว และฉู่อู่เว่ยก็ช่วยยกจัดจานให้เข้าที่ ฉันนั้งใกล้ถังถัง ฉู่อู่เว่ยก็มานั้งข้างๆ ฉันนั้นฟังพวกเขาคุยกันไปพลางจิบไวน์ คู่กับ สเต็กเนื้อกวาง ที่รสชาตินุ่มมากแทบละลายในปาก อย่างนี้สิถึงอร่อย! ต้องกินคู่กับไวน์ ระหว่างกำลังอร่อยก็เห็นฉู่อู่เว่ยกำลังจะยกสุราขึ้นมา ฉันรีบห้ามแล้วเลือนไวน์ให้ชิม ยักคิ้วให้เขาลองกินคู่กันดู ในเมื่อมีไวน์กับสุรา ก็ต้องลองสเต็กเนื้อกวาง คู่กับไวน์ดูจะได้รู้ว่ารสชาติมันเป็นยังไง ฉู่อู่เว่ยเงียบไปอึดในหนึ่งก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นมาชิมแล้วพยัคหน้าอย่างพึงพอใจ ฉันเหลียวหลังส่งสัญญานให้ฮุ่ยจือรินไวน์อีกแก้ว ก่อนจะรับมาวางใว้ใกล้ๆมือฉู่อู่เว่ยไม่ได้เอ่ยคำใด ในกลุ่มพวกเราเด็กสุดก็ได้แต่รับฟังพวกนี้เขาคุยกันไป จือจือหันมายัคคิ้วให้ฉัน ฉันได้แต่พยัคหน้าน้อยๆ ก่อนจะชนแก้วกับสาวๆเป็นอันรู้กันว่า เนื้องูนั่นองค์หญิงฉินต้องได้กินแน่ๆ และก็เป็นไปตามคาด เพราะรอบข้างกับข้าวเผ็ดซี้ดซ๊าดทุกอย่าง ผัดกระเพราก็เผ็ดแต่ไม่ร้อนแรงเท่า ไม่นานก็พร่องไปครึ่งจานแล้วอย่างรวดเร็ว พระชายารัชทายาทเสิ่นอีอี กับพระชายาจางซินอวี่ ขององค์ชายห้า นั่งสงบนิ่งเรียบร้อยเป็นผู้ฟังที่ดี รินสุราให้สามีเมื่อจอกพร่องกันทั้งคู่ ฉันได้แต่ยิ้มตาหยีพยัคหน้าให้เล็กน้อยให้กับคนทั้งคู่ เมื่อสเต็กหมดไป ฉันก็สั่งให้คนขนเตา 3 เตาขึ้นมาเลยพร้อมย่างเนื้อกินต่อ พวกเราช่วนคุยเล็กๆน้อยๆเพราะเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

ไวน์ก็หมดไปขวดหนึ่งกำลังเปิดขวดใหม่เพิ่ม จู่ฉันก็โดนขี้ผงกระเด็นเข้าตาก็ร้องอย่างตกใจออกมาไม่ได้ "โอ้ย!! " กำลังจะเอามือขยี้ตา ฉู่อู่เว่ยก็คว้าข้อมือห้ามไว้ก่อน "องค์หญิงน้อยเป็นอะไร" ฉันกระพริบตาถี่ๆชักมือกลับจะมาขยี้ตา"ผงเข้าตา ปล่อย! มันเคืองตา"พยามยามจะดึงมือคืนเพราะมันเคืองตามาก ฉู่อู่เว่ยกุมมือกดลงเอ่ยเสียงทุ่มว่า "เดียวข้าดูให้ไม่ต้องขยี้ตา ตรงไหนบอกข้ามา" เขานั่นเคลือนหน้าเข้ามาใกล้ ฉันนั่นตามองฟ้าอยู่นิ่ง รู้สึกถึงลมเย็นๆและสัมผัสที่แผ่วเบา ฉันกระพริบตาถี่ๆ เมื่อรู้สึกว่าปกติแล้วก็มองลงมาเห็นหน้าของฉู่อู่เว่ยในระยะประชิด เห็นเขากำลังจองตาฉันมองด้วยสายตารักใคร่เป็นห่วง ฉันก็มองตอบไม่ได้หลบสายตาไปไหน ภาพนี้ทำให้องค์หญิงฉินยูซินขยับมาใกล้มู่หรงหยวนมากขึ้นเอี้ยวตัวใกล้ใบหูของมู่หรงหยวนอย่างมีจริต "พวกเขาดูเหมาะสมกันดีนะมู่หรงหยวน ตอนแรกพี่ชายข้าอยากได้นางแต่ตอนนี้น่าจะหมดหวังแล้ว" นางเอ่ยแซ่วโดยที่ไม่ได้มองหน้าคู่สนทนาเลยว่าแววตานั้นเปลียนเป็นคมกริบ ก่อนจะข่มอารมณ์ก้มหน้าไม่มองภาพตรงหน้า หยางหมิงก็เช่นกันแม้เขาจะชวนคุยก็เลือบมองหนิงเอ๋อร์อยู่ตลอด

ฉันมองหน้าฉู่อู่เว่ยอยู่นานเห็นเขาไม่ละสายตาไปไหน ก็ค่อยๆยกมือจิ้มแก้มเขา เห็นเขาเอนหลังถอยไปเล็กน้อยก็ยิ้มหวานให้ เอ่ยเสียงหวานใสว่า "ขอบคุณนะ" แล้วหันไปกอดกับถังถังแน่น เกยคางไว้บนบ่าถังถังถูไถไปมา ถังถังเห็นแล้วก็ยิ้มๆเอ่ยเสียงเบา"ข้าบอกแล้ว พี่ชายข้าดีมาก เห็นแบบนี้เขาก็เอาใจใส่คนอื่น เจ้าอยู่กับเขาข้าก็หายห่วงทั้งคู่นั้นล่ะ"ฉ้นได้ยินแล้วก็หันหน้าควับเอ่ยเสียงสูง"ถังถัง! " ถังถังยิ้มแย้มแล้วเอี้ยวตัวมาหาอาหนิงกางแขนออกเอ่ยเสียงสดใสว่า"กอดหน่อยสิ" ฉันเห็นแล้วก็ต้องแก้มป๋องอย่างขัดใจก่อนจะโน้มตัวไปกอดตอบ จือจือเห็นแล้วก็ถอนหายใจแล้วชำเลืองดูพี่รอง เห็นสีหน้าที่ดำคล่ำแล้วก็เลือบมองดูองค์หญิงฉินเจ้าปัญหา หากยังเป็นอยู่แบบนี้พี่รองอดแน่นๆ เห็นแล้วมันก็อดไม่ได้เอ่ยเสียงดังว่า"พี่รอง! ตักผัดกระเพราใส่จานเล็กแบ่งมาหน่อยสิข้ายังไม่เคยกินเลย..อ้าว? หมดแล้วเหรอเนี้ย! องค์หญิงได้ชิมบ้างไหมเพคะ? ว่ารสชาติเป็นยังไง? อร่อยไหมเพคะ? " องค์หญิงฉินยูซินยิ้มหวานเอ่ยตอบ"อร่อยดีจ๊ะ คนครัวที่นี้ทำอาหารอร่อยมาก ว่าอย่างงั้นไหมมู่หรงหยวนแล้วเจ้าชอบจานไหนบ้างหรอ? " ก่อนจะยิ้มหวานสบตากับมู่หรงหยวน

จือจือพยัคหน้า"ไม่เสียทีๆอุสาล่ามาได้ เห็นมันกำลังเลือยอยู่" องค์หญิงฉินยูซินกำลังยิ้มหวานได้ยินคำแปลกหูก็หันหน้ามาเอ่ยทวน"เลือย? " จือจือพยัคหน้าจริงจัง อย่างใสซื่อ "ก็ งู! ไงเพคะมันกำลังเลือยๆ พวกเราได้ยินคนชอบกินของป่าบอกว่าอร่อยเลยจับมาดูเพคะ เห็นองค์หญิง! ยืนยันแบบนี้ไว้คราวหน้าจะหามาลองชิมดูบ้างเพคะ คราวนี้หมดแล้ว กะว่าจะจับ กบ ลองมาทำยำดูบ้าง แต่ที่แถวนี้ไม่มี แต่ก็คิดว่าจะยากไปซักหน่อย เวลามันกระโดดขึ้นลง" ยังพูดไม่ทันจบองค์หญิงฉินยูซินก็หน้าเสียทันที สีหน้าผะอืดผะอมก่อนจะลุกวิ่งออกไปไกล จือจือได้แต่สายหน้าอย่างจนใจ ทำสีหน้าว่าพลาดของกินไปจริงๆ สีหน้าของคนในโต๊ะเริ่มเงียบ! ระแวงของกิน ฉันดูสีหน้าพวกเขาแล้วก็ต้องกลั่นขำไว้สุดๆ หันไปมองฉู่อู่เว่ยที่สีหน้าตกตะลึงเขาไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีงูอยู่ด้วย ฉันเห็นแล้วก็เอ่ยเศร้าๆ"ที่พวกเราทาน มีกระต่าย 8 งู 1 กวาง 1 ที่ล่ามาได้วันนี้ งูมันตัวไม่ใหญ่มาก เลยทำออกมาได้จานเด่น จานเดียว ข้าเลยเอาไว้ตรงกลาง" ฉันกล่าวอย่างรู้สึกตัดพ้อ หน้าสลดลงทันที่เอ่ยต่อว่า "ตอนที่ข้าทำผัดกระเพราะรสชาติก็ไม่ได้แย่ขนาดนั่นเสียหน่อย? ถ้าพวกท่านไม่ชอบก็ไม่ต้องทาน!! ข้าขออภัยที่เสียมารยาทแล้ว ข้าขอตัว" แล้วลุกออกมา ตามมาด้วยจือจือ ถังถัง ที่สะบัดก้นอย่างรวดเร็ว เมื่อห่างออกไปไกลพอสมควรก็ระเบิดเสียงหัวเราะกันทันที

กระโจมส่วนตัว

คืนนั้นฉันกำลังจะเตรียมตัวนอนหลังจากที่ให้ฮุ่ยจือและม่อหลันไปนอนกระโจมข้างแล้วนั่น จู่ๆก็มีเสียงเปิดกระโจมก้าวเข้ามา ฉันกำลังหยิบกางเกงขาสั้นที่เพิ่งถอดเอามาผึงไว้ด้านข้าง หันหลังตามเสียงกลับเจอหยางหมิง ที่กำลังตกตะลึง ฉันเห็นแล้วก็ตกใจมาก! รีบก้าวขึ้นเตียงที่ใกล้ที่สุด คว้าผ้าห่มคลุมตักทันที่รีบเอ่ย "ขอโทษเพคะ เออ..พอดีข้าจะนอนเลยแต่งตัวไม่เรียบร้อย" หยางหมิงหลังจากได้สติจากภาพตรงหน้าก็รีบเอ่ย "ข้าผิดเองๆ ข้าคุยได้หรือไม่" ฉันพยัคหน้าเบาๆ หยางหมิงตอนที่ก้าวเข้ามาก็เห็นร่างบาง ส่วนที่ควรเว้าก็เว้า ส่วนที่ควรโค้งก็โค้ง กำลังก้มเก็บกางเกง เห็นกางเกงซับในของนาง และเอี้ยมตัวบางเบากับทรวงอกขนาดใหญ่ที่ปิดไม่มิดแล้ว ตัวแข็งขืนรู้สึกหน่วงๆที่ท้องน้อยทันที รู้สึกเหมือนเลือดลมสูบฉีด เริ่มร้อนไปทั้วร่าง อาจเพราะวันนี้ดื่มไปมาก ตั้งสติได้แล้วก็เดินไปหานาง นั่งอยู่ริมเตียงมองนางแล้วก็ไม่อาจละสายตาจากคอระหงส์ กับไหปลาร้า ข่มใจไม่ให้มองต่ำลงไปมองผิวที่เนียนละเอียด นึกถึงคราวนั่นที่หอนางโลมแล้ว เนื้อตัวนางนุ่มนิ่มมากอยากสัมผัสอีกครั้ง แต่ก็กลับต้องเอ่ยว่า "กับข้าววันนี้หนิงเอ๋อร์ทำอร่อยนัก ไม่ต้องเสียใจไป"ก่อนจะกุมมือหนิงเอ๋อร์

ตอนนี้แก้มของนางแดงระเรื่อน่าสัมผัสยิ่งนัก เขามองนางอย่างรักใคร่เปิดเผย ฉันเห็นเขามองไม่วางตา เนื้อตัวก็ร้อนวูบวาบเป็นทุนเดิมจากการดื่มไวน์อยู่แล้ว ก็กลัวสติของตัวเองที่แทบจะไม่มีเพราะไปดื่มไวน์ต่อจากกระโจมจือจือมาหมาดๆที่เรียกได้ว่าพร้อมไปทุกเมื่อ หลับตาแล้วพยัคหน้า"เพคะ ขอบพระทัยเพคะ แล้วองค์หญิงฉินยูซินโกรธข้าไหมเพคะ แต่ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าแค่ลองทำดูเท่านั้นจริงๆ" หยางหมิงเห็นแล้วก็อดไม่ได้ รั่งนางเข้ามากอดเอ่ยปลอบใจแล้วลูบหลังนางน้ำเสียงนุ่มดังขึ้น"ข้าพูดให้แล้ว ไม่เป็นไรๆ มีข้าอยู่เจ้าไม่ต้องกลัว แล้วเจ้า..นอนแบบนี้หรือ..มันไม่? "เขาหยุดเว้นไว้ แล้วลูบไล้แก้มที่แดงระเรื่อของนาง เห็นนางขมวดคิ้ว พวงแก้มแดงกำเหมื่อนอดกลั่น ก็ค่อยเลือนมาที่ลำคอระหงส์ของนางอย่างช้าๆรู้สึกได้ถึงผิวกายนุ่มของนางรุ่มร้อน

ฉันตอนนี้รู้สึกเนื้อตัวร้อนมากเจอแบบนี้เข้าไปก็รู้สึกเริ่มมีอารมณ์ ฉันรีบลืมตาเอ่ยว่า"ข้าชอบร้อน โดนฮุ่ยจือ ม่อหลันบ่นประจำเพคะ พี่สี่นอนเถอะเพคะข้าง่วงแล้ว" หยางหมิงพยัคหน้าก่อนจะรั่งคอนางและจูบหน้าผากนางอย่างแผ่วเบา เอ่ยเสียงนุ่ม"เด็กดีนอนเถอะ" ก่อนจะโน้มตัวลงทาบทับร่างของนาง และหยัดลุกขึ้นเล็กน้อยดึงผ้าห่มให้นาง ยิ้มแล้วเอ่ยว่า"นอนเถอะ" ฉันนั้นแอบตกใจเบาๆพอเห็นหยางหมิงลุกขึ้นก็เอ่ยว่า "ฝันดีนะเพคะ" หยางหมิงหันหน้ากลับมายิ้มละมุนอ่อนโยนให้ แล้วก้าวออกจากกระโจมจากไป เมื่อออกจากกระโจม ความหน่วงท้องน้อยของหยางหมิงก็มีมากขึ้น เขานั้นรีบกลับไปหาพระชายาในกระโจมของตัวเองทันที ก่อนจะเล้าโลมเริ่มบรรเลงบทเพลงรักที่ร้อนแรง

---------- ----------

ข้อมูลอ้างอิง :: วิธี ทำงู ในเวป https://www.thairath.co.th/news/society/1377574

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป