Your Wishlist

บุปผาสวรรค์นางร้ายข้ามภพ (ไวน์แดงกับเนื้อโทมาฮอวค์)

Author: หนิงเซียน

ดวงดอกท้อผลิตบานพร้อมกันถึง 3 ดอก ❤️ นี้คือเรื่องราวของภพชาติใหม่ที่ดวงดอกท้อผลิตบานพร้อมกันถึง 3 ดอก ในความใกล้ชิด สายสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ซ้อนเร้น พี่ชายแท้ๆชอบน้องสาว และอีกสองบุรุษ กวนเพื่อนรักที่ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ความทรงจำอาจจะเลือนลางเเต่มันจะไม่มีทางหายไป ด้วยว่าการกระทำ และนิสัยของนางหลุดจากกรอบของสังคมปัจจุบันไปมาก บุรุษเพื่อนซี้ทั้งสามคนนั้นมองนางด้วยสายตาที่หลากหลาย ในใจก็มีความคิดที่แตกต่างกันออกไป

จำนวนตอน :

ไวน์แดงกับเนื้อโทมาฮอวค์

  • 19/04/2564

จวนตระกลูมู่หรง

ซักพักจือจือก็ออกมา และมีบ่าวหญิงอีกหลายคนขนน้ำออก และนำน้ำใหม่เข้าไปผลัดเปลียนอยู่ครู่หนึ่ง ฉันก็เข้าไปอาบน้ำ ฮุ่ยจื่อก็คอยรอปฏิบัติอยู่หน้าฉากกัน ม่อหลันเตรียมชุดผลัดเปลียน และเครื่องประดับชุดเล็กๆเตรียมกลับวังหลวง ไม่นานพวกเราสองคนก็ไปร่วมตัวที่ห้องกินข้าวที่นี้ครึกครื่นยิ่ง แต่ก็มีกับข้าวหลายอย่างที่ฉันไม่ชอบกิน อันที่ดูดีที่สุดคือซาลาเปาหมูสับทรงเครื่องคว้ามาบ่อยสุด ที่นี้ก็ดีกว่ากลับตำหนักแล้วต้องกินข้าวคนเดียวเยอะมากนัก ฉันชวนมู่หรงฮูหยินคุยไปซักพักไม่มีใครเอ่ยถึงการที่ฉันกับจือจือ แอบหนี้ออกนอกจวนไปตอนกลางคืน ก็สบายใจไปเปาะหนึ่ง..มัน..แทบเป็นไปไม่ได้ที่คนในจวนจะไม่รู้เรื่อง ขามาในจวนมู่หรงก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักก็จริง เพราะมาช่วงเย็นๆใกล้จะมืดหลังจากกลับจากหอเหวินหนิงแล้ว แต่เช้านี้ได้มาเห็นคนตรววจตราจวนแล้วรู้เลยว่ารอดยาก ที่จะไม่มีใครไม่รู้ไม่เห็นแต่ขอแค่อย่าให้ ฮุ่ยจื่อ และม่อหลันรู้ก็พอแล้ว ไม่งั้นมีหวังบ่นเช้าบ่นเย็นแน่ๆได้หูชากันไปข้างหนึ่ง ฉันชำเลืองดูมู่หรงหยวนก็พลันปะทะสายตาเข้ากับเขาพอดี มองกันอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ก้มหน้ากินข้าวไปเงียบๆ

จู่ๆก็มีบ่าวหญิงนำจดหมายมามอบให้จดหมายฮุ่ยจื่อ ฉันเห็นแล้วก็มองตาม ฮุ่ยจื่อหลุบตาแล้วยื่นซองจดหมายมาให้ ”จดหมายเพคะ” ฉันพยัคหน้ารับเปิดดูอ่านซักพักก็อมยิ้ม จือจือขยับตัวมาใกล้ๆเห็นภาษาตะวันตกเต็มหน้ากระดาษแล้วก็ต้องขมวดคิ้วบ่นอุบอิบว่า ”อาหนิงอ่านรู้เรื่องด้วยหรอ? ใครส่งมานะ” มู่หรงฮูหยินทำตาดุใส่ลูกสาวมีอย่างที่ไหนไปแอบดูจดหมายผู้อื่นเขาแบบนี้กัน ฉันพับเก็บจดหมายเสร็จก็เอ่ยว่า “ไม่มีอะไร นายน้อยหูเกอนะเขาช่วนไปชิมไวน์ที่มาใหม่หลายขวดจากตะวันตกนะ” จือจือสนใจเหมื่อนได้ยินเรื่องแปลกใหม่“ดื่มไวน์? ” ฉันพยัคหน้า”ที่นี้ไม่ค่อยแผร่หลายนัก เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ดื่มเหล้า แต่ดื่มไวน์ก็ดีนะ ด้านดีมันก็มี ดื่มน้อยแต่พอดี มันดีต่อสุขภาพ แถมช่วยชะลอความแก่ ช่วยในลดความเครียดกับอื่นๆอีกแต่จำไม่ได้ ที่รู้ๆก็คือสตรีเราไม่ควรดื่มไม่เกิน 1 แก้ว ไม่งั้นจะเมาได้ (แอลกอฮอร์) มันแรง“ จือจือนั้นดวงตาวิบวับ เปร่งประกาย ฉันเห็นแล้วก็รีบปฏิเสธทันที่ “ไม่ได้ จือจือไปไม่ได้” จือจือขมวดคิ้วทันที “ทำไมละ? ” ฉันอธิบายว่า“ข้าไม่อยากแบกเจ้ากลับมา เอาไว้ข้าจะซื้อต่อนายน้อยหูเกอซักขวดสองขวดในห้องเก็บไวน์ของเขา แล้วจะเอามาให้ชิมบางคนก็ไม่ชอบรสชาติ”จือจือทำปากอยู้ ฉันเห็นแล้วก็เอียงคอซบบ่าจือจือ”ไม่เป็นไรๆ เจ้าชอบสีแดง หรือสีขาวล่ะ ข้าจะได้เลือเอามาฝากถูก” จือจือตัดสินใจไม่ได้ก็เอ่ยว่า “เอามา2สีเลย ไม่เหมื่อนกันหรือ? ” ฉันสายหน้า “ไม่เหมื่อนกันแต่แรงเหมื่อนกัน” แม่ทัพใหญ่มูหรงสายหัวอย่างจนใจ เจ้าเด็กพวกนี้คิดจะเมาแต่เช้าเลย จือจือเอ่ยอย่างแปลกใจ “แล้วทำไม? เขาถึงส่งจดหมายมาที่จวนข้าล่ะ? ” ฉันได้ยินแล้วก็เงียบไป..อึ้ม..นั้นสิทำไม? หรือว่าจะส่งคนตามหลังมาจากที่พวกเราออกจากหอนางโลมกัน “ไม่รู้สิ กินข้าวกันเถอะ” ฉันนั้นเอ่ยตัดบท

ท่าเรื่อตะวันออก

ห้าวันถัดมาก็มาถึงเทศกาลไวน์บอร์โด* (Bordeaux Wine Festival) นี่คือหนึ่งในเทศกาลไวน์สุดอลังการของ ประเทศฝรั่งเศส (France) ที่นายน้อยหูเกอ ได้ยินมาจากเพื่อนการค้าแล้วก็จัดเลียนแบบขึ้นที่นี้ งานนี้เปิดกว้างเหมาะสำหรับมือใหม่ และสายจิบไวน์ต้องไม่พลาดอย่างยิ่ง ในงานนี้มี 5 ขวดหายากที่จะขึ้นประมูล เพราะมาจากมาจากเมืองบอร์โด แหล่งเพาะปลูกองุ่นชั้นดี และว่ากันว่าต้นกำเนินของไวน์บอร์โดนั้นเริ่มกันมาตั้งแต่ยุคต้นศตวรรษที่ 1 กันเลยทีเดียว นอกจากไวน์ขาวและไวน์แดงคุณภาพสูงที่มีให้คุณชิมตลอดงานราวกับเป็นซุ้มขายน้ำผลไม้ในงานกาชาดแล้ว จุดเด่นของเทศกาลไวน์บอร์โดนั้นคือพวกเราสามารถขึ้นไปลิ้มรสไวน์บนเรือสำเภาโบราณ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการขนส่งไวน์ที่มีค่าในยุคก่อนได้ และในยามค่ำคืนจะมีงานแสดงดอกไม้ไฟสุดอลังการให้ชมด้วย เพิ่มบรรยากาศสุดหรูหราของเทศกาลไวน์บอร์โดให้น่าประทับใจ

ฉันนั่งรถม้ามากับฮุ่ยจื่อ ม่อหลัน และหยางหยาง ตอนที่กำลังจะลงจากรถม้า ก็ม้าหลายตัวขี่กำลังมาทางนี้ อยู่ไม่ไกลนัก ฉันกวาดตาไปทั้วสมแล้วที่เป็นหลงจู้อายุน้อยติด 1 ใน 10 หลงจู้อายุน้อย ใช้งานลานท่าเรื่อตะวันออกที่กว้างใหญ่ๆได้คุ้มค่าจริงๆ คนมาทะยอยเข้ามาในงานเรื่อยๆทั้งชนชั้นสูงและสามัญชนค่อนข้างเปิดกว้าง ก็งานนี้เอาอกเอาใจสายดื่มทั้งหลาย ดูท่าวันนี้ประมูลคงราคาพุ่งสูงน่าดู คนที่มางานนี้มีคนคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่หลายคนจากสายการค้า หลงจู้ และผู้สืบทอดสายตรง ต่างก็มาร่วมงาน กับคนที่ยังไม่ได้กลับแคว้นจากงานวันเกิดของฮ่องเต้อีกไม่น้อยเลย ยังเห็นรถม้าของราชทูตแดนบูรพา (ญี่ปุ่น) , รถม้าของราชทูตแดนตะวันตก (อังกฤษ) อยู่เลย พอฉันพาฮุ่ยจื่อ ม่อหลัน และหยางหยางเข้ามาภายในงานก็เห็นที่นี้ทำเป็นซุ้มๆให้ชิมและเลือกซื้อไวน์ขาวและไวน์แดงคุณภาพสูงตลอดงาน แต่เมื่อเราเดินไปถึงทางเข้าของเรือสำเภาโบราณจะต้องจ่ายค่าเข้า ซึ้งตรงนี้จะเป็นการคัดแยกชนชั้นสูงและสามัญชน คนล่ะ 500 ตำลึง ไม่แบ่งนายบ่าวหรือผู้ติดตาม ราคานี้สามารถซื้อไวน์ดีๆข้างนอกได้ถึง 2 ขวดกลับบ้านได้เลย รอบลำเรือจะมีผู้คุ้มกันคอยรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา

พวกเรานั้นพากันเข้ามาภายในตัวเรื่อเรือสำเภาโบราณฉันไม่รีบร้อน นี้เป็นครั้งแรกที่เข้ามาในตัวเรือโบราณๆของจริง พวกเขานั้นจัดแสงจากตะเกียง เว้นช่องว่างอย่าลงตัวให้ดูสบายๆ แต่อบอุ่น ฉันนั้นลูบไล่ผนังเรืออย่างแผ่วเบา มองไปโดยรอบลำเรือสำเภาอย่างสนใจ อึ้ม..พ่อค้าวานิชนักเดินเรือ ทั้งเรือกำปั่น และสำเภาจากชาติต่างๆ อาทิ ฝรั่งเศส อังกฤษ วิลันดา ไทย ญี่ปุ่น และแคว้นข้างๆเคียงภายในจีนเอง ก็ล้วนแต่ใช้การล่องเรือสำเภาเพื่อติดต่อทำการค้ามากกว่าทางบกเป็นสำคัญ เงินคงจะสะพัดมากที่เดียวแต่ก็ต้องคุมคนให้อยู่เช่นกัน ฉันอดทอดถอนใจเสียงดังไม่ได้ ถ้าเกิดวันหนึ่งสมมุติว่าฉันไปอยู่ในร่างของนายน้อยหูเกอขึ้นมาคงจะลำบากมากแน่ๆ และคงไปหาความสนุก หรือทำอะไรตื่นเต้นๆ เพื่อคลายความเคลียด จะกับหญิงงามก็ได้ถ้าเป็นผู้ชายอ่ะนะ ไม่ก็ทำเป็นธุกิจสีเทาไปเลยเพื่อง่ายต่อการขยายธุกิจและคุมคน แบบที่ในหนังมีให้เห็น แต่มันก็จะเข้ายุคมืดเลยที่เดียว ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่านไปกันใหญ่ ฉันเอามือตบแก้มเพื่อเรียกสติอยู่พักหนึ่งก่อนจะสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆและเอ่ยเรียกขวัญกำลังใจ “ไปๆ พวกเราไปดื่มกัน”ก่อนจะยิ้มแย้มออกมาในที่สุด

ยิ่งใกล้ด้านบนมากเท่าไร ยิ่งได้ยินเสียงไวโอลินดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก้าวเข้าสู้ด้านบนก็เหมือนหลุดเข้าไปในสวนที่แต่งแต้มไปด้วยกลิ่นอายย้อนยุคสไตล์อังกฤษ กับดอกไม้แสนสวยที่ตกเเต่งไว้อย่างเรียบง่าย เเต่เเฝงไปด้วยความหรูหรา  อึ้ม! เห็นแล้วก็รู้สึกคุมค่ากับเงินที่เสียไปจริงๆ ผู้หญิงกับดอกไม้เป็นของคู่กัน ดวงตานั้นทอประกาบอ่อนโยนขึ้นหลายส่วน จู่ๆ ฮุ่ยจื่อก็มากระซิบ “คุณหนู มาดาม’แอร์มิเลีย เชิญเจ้าคะ” ฉันนั้นหลุดจากภวังค์ พยัคหน้ารับ ก่อนจะเดินตามคนสนิดของมาดาม เมื่อถึงใกล้โต๊ะหลัก มาดาม’แอร์มิเลีย ก็รีบแตะเก้าอี้ชวนให้ฉันนั่งข้างๆกัน ฉันเห็นแล้วก็ยิ้มน้อยๆเข้าไปนั่งข้างๆ ฮุ่ยจื่อ และม่อหลันนั่งห่างออกไปไม่ไกลนักเห็นแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว หยางหยาง หลุบตาลงไม่ได้เอ่ยอะไร

มาดาม’แอร์มิเลีย เป็นคอดื่มไวน์ตัวยงแต่ก็เพื่อผิวพรรณ มาดามมีเพื่อนน้อยเพราะถึงอยู่มานานแต่ก็พูดภาษาจีนได้เล็กน้อยเท่านั้น เพราะสามีมาดามพูดภาษาอังกฤษได้ ในบ้านเลยใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก พวกเราช่วนคุยกันเป็นเรื่องทั้วๆไปตามประสาผู้หญิงจนมาลงเอ่ยที่ มาดามสอนเรื่องไวน์เนื่องจากฉันไม่ได้รู้จริงอะไร แค่ยกดื่มเท่านั้น มาดามเลยอธิบายว่าไวน์จะจำแนก (Wine) ตาม 5 สไตล์หลัก ได้แก่ ไวน์ขาว (White Wine) , ไวน์แดง (Red Wine) , ไวน์โรเซ่ (Rose Wine) ,ไวน์หวาน (Dessert Wine) และไวน์สปาร์คกลิ้ง (Sparkling Wine) เป็นต้น ไวน์แต่ละชนิด แต่ละประเภท ต่างก็มีคาร์แรคเตอร์เฉพาะตัว เช่น ความฝาด (Tanin) กลิ่น ปริมาณน้ำตาล ปริมาณแอลกอฮอล์ และอื่นๆ ที่ส่งผลถึงรสชาติ ฉันได้ยินแบบนั้นก็ตั้งใจฟังเป็นพิเศษ เพราะนี้ก็เป็นความรู้ใหม่จริงๆสำหรับฉัน ไม่นานนักนายน้อยหูเกอก็เดินมานั่งข้างๆ แล้วส่งยิ้มหวานทักทายมา ฉันเห็นแบบนั้นก็เอียงคอพยักหน้าเล็กน้อย

และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย ชีวิตมันสั้น อย่ากินอาหารไม่อร่อย ฉันกับนายน้อยหูเกอต่างก็เลือกเป็น ไวน์แดง คู่กับ เนื้อโทมาฮอวค์ ส่วนมาดาม’แอร์มิเลีย เลือกเป็น ไวน์ขาว คู่กับ พาสตา และสเต๊กปลากะพง การนำไวน์มาดื่มด่ำกับอาหารที่ชอบ รสชาติก็จะเติมเต็มอรรถรสให้กับมื้ออาหารมากขึ้นไปอีกระดับ พวกเราพูดคุยกันไปมาอย่างสนิดสนม และจิบไวน์กันซักพักก็ถึงเวลาที่รอคอย การประมูลไวน์ล้ำค่า เอาจริงๆฉันไม่ได้สนใจมากนัก สู้ไปอ้อนขอซื้อไวน์ชั้นดี ที่มาดามเก็บไว้ในห้องเก็บไวน์ ขอแบ่งมา4-5 ขวดดีกว่าง่ายกว่ากันเยอะเลย

ฉันกับมาดามเลยมาสนใจการเปิดไพ่ยิปซีแทนมาดามให้ฉันเลือกไพ่มา 3 ใบ ฉันก็สุ่มเลือกตาม และไพ่ที่ออกมาก็คือ The Lovers (เดอะ เลิฟเวอร์) The sun (เดอะ ซัน) The world (เดอะ เวอล์) ฉันเห็นแล้วก็ต้องตะลึงยิ้มแย้มทันที่ ไพ่ดีขนาดนี้ โชคชัดๆ มาดามเห็นแล้วก็อดอุทานไม่ได้ นายน้อยหูเกอได้ยินเสียงอุทานก็หันมาดู แล้วก็ต้องขมวดคิ้วกับสองสาวต่างวัยแล้วมาสกิดฉัน ฉันนั้นยิ้มแฉ่งทันที่อย่างอารมณ์ดีสุด นายน้อยหูเกอเอ่ยอยางหมั่นใส้ว่า “แปลว่าอะไร? ” ฉันได้ยินแล้วก็รีบรวบไพ่เข้าสำรับทันที่ มาดามหัวเราะอย่างอารมณ์ดีมองพวกเราสองคนดวงตานั้นฉายชัดถึงความอ่อนโยนป่นเอ็นดูเอ่ยว่า “ดูเข้ากันดี ความชอบ รสนิยมก็เหมื่อนกันๆ สนใจมาเป็นลูกสะใภ้บ้านเราดูไหม? จ๊ะ”มาดามเอ่ยอย่างเอ็นดู ยกยิ้มแล้วกล่าวต่อว่า ”ไพ่ก็บอกมาซ่ะขนาดนั้นแล้ว” ฉันได้ยินแล้วก็ต้องหันไปมองมาดามทีหนึ่งก่อนจะหันไปมองลูกชายคนเดียวของมาดาม ก่อนจะยักคิ้วสายหัวทันทีตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า “เอ่อ..ตอนนี้พวกเราไปทางนั้นไม่ได้หรอคะมีหวัง 3 วันดี 4วันไข้ เป็นเพื่อนกันนะดีกว่าอยู่ แล้วพวกเราจะได้ไม่เหงาด้วย อีกอย่างหนูไม่ใช่ผู้หญิงในแบบที่เขาชอบด้วย” ก่อนจะยกไวน์ไปชนแก้วนายน้อยหูเกอ เห็นเขามองสบตานิ่งๆไม่ได้เอ่ยอะไร ก็หันหน้าไปอ้อนมาดามแทนไม่ได้สนใจอะไร เอ่ยเสียงหวานใสอ้อนมาดาม“มาดามไม่ได้สะใภ้แต่ได้ลูกสาวแทนนะเจ้าคะ”ก่อนจะหันไปยิ้มแย้มเอ่ยเสียงหวานให้นายน้อยหูเกอ “จริงไหมเจ้าคะพี่ชาย” นายน้อยหูเกอไม่ตอบ แต่กลับจิบไวน์แล้วกล่าวว่า “จริงๆ คุณหนูอาหนิงเป็นใครกันแน่? ” ฉันยิ้มค้างสายตากดหลีลงแววตาเปลียนไปอย่างรวดเร็วเอ่ยด้วยยิ้มหวานว่า “ทำไมละเจ้าคะ? ดีไม่ดี อยู่ที่เรามอง แล้วนายน้อยหูเกอมองว่าข้าคือใครละเจ้าคะ” ก่อนจะยิ้มหวาน สบตาตรงๆกับนายน้อยหูเกอ นายน้อยหูเกอโน้มหน้าลงมาใกล้ไม่สะสายตาไปไหนเอ่ยเสียงนุ่มว่า“ข้าอยากฟังจากปากของอาหนิงเองมากกว่า” ฉันได้ยินแล้วก็ยกยิ้มมุมปาก โน้มหน้าลงมาใกล้กับไม่สะสายตาไปไหนเอ่ยหวานใสว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมีความสามรถมากกว่านี้เจ้าคะ”  นายน้อยหูเกอเอ่ยเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคน“ข้ารู้ว่าพวกเราเหมื่อนกัน ดึงดูดกันและกัน ไม่ใช่ว่าอาหนิงไม่รู้”ฉันถอยออกมาก่อนจะโน้มไปกระซิบที่ข้างหูของนายน้อยหูเกอเอ่ยเสียงเบาว่า“แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จริงจัง และถ้าหากท่านรู้จักข้าจริง ก็จะเข้าใจดีว่าทำไม่? ข้าขอตัวก่อน” ก่อนจะลุกขึ้นยื่น เอ่ยยิ้มๆกับมาดามว่าขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนจะลุกออกมา

----------- ----------

หมายเหตุ :: เทศกาลไวน์บอร์โด (Bordeaux Wine Festival) มีข้อมูลอยู่จริงๆนะคะ เป็นเทศกาลดื่มไวน์ ของประเทศฝรั่งเศส .

ข้อมูลอ้างอิ่ง :: ในหัวข้อ ไวน์กินคู่กับอะไร? ทั้งอาหารไทยและสากล จากในเวป https://www.wongnai.com/food-tips/wine-pairing? ref=ct

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป