Your Wishlist

บุปผาสวรรค์นางร้ายข้ามภพ (วันลำบากของเซี่ยหยางอวิ่น)

Author: หนิงเซียน

ดวงดอกท้อผลิตบานพร้อมกันถึง 3 ดอก ❤️ นี้คือเรื่องราวของภพชาติใหม่ที่ดวงดอกท้อผลิตบานพร้อมกันถึง 3 ดอก ในความใกล้ชิด สายสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ซ้อนเร้น พี่ชายแท้ๆชอบน้องสาว และอีกสองบุรุษ กวนเพื่อนรักที่ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ความทรงจำอาจจะเลือนลางเเต่มันจะไม่มีทางหายไป ด้วยว่าการกระทำ และนิสัยของนางหลุดจากกรอบของสังคมปัจจุบันไปมาก บุรุษเพื่อนซี้ทั้งสามคนนั้นมองนางด้วยสายตาที่หลากหลาย ในใจก็มีความคิดที่แตกต่างกันออกไป

จำนวนตอน :

วันลำบากของเซี่ยหยางอวิ่น

  • 19/04/2564

หลังเลิกเรียน

ฮุ่ยจื่อเหม่อมองดูองค์หญิง ยิ้มแย้มร่าเริ่งกำลังทำการบ้าน พูดคุยกับคุณหนูถังถัง และคุณหนูจือจือ เห็นแล้วก็อดรู้สึกอุ่นใจไม่ได้ที่วันนี้องค์หญิงมีเพื่อนแล้ว ในส่วนลึกนางเห็นองค์หญิงเหมื่อนน้องสาวดูแลองค์หญิงมาตั้งแต่เล็ก นางมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครององค์หญิง แต่วันนั้นองค์หญิงสั่งให้นางย้อนกลับไปเอาของที่ตำหนัก จนเกิดเหตุการณ์นั้น ม่อหลันเองก็ว่ายน้ำไม่เป็น หลังจากถูกทำโทษจากหน่วยองค์รักษ์ลับ ก็ตั้งใจดูแลองค์หญิงอย่างรอบคอบยิ่งกว่าเดิม หลังจากองค์หญิงพื้นได้สติ ก็มีหลายอย่างที่เปลียนไป ไม่ว่าจะนิสัยก็นิ่งขึ้นไม่เหมื่อนเมื่อก่อน คำพูดที่เกินวัยที่กล่าวออกมาอยู่บ่อยครั้ง ท่าทางแสดงออกก็รู้ความมากยิ่งขึ้น แต่ก็ลืมหลายสิ่งหลายอย่างมากมายเช่นกัน ต้องค่อยๆคอยบอกอยู่เรื่อยๆ ยิ่งบรรยากาศการเรียน องค์หญิงจะจัดตารางเรียนเพิ่มเอง แต่ไม่เอางานปักบอกว่าเสียเวลา ไม่ว่าอ่านหนังสือ ฝึกคัดอักษร ฝึกดนตรี ฝึกร่ายรำ หรือแม้แต่ลงครัวเล็กเอง ตั้งแต่องค์หญิงฟื้นก็มักจะชอบกินของร้อนๆอุ่นอยู่เสมอ ฮ๋องเต้เลยเปรยๆกับฮองเฮา ไม่นานก็การสร้างห้องครัวเล็กที่ตำหนักเหม่ยอวี้

หน้าประตูสำนักศึกษาสตรี

อาหนิงขึ้นรถม้าหลังจากทำการบ้านกับถังถัง จือจือเสร็จแล้ว ก็คิดถึงปัญหาใหญ่ที่ค้างคาอยู่ในใจมานาน พรุ่งนี้ก็หยุดแล้วที่นี้ สถานศึกษาที่นี้คล้ายกับยุคปัจจุบัน ทั้งวันหยุด วันสอบ งานกีฬา งานประชันกลอน งานประชัน2สำนัก และอีกหลายงานหลายเทศกาล 2สำนักศึกษานี้ก็ชอบทำกิจกรรมร่วมกันแทบทุกงาน อย่างงานล่าสุดที่เพิ่งจัดไปก็งานประชันดนตรี ฉันนั่งฟังอยู่ครู่หนึ่งก็รู้สึกเคล้มจะหลับ จนจือจือสกิดเรียก แล้วส่งสัญญานแอบพากันออกไปจากงาน อาหนิงตอนนี้สนิดกับถังถัง จือจืออย่างมาก เป็นกวน3สาวที่ไปไหนไปกัน การเรียนของถังถัง กับจือจือ ดีขึ้นมากเพราะต้องมาช่วยสอน ช่วยกันทำการบ้านกันทุกวันหลังเลิกเรียน ตอนนี้ฉันเรียนทันคนอื่นแล้ว แต่ก็ยังไม่แข็งโดยเฉพาะกลอน ส่วนดนตรี และร่ายรำก็เรียน (พิเศษ) กับอาจารย์สำนักการสังคีต ของวังหลวง ของดีของเฉินกุ้ยเฟยคือมักจะไม่ปฏิเสธ เวลาที่ฉันรู้ว่าอ่อนวิชาอะไรตรงไหนจะเอ่ยกันตรงๆ ก่อนจะออดอ้อนอ้อเซาะตามประสาเด็ก ฉันเข้าหาเฉินกุ้ยเฟยเพื่อลดช่องว่างความสัมพันธ์แม่ลูก ที่มักจะเชื่อฟังและรับคำของเฉินกุ้ยเฟย ดวงตาฉายชัดถึงความไร้เดียงสาของเด็ก น้ำเสาะหินทุกวัน หินยังกรอน นับประสาอะไรกับใจคน สตรีวังหลังสู้รบปรบมือกันมานาน ก็ต้องมีมุมหนึ่งที่เป็น ที่ยึดเหนียวจิตใจบ้าง ในเวลาที่อ่อนล้า

ฉันคิดถึง บิกินี่ และวิธีการตัดเย็บของมัน แม้จะไม่รู้จริงก็ต้องลองหัดทำก่อน จะมาให้ใส่ ตู้โต้ว อยู่แบบนี้ก็ไม่ค่อยสบายใจนัก..เอ่ยว่า“ขากลับนี้ แวะร้านผ้าหน่อยสิ อยากได้ผ้ามาเย็บเสียหน่อย”

ม่อหลันเอ่ยตอบผู้เป็นนายทันที “ในคลังก็มีผ้าพระราชทานเยอะนะเพคะ อยากได้ผ้าขาวบางไว้ปักผ้าส่งอาจารย์หรือเพคะ” อาหนิงสายหน้า “ไม่ใช่ๆ ข้าต้องเลือกผ้าที่ชอบเองพวกเจ้าก็ต้องเลือกด้วย เดียวข้าจะสอนทำเสื้อไว้ใส่”

“อยากได้เสื้อหรือเพคะ ในตู้ผ้าก็มีมากแล้วนะเพคะ” ฮุ่ยจื่อยิ้ม

“ไม่ใช่ๆ พวกเจ้าไม่เข้าใจ เอาเป็นว่า ทำเสร็จแล้วก็จะเข้าใจ ของมันต้องใช้” ก่อนจะเอ่ยบอกคนรถ”อย่าลืมแวะร้านผ้าก่อนกลับนะ” ใช้เวลาไม่นานก็ถึงร้านผ้าที่ต้องการ อาหนิง ฮุ่ยจื่อ ม่อหลัน เข้าไปในร้านเลือกผ้าหลายหลายเมตรไว้หลายผื่น ทั้งสีพื้นต่างๆ และผ้าที่มีลวดลาย รวมถึงด้ายอีกหลายสีมาอีกหลายหลอดกับมา

เช้าวันถัดมา ฮุ่ยจี่อ ม่อหลัน ก็มาปรนนิบัติรับใช้ตามปกติ ก่อนจะพากันไปคารวะเฉินกุ้ยเฟย และขอข้าวที่นั้นกิน ก่อนจะไปเรียนพิน และร่ายรำตามเวลา จะฝึกส่วนสำคัญไม่ฝึกเยอะ

เข้าสู่ยามเย็นก็พากันกับตำหนักเหม่ยอวี้ รื่อเอาข้าวของที่เพิ่งซื่อจากร้านผ้า เตรียมตัดบิกินี่ แทนชุดชั้นในกับ กางเกงซับใน ของในยุคโบราณมันก็มี ชุดชั้นใน เรียกว่า ตู้โต้ว ลักษณะเป็นผืนผ้าคล้ายผ้ากันเปื้อนสำหรับคาดรอบอกและมีสายผ้าผูกที่คอกับเอว อาจมีประเป๋ามาใส่ของกระจุกกระจิก ใส่แล้วแต่มันไม่ชินใส่แล้วไม่สบายใจ กว่าจะทำออกมาได้แต่ล่ะชุด นานมาก ถึงตอนนี้จะแค่ 8 ขวบแต่หน้าอกก็เริ่มมีมาแล้ว

อุทยานหลวง ในศาลาริมน้ำ

ฉันเห็น หยางหมิง (รัชทายาท-องค์ชาย 4) เท่าที่ใกล้ชิดก็พอจะรับรู้ว่าเขาเป็นคน มีความคิดลึกซึ้ง ความคิดเฉียบแหล่มทำอะไรล้วนรอบครอบกับ หยางหลาน (องค์ชาย 5) ก็เป็นคนนิสัยเรียบเรื่อย ไม่โดดเด่นอะไรนัก มีความรับผิดชอบ เห็นพวกมาแต่ไกลกลุ่มเพื่อนเรียนองค์ชายนั้นเป็นพวกที่คุ้ยเคยกันดี เจอกันบ่อยเวลาจัดงานประชัน ในนั้นมีทั้งพี่ชายของถังถัง กับจือจือก็รวมอยู่ด้วยพี่น้องฝ่ายบู้ไม่ได้เคร่งครัดมากนักเหมื่อนพี่น้องฝ่ายบุ๋น เพราะพวกเรายังเด็กกันอยู่ ความสัมพันธ์ ของหยางหมิง กับ หยางหลาน ค่อนข้างดีมากพวกเขาอายุห่างกันไม่กี่เดือน หยางหลานเป็นลูกของสนมไร้ชื่อขั้นฉางจ้ายคนหนึ่ง ที่ตกเลือดอยู่ไม่ถึง 7วันก็เสียชีวิต

ฉันเห็นแล้วก็นึกสนุก เห็นพวกเขากำกลังเหม่อมองผิวน้ำ ฝึกยุทธ กับอีก 2 คนก็อ่านหนังสือ และอีกคนกำลังวาดภาพ ฉันวิ่งอ้อมไป เอื่อมมือไปปิดตาเหยียนอวี้ หรือ ฝูเหยียนอวี้ ที่อ่านหนังสือไม่สนใจใคร ก่อนจะชวนพวกเขาเล่นซ่อนหา หยางหมิง แม้จะอิดออดในตอนแรก แต่ก็ร่วมมือเป็นอย่างดี หาฉันเจอได้ตลอดไม่ว่าจะซ่อนตัวดีแค่ไหน เล่นกันไปหลายรอบแล้วก็หมดสภาพ นั่งอยู่บนพื้นแล้ว หยางหมิงเห็นแล้วก็อดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ ก่อนจะเอื้อมมือลูบศรีษะเด็กน้อย หยางหลานอมยิ้ม ฝูเหยี้ยนอวี้สายศรีษะ ฉู่อู่เว่ย มู่หรงหยวนยิ้มขำ เพราะพวกเขานั้นไม่ได้เล่นแบบเด็กๆมานานมากแล้ว ความสัมพันธ์ของฉันกับพวกเขาถือว่าสนิดสนมกันดีขึ้นเรื่อยๆ

ขบวนเสร็จของหวังฮ่องเต้

เขานั้นกลับมาจากตำหนักของไทเฮาผ่านทางอุทยานหลวงกำลังจะกลับตำหนักเฉี่ยนชิง ก็ได้ได้ยินเสียงเด็กๆกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน เขาหยุดยืนมองดูเงียบๆ ดูลูกๆเล่นกันอยู่เนินนานบรรยากาศแบบนี้ในวังหลังไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว เจ้า1 เจ้า2 เจ้า3 โตไปหมดแล้ว ได้บรรดาศักดิ์อ๋อง กับมีจวนเป็นของตัวเอง มีหลานชาย หลานสาวมาให้เห็นนานแล้ว เจ้า5 ก็เร็วๆนี้ เจ้า4 เพิ่งย้ายเข้าตำหนักบูรพาของรัชทายาท แล้วพอมองดูลูกสาวก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ความจำของนางยังไม่กลับมา แต่ก็ยังสดใสร่าเริ่งมากกว่าเมื่อก่อนเสียอีก พอเห็นลูกสาวตัวน้อยเล่นจนเหนื่อยแล้วก็ก้าวไปหาแล้วเอ่ยเสียงทุ่มนุ่มว่า“นี้มันเหมาะสมที่ไหน” ก่อนจะชำเลืองดูลูกสาวที่นั่งกับพื้นหญ้าอย่างหมดสภาพ นางไม่ลุกขึ้นแต่กลับชูมือสองข้างขึ้นแทน ทำท่าเหมื่อนจะให้อุ้ม เขานั้นหลุดหัวเราะเสียงดังอย่างพึงพอใจกับการออดอ้อนของลูกสาว ก่อนจะอุ้มนางขึ้นมา ตอนนี้นางตัวไม่น้อยแล้วไม่เหมื่อนเมื่อก่อนยังตัวเล็กนิดเดียว

 

พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้ว 1 เดือน

 

ศาลาป่าไผ่ ในสำนักศึกษาสตรี

อาหนิง ถังถัง และจือจือ กำลังเก็บข้าวของหลังจากทำการบ้านของวันนี้เสร็จแล้วก็พากันออกมา เตรียมจะไปขึ้นรถม้ากลับจวน แต่กลับเจอคุณชายน้อยคนหนึ่งขวางทางไว้ เขานั้นโค้งศรีษะต่ำให้และยื่นปิ่นประดับสตรีออกมาตรงหน้าพวกเรา สามสาวนั้นงุนงง? มองหน้าคุณชายน้อยอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะหันมามองหน้ากันเป็นเป็นคำถามว่าเขามาหาใคร? คุณชายน้อยเหมื่อนจะเข้าใจก่อนจะเอ่ยว่า “คุณหนูอาหนิง”

ถังถัง กับจือจือ ส่งเสียง “อ้อ” ลากเสียงยาว ก่อนจะส่งสายตากรุมกริมส่งมาให้อาหนิง

ฉันนั้นส่งสายตาปรามสองสาวเอ่ยว่า “อะไร..ไม่รู้จักเขานะ? ”

คุณหนูอาหนิง ข้าน้อยเป็นคนของคุณหนูขอรับเขานั้นเอ่ยต่อ ฮุ่ยจื่อขมวดคิ้วเดินขึ้นหน้ามาบังองค์หญิงไว้ บรรยากาศนั้นเงียบไปอยู่อึดใจหนึ่ง ม่อหลันกำลังรอองค์หญิงอยู่บนรถม้าเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ดูท่าไม่ดีก็ลงจากรถม้าตามมา ดูคุณชายน้อยท่านนี้อยู่ปราดหนึ่ง ก่อนที่หางตาจะเห็นปิ่น ก็อุทานเสียงดังออกมา “อ่ะ!! นี้เจ้ากลับมาจริงด้วย! ” สายตาทุกคู่นั้นพุ่งไปยังม่อหลันเป็นตาเดียว

ม่อหลันนั้นคว้าปิ่นประดับออกมาจากมือของเขายื่นมาชูตรงหน้าของอาหนิง “ของคุณหนูไงเจ้าค่ะ ก็คนที่คุณหนูช่วยไว้คราวก่อนที่เขาฝังศพแม่กับยาย จำได้ไหมเจ้าค่ะ” ฉันนั้นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพยัคหน้า เขานั้นจัดท่าเตรียมจะโขกศรีษะคำนับฉันรีบห้ามเขาไว้ รีบเอ่ยว่า “ไปกันคุยที่อื่น”

เขานั้นพยัคหน้าเอ่ยรับ“ขอรับคุณหนู”

ฉันก็ลาถังถัง กับจือจือ ตรงนี้เลยก่อนจะพาฮุ่ยจื่อ ม่อหลัน และพี่คนขับรถ และองค์รักษ์ อีก 2คน ข้ามฝั่งไปหาโรงเตียมที่ไม่ใกลนัก ก่อนจะเปิดห้องๆหนึ่ง เมื่อสั่งอาหารเสร็จ เสี่ยวเอ๋อร์ ก็เดินออกไป เมื่อไม่มีคนนอก หยางหยาง ก็โขกศรีษะคำนับแล้วเอ่ยว่า “ข้าจะจงรักภักดิ์ดีต่อคุณหนู ตั้งใจปฏิบัติรับใช้ไม่ทรยศขอรับ” ฮุ่ยจื่อ มองสำรวจหยางหยางนิ่ง ม่อหลันยิ้มให้หยางหยางแต่รอยยิ้มไปไม่ถึงดวงตา องค์รักษ์นั้นมองสำรวจโดยรอบ หยางหยางรู้สึกกดดันเหมื่อนมีสายตาหลายคู่มองมาที่เขา ระหว่าที่กำลังอึดอัดอยู่นั้น..

อาหนิงก็เอ่ยเสียงตื่นเต้น ”ข้าเก็บของดีๆได้กลางทางสินะ! โตมาคงจะเป็นชายหนุ่มที่หล่อน่าดู เจ้าอ่านหนังสือเป็นหรือไม่ แล้วเคยอ่านอะไรบ้างนิดหน่อยก็ได้ เขียนเป็นไหมแล้วคิดเลขล่ะ? หากให้ทำบัญชีจะพอไหวไหม? ” อาหนิงนั้นถามออกมาเป็นชุดๆ

หยางหยาง เงยหน้าขึ้นก็เห็นคุณหนูตัวน้อย ดวงตาเปร่งประกาย จองมองมาที่เขา เขาพยัคหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยว่า “บ่าวทำได้ เมื่อก่อนบ่าวเคยเรียนหนังสือ” ก่อนจะก้มหน้างุด

ม่อหลันยิ้มเอ่ยว่า “เมื่อก่อนเจ้าเป็นใครหรือ” นางรู้สึกว่าเขามีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา พอแต่งตัวก็เหมื่อนคุณชายดีๆนั้นเอง เมื่อเห็นว่าหยางหยางไม่ตอบอะไรก็เอ่ยว่า “คุณหนูเราเป็นสตรีในห้องหอ ช่วยเหลือบุรุษ ถึงเจ้ากับกับข้าอายุคงจะไล่เลี้ยกัน แต่ก็ต้องมีที่มา ที่ไปให้ชัดเจน คุณหนูเรานั้นป่วยอยู่อาจจะทำอะไรตามใจไปบ้าง ไม่ได้คำนึงถึงความเหมาะสมที่จะตามมา..เจ้าในอดีตคือตายไปแล้ว เมื่อมาอยู่กับคุณหนูๆก็ตั้งชื่อให้เจ้า เจ้าก็มีชีวิตใหม่อีกครั้ง เจ้าก็แค่เล่าให้ฟังเท่านั้นเองไม่มีผลอะไรทั้งสิ้น” ฉันนั้นมองม่อหลัน ที่พูดจริงจังเป็นครั้งแรกตั้งแต่ฉันมาที่นี้

ม่อหลันรู้สึกถึงสายตาที่มองมาขององค์หญิงก่อนจะปรับสีหน้าจริงจังเป็นยิ้มหวานส่งมาให้ 

อาหนิงละสายตาแล้วมองหยางหยางที่กำลังคิด ก็เอ่ยว่า “ยังมีญาติหรือไม่”

หยางหยางตอบเสียงแผ่ว “ไม่มีแล้วขอรับ ตายหมดแล้ว”

หยางหยางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจเล่าอดีตของตัวเอง “บ่าว..บ่าว..ครอบครัวของบ่าวเมื่อก่อนมีพี่ชายเป็นหัวหน้าครอบครัว อยู่กับแม่และยาย พี่ชายมีหัวการค้านำเงินเก็บออกมาเปิดร้านบ่าวก็เป็นลูกมือไม่จ้างคนนอกค้าขายผ้านำเข้าเล็กๆน้อยๆ ที่ซื้อต่อมาจากท่าเรือ ผ้าเราแปลกตาเป็นที่นิยมมาก ช่วงนั้นตระกูลใหญ่ก็มาขอซื้อต่อร้านเราพี่ชายไม่ขาย ไม่นานพี่ชายก็ถูกใส่ความว่า..ว่าเป็นโจรขืนใจ ลูกสาวป้าร้านผ้าข้างๆ จนต้องติดคุกไม่นานก็สิ้นใจ ช่วงแรกที่เกิดเรื่องเราจำเป็นต้องขายร้านเพื่อหาเงินไปว่าความ และร้านป้าที่ขายผ้าก็ขายด้วย พอรู้ว่ามันผิดปกติก็สายไปเสียแล้ว ยายนั้นป่วยหนักเป็นทุนเดิม ส่วนแม่ก็ตรอมใจ พอยายสิ้น แม่ก็อยู่ได้ไม่กี่วันก็สิ้นใจตาม” หยางหยางเล่าเสียงเรียบเรื่อย แม้จะแผ่วเบาไปบ้างก็เล่าจนจบ ฉันมองเขานิ่ง สิ่งที่ฉันรู้สึกนอกจากเศร้าใจ ก็คือคิดแทนเขา..หยางหยางคงร้องไห้จนน้ำตาไม่มีให้ไหลแล้วสินะ..

ฉันเอ่ยปรับอารมณ์ว่า “ไปๆกินข้าวกัน เร่งเสี่ยวเอ๋อร์หน่อย” ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่ทุกคนในห้อง “ให้นั่งโต๊ะเดียวกัน” เห็นพวกเขาจะเอ่ยปากก็รีบสวนทันที “เดียวต้องไปที่อื่นต่ออีกอย่ามากพิธีรีตอง” เอ่ยเสียงดุ ว่าห้ามขัดใจเด็ดขาด! มื้อนั้นจบลงด้วยดี..เหมื่อนคำที่ว่า..เวลากินไม่ส่งเสีย เวลานอนไม่พูดคุย

ฉันยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงกับหยางหยางดี เลยพากันไปหาโรงเตี้ยมให้เขาพักก่อน เขานั้นเกรงใจขอห้องพักที่ถูกที่สุด..ก่อนจะแยกตัวกลับวังหลวง ระหว่างทางในรถม้าเงียบมากจนกระทั้งถึงตำหนักเหม่ยอวี้.

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป