Your Wishlist

กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ (ตอนที่ 35 - 36: ท้าดวล 3:1, มั่นใจหรือแค่อวดเก่ง)

Author: BuaElla แปล

เธอเปรียบดั่งหุ่นเชิดของตระกูล เป็นสายลับและนักฆ่า เธอถูกหักหลังและตกลงไปในทะเล เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอกลายเป็นเด็กสาวมัธยมธรรมดาๆ เนื่องจากเกิดมาไม่มีพ่อ เธอจึงถูกญาติของเธอถากถางมาตั้งแต่เด็กจนโต และถูกรังแกจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวอีกแล้ว ใครกล้าทำร้ายเธอ เธอจะหักกระดูกพวกมัน !

จำนวนตอน : ยังไม่จบ

ตอนที่ 35 - 36: ท้าดวล 3:1, มั่นใจหรือแค่อวดเก่ง

  • 02/04/2564

ตอนที่ 35: ท้าดวล 3:1

 

“เธอคือกู้หนิงใช่ไหม?” ฮ่าวหรันเดินเข้ามาหากู้หนิงและถามให้แน่ใจ

 

“ใช่ มีอะไร?” กู้หนิงตอบเสียงเรียบ เธอไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย

 

“ฮ่าวหรัน นายต้องการจะทำอะไร?” เมื่อเห็นฮ่าวหรันที่นี่ มู่เค่อที่เดินตามกู้หนิงมาก็รู้สึกถึงบรรยากาศไม่ชอบมาพากล เขาก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อปกป้องกู้หนิงทันที

 

เขาไม่รู้ว่าทำไมฮ่าวหรันถึงมาหากู้หนิง แต่เขารู้ว่าที่ฮ่าวหรันมา ไม่ได้มาเพราะเฉินจื่อเหยา

 

ฮ่าวหรันแปลกใจที่มู่เค่อปกป้องกู้หนิง แต่เขายังคงพูดต่อไปว่า “ฉันเห็นวิดีโอที่เกิดขึ้นในโรงอาหารแล้ว มันถูกอัพขึ้นบอร์ดโรงเรียน ทุกคนต่างพากันพูดว่ากู้หนิงนั้นแข่งแกร่ง แต่ฉันไม่เห็นด้วย และที่ฉันมาที่นี่เพื่อขอท้าดวลกู้หนิง เธอกล้ายอมรับคำท้าฉันไหม?”

 

“อะไรนะ?”

 

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่เค่อและหยูหมิงซีต่างพากันตกใจ พวกเขามองไปที่กู้หนิงอย่างเป็นห่วง กู้หนิงยังคงนิ่งเงียบ มีเด็กผู้ชายมาที่นี่เพื่อขอท้าสู้เธอ! กู้หนิงคิดว่าเขามาที่นี่เพราะเฉินจื่อเหยาซะอีก

 

มู่เค่อสบถ ใครก็ตามที่อัพวิดีโอบ้านั่นลงบอร์ดโรงเรียน เห็นได้ชัดว่าเขาต้องอยากให้กู้หนิงมีปัญหา กู้หนิงไม่พอใจเช่นเดียวกัน แต่เธอรู้สึกสนใจมากกว่าตกใจกลัวต่อคำท้าของฮ่าวหรัน

 

กู้หนิงคุ้นชื่อฮ่าวหรัน เพราะฮ่าวหรันก็เป็นอันธพาลประจำโรงเรียนเช่นเดียวกับฉู่เพ่ยหาน เขามักข้องเกี่ยวกับเรื่องทะเลาะวิวาท ทั้งยังชอบขาดเรียนและได้รับใบเตือนมากมายเหมือนกับฉู่เพ่ยหาน

 

แต่เขาเรียนไม่เก่งเท่าฉู่เพ่ยหาน การเรียนของเขาค่อนข้างแย่

 

ฮ่าวหรันมาจากครอบครัวร่ำรวย ครอบครัวของเขารวยเป็นอันดับสามของเมือง F

 

ฮ่าวหรัน ฉินซีหุน และจางเทียนปิง กลุ่มของพวกเขาต่างเป็นที่รู้จักในโรงเรียน

 

กู้หนิงเคยได้ยินประวัติของฉินซีหุนและจางเทียนปิงมาบ้าง ฉินซีหุนเป็นลูกชายของข้าราชการ แต่กู้หนิงไม่รู้ตำแหน่งพ่อของเขา ส่วนจางเทียนปิงว่ากันว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า พวกเขาทั้งสามกลายมาเป็นเพื่อนกันจากการทะเลาะวิวาท

 

แม้ว่าพวกเขาจะมีภูมิหลังที่แตกต่างกัน แต่พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันอย่างแท้จริง

 

กู้หนิงมีแผนในใจของเธอหลังจากที่เธอรู้แล้วว่าพวกเขาเป็นใคร

 

“ฮ่าวหรัน นายจะชกต่อยกับผู้หญิงได้ยังไง” มู่เค่อโมโห ถึงเขาจะเชื่อมั่นในความสามารถกู้หนิง แต่เด็กหนุ่มสามคนนี้ก็ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ

 

“ถ้าเธอเป็นผู้หญิงธรรมดาก็ดูเหมือนว่าฉันรังแกเธอ แต่เมื่อเธอต่อสู้เป็นก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้กันและกันจะดีกว่า” ฮ่าวหรันไม่คิดว่าสิ่งที่กำลังจะทำนั้นผิดแต่อย่างใด

 

ใช่ ถ้ากู้หนิงเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาๆ เขาคงไม่ขอสู้กับเธอ แต่วิดีโอนั่นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด

 

“นี่นาย…” มู่เค่อโกรธ ก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อ กู้หนิงก็ขัดขึ้น

 

“ถ้าชนะฉันจะได้อะไร และถ้าฉันแพ้จะเกิดอะไรขึ้น?” กู้หนิงถาม

 

“ถ้าเธอชนะฉันจะทำตามที่เธอสั่ง แต่ถ้าฉันชนะเธอก็ต้องทำตามที่ฉันสั่งเหมือนกัน ใจเย็น ฉันไม่ให้เธอทำอะไรที่ผิดศีลธรรมแน่” ฮ่าวหรันตอบ

 

ฮ่าวหรันเป็นเด็กหนุ่มที่พอมีคุณธรรมอยู่บ้าง

 

“ได้ ฉันรับคำท้า แต่ฉันมีเงื่อนไขอีกอย่าง” กู้หนิงเอ่ย

 

ทุกคนทึ่งที่กู้หนิงยอมรับคำท้า พวกเขาพากันลงพนันขันต่อว่าใครจะแพ้ชนะ

 

ถึงแม้ทุกคนจะยอมรับว่ากู้หนิงนั้นเก่งก็จริง แต่ฮ่าวหรันเป็นที่รู้จักกันดีว่าชกต่อยเก่งมาก ไม่มีใครคิดว่ากู้หนิงจะชนะ

 

กู้หนิงไปเอาความมั่นใจมาจากไหน หรือเธอคิดว่าตัวเธอเองอยู่ในระดับที่สูงกว่า

 

“บอส…” มู่เค่อเรียกเธออย่างเป็นห่วง แต่กู้หนิงหยุดเขาด้วยสายตา

 

“บอกมาเธอต้องการอะไร?” ฮ่าวหรันเองก็ประหลาดใจที่กู้หนิงรับคำท้าของเขาโดยไม่ลังเล

 

เขาไม่รู้ว่ากู้หนิงมั่นใจหรือแค่อวดดี แต่ก็ขอชื่นชมทัศนคติของเธอ

 

“หนึ่งต่อสาม ถ้าฉันแพ้ฉันจะทำสามอย่างตามที่พวกนายต้องการ แต่ถ้าฉันชนะพวกนายต้องเรียกฉันว่า ‘บอส’ และเชื่อฟังฉันจนกว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะจบลง” กู้หนิงกล่าวอย่างสบายอกสบายใจขณะที่คนอื่นล้วนตกตะลึงกับคำขอของเธอ

 

อะไรนะ? หนึ่งต่อสาม? คนแพ้ต้องเรียกเธอว่าบอส?

 

กู้หนิงมั่นใจในตัวเองเกินไปแล้ว!

 

หลังจากนิ่งงันไปชั่วครู่ ฮ่าวหรันและเพื่อนรู้สึกโกรธกับคำพูดของกู้หนิง มันเป็นความอัปยศของพวกเขาเลยทีเดียวถ้าต้องเรียกผู้หญิงว่า ‘บอส’!

 

“เธออยากให้พวกเราเรียกบอส? น่าสนใจนี่” ฮ่าวหรันพูดเย้ยหยัน

 

“ใช่ เธอคิดว่าเธอเป็นใคร?”

 

“กู้หนิง ความมั่นใจนั้นดีแต่อย่าให้มันมากเกินไป”

 

ฉินซีหุนและจางเทียนปิงโกรธ

 

“ฉันรู้ว่าฉันเป็นใคร จะมั่นใจหรือจะอวดดีก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนาย อย่างน้อยฉันก็ไม่กลัว ถ้านายขี้ขลาดและไม่กล้ายอมรับคำขอ งั้นก็แพ้ไปซะ” กู้หนิงปลายตามองฮ่าวหรันและเพื่อนของเขาอย่างยั่วยุ

 

“เธอ…”

 

ฮ่าวหรันและเพื่อนรู้สึกอับอายแต่ศักดิ์ศรีค้ำคอพวกเขาอยู่

 

“ขี้ขลาด? พวกเราไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด รับคำท้า!" ฮ่าวหรันตอบกลับด้วยความโกรธ

 

ฮ่าวหรันเป็นคนตัดสินใจแทนพวกเขาเสมอ เมื่อฮ่าวหรันยอมรับอีกสองคนก็เห็นด้วย นอกจากนี้พวกเขาไม่ต้องการที่จะเป็นคนขี้ขลาด!

 

“ดี ฉันจะรอพวกนายพรุ่งนี้บ่ายโมงที่ป่าหลังโรงเรียน” กู้หนิงเอ่ยอย่างพึงพอใจซึ่งนั่นทำให้มู่เค่อรู้สึกว่าเธอสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างแน่นอน

 

เขาควรเชื่อใจกู้หนิง ในเมื่อเธอรับคำท้าแล้ว แสดงว่าเธอต้องมั่นใจว่าจะชนะแน่

 

หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หยูหมิงซีรู้ว่ากู้หนิงจะไม่วันเปลี่ยนใจกับสิ่งที่เธอได้ตัดสินใจไปแล้ว หยูหมิงซียังคงเงียบ เธอทำได้เพียงเชื่อเพื่อนของเธอเท่านั้น

 

จากนั้นกู้หนิงก็เดินเข้าห้องเรียนของเธอไป ทิ้งทุกคนไว้เบื้องหลัง

 

ฮ่าวหรันและเพื่อนทำเสียงขึ้นจมูกเบาๆจากนั้นก็พากันเดินจากไป

 

นักเรียนคนอื่นก็แยกย้ายกันไปหลังจากละครฉากใหญ่จบลง

 

มีเพียงสายตามุ่งร้ายของเฉินจื่อเหยายามมองกู้หนิงเดินเข้าไปในห้อง เธอผิดหวังที่กู้หนิงยังทำตัวสงบ เธอหวังว่าพรุ่งนี้กู้หนิงจะแพ้ ยิ่งแพ้รุดลุ่ยเลยยิ่งดี

 

จางอี้หมิงและฝูหมิงเหลียงคิดเหมือนกัน ขณะที่ฉินเจิ้งรู้สึกสับสน เขาอยากให้กู้หนิงได้รับบทเรียนแต่ก็รู้สึกเป็นห่วงเธอด้วย

 

เมื่อกู้หนิงเข้าไปในห้องเรียน เพื่อนร่วมชั้นบางคนมองมาที่เธออย่างเป็นห่วง บางคนก็รอคอยให้ถึงวันพรุ่งนี้ บางคนก็สะใจโดยเฉพาะจ้าวเฟยเฟยและเพื่อนของเธอ

 

จ้าวเฟยเฟยต้องการเยาะเย้ยกู้หนิง แต่เสียงออดดังขึ้นก่อน ดังนั้นเธอจำต้องหุบปากเธอลง

 

 

ตอนที่ 36: มั่นใจหรือแค่อวดเก่ง

 

"กู้หนิง ออกมาข้างนอกกับครูสักครู่"

 

ครูประจำชั้นเรียกเธอออกไปพบข้างนอก กู้หนิงคิดว่าอาจเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนนี้

 

เมื่อกู้หนิงเดินพ้นประตูออกมา ครูก็เอ่ยถามเธอเสียงเข้ม "ทำไมเธอถึงทำอย่างนั้นที่โรงอาหาร? ทำไมเธอถึงตีเพื่อนนักเรียนด้วยกัน? และยังรับคำท้าดวลจากฮ่าวหรัน ฉินซีหุนและจางเทียนปิง ที่อยู่ห้องเจ็ด? เธอรู้ไหมว่าตอนนี้เธอเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว และมันมีผลกระทบต่อชั้นเรียนของเราด้วย?"

 

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามและอารมณ์โกรธจากครู ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกโมโหเลยแม้แต่น้อย เธอเอ่ยอธิบายอย่างใจเย็นว่า "ครูจางคะ กู้เซียวเซียวพูดไม่ดีเรื่องแม่หนูก่อน หนูก็เลยตีเธอที่โรงอาหาร อาจารย์จะให้หนูทนหรอคะถ้ามีใครมาว่าแม่หนู? ส่วนฮ่าวหรันกับเพื่อน พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้หนูอยู่อย่างสงบแน่นอนค่ะ ถ้าหนูไม่รับคำท้าพวกเขา พวกเขาก็จะคอยวนเวียนหาเรื่องหนูไม่หยุดหย่อน"

 

จางฉิวฮวารู้ว่ากู้หนิงต้องแบกรับความกดดันไว้มาก นักเรียนคนอื่นมักรังแกเธออยู่เสมอๆ เมื่อเธอรับรู้ถึงเหตุผลกู้หนิง เธอก็จะไม่เอาเรื่อง

 

เป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมกู้หนิงถึงต้องตอบโต้กลับ

 

ถึงแม้เธอจะยังคิดว่าการกระทำทั้งหมดนี้ออกจะมากเกินไปเกินไป แต่กู้หนิงเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเธอ จางฉิวฮวาไม่รู้จะพูดอะไร

 

แต่เธอยังไม่อาจยอมรับเรื่องที่กู้หนิงรับคำท้าฮ่าวหรันได้

 

"กู้หนิง เธอเป็นผู้หญิงแล้วจะเอาชนะผู้ชายสามคนได้ยังไง? แล้วทางโรงเรียนก็ห้ามเด็กนักเรียนชกต่อยกัน เธอต้องถูกลงโทษหากทำแบบนั้น และห้องเรียนของเราจะถูกเพ่งเล็งอีกด้วย" จางฉิวฮวาเอ่ย

 

ได้ยินดังนั้น กู้หนิงก็ตกใจขึ้นมา เธอลืมไปเลยว่าเธออาจถูกลงโทษได้หากมีเรื่องชกต่อยในโรงเรียนและห้องของเธอก็จะถูกเพ่งเล็งจากพฤติกรรมของเธอ

 

"แต่หนูรับปากพวกเขาไปแล้ว ถ้าหนูบอกปัด ฮ่าวหรันต้องเอาเรื่องหนูแน่" กู้หนิงรู้สึกเหมือนกำลังจะจนมุม

 

“เธอกำลังทำให้ครูโมโหนะ” กู้หนิงทำให้จางฉิวฮวาโมโห ถึงแม้ว่ากู้หนิงคือเหตุผลของปัญหาทั้งหมด ฮ่าวหรันก็เป็นสาเหตุหลัก จางฉิวฮวาไม่อยากโทษกู้หนิงคนเดียว

 

เธอไม่ใจร้ายพอที่จะเห็นกู้หนิงถูกฮ่าวหรันตามแก้แค้น เพียงเพราะกู้หนิงไม่ยอมสู้ด้วย

 

ถ้าฮ่าวหรันจะลงมือแก้แค้นกู้หนิงจริง ทางโรงเรียนก็ไม่อาจช่วยได้

 

“เอาอย่างนี้ไหมคะ? หนูจะออกไปสู้กับฮ่าวหรันข้างนอกโรงเรียน แบบนี้ก็จะไม่มีใครถูกลงโทษ” กู้หนิงเสนอความคิด

 

“เธอนี่มัน…” จางฉิวฮวายังไม่พอใจ

 

“กู้หนิง ทำไมเธอโง่แบบนี้นะ! เธอคิดว่าเธอจะชนะฮ่าวหรันกับเพื่อนของเขาได้งั้นเหรอ? ถ้าเธอบาดเจ็บขึ้นมาล่ะ? แม่เธอก็ต้องเป็นห่วงเธอ แล้วยังค่ารักษาพยาบาลอีก?

 

จางฉิวฮวาจำเป็นต้องชี้ให้เห็นถึงความจริง เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้กู้หนิงรู้สึกไม่ดี แต่เพื่อตัวกู้หนิงเอง

 

กู้หนิงเข้าใจว่าครูห่วงใยเธอ “อย่ากังวลไปเลยค่ะ หนูเอาชนะพวกเขาได้แน่ค่ะ จริงๆนะคะ”

 

ยากที่จะให้จางฉิวฮวาเชื่อ แต่เธอรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดเรื่องนี้ต่อไป “เอาล่ะ ครูจะไม่เซ้าซี้เธอแล้ว โชคดีล่ะกันนะ”

 

จากนั้นเดินจากไปด้วยด้วยความโกรธ กู้หนิงยักไหล่และเดินกลับเข้าห้องเรียน

 

ทุกคนในห้องต่างพากันเอาหูแนบประตู แอบฟังจางฉิวฮวาคุยกับกู้หนิง แต่พวกเธอพูดเสียงเบา ดังนั้นจึงไม่มีใครได้ยินสิ่งที่พวกเธอคุยกัน พวกเขาเห็นเพียงครูเดินจากไปด้วยอาการโมโห

 

มีเพียงกู้หนิงที่ยังสงบเยือกเย็นแต่ต้นจนจบ เธอไม่ได้ดูเสียใจที่ถูกตำหนิ ทุกคนต่างมองมาอย่างสงสัย

 

เมื่อกู้หนิงเดินกลับเข้ามาในห้อง เพื่อนร่วมห้องส่วนใหญ่จับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอเพื่อค้นหาว่ามีอะไรเกิดขึ้น

 

ตอนนี้ครูประจำชั้นไม่ได้อยู่ในห้อง ห้องเรียนจึงกลับมาอึกทึกอีกครั้ง ห้องสี่ไม่ใช่ห้องเรียนระดับท็อปของชั้น ม.6 ดังนั้นนักเรียนเหล่านี้จึงไม่ค่อยสนใจการเรียนเท่าไหร่นัก

 

“นี่ กู้หนิง เธอมั่นใจว่าจะชนะพวกเขารึปล่า?” นักเรียนชายที่นั่งข้างหน้ากู้หนิงหันมาถามเธอ

 

“หนึ่งต่อสาม สุดยอดไปเลย!” นักเรียนชายอีกคนพูดเสริมขึ้นอย่างชื่นชม

 

“เธอก็รูปร่างดีนะ ไม่รู้ความสามารถจะดีตามด้วยรึเปล่า?” นักเรียนอีกคนก็เอ่ยขึ้น

 

“ใช่” อีกคนก็เอ่ยเสริมขึ้นมา

 

นักเรียนส่วนใหญ่ไม่เชื่อกู้หนิงว่าเธอจะสามารถเอาชนะได้ กู้หนิงไม่สนใจพวกเขา แต่หยูหมิงซีที่นั่งเงียบมาตลอด เธอโต้กลับเป็นครั้งแรก

 

“ฉันเชื่อในตัวกู้หนิง ฉันเชื่อว่าเธอเอาชนะได้!”

 

กู้หนิงคลี่ยิ้ม หยูหมิงซียืดหยัดเพื่อเธอ

 

“แล้วยังไงล่ะ? เธอเชื่อแต่ไม่ได้ความว่ากู้หนิงจะเอาชนะได้ซะหน่อย” เพื่อนร่วมห้องเถียงกลับ

 

“ใช่ ฉันก็ไม่เชื่อ”

 

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็รอดูพรุ่งนี้บ่าย ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะไม่ยอมรับในความสามารถของกู้หนิง รอดูพรุ่งนี้กันดีกว่า!” หยูหมิงซีเถียงกลับ

 

นักเรียนที่ไม่เห็นด้วยนิ่งเงียบ บางคนก็อยากสาดน้ำเย็นใส่เพิ่ม แต่อาจารย์ใหญ่กลับเข้ามาที่ห้องพอดี พวกเขาจึงจำต้องหุบปากสนิท

 

ในบ้านของครอบครัวกู้ ห้องที่ตกแต่งงดงามอย่างกับห้องเจ้าหญิง กู้เซียวเซียวอยู่ในชุดราตรีสีชมพูนอนอยู่บนเตียงสีชมพูขนาดใหญ่พร้อมโทรศัพท์มือถือในมือ เธอกำลังดูวิดีโอที่เฉินจื่อเหยาส่งมา และรู้สึกว่าน่าเสียดายที่เธอไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย

 

กู้เซียวเซียวมีปฏิกิริยาเช่นเดียวกับเฉินจื่อเหยา เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งกับความมั่นใจของกู้หนิง และไม่เชื่อว่ากู้หนิงจะเอาชนะฮ่าวหรันและเพื่อนของเขาได้

 

เธอแทบทนรอไม่ไหวที่จะเห็นกู้หนิงถูกต่อยล้มคว่ำไปนอนกับพื้นในวันพรุ่งนี้

 

ยิ่งกว่านั้นเธอยังรอคำขอโทษจากกู้หนิง ถ้ากู้หนิงไม่ขอโทษหรือยังทำให้เธอไม่พอใจ เธอจะเกลี้ยกล่อมคุณยายให้เตะกู้หนิงกับแม่ของมันออกจากบ้าน

 

เช้าวันรุ่งขึ้น กู้เซียวเซียวยืนรอกู้หนิงที่บันได เธอรอเพื่อเยาะเย้ยกู้หนิง รอไปสักพักกู้หนิงก็ยังไม่ปรากฏตัว กู้เซียวเซียวเริ่มหมดความอดทน

 

“คาบเช้าจะเริ่มแล้ว หรือมันกลัวจนไม่กล้ามาโรงเรียนวันนี้?” กู้เซียวเซียวสันนิษฐาน

 

“ใครจะรู้!” เฉินจื่อเหยาตอบ

 

สองนาทีก่อนคาบเรียนแรกจะเริ่ม กู้หนิงก็ปรากฏตัวพร้อมมู่เค่อและหยูหมิงซี

 

เมื่อเห็นมู่เค่อ กู้เซียวเซียวและเฉินจื่อเหยาก็ริษยากู้หนิงมากขึ้นกว่าเดิม มู่เค่อเคยเป็นเพื่อนพวกเธอมาก่อน แต่ตอนนี้เขากลับสนิทกับกู้หนิงมากกว่าพวกเธอ

 

นอกจากนี้ครอบครัวของมู่เค่อยังมีฐานะร่ำรวยมากกว่าพวกเธอ พวกเธออยากสนิทสนมกับมู่เค่อ แต่ใครจะไปรู้ว่ามู่เค่อดันยืนอยู่ข้างกู้หนิงและต่อต้านพวกเธอ

 

มู่เค่อและหยูหมิงซีรู้สึกเซ็งขึ้นมาทันทีที่สังเกตเห็นกู้เซียวเซียวและเฉินจื่อเหยา ส่วนกู้หนิงยังคงทำตัวปกติอย่างเช่นเคย

 

“กู้หนิง ฉันได้ยินมาว่าแกกำลังจะสู้กับผู้ชายสามคนบ่ายวันนี้ หนึ่งต่อสาม แกมั่นใจในตัวเองมากเลยสินะ แต่ก็ไม่รู้ว่ามั่นใจจริงหรือทำอวดเก่งไปอย่างนั้นเอง?” กู้เซียวเซียวสบประมาท

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป