Your Wishlist

บุปผาสวรรค์นางร้ายข้ามภพ (การพนัน และ หอนางโลม)

Author: หนิงเซียน

ดวงดอกท้อผลิตบานพร้อมกันถึง 3 ดอก ❤️ นี้คือเรื่องราวของภพชาติใหม่ที่ดวงดอกท้อผลิตบานพร้อมกันถึง 3 ดอก ในความใกล้ชิด สายสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ซ้อนเร้น พี่ชายแท้ๆชอบน้องสาว และอีกสองบุรุษ กวนเพื่อนรักที่ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ความทรงจำอาจจะเลือนลางเเต่มันจะไม่มีทางหายไป ด้วยว่าการกระทำ และนิสัยของนางหลุดจากกรอบของสังคมปัจจุบันไปมาก บุรุษเพื่อนซี้ทั้งสามคนนั้นมองนางด้วยสายตาที่หลากหลาย ในใจก็มีความคิดที่แตกต่างกันออกไป

จำนวนตอน :

การพนัน และ หอนางโลม

  • 19/04/2564

สำนักศึกษา

ที่ ศาลาป่าไผ่หลังจากทำการบ้านเสร็จ อาหนิงก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปเอ่ยว่า“สรุป คู่หมายถังถังที่ฉู่ฮูหยินเลือกให้คือใคร? แล้วเจ้าชอบเขาหรือไม่?? ” ถังถัง ได้ยินแล้วก็อดหน้าแดงไม่ได้ “เขาชือ ไช่เหวินจิ้ง เป็นลูกชายคนรองของเจ้ากรมพิธีการ ยังไม่ได้แต่งงานหรือมีอนุ ข้า..ข้าก็รู้สึกดีกับเขา” ก่อนจะก้มหน้าด้วยความเขินอาย จือจือเอ่ยออกมา“เขาดีขนาดนั้นเชียว..? ..แต่ข้าได้ยินพี่รองคุยกับพี่ชายเจ้าช่วนเขาไปหอนางโลมด้วยล่ะ” ถังถังได้ยินแล้วก็เงยหน้าขึ้นทันที เข็ญเคี้ยวเคี้ยวฟันเอ่ยว่า”เจ้าว่าอ่ะไรนะ!! ”จากหน้าแดงเปลียนเป็นดำคล้ำอย่างรวดเร็ว “ก็ข้าได้ยินมาแบบนั้นตอนเดินผ่านห้องพี่รอง”จือจือ เอ่ยเสียงเบากับอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงของสหายสนิด ถังถังลุกขึ้นเตรียมจะกลับจวนอย่างรวดเร็ว ฉันรีบรังแขนเอาไว้ก่อน “เดียวก่อน! ยังไม่รู้อะไรเลย ก็บุมบ่ามแบบนี้เขาจะเห็นว่าเป็นแม่เสือนะ! ยังไม่ทันแต่งเลยใจเย็นๆ”ถังถังได้ยินแล้วก็ชะงัก ทิ้งตัวนั่งลงที่เดิม ”และจะให้ข้าทำยังไง! ” ฉันเอ่ยยิ้มๆอย่างจนใจ“ใจเย็น อันนี้ข้าก็ไม่รู้” จือจือ ครุนคิดก่อนจะเอ่ยว่า”แบบนี้ก็ดีนะ” ถังถังมองควับทันที่ จือจือรีบแก้”ข้าหมายถึงเป็นการพิสูจน์ไง เจ้าก็รู้เวลาคนเมานะพูดทุกอย่างนิสัยสันดานก็มา”ฉันนั้นพยัคหน้างึกๆเห็นด้วยเต็มที”อาจเป็นการดูนิสัยน้องเขยก็ได้ พวกจะเราลองตามไปดูไหมล่ะ ไม่ต้องให้ใครพูดเห็นกับตาเลยว่าเนื้อแท้เป็นคนยังไง” จือจือนั้นตาเป็นประกายนึกสนุก”ปลอมตัวเป็นบุรุษกันไหม? ” ก่อนจะมองตรงมาที่อาหนิง“แต่เจ้าจะไปยังไงอาหนิง ฮุ่ยจื่อตัวติดกับเจ้าขนาดนี้” ฉันสายหน้า “ข้าจะไปค้างคืนกับเจ้า ก่อนจบการศึกษาข้ออ้างนี้ก็พอจะได้อยู่ นานๆที่ข้าจะเอาแต่ใจ ฮุ่ยจื่อไม่คัดค้านหรอก แต่ข้าจะปลอมเป็นบุรุษได้หรอ? ” ก่อนจะก้มมองหน้าอก จือจือหัวเราะเสียงดังทันที่ “งั้นเจ้าก็เป็นหญิงล่ะ แต่ต้องแต่งตัวซักหน่อย เดียวข้าจะแต่งเป็นบุรุษเองน้องหญิง”ก่อนจะเชิยคางขึ้น จือจือและฉันยิ้มขำกันคิกคัก ถังถังถอนหายใจยาว “พวกเราจะไปที่นั้นจริงๆหรอ? ” เอ่ยอย่างไม่สบายใจแม้อยากรู้แค่ไหนแต่ที่นั้นก็เป็นหอนางโลม ฉันได้ยินแล้วก็รีบเอ่ย“ดังนั้นจะทำสิ่งใดไม่คิดอ่านให้รอบรอบไม่ได้เตรียมทางหนี้ที่ไล่เอาไว้ พกเงินไปมากๆหน่อย แล้วข้าจะควง2หนุ่มเข้าไปเอง”ฉันนั้นดวงตาเป็นประกายวิบวับ อย่างนึกสนุก

หอนางโลม

นางคณิกาในสมัยนี้มีความรุ่งเรืองที่สุด เพราะชาวจีนทั้งชนชั้นสูงและสามัญชนค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องเพศ “นางคณิกา” สตรีรูปงามผู้มาพร้อมกิริยาอ่อนหวาน มีเสน่ห์ชวนให้บุรุษหลงใหล ทำหน้าที่ปรนนิบัติแขกให้ดื่มด่ำความบันเทิง ทั้งโชว์ศิลปะการร่ายรำ การดนตรี รวมถึงการปรนนิบัติทางเพศ โดยนางคณิกาจะได้รับการอบรมฝึกฝนศิลปะ มารยาท และเสน่ห์หญิงให้ตราตรึงใจชาย ก่อนเข้าสู่หอนางโลมและทำหน้าที่คณิกาอย่างเต็มตัว ตอนนี้ฉันกับจือจือ และถังถังมาอยู่หน้าหอนางโลม หลังจากแอบหนี้ออกมาก็ช่วยกันแต่งตัวกันอยู่นาน กว่าจะได้ 2หนุ่ม ถังถังนั้นใส่หนวดปลอมช่วยเสริมความเป็นบุรุษ จือจือเป็นหนุ่มน้อยหน้ามล ฉันก็แต่งในแบบของตัวเองหลังจากไม่ได้แต่งหน้าเองมานานมาก ชุดในวันนี้เป็นสีไข่ไก่อ่อนปักไหมแดงลายผีเสื้อเวลาเดินผีเสื้อจะขยับเหมื่อนมีชีวิต ใส่ปิ่นประดับปาการังแดงสีเพลิง ต่างหูหยกอันเล็ก ปากแต้มชาดด้านในและแต้มผงชาดที่แก้มเบาๆให้ดูแดงระเรื่อจางๆ เขียนคิ้วและเอาดินสอเขียนคิ้วมากรีดหาตาให้ยาวแทนอายไลน์เนอร์ ทาเปลือกตาด้วยผงไข่มุกบท ถังถัง จือจือเห็นแล้วก็อดตะลึงไม่ได้ ฉันเอ่ยว่า “เราต้องไปแข่งกลับบุปผางามทั้งหลายนะ ไปกันเถอะหนุ่มๆ” เอ่ยจบก็ยิ้มแฉ่ง ควงแขน ถังถัง และจือจือ มากันที่หอนางโลมชื่อดัง

และก็เป็นไปตามคาด โดนดักไม่ให้เข้าหอ ถังถังนั้นฉุดมือจะดึงฉันกับจือจือออกไปจากที่นี้ท่าเดียว แต่ฉันกับจือจือก็จะเข้าไปท่าเดียว ยื้อยุดกันอยู่ตรงประตูนั้นจนจือจือทนไม่ไหว”ไปเรียกแม่เล้ามา” ครู่หนึ่งแม่เล้าก็เดินออกมา มองพวกเราแล้วก็จองฉัน มองตั้งแต่หัวจรดเท้า “ผู้ชายเข้ามาได้ ผู้หญิงไม่ให้เข้า” ฉันได้ยินแล้วก็เอ่ยว่า“พวกเราอยากมาสนุกกันมาเปลียนบรรยากาศและอยากได้พี่สาวซักคนมาร่วมสนุกด้วย ไม่รู้ว่ามีห้องว่าซักห้องให้พวกเราสนุกหรือไม่”เอ่ยยิ้มๆกับแม่เล้า พร้อมกับมอบถุงเงินใบเล็กให้ แม่เล้าหยิบมาโยนเบาๆก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ “มีสิเจ้าคะ ทำไม่จะไม่มี นี้เจ้าค่ะเลขห้อง” แม่เล้าล้วงหยิบป้ายเลขห้องให้ ก่อนจะผ่ายมือเชื้อเชิญ ฉันและถังถัง กับจือจือ ก็เดินเข้าไปภายในหอนางโลมที่ครึกครื่นแม่เล้านั้นชายตามอง นางอยู่แวดวงนี้มานานมีหรือจะดูไม่ออกว่าหญิงปลอมเป็นชาย เสียดายจริงๆที่บุรุษไม่ได้เชยชมเอ่ยเบาๆ”เป็นพวกมั่วจิ้ง* (ญ/ญ) นิเอง”

ภายในหอนางโลมฉันกวาดตาไปทั้ว หาที่นั่งทำเลเหมาะๆเตรียมจะซุมดูเหยื่อ ว่าที่เจ้าบ่าวของถังถัง มองยังไงก็ไม่เห็น จือจือเอ่ยเบาๆว่า “หรือพวกเขาจะเปิดห้องส่วนตัวกัน” ฉันได้ยินแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว นี้ก็เป็นสิ่งที่คิดมองหาข้างล่างไม่เจอคงอยู่ในห้องจริงๆ งั้นพวกเราก็เข้าไปไม่ได้นะสิ ที่นี้ก็มีห้องตั้งเยอะหาที่ล่ะห้องก็ใช่เรื่อง ฉันเอ่ยชวน”พวกเราไปหาที่นั้งกันก่อน แล้วค่อยว่ากัน” พวกเราเลือกนั่งใกล้ๆทาง ขึ้น-ลงบันได ระหว่างดูการร่ายรำของบุปผาที่นี้เพลินๆก็ไปเห็น ฝูเหยี้ยนอวี้ออกมาจากห้องๆหนึ่งที่ชั้นสอง ฉันรีบสกิดจือจือและถังถัง พยักพยิดหน้าไปทางชั้นสองที่ฝูเหยี้ยนอวี้ออกมา จือจือ กับถังถังก็หันไปดู เห็นกลุ่มของรัชทายาทออกมากับไช่เหวินจิ้ง (ว่าที่เจ้าบ่าวถังถัง) เดินตามหลังประกบกับฉู่อู่เว่ยที่สีหน้าไม่บงบอกอารมณ์ ระหว่างที่พวกเขากำลังจะเดินลงมานั้นเอง ฉันเอ่ยอย่างทอดถอนใจ“เอาไงดี? พวกเราไม่ได้อะไรเลย พวกเขาเอาแต่คุยกันอยู่ในห้อง” จือจือพยัคหน้าเห็นด้วยสุดๆ”อุสาแต่งตัวขนาดนี้แล้ว ยังไม่ได้อะไรเลย” ถังถังได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้ว เหม่อไปยังลาดแสดงของหญิงคณิกาที่กำลังร่ายรำ เงียบไปอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยเสียงเรียบว่า “ถ้าเราให้คนไปยั่วเขาล่ะ? ” เอ่ยจบก็เหมื่อนคิดหนัก ฉันนั้นหันหน้าควับ จือจือมองถังถังเป็นตาเดียวก่อนจะเอ่ยว่า “ห๊ะ..เจ้าไม่กลัวหรือ” ถังถังก้มหน้าเอ่ยว่า “ก็เรามาที่นี้เพื่อพิสูจน์ ว่าเขา..เขาจะจริงใจต่อข้าใช่ไหมล่ะ ขนาดพี่ใหญ่..สีหน้ายังเรียบเฉยเลย..”ฉันได้ยินแล้วก็มองถังถังนิ่งเอ่ยว่า “เจ้าแน่ใจหรือที่จะให้หญิงคณิกา ไปลองใจเขา? ไม่กลัวหรือ”ถังถังสายหน้า“ไม่! ไม่ใช่”แล้วก็กุมมือฉัน ฉันอดอุทานตาเบิกโตไม่ได้ “ห๊ะ! ”ถังถังเอ่ยเสียงแผ่วอย่างเชื่องช้าว่า”ข้า..ข้าอยากลองดู ข้าเองก็อยากรู้ว่าเขาจะจริงใจกับข้าไหม? ข้ารู้ว่าจะหาผู้ชายดีๆแบบท่านพ่อยากยิ่ง ที่จะไม่มีหญิงอื่นมาเป็นอนุ แม้ข้าแต่งไปเป็นภรรยาเอกแต่ว่าข้า” ยังไม่ทันที่ถังถังจะเอ่ยจบฉันรีบเอ่ยแทรกทันที่ “ข้าทำก็ได้! ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เจ้าไม่ต้องเศร้าไปถังถัง พวกเราเข้าใจดี”จือจือกุมมือถังถังเอ่ยอย่างเข้าใจดีว่า “ข้าพนันว่าเขาเป็นดีที่เจ้าจะฝากชีวิตไว้ได้” ฉันได้ยินแล้วก็ส่งเสียงในลำคอ “อึ้ม มีคนดีไปแล้ว ข้าเป็นตัวร้ายเอง ให้ยั่วยวนเขาใช่ไหม หายห่วงได้ๆ”ฉันเอ่ยไปก็เอามือตบบ่าถังถังกล่าวอย่างยิ้มแย้มติดตลก ถังถังเงยหน้าขึ้นมามองฉันแล้วจือจือ ก็ต้องหลุดยิ้มขำหัวเราะออกมา

ฉันนั้นยื่นขึ้นหมุนตัวไปรอบๆ ก่อนจะตัดสินใจพุ่งชน ก็ไม่เคยยั่วยวนใครมาก่อนไม่ว่าเมื่อก่อน หรือตอนนี้ไม่งั้นจะโสดมาได้ไงหลายปี ฉันนั้นตัดสินใจขึ้นไปดักทางลงบันไดของพวกเขา แล้วคว้ามือหยางหมิงลงมานั่งโต๊ะเดียวกันเสียเลย วันนี้ของกลุ่มรัชทายาทหยางหมิงมากันพร้อมหน้าพร้อมตา จองมองพวกเราด้วยสายตาตกตะลึง ฉันไม่พูดอะไรซักคำได้แต่จูงมือพวกเขามานั่งลงทีละคน สายตาสองพี่น้องประสานกัน ต่างก็มีคำถาม ฉันนั้นดึงมือไช่เหวินจิ้งให้มานั่งใกล้ๆ และฉันก็นั่งตรงกลางระหว่างหยางหมิง และ ไช่เหวินจิ้ง เมือจัดเสร็จก็ยิ้มหวานหันไปหาทางหยางหมิง เอ่ยเสียงหวานใสว่า “บังเอิญจังเลยนะเจ้าคะ” หยางหมิงมองไม่หักหน้า ส่งเสียงในลำคอ ”อึ้ม ช่างบังเอิญเสียงจริง พวกเรากำลังจะไปต่อหอเหวินหนิงพอดี” ฉันพยัคหน้า คล้องแขนเขาแล้วอิงซบบ่าเอ่ยว่า “ใจดีจังเจ้าคะ” ก่อนจะหันมาสบตากับไช่เหวินจิ้ง เอ่ยเสียงหวานว่า “ไม่ทราบว่าคุณชายชื่ออะไรหรือเจ้าค่ะ” ไช่เหวินจิ้งก้มหน้า เขาเห็นนางท่าทางสนิดสนมกับรัชทายาทแล้วก็เกรงใจอยู่หลายส่วน นางอาจจะเป็นคนรู้ใจลับๆของรัชทายาทในหอนี้ก็ได้ ระหว่างที่คิดในใจอยู่นั้น ฉันก็เอ่ยถามว่า “คุณชายไม่สบายหรือ” ก่อนจะยื่นมือไปอังหน้าผากเขา ไช่เหวินจิ้งรู้สึกถึงสัมผัสที่อุ่นตรงหน้าผากก็ตกใจ เงยหน้ามาสบตาแล้วก็ตกตะลึง ครั้งแรกแม้นางจะจับมือเขาก็ไม่กล้ามองเต็มๆตามากนัก วันนี้เขาได้แต่หลุบตาต่ำมาโดยตลอด เพราะว่าที่พี่เขยแผ่กลิ่นอายอำมหิตมาโดยตลอด แถมยังพาเขามาเจอกับรัชทยาท และองค์ชายห้าอีก ทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองมากนักเพราะแรงกดดันต่างๆของวันนี้ แม้จะเตรียมใจมาแล้วก็ตาม นางนั้นรูปโฉมก็โดดเด่น ใบหน้าขาวนวลเนียน คิ้วโค้งงามดั่งกิ่งหลิว ดวงตาเรียวหงส์งดงามยิ่ง จมูกโดงรั้น แก้มอมชมพู ริมฝีปากแดงระเรื่อกับฟันขาว เรือนผมดำคลับดูนุ่นสลวยปักปิ่นปาการังแดง ต่างหูหยกอันเล็ก ใส่ชุดสีเหลืองอ่อนๆลายผีเสื้อเวลาเดินผีเสื้อจะขยับเหมื่อนมีชีวิต ขับเน้นให้ข้อมือขาวนวลเนียนยิ่ง สมแล้วที่เป็นคนรู้ใจลับๆของรัชทายาท

ฉันเห็นเขามองหน้าอยู่นานไม่เอ่ยอะไร ก็กล่าวว่า“คุณชาย? คุณชาย? ท่านเป็นอะไรไหม? ” ไช่เหวินจิ้งกระแอมไอ“ข้าไม่เป็นไรๆ”ก่อนจะก้มหน้าหลุบตาต่ำ ฉันเห็นแล้วก็มองตามเอ่ยว่า”เอ่อคือ..ที่พื้นน่ามองขนาดนั้นเลยหรอ เจ้าคะ” ไช่เหวินจิ้งเงยหน้าทันที ฉันอดไม่ไหวหลุดยิ้มขำออกมา โถ้พ่อหนุ่มน้อย รีบหันหน้าไปด้านข้างทันทีกระชับกอดแขนหยางหมิงแน่นขึ้น ฝังหน้าเข้าไปในแขนของเขาทันที ไหล่นั้นสั่นไหวตามแรงขำ แล้วแบบนี้ๆจะไปยังไงต่อล่ะเนี้ย? รู้สึกถึงสายตากำลังมองมา เงยหน้าขึ้นก็สบตากับหยางหมิง กระพริบตาปริบๆ แล้วรีบมองไปทางถังถัง สายหัวให้ทันที ขอโทษฉันทำไม่ได้จริงๆ ฉันยั่วยวนไม่รอด ฉันยั่วคนไม่เป็น ก่อนจะถอนหายใจเสียงดังออกมา ที่ด้านข้างมีชาวตะวันตกผ่านหลังจะหาทางไปห้องน้ำนานแล้ว แต่ไม่มีใครพูดคุยกับเข้าเลย มีแต่ยิ้มหวานแล้วจากไป ฉันเห็นอยู่นานสองนานแล้วก็ลุกขึ้นเดินไป เดินไปถามทางไปห้องน้ำแล้วเข้าไปบอกทางกับเขาก่อนจะกลับมานั่งข้างๆหยางหมิงเหมือนเดิม“แม่นางพูดภาษาตะวันตกได้ด้วยหรือ” ไช่เหวินจิ้ง กล่าวอย่างสนใจใคร่รู้ ฉันพยัคหน้าอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะคิดขึ้นได้ช้อนตายิ้มหวานตอบว่า“ก็เป็นเจ้าคะ แต่..ภาษารักที่อ่อนโยนยังหาคนสอนไม่ได้ อยากให้พี่เหวินจิ้งสอนจะได้ไหมเจ้าคะ นะคะน้า”ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา จับจองมองที่เขาเพียงคนเดียวไม่ละสายตาไปไหน ไช่เหวินจิ้ง ไม่ได้ตอบอะไรแต่ใบหูนั้นแดงระเรื่อขึ้นอย่างรวดเร็ว ฉันเห็นแล้วก็ตะลึงนิ่งไป ถอยหลังเหลือบหันไปดูสีหน้าของถังถังก่อนจะรีบนึกคิดหาทางออก จิ้มๆที่แก้มของไช่เหวินจิ้งเบาๆเอ่ยว่า “ข้าล้อเล่นนะ”

แล้วลุกขึ้นไปหันไปทางหยางหมิง คล้องคอเขาแล้วนั่งตักหันหลังให้ไช่เหวินจิ้ง ทิ้งตัวพิงซบอกหยางหมิงหลับตาขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะสายหัวไปมาถูไถแผงอกของหยางหมิง รำพึงรำพันในใจ “ซวยล่ะ! งานเข้าชัดๆ”หยางหมิงรู้สึกแปลกๆคันยุบยิบในอก มองหนิงเอ๋อร์ไม่วางตา ตอนนี้หนิงเอ๋อร์โตเป็นสาว เนื้อตัวนั้นก็นุ่มนิ่มยิ่งนัก แต่ก็ยังอ้อนเหมื่อนเมื่อก่อน อดอมยิ้มกับความออดอ้อนของนางไม่ได้จริงๆ จู่ๆหนิงเอ๋อร์ก็เอ่ยขึ้น “ข้าว่า ข้าไม่อยู่เล่นกับพวกท่านดีกว่า” แล้วก็ล้วงเอาป้ายห้องออกมาโบก “ไปกันเถอะที่รัก”

เขานั้นหันควับทันที่ ก็เห็นจือจือที่ปลอมตัวเป็นบุรุษยื่นขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปจับบ่าถังถังที่ปลอมตัวเป็นบุรุษเช่นกัน หัวใจที่จู่ๆลอยสูงก็ค่อยๆสงบลง.

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป