ตอนที่ 33: ไม่ขอโทษ (edit ใหม่)
กู้หนิงอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ จากนั้นเธอโต้เขากลับด้วยวลีแบบเดียวกัน
“ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ถือว่าเจ๊ากันไป อย่างนั้นใช่ไหม?”
ถ้าจะว่ากันแบบนี้ ฉินเจิ้งก็หาเหตุผลมาต่อว่าเธอไม่ได้
ฉินเจิ้งไม่พอใจแต่ไม่สามารถตอบโต้ได้ ตรงกันข้ามกับกู้เซียวเซียวที่กำลังบ้าคลั่ง เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะให้อภัยกู้หนิง
“กู้หนิง แกกล้าขว้างจานข้าวใส่ฉัน! ครั้งนี้แกหนีไม่พ้นแน่!” กู้เซียวเซียวที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เธอหยิบจานข้าวแล้วเขวี้ยงใส่กู้หนิงทันที
พวกเธอยืนอยู่ใกล้กันมากจึงไม่มีทางที่จะหยุดได้ทัน ทุกคนมองไปยังจานที่กำลังลอยไปหากู้หนิง
แม้ว่ากู้หนิงจะเพิ่งแสดงความสามารถของเธอออกมาให้ทุกคนประจักษ์ แต่พวกเขายังกังวลว่าเธอไม่อาจหลบได้ทัน เพราะระยะห่างทั้งสองสั้นมาก
ก่อนที่ทุกคนจะเห็นอะไรชัดเจน ‘แบม’ เสียงจานตกลงพื้นเสียงดัง ทุกคนตกใจกับภาพเบื้องหน้า
กู้หนิงชกจานที่กำลังลอยไปหาเธออย่างเร็วด้วยกำปั้นหมัดเดียว จานก็ร่วงลงพื้นแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ขณะที่มือของกู้หนิงไม่เป็นอะไรเลยสักนิด
“ว้าว สุดยอดไปเลย!” มู่เค่อมองกู้หนิงอย่างชื่นชม เขาไม่สามารถอธิบายความรู้สึกชื่นชมและนับถือกู้หนิงว่ามากขนาดไหนได้
ทุกคนต่างก็ชื่นชมเช่นกัน
“กะ แก…” ครั้งนี้กู้เซียวเซียวรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว เธอก้าวถอยหลังไปด้วยความกลัวราวกับว่ามองเห็นสัตว์ดุร้าย
ได้ไง? เป็นได้ยังไง? ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กู้หนิงเก่งขนาดนี้?
“กู้เซียวเซียว ฉันว่าฉันได้เตือนเธอไปแล้วนะว่าให้อยู่ห่างจากฉัน แต่เธอก็ไม่ฟัง ในเมื่อเธอไม่ยอมปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว ฉันก็ขอสนองความสนุกของเธอบ้างล่ะกัน” กู้หนิงเอ่ยเสียงเย็น
“แก….” กู้เซียวเซียวหวาดกลัวกู้หนิง ตอนนี้เธอไม่อยากมีเรื่องแล้วแต่ยังรู้สึกหัวเสียอยู่ เธอเอ่ยอย่างมุ่งร้าย
“กู้หนิง ฉันจะบอกคุณพ่อกับคุณย่าว่าแกรังแกฉัน ฉันจะให้คุณย่าตะเพิดแกออกจากบ้านเน่าๆนั่น ฉันจะทำให้แกเป็นคนไร้บ้าน!”
กู้เซียวเซียวเป็นจุดศูนย์กลางของตระกูล ถ้าเธอยืนกราน คุณย่าต้องทำตามคำขอร้องของเธอแน่นอน
“พวกเราไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นฟรีๆ พวกเราจ่ายค่าเช่า พวกเราจะอยู่ที่ไหนก็ได้ที่พวกเราต้องการถ้าออกจากบ้านโทรมๆหลังนั้นแล้ว” กู้หนิงไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่นิดเดียว เธอไม่มีแผนจะอยู่บ้านเก่าหลังนั้นนานอยู่แล้ว
ถ้าเธอย้ายออกจากบ้านวันนี้ เธอกับกู้ม่านคงไปเช่าโรงแรมอยู่ก่อนสักระยะ เมื่อเธอกลับมาจากเมือง G เธอจะซื้อบ้านหลังใหม่ทันที
“บอส ไม่ต้องห่วงนะ ฉันสามารถช่วยหาบ้านให้ได้” มู่เค่อยินดีช่วยกู้หนิง
“แก…” กู้เซียวเซียวหัวเสียมากขึ้นกว่าเดิม เธอกัดฟันพูดว่า
“ดี ดีมาก กู้หนิงแล้วเราจะได้เห็นดีกัน แกจะต้องเสียใจแน่!”
จากนั้นก็จ้องหน้ากู้หนิงอย่างกินเลือดกินเนื้อแล้วหันหลังกลับเดินออกไป โดยไม่สนใจฉินเจิ้งและเพื่อนๆ
เฉินจื่อเหยาก็จ้องกู้หนิงอย่างไม่พอใจเช่นกันที่กู้หนิงเอาตัวรอดไปได้
ฉินเจิ้ง จางอี้หมิง และฝูหมิงเหลียงล้วนไม่พอใจ พวกเขาส่งสายตามาทางมู่เค่อและกู้หนิงอย่างมีนัยยะบางอย่าง จากนั้นก็พากันเดินจากไป
เมื่อพวกเขาจากไปแล้ว นักเรียนคนอื่นก็ต่างพากันแยกย้าย กู้หนิงและเพื่อนพากันเซงในตอนแรก แต่จากนั้นเมื่อได้กินข้าวก็อารมณ์ดีขึ้น
กู้เซียวเซียวโทรหาแม่ของเธอทันทีที่เดินออกมา แม่ของกู้เซียวเซียว ‘หลิน หลี่หยวน’ เป็นแม่ที่ตามใจลูกสาวมาก เมื่อได้ยินว่าลูกสาวเธอถูกรังแก หลินหลี่หยวนก็โกรธแค้นแทนลูกสาว
กู้เซียวเซียวใส่สีตีไข่ เธอบอกแม่ว่ากู้หนิงมีแฟนเป็นเด็กรวยและประพฤติตนไม่เหมาะสมและอื่นๆอีกมาก
หลินหลี่หยวนวางสายและส่งคนขับรถไปรับกู้เซียวเซียวที่โรงเรียน จากนั้นก็โทรไปต่อว่ากู้ม่านอยู่นานสองนาน
หลินหลี่หยวนสั่งให้กู้ม่านบอกกู้หนิงให้ขอโทษกู้เซียวเซียวไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ไม่มีทางจบแน่
กู้ม่านตกใจหลังจากได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น กู้หนิงตีกู้เซียวเซียวด้วยจานข้าวและยังตบหน้าเธอ? กู้ม่านไม่อยากเชื่อแต่หลินหลี่หยวนโทรหาเธอเป็นการส่วนตัว ดังนั้นมันอาจจะเป็นเรื่องจริง
กู้ม่านสันนิษฐานว่ามันอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลินหลี่หยวนพูด ถึงแม้กู้หนิงจะตบตีกู้เซียวเซียวจริง เธออาจทำมันเพราะกู้เซียวเซียวยั่วโมโหลูกสาวเธอก็ได้
กู้ม่านรู้จักกู้หนิงดี กู้เซียวเซียวรังแกกู้หนิงนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ทั้งสองยังเป็นเด็ก
ถึงแม้กู้ม่านจะทราบดีว่ากู้หนิงถูกรังแก เธอก็ไม่รู้จะหาวิธีจัดการได้อย่างไร
อย่างไรก็ตามสิ่งที่กู้ม่านกังวลมากที่สุดตามที่หลินหลี่หยวนพูดคือ กู้หนิงมีแฟนเป็นเด็กรวยและประพฤติตนผิดศีลธรรม
เธอไม่อยากเชื่อว่ากู้หนิงจะทำอย่างนั้น แต่เด็กวัยรุ่นมักตกหลุมรักง่าย กู้ม่านห่วงกู้หนิงจริงๆว่าเธออาจทำอะไรที่ผิดไป
เมื่อกู้ม่านวางสายจากหลินหลี่หยวน เธอก็โทรหากู้หนิงทันที
ตอนที่กู้หนิงรับโทรศัพท์จากกู้ม่าน พวกเขาทั้งสามคนก็เดินมาถึงป่าเล็กๆหลังโรงเรียน
“หนิงหนิง ป้าใหญ่ของลูกโทรมาบอกแม่ว่าลูกเอาจานตีเซียวเซียว และลูกยังตบเธออีกด้วย? เกิดอะไรขึ้น? ป้าใหญ่บอกว่าลูกต้องขอโทษเซียวเซียวไม่อย่างนั้นป้าใหญ่ไม่มีทางยอม” กู้ม่านถามอย่างเป็นห่วง
ได้ยินแม่พูด กู้หนิงไม่แปลกใจเลยสักนิด เธอรู้อยู่แล้วว่ากู้เซียวเซียวต้องฟ้องแม่ของหล่อน
“หนูขว้างจานใส่เธอ ไม่ได้ตีเธอ จานหล่นใส่หัวเธอพอดีแล้วทำให้ผม หน้าและเสื้อผ้าเธอพัง ทั้งหมดก็มีเท่านี้ค่ะ หนูไม่ได้ตีเธอเลยด้วยซ้ำ เธอทำหนูขายหน้าหลายต่อหลายครั้งแล้วค่ะแม่ พูดตามตรงนะคะคว่ำจานข้าวใส่หัวเธอมันยังน้อยไปด้วยซ้ำถ้าเทียบกับสิ่งที่เธอทำ” กู้หนิงอธิบายอย่างใจเย็น เธอไม่คิดว่าตัวเธอทำผิดอะไร
“และเรื่องขอโทษ หนูไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยแล้วทำไมหนูต้องขอโทษด้วย” กู้หนิงปฎิเสธที่จะขอโทษโดยไม่ลังเล
กู้ม่านรู้แล้วว่าหลินหลี่หยวนกล่าวเกินจริง เมื่อได้ฟังคำอธิบายของกู้หนิง กู้ม่านเชื่อว่าเธอทำถูกแล้ว
กู้ม่านรู้สึกผิดที่เธอเป็นต้นเหตุให้ลูกสาวต้องถูกรังแก เธอโทษตัวเองว่าไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอลูกสาวคงไม่ต้องถูกรังแกเรื่อยมาแบบนี้
คนเป็นแม่สมควรที่จะปกป้องลูกสาว ถึงแม้กู้ม่านจะยังคิดว่าการที่กู้หนิงขว้างจานใส่คนอื่นจะเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ แต่เธอเชื่อว่ากู้หนิงไม่ได้ทำอะไรผิด
ดังนั้นเธอจึงไม่บังคับให้กู้หนิงต้องขอโทษ
“หนิงหนิงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยใกล้มาถึงแล้ว ลูกต้องใส่ใจการเรียนให้มากขึ้นและอย่าเพิ่งมีความรักในตอนนี้” ตอนแรกกู้ม่านตั้งใจจะถามลูกสาวตรงๆแต่กลัวว่าจะทำให้กู้หนิงเสียใจ ดังนั้นเธอจึงเอ่ยเตือนอ้อมๆ”
ตอนที่ 34: พายุลงเว็บบอร์ด
กู้หนิงเป็นเด็กสาวฉลาด เธอรู้ว่ากู้ม่านหมายถึงอะไร กู้เซียวเซียวต้องพูดให้ร้ายเธอแน่นอน
“แม่คะ หนูรู้ว่ากู้เซียวเซียวต้องพูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับหนูให้ป้าใหญ่ฟัง แต่แม่ต้องเชื่อหนูนะคะ หนูไม่ใช่คนแบบนั้น และไม่มีทางทำเรื่องเสื่อมเสียแน่นอนค่ะ”
“จ้ะ แม่ไว้ใจลูก” ถึงแม้กู้ม่านจะยังกังวลอยู่แต่เธอเลือกที่จะเชื่อใจกู้หนิง
หลังจากนั้นไม่นานกู้หนิงก็วางสาย พวกเขาจึงพากันเดินไปยังข้างในป่าเล็กๆตรงพื้นที่ที่ไม่มีใครเข้ามาได้ เพื่อป้องกันการสอดรู้สอดเห็น
การฝึกศิลปะการต่อสู้ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน แม้ว่ามู่เค่อจะเรียนรู้หลายกระบวนท่าแล้ว เขายังต้องฝึกซ้อมบ่อยๆ มู่เค่อและกู้หนิงจึงพากันฝึกต่อจากเมื่อวาน
สำหรับหยูหมิงซี เธอไม่แข็งแรงพอที่จะฝึกกับกู้หนิงได้ กู้หนิงจึงให้เธอฝึกออกท่าทางไปพลางๆก่อน
ในระหว่างที่กู้หนิงและเพื่อนของเธอต่างพากันตั้งใจฝึกซ้อม หัวข้อเกี่ยวกับเธอก็เป็นที่ถกเถียงกันในบอร์ดของโรงเรียน มีคนถ่ายวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงอาหารและอัพโหลดขึ้นบอร์ดของโรงเรียน
“ไม่จริงน่า! จานถูกขว้างลงใส่หัวพอดีเป๊ะเลย”
“และโต๊ะนั่นก็ดูท่าจะหนักมากด้วย เธอกลับดึงมันได้ง่ายๆ!”
“จานใบนั้นด้วย เธอตีมันให้แตกด้วยหมัดเดียว!”
“คนธรรมดาไม่มีทางทำอย่างนั้นได้ ฉันเชื่อว่านักเรียนหญิงคนนี้ต้องเป็นเจ้าแม่กังฟู”
“เจ้าแม่กังฟู? ฉันไม่เชื่อนายหรอก นายอ่านนิยายต่อสู้มากเกินไป แต่ฉันพูดได้เลยว่านักเรียนหญิงคนนี้ก็แค่นักเรียนธรรมดาๆ!”
“โอ๊ะ ฉันเคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อนในป่าหลังโรงเรียนเมื่อวานนี้ เธอกำลังสู้กับนักเรียนชายคนหนึ่งที่ตัวสูงๆ นักเรียนชายคนนั้นถูกเธอล้มลงกับพื้น ฉันอยากจะถ่ายวิดีโอพวกเขา แต่เธอดันมาเจอฉันและข่มขู่ฉันซะก่อน”
“ได้โปรดบอกพวกเราด้วยว่าเธอพูดว่ายังไง?”
“ได้โปรด ได้โปรด ฉันกำลังรออยู่”
“ได้โปรด ได้โปรด ได้โปรด”
“เธอพูดว่า ‘ฉันอยากจะสู้กับเธอไหม?’ แ_ง ใครมันจะเอาชีวิตตัวเองเข้าไปเสี่ยงวะ ฉันก็เลยวิ่งหนีน่ะสิ”
ทุกคนต่างพากันหัวเราะเขา
มีความคิดเห็นแบ่งออกเป็นสองส่วนทั้งชื่นชอบและไม่ชื่นชอบ
“ฉันคิดว่าเธออยากได้รับความสนใจมากกว่า”
“ใช่ คนทุกวันนี้อยากจะเป็นคนดังกันทั้งนั้น”
“ฉันเห็นด้วย ถ้าเธอสู้เก่งจริง เธอลองไปท้าดวลกับฉู่เพ่ยหานและพิสูจน์ให้เราเห็นไปเลย!”
เมื่อเห็นบรรดาความคิดเห็นที่เป็นลบเหล่านี้ บรรดาคนที่ชื่นชอบกู้หนิงก็ไม่พอใจ พวกเขาโต้กลับทันที
“ตาบอดกันไปแล้วเหรอ? ลองขว้างจานให้มันหมุนแล้วหล่นใส่เป้าหมายดูสิ และลองยกโต๊ะขึ้นมาถ้านายทำได้นะ!”
“ใช่แล้ว หุบปากพวกนายซะ ถ้าพวกนายทำไม่ได้”
“ฉันคิดว่าพวกเขาก็แค่อิจฉา พวกเขาทนรับความจริงไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้เก่งกว่าพวกเขา”
“ฉันไม่เห็นด้วยที่ผู้หญิงบางกลุ่มชอบอิจฉาคนอื่น เพื่อนๆ พวกเราต้องมองให้ชัดและอยู่ห่างจากพวกผู้หญิงเหล่านี้เพื่อปกป้องตัวพวกเราเอง”
“ใช่! ฉันขออยู่คนเดียวดีกว่าต้องอยู่กับผู้หญิงนิสัยไม่ดีพวกนั้น”
“เห็นด้วย”
“เห็นด้วย”
“เด็กหนุ่มพวกนั้นก็ช่างเลวร้ายพอกัน พวกเขาอยู่ข้างพวกผู้หญิงที่พูดจาไม่ดีและยังคอยชี้นำให้พวกเธอทะเลาะกัน”
ในขณะนั้นก็มีความคิดเห็นหนึ่งดึงดูดความสนใจของทุกคน
“เธอแข่งแกร่งจริงๆเหรอ? ฉันฮ่าวหรัน ม.6 ห้องเจ็ด ฉันขอท้าสู้นักเรียนหญิงคนนี้ ถ้ามีใครรู้จักเธอ ฝากบอกเธอด้วย”
ทันใดนั้น คอมเม้นต์แต่ล่ะคอมเม้นต์ก็ทวีความดุเดือดยิ่งขึ้น
ฮ่าวหรัน ม.6 ห้องเจ็ด เป็นคนดังของโรงเรียนในด้านพฤติกรรมที่ไม่ดี
เขามีพฤติกรรมรุนแรงยิ่งกว่าเพ่ยหาน ถ้าครอบครัวเขาไม่มีอิทธิพล ป่านนี้คงถูกไล่ออกจากโรงเรียนไปนานแล้ว
ตอนนี้กู้หนิงเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว
บรรดาคนที่วิจารณ์กู้หนิงก็โหมกระพือเติมเชื้อเพลิงเข้ากองไฟให้มันโหมแรงยิ่งขึ้น
ไม่นานข้อมูลของกู้หนิงก็รั่วไหลออกมา
ใครก็ตามที่ปล่อยข้อมูลของกู้หนิงต้องเป็นคนที่เกลียดเธอมากๆ และอยากเห็นเธอตกอยู่ในอันตราย
หลังจากที่ฮ่าวหรันท้าดวลกู้หนิง บางคนก็ห่วงใย บางคนก็รอชม และบางคนก็มีความสุขที่เห็นคนอื่นเจ็บปวด
มีนักเรียนหลายคนรวมตัวกันอยู่ด้านนอกห้องสี่ ฉินเจิ้ง จางอี้หมิง ฝูหมิงเหลียงและเฉินจื่อเหยาก็รวมอยู่ในนั้นด้วย
ท่ามกลางบรรดาคนมุง ฉินเจิ้งและเพื่อนรวมถึงจ้าวเฟยเฟยและเพื่อนของเธอต่างพากันตื่นเต้นที่จะได้เห็นเรื่องสนุกที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
ถ้ากู้เซียวเซียวรู้ข่าว เธอต้องเสียใจที่กลับบ้านก่อนเวลาที่พลาดละครฉากเด็ดนี้ไป
ตรงทางเดินมีเด็กหนุ่มสามคนยืนขวางอยู่ พวกเขาเป็นจุดสนใจของทุกคน ไม่ใช่ว่าพวกเขาหน้าตาดี แต่เป็นเพราะไม่มีใครกล้าเข้าใกล้พวกเขาต่างหาก
แม้ว่าเด็กหนุ่มทั้งสามจะไม่ได้หล่อเหลามากมายแต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่แน่นอน ท่าทางของพวกเขาที่แสดงออกนั้นแข็งกร้าวซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของเด็กเกเร
“ฮ่าวหรัน บางทีกู้หนิงอาจจะกลัวจนไม่กล้ามาแล้วก็ได้” เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านขวาเอ่ยขึ้น
อีกไม่กี่นาทีคาบเรียนตอนเย็นก็จะเริ่มแล้ว กู้หนิงก็ยังไม่ปรากฏตัว บางทีเธออาจจะตกใจกลัวไปแล้ว
“เธอซ่อนไม่ได้ตลอดไปหรอก ถ้าไม่ลาออกจากโรงเรียน” เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงกลางพูดขึ้นซึ่งก็คือฮ่าวหรัน
“พวกเราต้องรออีกนานแค่ไหน? คาบเรียนจะเริ่มแล้วด้วย” เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านซ้ายก็เอ่ยขึ้นบ้าง
“ใช่ ทำไมเธอถึงยังไม่มานะ บางทีเธออาจจะมาตอนที่พวกเราไปแล้วก็ได้” ฮ่าวหรันเอ่ย
นาทีที่กู้หนิงและเพื่อนเดินพ้นบันไดออกมา พวกเขาก็เห็นเด็กนักเรียนมากมายยื่นออกันอยู่หน้าห้องสี่
ต้องมีเรื่องอะไรแน่
ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร คาบเรียนช่วงเย็นกำลังจะเริ่มแล้ว กู้หนิงและหยูหมิงซีจำต้องเดินฝ่าเข้าไป
ห้องเรียนของมู่เค่ออยู่คนละทางกับกู้หนิง แต่ด้วยความอยากรู้เขาจึงเดินตามกู้หนิง
ทันใดนั้นก็มีคนสังเกตเห็นกู้หนิง
เฉินจื่อเหยาเปิดปากพูดคนแรก “นี่ไงกู้หนิง ใครบอกว่าเธอกลัว? กล้าหาญไม่เบานี่!”
เฉินจื่อเหยาเรียกความสนใจจากทุกคนไปที่กู้หนิง ยิ่งเธอชมกู้หนิงมากเท่าไหร่ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้ฮ่าวหรัน
เมื่อกู้หนิงปรากฏตัว เฉินจื่อเหยาก็เลื่อนหน้าจอเปิดโทรศัพท์เพื่อถ่ายวิดีโอ เธอต้องการถ่ายไว้ให้กู้เซียวเซียวดูทีหลัง
ได้ยินดังนั้นกู้หนิงก็รู้ว่าพวกเขาไม่ได้มาดี อย่างไรก็ตามกู้หนิงก็สันนิษฐานได้แล้วว่าเฉินจื่อเหยาและเพื่อนของเธอมาที่นี่เพื่อก่อปัญหาให้เธอ