Your Wishlist

เล่ห์รักดวงหทัย [Yaoi] (ตอนที่ 2[2/3])

Author: สาววายไตพัง

ชายผู้เปรียบดั่งแม่ทัพ องอาจห้าวหาญ ศัตรูทุกผู้เหล่าต่างหวั่นเกรง แต่หนนี้หลังจากจบศึก ผลกลับกลายเป็นแพ้สงครามถูกจับตัวเป็นเชลยศึก ถูกบุรุษสูงศักดิ์ผู้เป็นถึงอ๋องจอมมารย่ำยี ข้าหรือจะยอมมีชีวิตทนต่อไปได้ ถ้าไม่หนีก็ขอตายเสียดีกว่า!!

จำนวนตอน :

ตอนที่ 2[2/3]

  • 20/04/2564

แคว้นชิ่งจิ่น

 

ณ ชายแดนทางทิศตะวันตก

 

ท่ามกลางยอดทิวเขา ภูเขาเรียงกันสลับซับซ้อน ภูเขาลูกเล็กลูกใหญ่ บนพื้นท้องนภาแสงอาทิตย์เรืองรองสีทองเปล่งประกายทั่วผืนท้องนภา เหล่าปักษาส่งเสียงร้องขับขานสามัคคี บรรยากาศบริเวณโดยรอบสงบเงียบไร้เสียงแว่วของผู้คนเดินทางสัญจร เสมือนดั่งเมืองหลวงของแคว้นชิ่งจิ่น ที่ผู้คนกลุ่มนี้เดินจากออกมาในยามเช้ามืด ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น

 

ผู้คนกลุ่มนี้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์เรียบง่ายคล้ายผู้คนชาวเมืองธรรมดา กำลังนั่งอยู่บนหลังอานอาชาคู่ใจ อาชาเหล่านี้ถูกฝึกให้มีฝีเท้ารีบเร่งอย่างดี เท้าที่ก้าววิ่ง ขึ้นยอดภูเขาที่สูงชันไม่หวั่นเกรงกลัวต่อสิ่งใด สามารถวิ่งได้ตลอดโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย หยุดพักเพียงแค่ครึ่งชั่วยามก็วิ่งต่อได้ในระยะทางยี่สิบลี้ หนทางเพียงข้างหน้าของกลุ่มคนผู้นี้ คือ แคว้นเหวินฉิน

 

"หยุด" ชายหนุ่มใบหน้าเรียวคม นัยน์ตาดุจดั่งพญานกอินทรี  ส่งเสียงร้องตะโกน พร้อมกระตุกเชือกในมือ สั่งให้อาชาคู่ใจหยุดยืนนิ่งอย่าสง่าผ่าเผย บุคคลผู้นี้คือ ท่านอ๋องผิงหยางปิน นัยน์ตากำลังจ้องมองไปทางภูเขาลูกถัดไป ที่ใช้เวลาอีกเพียงไม่นานก็จะใกล้เข้าสู่เมืองหลวงแห่งแคว้นเหวินฉิน

 

"เรียนท่านอ๋องหยางปิน....." องครักษ์หมิงซิน อยู่ในชุดเสื้อผ้าอาภรณ์ และเส้มผมที่เกล้ามวยผูกด้วยเนื้อผ้าธรรมดา กล่าวได้ไม่ทันจบ ก็ถูกสายตาของบุคคลเบื้องหน้าจ้องมองด้วยนัยน์ตาที่ดุดัน

 

"หมิงซิ่น ข้าสั่งเจ้าแล้วใช่ไหม ว่าเจ้ากับข้าปลอมตัวมาในฐานะพี่น้อง เช่นนั้นคำเรียกเจ้ากับข้าต้องเปลี่ยนเพื่อแนบเนียน"

 

"อึก ขอรับ ท่าน...เออ พี่เหยียนซิ่ว" องครักษ์หมิงซินก้าวลงจากหลังอานอาชา และคุกเข่าลงยกมือทั้งสองข้างขึ้นประสานไปทางบุคคลเบื้องหน้า พร้อมกับกล่าวนามแฝงด้วยความเกรงกลัว

 

"น้องเหยียนซิ่น หวังว่าเจ้าจะจำใส่ใจ ว่าถ้าแผนการหนนี้พลาด เจ้าคงรู้ชะตาสินะ" อ๋องหยางปินกล่าวด้วยนัยน์ตาและน้ำเสียงที่เยือกเย็น

 

"ทราบแล้วขอรับ พี่เหยียนซิ่ว" องครักษ์หมิงซินยังคงอยู่ในท่าเดิมและกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น 

 

"ส่วนพวกเจ้าที่เหลือ เมื่อข้ามไปยอดภูเขาลูกนั้นแล้ว ให้แยกย้ายออกไป ข้าเรียกใช้พวกเจ้าเมื่อไหร่ ค่อยออกมา" อ๋องหยางปินกล่าวกับเหล่าองครักษ์ที่เหลือ

 

"น้อมรับบัญชาพะยะค่ะ" เสียงของเหล่าองครักษ์ก้าวลงจากหลังอานอาชา คุกเข่าลงพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นประสานและส่งเสียงพร้อมเพรียงกันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น 

 

.

 

.

 

.

 

อีกทางด้านหนึ่ง

 

แคว้นเหวินฉิน

 

ณ ชายแดนทางทิศตะวันตก

 

ท่ามกลางบริเวณโดยรอบทิวเขายามเช้า แสงอาทิตย์ที่เริ่มสาดส่องลงมายังเบื้องล่าง สภาพอากาศที่ไหลเวียนพัดพาความเย็นส่งผลให้อากาศบริเวณโดยรอบผู้คนรู้สึกเย็นสบาย เหล่าทหารต่างร่วมมือช่วยกันลงแรง เก็บข้าวของสัมภาระจนเสร็จสิ้นเรียบร้อย

 

เมื่อได้เวลาออกเดินทาง ขบวนเหล่าทหารม้า ที่มีผู้ควบคุมสวมชุดเกราะขี่อยู่บนตัวหลังอานอาชาศึก รวมถึงเหล่าทหารเดินเท้าสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์และสวมทับด้วยชุดเกราะด้านนอก มือด้านอีกด้านถือทวน ด้านข้าวของสัมภาระขับเคลื่อนด้วยเกวียน เหล่าทหารต่างยืนแถวอย่างพร้อมเพรียงกันเป็นระเบียบ พร้อมออกเดินทางทุกเมื่อ

 

ถัดมาแถวหน้าสุดของขบวนเหล่าทัพคือ แม่ทัพซิ่นหลิ่งเฟย ชายหนุ่มใบหน้าเรียวงาม สวมใส่ด้วยชุดเกราะนั่งอยู่บนหลังอานอาชา ด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย ผู้ที่นั่งอยู่บนหลังอานอาชาขนาบด้านข้างคือรองแม่ทัพติ่งลี่หยาง ชายหนุ่มใบหน้าเรียวคม สวมใส่ด้วยชุดเกราะ

 

"เรียนท่านแม่ทัพซิ่นหลิ่งเฟยและรองแม่ทัพติ่งลี่หยาง ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วขอรับ" ทหารนายหนึ่งก้าวเท้าเดินเข้ามา ประสานมือทั้งสองข้างเข้ากัน พร้อมโค้งตัว ก่อนกล่าวรายงานความเรียบร้อย

 

"เคลื่อนทัพได้" แม่ทัพซิ่นหลิ่งเฟยกล่าวด้วยเสียงอันดุดัน พร้อมกับกระตุกเชือกบนอานหลังม้า ให้ก้าวเท้าวิ่งไปข้างหน้า

 

"เคลื่อนทัพได้" รองแม่ทัพติ่งลี่หยางกล่าวขานรับด้วยเสียงอันดังก้อง พร้อมกับกระตุกเชือกบนอานหลังม้าให้ก้าวเท้าวิ่งตามไป

 

เหล่ากำลังพลทหาร ต่างเคลื่อนกำลังพลอย่างองอาจ ไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งอื่นใด ใบหน้าของเหล่าทหารดูดุดัน น่าเกรงขาม เพื่อเป็นการข่มขวัญเหล่าศัตรู หรือกลุ่มกองโจรให้หวั่นเกรงกลัว

 

สัมภาระอันหนักถูกลำเลียงจัดวางใส่เกวียนจนเต็มคัน โดยใช้อาชาสองตัวออกแรงลาก โดยด้านหน้าทหารสองนายจูงอาชาไปด้านหน้า และด้านหลังทหารสองนายคอยพยุงเกวียน โดยมีทหารนายจำนวนหนึ่งคอยขนาบข้าง เพื่อป้องกันกลุ่มซุ่มดักโจมตี หวังดักขโมยข้าวของสัมภาระ ซึ่งเกวียนแบกหามข้าวของสัมภาระมีจำนวนทั้งหมดยี่สิบคัน

 

ตลอดการเดินทางในสามวัน เหล่าไพร่พลทหาร ได้พักพิงเพียงครึ่งชั่วยาม เพื่อให้เหล่าทหารได้พักกินข้าวและดื่มน้ำ และรวมถึงเหล่าอาชาได้พักกินหญ้าและกินน้ำ ก่อนจะรีบเคลื่อนขบวนกำลังพลกองทัพเดินทางไปต่อ

 

ในเวลานี้เหล่าไพร่พลทหารได้หยุดพัก ต่างอยู่ในสภาพหมดแรงเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางตลอดสามวันที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้หลับนอน ทำให้ใบหน้าเริ่มซูบผอม อิดโรยด้วยความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย

 

อีกด้านหนึ่งร่างของชายหนุ่มสองคน คือแม่ทัพซิ่นหลิ่งเฟยและรองแม่ทัพติ่งลี่หยางกำลังนั่งอยู่พื้นหญ้า สายตาทั้งคู่กำลังจับจ้องทางไปบนแผนที่ ซึ่งถูกกางออกมาวางลงบนพื้นหญ้า  

 

"ท่านหลิ่งเฟย ถ้าเดินตามเส้นทางนี้ ระยะทางต่อจากนี้อีกเพียงสิบลี้ กองทัพเราก็จะถึงประตูเมืองหลวงขอรับ" ลี่หยางกล่าว ในขณะที่มือชี้เส้นทางบนแผนที่

 

"....." หลิ่งเฟยไม่ได้กล่าวอะไร สายตายังคงจับจ้องบนแผนที่

 

"ท่านหลิ่งเฟย ข้าน้อยคิดว่าเราน่าจะให้เหล่าไพร่พลทหารแวะพักตรงจุดนี้นะขอรับ เพราะสถานที่แห่งนี้มีโรงเตี๊ยมและมีอาหารพอเลี้ยงปากท้องกำลังไพร่พล และตลอดระยะทางที่ผ่านมาเหล่าไพร่พลทหารได้หยุดพักไม่เพียงพอ ไม่ทราบว่าท่านหลิ่งเฟยเห็นควรอย่างไร" รองแม่ทัพติ่งลี่หยางกล่าว ในขณะที่มือชี้เส้นทางบนแผนที่ ถัดออกไปจากจุดที่อยู่ระยะทางต่อจากนี้ไปอีกห้าลี้

 

"เอาตามที่เจ้าว่าลี่หยาง" หลิ่งเฟย

 

"ข้าน้อยรับทราบ นั้นข้าน้อยขอตัวไปดูความเรียบร้อยก่อนนะขอรับ" ลี่หยาง

 

"อืม" หลิ่งเฟยกล่าวตอบรับเพียงสั้น

 

หลังจากรองแม่ทัพติ่งลี่หยางเดินจากออกมา ห่างจากที่หยุดพักไม่นัก ก็ส่งสัญญาณโดยการผิวปากเรียกนกพิราบสื่อสาร เพียงชั่วครู่นกพิราบสีขาวนวลก็โบยบินลงมาเกาะที่แขน รองแม่ทัพติ่งลี่หยางนำม้วนกระดาษเล็กๆยัดใส่กระบอกใต้เท้านกพิราบสื่อสารลงไป

 

'รุ่งขึ้นขบวนทัพจะเคลื่อนที่ถึงโรงเตี๊ยม'

 

"เจ้าจงนำสารฉบับนี้ส่งไปให้ถึงมือท่านอ๋องผิงหยางปิน" ลี่หยางกระซิบริมฝีปาก ก่อนจะปล่อยให้พิราบสื่อสารโบยบินขึ้นไปยังหมู่ท้องนภา

 

เมื่อได้เวลา เหล่าไพร่พลทหารต่างก็เคลื่อนทัพออกเดินทางต่อไป อย่างไม่ได้หยุดพัก ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น เหล่าไพร่พลทหารต่างก็ไม่ย้อท้อ และพยายามเร่งฝีเท้าก้าวเดินเพื่อหวังให้ถึงจุดหมายที่จะได้กลับไปพบครอบครัว

 

.

 

.

 

.

 

ถัดมาอีกด้านหนึ่งระยะห่างประมาณห้าลี้จากจุดที่กองทัพพยัคฆ์ขาวหยุดพักเมื่อครู่ 

 

ทางด้านฝ่ายอ๋องหยางปินกับองครักษ์หมิงซิน สวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์ธรรมดา และม้วนมวยผมเกล้าด้วยเชือกผ้าธรรมดา แต่ก็ไม่อาจปกปิดท่าทางความสง่าผ่าเผยได้ รวมทั้งใบหน้าที่ดูมีสง่าราศี กำลังขี่อาชาเพื่อมุ่งหน้าไปทางเมืองหลวงของแคว้นเหวินฉินได้ พวกเหล่าองครักษ์ที่เหลือต่างกระจายตัวออกไปตามทิศทางต่างๆ

 

เสียงร้องอันไพเราะของนกพิราบสีขาวส่งสัญญาณ ก่อนที่จะโบยบินพุ่งทะยานลงมาจากท้องนภาอันกว้างใหญ่ไพรศาล อ๋องหยางปินยื่นแขนข้างหนึ่งไปด้านหน้า นกพิราบสื่อสารเห็นดังนั้นจึงบินร่อนลงมาเกาะยังแขน อ๋องผิงหยางปินยื่นมืออีกข้างหยิบม้วนกระดาษในกระบอกใต้เท้านกพิราบสื่อสารออกมา ก่อนจะปล่อยให้บินจากไป 

 

อ๋องหยางปินคลี่ม้วนกระดาษในมืออ่าน รวมทั้งรอยยิ้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจ ที่แผนการที่ตระเตรียมไว้กำลังจะเป็นไปตามที่วางไว้ 

 

'รุ่งขึ้นขบวนทัพจะเคลื่อนที่ถึงโรงเตี๊ยม' ใจความในม้วนกระดาษ

 

"เร่งฝีเท้าม้าให้เร็วขึ้นอีก วันรุ่งขึ้นพวกเราจะหยุดแวะพักที่โรงเตี๊ยมนอกชานเมือง" อ๋องหยางปินกล่าว

 

"รับทราบขอรับ" องครักษ์หมิงซินกล่าว

 

"เรื่องที่ข้าให้ไปจัดการได้ความว่าอย่างบ้าง" อ๋องหยางปินกล่าว

 

"เรียน...พี่เหยียนซิ่ว ข้าน้อยได้ส่งคนไปจัดการเรื่องที่พักให้เรียบร้อยแล้วขอรับ" องครักษ์หมิงซินรีบเปลี่ยนคำกล่าวเรียกนามบุรุษผู้เป็นนายในทันท่วงที เมื่อนัยน์ตาของอ๋องหยางปินตวัดมองมา

 

"....."

 

"เห็นทีคราวนี้ ชัยชนะจะมาอยู่ในมือก้าวหนึ่งแล้วนะขอรับ ในเมื่อรองแม่ทัพติ่งลี่หยางให้ความร่วมมือโดยดี" องครักษ์หมิงซินกล่าวด้วยรอยยิ้ม 

 

"อย่าพึ่งฮึกเหิมดีใจไป ชัยชนะที่เจ้ากล่าวนั้นจะต้องมาอยู่ในมือเราเสียก่อน ถึงจะเรียกได้ว่าชัยชนะที่แท้จริง" อ๋องหยางปินกล่าว

 

"ข้าน้อยจะจำใส่ใจขอรับ" องครักษ์หมิงซินกล่าวอย่างนอบน้อม

 

"รีบไปกัน ต้องรีบไปให้ถึงก่อนรุ่งอรุณจะขึ้นอีกครั้ง ข้าอยากจะเจอคนผู้นั้นเต็มที" อ๋องหยางปินกล่าวเมื่อหวนคำนึงถึงใบหน้าเรียวงามของคนผู้นั้น พร้อมกับแส้ในมือที่ฟาดตีลงที่สะโพกของอาชา เพื่อรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วยิ่งขึ้น

 

ในขณะที่อีกด้านของแม่ทัพหลิงเฟยไม่ได้รับรู้ถึงการมาของท่านอ๋องซิ่นหยางปิน ยังคงเดินทางไปยังโรงเตี๊ยมตามคำแนะนำของรองแม่ทัพติ่งลี่หยางคนสนิท ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้

 

        Facebook & Twitter :: @MC27761

              Tag. #เล่ห์รักดวงหทัย

              1 คอมเม้น = 1 กำลังใจ

................................

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ และขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ค่ะ 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป