ตอนที่ 245: บอสมีความรัก?
พนักงานร้านเรียกกู้หนิงว่าคุณกู้เมื่อเธอปรากฏตัวในร้าน กู้หนิงเป็นคนสั่งพวกเขาให้เรียกเธอแบบนั้นเอง
กู้หนิงส่งยิ้มให้พนักงานก่อนเดินตรงไปยังห้องทำงาน
“บอส ทำไมคุณไม่บอกผมว่าจะมา? ผมจะได้ไปรับ” โจวเจิ้งหงพูดขึ้นทันทีที่เห็นกู้หนิง
“หนูไม่ใช่เด็กค่ะ ดูแลตัวเองได้ ไม่อยากรบกวนลุง” กู้หนิงยิ้ม
ถึงแม้ว่าโจวเจิ้งหงจะไม่ได้คิดว่าเป็นการรบกวนเขา อย่างไรก็ตามเขาเชื่อฟังเธอ
“บัญชีของร้าน นี่ครับ” โจวเจิ้งหงยื่นบัญชีร้านให้กู้หนิงดู
กู้หนิงกวาดตามองผ่านๆ แต่เก็บรายละเอียดได้ทั้งหมด
ร้านของเธอทำกำไรมากมายนับแต่เปิดร้านวันแรก
หลังจากตรวจดูบัญชี อยู่ๆกู้หนิงก็นึกถึงเชาผิงขึ้นมา และถามโจวเจิ้งหงว่า “ลุงโจวคะ ช่วงนี้เชาผิงเป็นไงบ้างคะ?”
พูดถึงเชาผิง โจวเจิ้งหงก็ดูเหมือนจะร่าเริงขึ้นมา “หลังจากที่เกิดเรื่องครั้งก่อน ผมซื้อตัวคนในบริษัทของเขาให้เปิดโปงเรื่องอื้อฉาว ว่าพวกเขาแอบเปลี่ยนหยกคุณภาพสูงเป็นหยกคุณภาพต่ำเพื่อหลอกลวงลูกค้า ตอนนี้ไม่มีใครอยากซื้อเครื่องประดับจากร้านของเขา ผมคิดว่าอีกไม่นานพวกเขาน่าจะใกล้ปิดร้านแล้ว”
“พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย เขาก็ล้มซะแล้ว” กู้หนิงอดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ กู้หนิงยังไม่มีเวลาจัดการเชาผิงเขาก็แพ้ภัยตัวเองซะแล้วหลังจากที่โจวเจิ้งหงเปิดโปงความชั่วของเขา
ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของการทำธุรกิจ เชาผิงขึ้นชื่อลือชาเรื่องพฤติกรรมอันธพาล และยังแอบขายเครื่องประดับคุณภาพต่ำให้กับลูกค้าในราคาที่สูงอีกด้วย ถึงคราวที่เขาต้องพังพินาศแล้ว
“ช่วงนี้ลุงต้องระมัดระวังตัวให้มาก หากเชาผิงเกิดบ้าขึ้นมา บางทีเขาอาจจะกลับมาแก้แค้นลุงอีก บอกพนักงานของเราให้ระวังตัวด้วยนะคะ” กู้หนิงกล่าว
เธอไม่ได้กังวลเรื่องที่เชาผิงจะทำลายร้านของเธอ แต่เธอกลัวว่าเขาจะทำร้ายโจวเจิ้งหงและพนักงาน ไม่มีอะไรสำคัญกว่าชีวิตคน
“ได้ครับ”
หลังจากนั้นกู้หนิงก็กลับไปที่พักของเธอที่วอเตอร์บลูสกาย
ระหว่างทางอยู่ๆกู้หนิงก็นึกขึ้นมาได้ว่าเธอยังไม่ได้ตามว่าเกิดอะไรขึ้นกับลี่เจินเจิน
หลังจากที่เธอถึงวอเตอร์บลูสกาย กู้หนิงก็ไปยังที่พักของหยวนเสิ่น ทั้งหยวนเสิ่นและหลินเหวินจงอยู่ข้างใน แต่ลี่เจินเจินและซูจิงไม่อยู่
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาหนึ่งทุ่ม แต่ก็มืดเร็วในฤดูหนาว กู้หนิงจึงเข้าไปในห้องนั่งเล่นซ่อนตัวอยู่ที่มุมๆหนึ่งได้อย่างง่ายดาย
“ลี่เจินเจินบอกว่าเธอมีนัดกับเมิ่งจากแก๊งฉิง เธอเลยมาไม่ได้” หลินเหวินจงพูดกับหยวนเสิ่นหลังจากกดวางสาย
“ชิ ลี่เจินเจินกับซู่จิงรู้จักเล่นจริงๆ ตอนนี้พวกเธอสนิทกับแก๊งฉิงแล้วสิ คิดว่าหรือว่าจะกำจัดพวกเราด้วยวิธีนั้น?” หยวนเซินกล่าวด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“เมิ่งมียา พวกเธอได้ยามาฟรีๆจากพวกเขา” หลินเหวินจงกล่าว
ยา?
ลี่เจินเจินทำลายตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
“แล้วยังไง? พวกเรามีทั้งวิดีโอและรูปถ่าย พวกเธอกำจัดเราไม่ได้หรอก” หยวนเสิ่นไม่มีท่าทีเดือดเนื้อร้อนใจ
“หยวนเสิ่น ถึงอย่างนั้นเราก็ไปมีเรื่องกับแก๊งฉิงไม่ได้” หลินเหวินจงพูดเตือนเพื่อน
“ฉันรู้ แต่ฉันไม่อยากยอมรับ!” หยวนเสิ่นพูดโกรธๆ
หลังจากทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับลี่เจินเจิน กู้หนิงก็จากไป
เมื่อเธอกลับมาที่ห้องของตัวเองก็สองทุ่มแล้ว เธอไม่มีอะไรทำจึงส่งข้อความหาเลิ่งเชาถิง กู้หนิงอยากโทรหาเขาแต่เกรงว่าจะเป็นการรบกวน ถ้าเขามีเวลาว่างเขาคงตอบกลับเธอเอง
ช่วงใกล้สินปีเลิ่งเชาถิงค่อนข้างยุ่งมาก และตอนนี้เขาอยู่ระหว่างการประชุม ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นข้อความจากกู้หนิง
หนึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น เลิ่งเชาถิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อเห็นข้อความจากกู้หนิง เขาก็กดโทรหาเธอทันทีขณะเดินออกจากห้องประชุม
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ? ทำไมบอสดูรีบๆ?” ซีหมิงถามซู่จินเฉิน
“เอ่อ...คิดว่าเขาคงไม่ได้รับสายจากผู้หญิงคนหนึ่งและเขาอยากโทรกลับหาเธอ” ซู่จินเฉินพูดด้วยความอิจฉา แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เลิ่งเชาถิงและกู้หนิงสนิทกันมากแค่ไหน แต่ต้องสนิทกันมากกว่าเมื่อก่อนแน่ ไม่เช่นนั้นเลิ่งเชาถิงจะไปเมือง Y ตั้งหลายวันทำไม
“อะไรนะ?”
ทุกคนทำหน้าตกใจ ล้อมซู่จินเฉินไว้และเค้นถามรายละเอียด
“จริงเหรอ? บอสของพวกเรากำลังมีความรัก?”
“นายต้องรู้อะไรบางอย่าง บอกพวกเรามา!”
“เอาน่า บอกพวกเรามาเถอะ”
“ฉันก็เดาไปงั้น ถ้าพวกนายอยากรู้ก็ไปถามเจ้าตัวเองสิ” ซู่จินเฉินไม่กล้าเล่าความลับของหัวหน้าเพราะเขากลัวถูกลงโทษ
ทุกคนรู้สึกผิดหวัง แต่ไม่มีใครกล้าถามเลิ่งเชาถิงด้วยตนเอง
ซู่จินเฉินเดาถูก แต่กู้หนิงไม่โทรมาเพียงแต่ส่งข้อความหาเลิ่งเชาถิง
“ผมประชุมอยู่เลยไม่เห็นข้อความคุณ” เลิ่งเชาถิงอธิบายทันทีที่กู้หนิงรับสาย
“ฉันรู้ว่าคุณคงยุ่ง เลยไม่ได้โทรหาคุณโดยตรง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเลิ่งเชาถิงก็รู้สึกโล่งใจ เขาระมัดระวังเรื่องกู้หนิงมากเกินไป เพราะเขาไม่เคยรักใครมาก่อนและเขาก็เป็นห่วงเธอมาก
ตอนที่ 246: มุ่งหน้าสู่เมืองเถิง
“ทำไรอยู่?” เลิ่งเชาถิงถาม
“ฉันอยู่ที่เมือง G ค่ะ มาดูร้าน และตอนนี้ฉันอยู่ที่อพาร์ทเม้นต์ค่ะ” กู้หนิงพูด หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเธอก็พูดต่อว่า “ฉันคิดถึงคุณ”
“คิดถึงเหมือนกัน ผมเสร็จงานแล้วจะรีบไปหาให้เร็วที่สุด”
กู้หนิงเข้าใจดีว่าเขาต้องทำงาน “โทรมาหาฉันก่อนนะคะถ้าจะมา อย่าเซอร์ไพรส์อีกล่ะ เดี๋ยวเป็นเหมือนอย่างคราวที่แล้ว อีกไม่กี่วันฉันจะไปที่จังหวัด Y ถ้าพอมีเวลาก็จะไปเมืองหลวงด้วยเลย”
“ไปกับใคร?” เลิ่งเชาถิงถาม
“คนเดียวค่ะ”
“แล้วจะไปทีไหนในจังหวัด Y?”
“เมืองเถิงค่ะ” กู้หนิงตอบ
“ผมก็จะไปเมืองเถิงสักสองสามวันเหมือนกัน แต่ช่วงนี้เมืองเถิงไม่ค่อยปลอดภัย” ครั้งนี้เลิ่งเชาถิงไม่พอใจที่การพบกันของพวกเขาอยู่ที่เมืองเถิง แต่มันเป็นงานของกู้หนิง เขาจึงไม่ได้ห้ามเธอไม่ให้ไป “ถ้าคุนไปที่นั่นให้มาหาผม ไม่อย่างนั้นผมไม่สบายใจ”
กู้หนิงไม่ได้สนใจว่าจะปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย แต่เธอสัญญากับเขาว่าจะไปหาเมื่อเธอไปที่เมืองเถิง
เธอคิดถึงเขามากเหลือเกิน
“จะไม่เป็นการรบกวนคุณหรอคะ?” กู้หนิงถาม
“ไม่แน่นอน”
“ดีค่ะ ไว้เจอกัน”
เลิ่งเชาถิงสบายใจเมื่อกู้หนิงตอบตกลง
กู้หนิงไม่ได้บอกพวกอาจารย์ฝูว่าเธอมาเมือง G เพราะเวลาส่วนใหญ่เธออยู่ที่โรงงาน ตอนนี้เธอมีวัตถุดิบเหลืออยู่ครึ่งหนึ่งซึ่งเพียงพอสำหรับร้าน เครื่องประดับไม่ใช่สินค้าที่คนจะซื้อกันได้ทุกวัน หยกแต่ละก้อนก็สามารถสร้างเครื่องประดับได้หลายชิ้น
ไม่ว่าแบรนด์จะได้รับความนิยมมากแค่ไหน แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีหากพวกเขาสามารถขายเครื่องประดับได้ 5-6 ชิ้นและทำเงินได้หลายล้านหยวนโดยเฉลี่ยต่อวัน
กู้หนิงอยู่เมือง G แค่สองคืน และบินไปยังเมืองเถิงในจังหวัด Y ในวันที่สาม
กู้หนิงโทรหาเลิ่งเชาถิงก่อนขึ้นเครื่องบิน เลิ่งเชาถิงจะไปเมืองเถิงพรุ่งนี้ ดังนั้นวันนี้จะอยู่ที่เมืองเถิงคนเดียว
เลิ่งเชาถิงอยากจะไปอยู่เป็นเพื่อนกู้หนิง แต่งานของเขาต้องทำเป็นทีม เขาจึงได้แต่กำชับเธอให้ระวังตัว
จากเมือง G ไปยังเมืองเถิงไม่มีเครื่องบินบินตรง กู้หนิงจึงบินไปลงตัวเมืองจังหวัด Y ก่อนบินไปที่เมืองเถิง
ระหว่างรอขึ้นเครื่องบินไปเมืองเถิงที่ตัวเมืองจังหวัด Y กู้หนิงหาร้านกินข้าว
หลังจากกินข้าวเสร็จ กู้หนิงก็หยิบสารานุกรมวัตถุโบราณออกมาอ่านเพื่อฆ่าเวลา
มีชายสูงอายุประมาณหกสิบปีและหลานสาวอายุสิบห้าปี นั่งอยู่โต๊ะถัดจากกู้หนิง พร้อมกับมีผู้ชายอีกสองคนอายุราวๆสามสิบ ทั้งคู่ทำหน้าตาขึงขังราวกับว่าเป็นบอดี้การ์ด
ดวงตาของชายชราสว่างขึ้นเมื่อพบว่ากู้หนิงกำลังอ่านสารานุกรมวัตถุโบราณ เขาถามด้วยความประหลาดใจว่า “นี่สารานุกรมของเก่าไม่ใช่หรือ? หนูชอบของเก่าเหมือนกันหรือ?”
กู้หนิงยังไม่ได้ทันได้ตอบ เด็กสาวผู้เป็นหลานสาวก็เอ่ยปากชิงพูดขึ้นก่อนว่า “เธออาจแกล้งทำก็ได้ค่ะ”
“ระวังคำพูดด้วย!” ชายสูงอายุตำหนิ จากนั้นเขาก็ขอโทษกู้หนิงแทนหลานสาว “ต้องขอโทษแทนหลานสาวของฉันด้วยนะแม่หนู อย่าถือสาเธอเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ” กู้หนิงไม่ได้โกรธกับคำพูดของเด็กสาว
ผู้เป็นหลานสาวเถียงว่า “หนูไม่ผิด มีเพียงคนแก่เท่านั้นแหละที่สนใจของเก่า ส่วนพี่คนนี้ก็ยังเด็กอยู่เลย”
“เสี่ยวหยิน สุภาพหน่อยไม่ได้รึ?” ชายสูงวัยตำหนิอีกครั้ง เด็กสาวหุบปากเงียบทันที เธอเม้มปาดไม่กล้าพูดแทรกอีก
ครั้งนี้กู้หนิงไม่พอใจหน่อยๆ เธอมองเด็กสาวและพูดว่า “การที่ฉันจะชอบหรือไม่ชอบของเก่าก็มาเกี่ยวอะไรกับเธอนะ ต้องประชดชันขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นจางฮานหยินก็ตอบอย่างหยิ่งๆว่า “ฉันแค่เกลียดคนทำเหมือนรู้ดี!”
“พวกเราเพิ่งพบกันครั้งแรก เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันแค่แสดง? ไม่คิดว่าตัวเองหยิ่งไปหน่อยเหรอ?”
“ถ้างั้นเธอรู้จักของเก่าทั้งหมดงั้นสิ?” จางฮานหยินถาม เธอไม่เชื่อว่ากู้หนิงจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับของเก่า
“เสี่ยวหยิน ถ้ายังแสดงพฤติกรรมแบบนี้อีกครั้ง ปู่จะไม่พาหลานออกมาข้างนอกด้วยอีก!” นายท่านจางขู่หลานสาว จากนั้นก็หันมาหากู้หนิงและพูดขอโทษเธออีกครั้ง “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“หนูชอบของเก่าหรือแค่สนใจเรื่องนี้?” นายท่านจางถามด้วยความอยากรู้ เขาอยากรู้เพราะเขาชอบของเก่า
“ฉันชอบของเก่าค่ะ เลยซื้อหนังสือมาอ่าน” กู้หนิงตอบ
“ดี เดี๋ยวนี้คนหนุ่มสาวไม่ค่อยสนใจของเก่ากันแล้ว” นายท่านจางบ่นกับกู้หนิง
เมื่อเห็นว่าปู่ของเธอชมเชยกู้หนิง จางฮานหยินก็ไม่พอใจ “คุณปู่ทำไมไม่ทดสอบเธอดูล่ะคะ?”
“เสี่ยวหยิน!” นายท่านจางตวาดหลานสาว แม้ว่าเขาจะอยากรู้ แต่พวกเขาเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน มันไม่สุภาพมากที่อยู่ๆจะทดสอบความรู้คนอื่น
“คุณกู้?”
ในขณะนั้นก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้น กู้หนิงจำเสียงได้ เธอเอี้ยวตัวไปมองและเห็นจ้าวหยูเฟิง “คุณจ้าว บังเอิญจังเลยค่ะ!”
“เป็นคุณจริงๆ!” จ้าวหยูเฟิงตื่นเต้นที่เห็นกู้หนิง “ทำไมมาอยู่ที่จังหวัด Y ล่ะครับ? เพิ่งมาถึงหรือกำลังจะกลับ?”
“เพิ่งมาถึงค่ะ กำลังจะไปเมืองเถิง คุณล่ะคะ?” กู้หนิงถาม