Your Wishlist

บุปผาสวรรค์นางร้ายข้ามภพ (อย่าเล่นกับไฟ)

Author: หนิงเซียน

ดวงดอกท้อผลิตบานพร้อมกันถึง 3 ดอก ❤️ นี้คือเรื่องราวของภพชาติใหม่ที่ดวงดอกท้อผลิตบานพร้อมกันถึง 3 ดอก ในความใกล้ชิด สายสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ซ้อนเร้น พี่ชายแท้ๆชอบน้องสาว และอีกสองบุรุษ กวนเพื่อนรักที่ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ความทรงจำอาจจะเลือนลางเเต่มันจะไม่มีทางหายไป ด้วยว่าการกระทำ และนิสัยของนางหลุดจากกรอบของสังคมปัจจุบันไปมาก บุรุษเพื่อนซี้ทั้งสามคนนั้นมองนางด้วยสายตาที่หลากหลาย ในใจก็มีความคิดที่แตกต่างกันออกไป

จำนวนตอน :

อย่าเล่นกับไฟ

  • 19/04/2564

หอนางโลม

พอหมุนตัวจะจากไปก็ต้องชะงักเมื่อเจอ นายน้อยหูเกอ เขานั้นเป็นลูกครึ่งจีน-อังกฤษ อายุ 24 ปี รูปร่างสูงโปร่ง หล่อเหลาดูไม่ธรรมดา หูตาแพรวพราว ปากหวานและเอาใจเก่ง เก่งกาจทำการค้าเป็นที่สุด ยังไม่ได้แต่งงาน หรือมีอนุ เป็นขาประจำของหอนางโลม และตอนนี้เป็นผู้สื่บทอดการค้าคุมท่าเรื่อฝั่งตะวันออก กำลังยืนรออยู่ก่อนแล้ว

สายตาฉันก็กดหลีลงแววตาเปลียนไปอย่างรวดเร็วเอ่ยด้วยยิ้มหวานว่า “มาสนุกเหรอ? เจ้าคะ”

นายน้อยหูเกอไม่ตอบ กลับเดินตรงเข้ามาหายื่นจอกสุราให้แทนยิ้มอย่างอ่อนโยน”วันช็อต” นายน้อยหูเกอนั้นเอ่ยอย่างคุ้นเคย

ฉันนั้นวางมือที่จอกสุรามองนิ่งพินิจครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มหวานเอ่ยว่า “นายน้อยหูเกอก็รู้ว่าข้าชอบดื่มไวน์มากกว่า”ฉันเอียงคอช้อนตามอง”เลิฟช็อตดีกว่าเจ้าคะ” ว่าแล้วควงแขนนายน้อยหูเกอดื่มรวดเดียว ก่อนจะสบตากันเหมื่อนค้นหาอะไรบางอย่างของกันและกันอยู่ครู่หนึ่งอย่างไม่กลัวเกรง

นายน้อยหูเกออดเอ่ยไม่ได้”เป็นสาวเป็นนาง มาที่นี้ไม่กลัวหรือ? ”

ฉันเอ่ยยิ้มๆ”ปกติ ก็ไม่หัวโบราณนิเจ้าคะ เป็นห่วงหรือให้ข้าเรียกบุปผางามอย่างพวกพี่สาวซัก 2-3คนมาดื่มด่ำค่ำคืนนี้กับนายน้อยหูเกอน่าจะสนุกกว่า ที่จะมายืนคุยกับข้า ได้ยินว่าราตรีมีค่านับพันตำลึงทองข้าคงต้องไปสนุกต่อกับสองหนุ่มแล้ว” เอ่ยตัดบทจบก็เดินไปหาถังถัง และดึงชายแขนเสื้อของจือจือขึ้น แล้วหันไปสบตามองนายน้อยหูเกออย่างท้าทาย ยกยิ้มอย่างอ่อนหวานเดินนวดนาดขึ้นไปห้องพิเศษไม่หันหลังกับมาอีกเลย จึงไม่เห็นสายตาคมหลายคู่ที่มองตามมา

เปิดห้องพิเศษ

เมื่อเข้าไปในห้องแล้วฉันก็เป็นอีกคนในพริบตา นั่งข้างปานน้ำชา ดื่มเสียงดังทันที จือจือ และถังถังมองภาพที่คุ้นเคยกันมาหลายปี แต่เมื่อครู่นี้เป็นอีกแง่มุมหนึ่งของอาหนิง ที่พวกนางทั้งสองไม่เคยเห็นจริงๆ ในวังหลังผู้ใดไม่มีเล่ห์เหลียมบ้าง นางก็เป็นองค์หญิงที่อยู่แต่ในวังหลังจะใช้มารยาสตรี เล่ห์กล และการแก่งแย่งชิงดีไม่เป็นเลยหรือ อย่าว่าแต่ในวังหลังเลย แค่ในจวนบางจวนก็โหดร้ายยิ่ง ก็แค่นางไม่เคยเอามาใช้ก็เท่านั้น

จือจือนั่งลงข้างอาหนิงเอ่ยว่า “นายน้อยหูเกอ..เขาคือ..คือใครหรือ? ” เมือละจากน้ำชาแล้วเห็นสายตาของจือจือแล้วก็ต้องรีบเอ่ยปราม “ห้าม ห้ามเด็ดขาด พวกนี้นะนักล่าทั้งนั้น จือจือห้าม อย่าหลงพวกเขาเด็ดขาด เขาเป็นสัตว์กินเนื้อหล่อถึงใจก็แค่สนุกข้ามคืนกันเท่านั้น เอาไม่อยู่หรอกอย่าคิดเล่นกับไฟ” จือจือมองอย่างไม่เข้าใจ

จู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ถังถังลุกเดินไปดูและก็ตามมาด้วยพวกพี่ชาย หยางหมิง หยางหลาน ฝูเหยี้ยนอวี้ ฉู่อู่เว่ย มู่หรงหยวน ก็ตามเข้ามาในห้อง ฉันเห็นแล้วก็ถอนหายใจ เอ่ยอธิบายจือจือต่อว่า“อย่าลืมสิว่าข้าอยู่แวดวงการค้านะ! เจอคนที่ร้ายกาจอยู่ตรงหน้า จะให้ทำตัวเป็นลูกแกะให้เขาจับเชื่อดได้ยังไง? เจอคนบ้ามาก็ต้องบ้ากลับ ข้าดูแลตัวเองได้ มีขอบเขตอยู่..แต่แม่เขานิสัยดี ลูกไม่ได้มาซักนิด! ” เมือเห็นสายตาถามคำถามส่งมาให้ ก็เอ่ยต่อว่า “คือ เมือต้นปีเป็นวันเกิดแม่เขาที่เป็นชาวตะวันตก มาดาม’แอร์มิเลีย เลยให้พวกเราไปจัดงานที่บ้านเขาในสวนลานบ้าน พอดีเป็นวันหยุดข้าเลยไปคุมงานเอง ได้เจอคนในครอบครัวเขา แล้วคุยกับมาดามถูกคอกัน เต้นรำด้วยกัน..กับนายน้อยหูเกอก็ด้วย ภายหลังก็เจอกันบ่อยขึ้นที่หอเหวินหนิง” เมือเห็นสายตาคาดคั้นของเพื่อนสาวก็รีบเอ่ย “คุยเรื่องการค้าเท่านั้น หยางหยางก็อยู่ด้วย”

ฉู่อู่เว่ยขมวดคิ้วเอ่ยเสียงดุ “พวกเจ้าไม่ควรมาที่นี้! เป็นสาวเป็นนางมาที่นี้ได้หรือ” ฉันกำลังจะอธิบาย แต่หยางหมิงเอ่ยเสียงเข้ม “หนิงเอ๋อร์เจ้าก็ไม่ควรมาที่นี้ มันเหมาะสมหรือ! ” ฉันหน้าสลดทันที..ถังถังได้ยินแล้วก็เอ่ยว่า “ข้าชวนพวกนางมาเอง ที่พวกนางทำก็เพื่อข้า จะโทษก็โทษข้า”ถังถังเอ่ยเสียงสั่น ฉันได้ยินแล้วก็เงยหน้าทันที เมื่อกี้มันแค่คุยเรื่องอื่นจนลืมถังถังไปเลย ฉันนั้นรีบพูดก่อนที่จะเข้าผิดกัน “ถังถังเจ้าอย่าเข้าใจผิดนะ ข้าแค่แหย่เขาเล่นเท่านั้นเจ้าก็รู้” ถังถังเอ่ยอย่างเข้าใจ “ไม่เป็นไรจริงๆ ข้าเข้าใจได้” สายตานั้นสลดลง

ฉันเห็นแบบนั้นแล้วก็โผล่เข้าไปกอดถังถัง “มันไม่ใช่แบบนั้นนะ! ข้ารู้ว่าเจ้าชอบเขา” อดขหมดคิ้วไม่ได้ เอ่ยอย่างจริงจังว่า”ข้าจะพูดยังไงดี! เจ้าเข้าใจคำแบบนี้หรือไม่ ที่ว่า บุรุษมีอะไรกับคนที่ไม่รักได้ แต่สตรีต้องรักถึงจะยอมมีอะไรกัน ที่จะพูดก็คือ การมีอะไรกันมันแลกความรักไม่ได้ ผู้ชายบางคนก็ดี..มีจิตสำนึกดี แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่ใช่ ไช่เหวินจิ้งอาจจะเป็นคนอ่อนไหวง่ายไปซักหน่อยแต่ถ้าเข้าถูกทางเขาอาจจะอ่อนโยนและดีกับเจ้าเพียงคนเดียว เขาเป็นลูกคนรองไม่ได้รับภาระจากตระกูลเหมื่อนลูกคนโตที่ต้องขยายอำนาจ ถ้าคุยกับเขาดีๆ เขาอาจจะคล้อยตามก็ได้นะ”จือจือนั้นพยัคหน้าเห็นด้วย “ข้าก็คิดแบบนั้น เขาดูเป็นคนดี เจ้าชอบเขา ก็วันนี้ที่เขากล้ามาพบพี่ฉู่อู่เว่ยก็พิสูจน์แล้วว่าเขาจริงใจ อยู่ด้วยกันก็จะรักกันไปเองเชื่อข้า”

ฉันจับหน้าของถังถังขึ้นมาให้สบตากันเอ่ยว่า“เจ้าคิดยังไง ลองพูดออกมา ไม่มีถูกหรือผิดเราแค่คุยกันข้ารักเจ้า เจ้าก็รู้ พวกข้าจะช่วยคิด” กล่าวจบก็ถอนหายใจยาว ถังถังยังคงเงียบ..ฉันนั้นมองไปรอบห้องเห็นสายตาของฉู่อู่เว่ย ไม่ต้องคิดก็รู้คงจะเคื่องมากแน่ๆ ตอนที่พวกเขาคุยกันเกิดอะไรขึ้นอันนี้ไม่รู้ แต่ตอนที่หูแดงนี้..ฉันได้แต่หลุบตาต่ำหลับตาแน่น ทำไมต้องมาเขินอายเอาตอนนี้กัน ฉันตั้งสติเอ่ยว่า “ยังคิดไม่ออกไม่เป็นไร งั้นแค่ตอบว่าใช่ กับ ไม่ใช่ ไม่มี ตรงกลาง ชอบ กับ ไม่ชอบ รัก กับ เกลียด ไม่มีตรงกลางตกลงนะ ข้าจะถามแล้ว”ถังถังเงยหน้าขึ้นตารืนขึ้นเล็กน้อย

“ฟังนะ ข้อดีของเจ้าคือไม่มีเล่ห์เหลียมเยอะแต่มีจุดยืน และอีกฝ่ายก็อ่อนโยนรู้จักถอย แปลว่ามีแนวโน้มที่ เขาจะเป็นผู้ฟังที่ดี เจ้าพร้อมที่จะเป็นเพื่อนคู่คิด เดินไปเพื่อนเขาหรือไม่ คนเรามี 7อารมณ์ 6ปรารถนา แม้แต่ข้าเองก็มีเจอคนหล่อๆข้าก็มอง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเขาเรียกอาหารตา” ถังถังมองอย่างตั้งใจฟังแล้วก็อมยิ้ม

“สำหรับเจ้าตอนนี้ เขาเลว ในสายตาของเจ้าหรือไม่” ถังถังสายหน้า

“วันหนึ่งถ้าแต่งงานกันจริงๆ ถ้าถังถังทำอะไรรุนแรงผิดไป ยังอยากให้เขาให้อภัยไหม” ถังถังพยัคหน้า

“เจ้ายังชอบเขาอยู่ใช่ไหม” ถังถังพยัคหน้า

“ถ้าวันหนึ่งเขามีอนุโผล่มาเจ้าจะจับเขาตอนเลยไหม” ถังถังพยัคหน้าแรงๆ อาหนิงยิ้มขำ “นี้สิ ถังถังของเรา” จือจือยิ้มแย้ม พยัคหน้าแรงๆ

ฉันนั้นอดยิ้มไม่ได้เอ่ยว่า “ข้ารักเจ้า เจ้ารู้ใช่ไหม แต่ถ้าเจ้าเลือกทางนี้จริงๆ ข้า! เป็นเพื่อนรักเจ้า..ก็ต้องช่วยเจ้า! ..โถที่รักไม่ทำหน้าหดหู่แบบนั้นแล้วนะ! ..เดียวไม่สวย แกะเอาหนวดออกก่อน เจ้าเคยได้ยินคำนี้ไหม? ..อยู่ใต้คนหนึ่งคน อยู่เหนื่อคนนับหมื่น วิธีคิดเดียวกันเลย ร้ายกับคนทุกคนดีกับคนๆเดียว การแต่งเป็นภรรยาของคนๆหนึ่ง ไม่ใช่แค่การวางตัวให้เหมาะสม สงบนิ่งทุกสถานการณ์ เขาจะเป็นทั้งสามีของเรา และเขาก็ยังเป็นผู้ชายมีชีวิตมีจิตใจ ชอบให้คนชมอยู่ลึกๆ เข้มแข็ง และอ่อนแอเป็น ไม่งั้นจะมีผู้หญิงที่พร้อมพลีกายจะเป็นอนุ และมีหญิงที่วางเป็นหัวโขนไว้ในบ้านทำไม? เป็นภรรยาที่ดีอย่าให้ตัวเองเป็นของตายนะถังถังผู้หญิงต้องสวยๆเข้าไว้ และมีความสุขอยู่เสมอ แค่สนุกไม่ต้องฝืนใจแค่ทำตามที่ชอบก็พอ เห็นพวกพี่สาวในหอนี้ไหม? รู้จักพูดประจบเอาใจ รู้จักวางตัว รู้ยั่วยวน ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบพวกนางแต่ดึงข้อดีออกมาใช้ พวกเรายังเป็นแค่สตรีในห้องหอยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ พวกเรายังอายุน้อยไม่ใช่คนนี้ก็ไปหาคนใหม่ อย่ากักขังตัวเองจนต้องทุกใจอีก10ปี20ปี หรือมากกว่านั้นมันไม่จำเป็น..เอ่อ..ที่ข้าพูดพวกนี้มันเป็นทฤษี..เจ้าเข้าใจไหม? ต้องลองไปปฏิบัติถึงจะรู้ว่ามันใช้ได้ผลหรือไม่? ” ฉันนั้นพูดเป็นชุดๆ เหมื่อนระบายความอัดอั้นตันใจ แววตานั้นฉายชัดถึงความเจ้าเล่ห์แสนกล ไม่ยอมคนอยู่ในที 

แม้จะเห็นวี้แววของเพื่อนรักที่อาจจะโดนแบบ 3ภรรยา 4อนุ ด้วยนิสัยโผงผ่าง ไม่มีเล่ห์เหลียมของสตรีตระกลูแม่ทัพแล้ว คงสู้อนุที่ยั่วยวนไม่ได้แน่ๆ ยิ่งคิดก็รู้สึกอดเคืองแทนไม่ได้ แต่เรื่องนี้พูดออกไปไม่ได้มันเป็นเรื่องของอนาคต

สายตาของชายหนุ่มทั้งหลายมองมาที่อาหนิงเป็นตาเดียว ความทรงจำอาจจะเลือนลางเเต่มันจะไม่มีทางหายไป ด้วยว่าการกระทำและนิสัยของนางหลุดจากกรอบของสังคมปัจจุบันไปมาก ทั้งห้านั้นมองด้วยสายตาที่หลากหลาย ในใจก็มีความคิดที่แตกต่างกันออกไป 

มู่หรงหยวนหลังจากที่เงียบมานานก็เอ่ยเสียงเย็น กดข่มอารมณ์ว่า “สตรีในจารีตที่ดี จะไม่ใกล้ชิดชายอื่นให้มากนัก ยิ่งแตะเนื้อต้องตัวแล้วนั้นมันไม่เหมาะสม” ฉันเงยหน้ามองเขาก็เห็นเขาทำสีหน้าจริงจังเป็นครั้งแรก ก็สบตานิ่งๆเอ่ยว่า “เจ้าคะ ถ้าคิดแบบนั้นข้าก็ผิด ถ้างั้นข้า..ก็ไม่ขอเป็นสตรีในจารีตที่ดี แต่ข้าจะเป็นตัวข้าเอง ข้าว่าข้าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนหรือไปแย่งสามีใคร ท่านพี่มู่หรงหยวนไม่ต้องจริงจังนักก็ได้เจ้าคะ” ท่อนหลังนั้นเอ่ยช้าๆ ชัดๆ ด้วยเริ่มมีอารมณ์ขึ้นบ้างแล้ว อย่าคุยเรื่องจารีตที่ดีเลยเพราะมันเป็นแนวคิดผู้ชายเป็นใหญ่ เถียงให้ตายก็เหมื่อนเดิมเหมื่อนไก่ กับใข่ อะไรเกิดก่อนกัน

จือจือเห็นท่าไม่ดีก็รีบเอ่ยชวนให้กลับจวนก่อนที่จะดึกไปมากกว่านี้แล้ว เดียวฮุ่ยจื่อและม่อหลันจับได้จะเป็นเรื่องใหญ่เอา พวกเราก็เลยแยกย้ายกันกลับ ฉันไม่ได้พูดอะไรเดินตามถังถัง และจือจือออกไปเงียบๆ จือจือควบม้าฉันก็นั่งซ้อนไปด้วยเหมือนขามา มู่หรงหยวนขี่ม้ามาเงียบๆตามหลัง กับผู้ติดตามอีก 5-6 คน

จวนตระกลูมู่หรง

ภายในห้องนอน ของแม่ทัพน้อยมู่หรงหยวน มีภาพหนึ่งแขวนไว้ใกล้เตียงนอน เป็นภาพวาด อาชาสีขาว สง่างาม อ้วนพี กำลังวิ่งในท้องทุ่งกว้าง เขานั้นนอนบนเตียงใหญ่ ก็อดถอนหายใจยาวออกมาไม่ได้ นางโกรธเขาแล้วสินะ แต่จะไม่ให้เขาพูดได้หรือ! วันนี้นางทำมากเหลือเกิน กล้าเข้าหอนางโลม กล้าพูดคำยั่วยวนเหล่านั้น กล้าคล้องคอและนั่งตักบุรุษ ถึงแม้จะเป็นพี่ชายบุญธรรมแต่ก็เป็นบุรุษ นางโตเป็นสาวแล้ว นางไม่เห็นสายตาของรัชทายาทที่มองนางหรือ! เขาก็เป็นผู้ชายทำไม่จะมองไม่ออก รัชทยาทไม่ปกปิดสายตาซักนิดเดียว และกับเจ้าคนหน้าขาวนั้น! นางชอบเขาหรือ ทั้งควงแขนดื่ม และส่งสายตาให้กันแบบนี้มันได้หรือ! เขาอุสาเตื่อนนางดีๆ นางยังจะมาโกรธเขาอีก..เฮ้อ..

เช้าวันถัดมา

ฉันตื่นมา..คนแรกที่เห็นคือ จือจือ กำลังมองหน้าฉันตาแป๋วสภาพ จือจือ ดูไม่ได้ผมเฝ้าฟู คิดว่าฉันคงพอๆกันที่สภาพไม่จืดซักนิด นอนกันแค่ไม่กี่ชั่วยามก็เช้าแล้ว ฉันนั้นไล่ให้จือจือไปอาบน้ำก่อนเดียวค่อยตามไป เช้านี้ตื่นขึ้นในจวนมู่หรงก็เปลียนบรรยากาศดี ฉันออกไปสูดอากาศด้านนอกห้องที่นี้ คนคุมตรวจตราก็ไม่น้อยสมเป็นสมเป็นจวนแม่ทัพใหญ่ แต่ว่า..ฉันมองดูท้องฟ้า..การที่ผู้หญิงเราอายุ 15-16 ปีแต่งงานนี้ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ พออายุ 17 ปีขึ้นไป ก็ว่าเริ่มเป็นสาวแก่แล้วขายไม่ออกอันนี้สิเจ็บปวด ฉันก่อนหน้านี้ 29 ปีแล้วก็ยังไม่มีแฟน อยู่เป็นโสดมายาวๆช่างปวดใจจริงๆ..เฮ้อ..ที่นี้บางบ้านยากจนหน่อยพอลูกสาวอายุ 13 ปีก็ส่งลูกออกไปแต่งงานแล้ว ความเหลือมล่ำมันเยอะจริงๆแต่ก็ไม่มีสิทธิพูดเยอะนัก เพราะสภาพของตัวเองก็หมินเม การเป็นองค์หญิงใช่ว่าดีอะไรนัก บางทีอาจถูกจับไปแต่งงานต่างแค้วน บางหากเกิดสงครามรบแพ้ก็ต้องส่งเชื้อพระวงศ์ไปเป็นตัวประกัน และฉันเป็นแค่ลูกบุญธรรมมีหวังเป็นชื่อต้นๆแน่ไม่น่ารอด ถึงจะหาทางหนี้ที่ไล่ด้วยการเปิดหอเหวินหนิง แล้ววันหน้าหากทำอะไรผิด แล้วก็ถูกขับออกจากเชื้อพระวงศ์เป็นสามัญชนไป ก็ยังมีร้านที่เป็นอาชีพหลักได้.

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป