ตอนที่ 313 หนุ่มน่ารัก?
“ผู้กำกับลู่ แล้วเจอกันค่ะ” กู้หนิงลุกขึ้น ยื่นมือไปให้ลู่เจิน ลู่เจินก็ลุกขึ้นเช่นกันแล้วจับมือกู้หนิง “ยินดีที่ได้พบคุณครับ บอส!”
หลังจากนั้นกู้หนิงและเลิ่งเชาถิงก็ไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน
“คุณจะไปไหนต่อ?” เลิ่งเชาถิงถามกู้หนิงเมื่อพวกเขาออกมาจากร้านอาหาร กู้หนิงคิดอยู่สักพัก จากนั้นพูดว่า “เทศกาลปีใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว งั้นไปห้างสรรพสินค้ากัน! ฉันอยากซื้อของขวัญให้ครอบครัวค่ะ”
“ไม่มีปัญหา” เลิ่งเชาถิงเอ่ย เขาจับมือเธอเดินไปยังลานจอดรถ “ชื่อบริษัทใหม่ของคุณคิดไว้รึยัง?”
“ฉันคิดไว้แล้วค่ะ เฟิ่งหัวเอนเตอร์เทนเมนท์”
“แล้วพนักงานล่ะ? คุณอยากให้ผมช่วยหาพนักงานให้ไหม?”
“ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีมากเลยค่ะ ดูเหมือนว่าคุณจะทำทุกอย่างให้ฉันเลยนะคะ”
“คุณเป็นบอสใหญ่ สิ่งที่คุณต้องทำคือนับเงิน” เลิ่งเชาถิงหยอกล้อ
“ฮ่า ฮ่า คุณพูดถูก” กู้หนิงหัวเราะเห็นด้วย
เลิ่งเชาถิงพากู้หนิงไปที่ห้างสรรพสินค้าที่ดีที่สุดในเมืองหลวง เมื่อเห็นสถานที่ที่คุ้นเคย กู้หนิงก็มีอารมณ์ที่หลากหลายอีกครั้ง แต่เพื่อไม่ให้เลิ่งเชาถิงกังวล เธอจึงพยายามระงับความขุ่นมัวไว้ในใจ เธอเดินไปที่โซนเสื้อผ้าผู้ชายก่อนเพื่อซื้อเสื้อผ้าให้เลิ่งเชาถิง
เมื่อเลิ่งเชาถิงและกู้หนิงเดินเข้าไปข้างใน พวกเขาดึงดูดความสนใจจากผู้คนรอบข้างได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเลิ่งเชาถิง
“ยินดีต้อนรับค่ะ!” พนักงานขายเดินเข้ามาต้อนรับพวกเขา “คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง เสื้อผ้าของเราเชิญเลือกดูได้ตามสบายเลยค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” กู้หนิงเอ่ย เธอเดินดูรอบๆ
กู้หนิงเลือกเสื้อคลุมผ้าลินินเนื้อหนาและยื่นให้เลิ่งเชาถิง "ลองสวมดูค่ะ" เลิ่งเชาถิงประหลาดใจ จากนั้นกู้หนิงก็อธิบายว่า “เทศกาลปีใหม่กำลังจะมาถึง และฉันต้องการซื้อของขวัญปีใหม่ให้แฟน!”
ได้ยินเช่นนั้นเลิ่งเชาถิงก็ซาบซึ้งใจ นี่เป็นของขวัญที่กู้หนิงให้เขาและเขาไม่ปฏิเสธแน่นอน เขาเปลี่ยนมาสวมเสื้อคลุมตัวใหม่
เลิ่งเชาถิงมักสวมเสื้อผ้าสีดำซึ่งทำให้เขาดูเย็นชาห่างเหิน แต่เสื้อคลุมผ้าลินินตัวนี้ทำให้เขาดูมีชีวิตชีวาขึ้น ดวงตาของกู้หนิงเปล่งประกาย เธอชมเขาว่า “คุณดูดีมากค่ะ ใส่อะไรก็ดูดี!”
“ผมดีใจที่คุณชอบ” เลิ่งเชาถิงส่งสายตาหวานเชื่อมให้กู้หนิง เขาไม่สนใจเรื่องเสื้อผ้าเที่เขาสวมใส่ เขาสนใจแค่ความคิดของเธอ
“งั้นเราซื้อเสื้อตัวนี้แล้วกัน” กู้หนิงพอใจมาก “ฉันคิดว่าเราต้องมีเสื้อกันหนาวขนสัตว์ กางเกงและรองเท้าด้วย”
หลังจากที่พวกเขาเลือกเสื้อผ้าได้สักพักหนึ่ง เลิ่งเชาถิงก็สวมชุดใหม่ทั้งหมดซึ่งทำให้เขาดูดีมาก
“ดูดีมาก! ไปจ่ายเงินกันเถอะค่ะ” กู้หนิงไม่ดูป้ายราคา ควักบัตรมาจ่ายทันที ราคาชุดทั้งหมดประมาณเกือบหนึ่งแสนหยวน
เลิ่งเชาถิงไม่ได้แย่งกู้หนิงจ่ายเพราะนี่เป็นของขวัญที่กู้หนิงซื้อให้ ผู้คนที่อยู่แถวนั้นมีความคิดตรงกันข้าม ผู้หญิงสองคนที่มาช้อปปิ้งด้วยกันพร้อมกับผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆกู้หนิง ผู้หญิงสองคนพูดจาไม่ดีว่า “ชิ! ก็นึกว่าจะเป็นผู้ชายวิเศษเลิศเลอมาจากไหน ที่แท้ก็หนุ่มน้อยน่ารักนี่เอง!”
“ใช่ๆ อิจฉาผู้หญิงคนนั้นจริง!”
เลิ่งเชาถิงไม่สนใจพวกเธอ แต่กู้หนิงไม่พอใจมาก เธอกวาดตามองผู้หญิงสองคนอย่างเย็นชา “คุณไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกเราสักนิด ทำไมแฟนของฉันถึงเป็นหนุ่มน่ารักล่ะ? ผิดตรงไหนที่ฉันอยากซื้อของขวัญให้แฟน? หรือคุณคิดว่าเป็นการดีที่ขอร้องให้ผู้ชายซื้อกระเป๋าราคาแพงให้?”
กู้หนิงได้ยินพวกเธอทำเสียงน่ารักออดอ้อนผู้ชายให้ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมให้ เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเป็นพวกวัตถุนิยม
“เธอ!” กู้หนิงพูดจี้ใจดำ ผู้หญิงสองคนหน้าแดงด้วยความอับอาย ผู้ชายสองคนที่มาด้วยก็ไม่คิดเข้ามาช่วย พวกเขายืนอยู่ข้างๆดูดราม่าระหว่างผู้หญิง เพราะพวกเขารู้ว่าผู้หญิงที่พวกเขามาด้วยเป็นคนหน้าเงิน แน่นอนว่าพวกเขาแค่เล่นด้วยเฉยๆ ไม่ได้คิดจริงจัง
ถึงแม้กู้หนิงจะพูดถูก พวกเธอก็ไม่มีวันยอมรับ ผู้หญิงที่สวมโค้ทขนนกสีขาวตวาดกู้หนิง “เธอพูดบ้าอะไร? ฉันรักฮ่าวซวน ไม่ใช่เงินของเขา!” พูดจบเธอก็คล้องแขนชายหนุ่มทันที เธอไม่เห็นหน้าชายหนุ่มที่บิดเบี้ยว แต่กู้หนิงเห็น ผู้หญิงคนนี้โง่จริงๆ
“ใช่ ฉันก็รักอี้หัว ไม่ใช่เงินของเขา!” ผู้หญิงอีกคนที่สวมโค้ทขนนกสีดำก็พูดขึ้นบ้าง
“อ้อ งั้นหรือ?” กู้หนิงทำเสียงเยาะ “งั้นทำไมพวกคุณไม่จ่ายเงินเองล่ะ?”
“เธอ!” ผู้หญิงสองคนโกรธจนตัวสั่น แต่ไม่รู้จะเถียงกลับอย่างไรเพราะความจริงคอพวกเธอรักเงินของชายหนุ่มจริงๆ ไม่อย่างนั้นพวกเธอคงไม่คบผู้ชายหน้าตาจืดๆแบบนี้หรอก
“อะไร? ทำไมอยู่ๆถึงมั่นใจแล้วล่ะ?”
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” ผู้หญิงที่สวมเสื้อโค้ทขนนกสีดำตวาดเสียงดัง
“แต่ผมเห็นด้วยกับคุณผู้หญิงท่านนี้นะ รักแท้ย่อมไม่เกี่ยวเรื่องสิ่งของภายนอก” ผู้ชายที่ชื่อฮ่าวซวนเอ่ย “ใช่ไหมที่รัก?” เขาหันไปมองผู้หญิงข้างกาย เธอหน้าเปลี่ยนแต่ไม่ได้ปฏิเสธ
“ที่รัก คุณก็รู้สึกแบบเดียวกันใช่ไหม?” ผู้ชายที่ชื่ออี้หัวถามหญิงสาวที่อยู่ข้างกายตัวเองเช่นกัน
“ค่ะ” เธอตอบเสียงอ่อยไม่เต็มใจ
"ดีมาก ผมว่าเราไม่จำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องสำอางราคาแพง หรือไปที่ร้านอาหารและคลับระดับไฮเอนด์อีกต่อไป ความรักที่แท้จริงไม่มีป้ายราคา" ลั่วอี้หัวกล่าว
ตอนที่ 314 กู้หนิงภูมิใจ
อันที่จริงชายหนุ่มสองคนคิดจะเปลี่ยนผู้หญิงใหม่อยู่แล้ว และจะทิ้งพวกเธอหลังจากซื้อของให้และนอนด้วยกันคืนนี้ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาคิดจะทิ้งหญิงสาวสองคนได้เลยตอนนี้และมันช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากเลยทีเดียว
“อี้หัว” หญิงสาวทำเสียงน่ารักออดอ้อน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจแต่ไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ
“อะไรครับที่รัก?” ลั่วอี้หัวแกล้งไม่เข้าใจ
หญิงสาวสองคนไม่ใช่คนโง่และพวกเธอรู้ว่าพวกเขากำลังจะทิ้งเธอ ดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเธอเป็นของเล่นของทายาทรุ่นสองของคนรวย และรู้ดีว่าความสัมพันธ์นี้ไม่ยาวนานซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเธอถึงใช้ทุกโอกาสกอบโกยให้ได้มากที่สุด เมื่อผู้ชายต้องการจะทิ้งผู้หญิง ผู้หญิงก็ไม่สามารถทำอะไรได้
กู้หนิงได้ระบายความโกรธใส่พวกเขาแล้ว และหมดความสนใจที่จะโต้เถียงอีกต่อไป อย่างไรก็ตามก่อนที่เธอจะจากไป กู้หนิงตั้งใจอวดต่อหน้าผู้หญิงทั้งสองคน เธอยกมือซ้ายขึ้นและสร้อยข้อมือหยกสีแดงเลือดก็โชว์อยู่กลางอากาศ “คุณไม่ได้บอกว่าแฟนของฉันเป็นแค่ผู้ชายที่น่ารักเหรอ? ลองดูสร้อยข้อมือหยกสีแดงเลือดนี้สิ สร้อยข้อมือหยกสีแดงเลือด 46 กรัมขายในราคาประมูลสี่สิบแปดล้านหยวน ในขณะที่สร้อยข้อมือนี้มีน้ำหนักมากกว่านั้น มีมูลค่าอย่างน้อยห้าสิบล้านหยวน ตอนนี้คุณยังคิดว่าแฟนของฉันเป็นแค่ผู้ชายที่น่ารักอยู่ไหม? และแฟนของฉันยังให้อัญมณีล้ำค่ามากมายมาให้ฉัน ทั้งหมดมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าร้อยล้านหยวน ฉันไม่คิดว่าคุณมีคุณสมบัติพอที่จะตัดสินฉันนะ” หลังจากนั้นกู้หนิงก็จากไปพร้อมกับเลิ่งเชาถิง และคนที่เหลือก็อยู่ในอาการตกตะลึง
อย่างน้อยร้อยล้านหยวน? แฟนของเธอโคตรของโคตรอภิมหาเศรษฐี! ทว่าพวกเธอก็ยังสงสัยอยู่ว่าใช่เรื่องจริงหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง พวกเธอก็อิจฉากู้หนิงไปแล้ว พวกเธอเองก็ปรารถนาจะมีแฟนโคตรของโคตรรวยเช่นกัน
“ฉันว่าแม่นั่นก็เป็นคนบ้าวัตถุเหมือนกันนั่นแหละ!” ผู้หญิงเสื้อโค้ทขนนกสีขาวเอ่ย
“ฉันเห็นด้วย!”
เมื่อออกจากห้างสรรพสินค้า เลิ่งเชาถิงก็พูดกับกู้หนิงว่า “ผมไม่ใส่ใจพวกเขาหรอก”
“ฉันสนค่ะ” กู้หนิงเอ่ย เธอสนใจความคิดของคนอื่นที่มีต่อแฟนของเธอเสมอ
หลังจากนั้นกู้หนิงและเลิ่งเชาถิงก็ไปที่ร้านเสื้อผ้าชายอีกร้านเพื่อซื้อของให้เจียงซู่ ครั้งนี้เลิ่งเชาถิงเป็นจ่ายเงินให้ ในฐานะแฟนของกู้หนิง เขาพยายามแสดงความมีน้ำใจต่อครอบครัวของเธอ แม้ว่าครอบครัวของเธอจะไม่รู้ว่าเขาเป็นคนจ่ายเงิน แต่กู้หนิงรู้ซึ่งก็เพียงพอแล้ว กู้หนิงไม่ได้ห้ามเขาเพราะเธอรู้ว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจ
“ฉันจะซื้อของขวัญให้ครอบครัวคุณเหมือนกัน ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าฉันเป็นคนซื้อให้ แต่คุณรู้ก็พอแล้ว” เลิ่งเชาถิงซื้อของขวัญให้ครอบครัวเธอ เธอก็จะทำแบบเดียวกัน
“ซื้อให้คุณปู่ผมคนเดียวก็พอ” เลิ่งเชาถิงไม่ปฏิเสธแต่ให้เธอซื้อเฉพาะของคุณปู่คนเดียว
“ได้ค่ะ” กู้หนิงตอบ เธอไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะเธอรู้ว่าเขาเข้ากันไม่ค่อยได้กับสมาชิกคนอื่นในครอบครัวเลิ่ง กู้หนิงคิดอยู่สักพักว่าจะซื้ออะไรให้คุณปู่ของเขาดี เธอนึกถึงของเก่าที่อยู่ในพื้นที่กระแสจิตของเธอ
“คุณปู่ของคุณชอบสะสมของเก่าไหมคะ?”
“ชอบ”
“ท่านชอบเป็นวัตถุ รูปวาดหรือภาพตัวอักษรคะ?”
“ภาพตัวอักษะและรูปวาด” เลิ่งเชาถิงตอบ กู้หนิงนิงตัดสินใจส่งลั่วเซินฟู ผลงานการประดิษฐ์ตัวอักษรที่เขียนโดยจ่าวเหมิงฟู่ทันที
จากนั้นพวกเขาก็ไปซื้อของขวัญให้กู้ม่าน กู้ชิง เจียงซินหยูและของกู้หนิง เลิ่งเชาถิงเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมดและถือของเอง กู้หนิงอยากจะถือเองแต่เลิ่งเชาถิงยืนกรานจะช่วยเธอถือ
ว่ากันว่าผู้ชายเกลียดการช้อปปิ้งกับผู้หญิงเพราะมันน่าเบื่อมาก อย่างไรก็ตามเลิ่งเชาถิงไม่รู้สึกเบื่อเลยและพวกเขาก็ไม่ได้กลับจนกระทั่งกู้หนิงซื้อของมานานกว่าหนึ่งชั่วโมง
ระหว่างทางกลับบ้านพวกเขาไปซื้อวัตถุดิบทำอาหาร และวางแผนจะทำอาหารที่บ้าน
เมื่อถึงบ้านเวลา 16:30 น. พวกเขาตัดสินใจพักผ่อนก่อนทำกับข้าว
ในช่วงพัก กู้หนิงเข้าไปที่ห้องนอนและนำลั่วเซินฟูออกจากพื้นที่กระแสจิต เธอมอบภาพประดิษฐ์ตัวอักษรให้กับเลิ่งเชาถิง “ฉันซื้อมันจากถนนขายของเก่า ฉันคิดว่ามันเป็นของขวัญปีใหม่ที่ดีสำหรับคุณปู่ของคุณค่ะ”
“เป็นของขวัญปีใหม่ที่ดีสำหรับคุณปู่” เลิ่งเชาถิงกล่าวแก้ไขประโยคคำพูดของกู้หนิง
“อะไรนะคะ?” กู้หนิงไม่เข้าใจว่าเขาจะพูดทวนคำพูดเธอทำไม
“คุณปู่ ไม่ใช่คุณปู่ของคุณ” เลิ่งเชาถิงอธิบาย อีกความหมายหนึ่งคือเขาหวังว่าเธอจะเรียกคุณปู่ของเขาเป็นคุณปู่ของเธอ
“ค่ะ คุณปู่ก็คุณปู่”
เลิ่งเชาถิงยิ้มอย่างพึงพอใจ รอยยิ้มของเขาทำเอาหัวใจกู้หนิงเต้นสะดุด
เลิ่งเชาถิงไม่รู้มากเกี่ยวกับภาพวาดโบราณและการประดิษฐ์ตัวอักษร แต่เขาเชื่อมั่นในตัวเลือกของกู้หนิง หลังจากนั้นทั้งสองก็นั่งบนโซฟาดูทีวี กู้หนิงอยู่ในช่วงมีประจำเดือน เขาจึงไม่กล้าจูบหรือสัมผัสเธอบ่อยเกินไป เพราะเขากลัวตัวเองยับยั้งชั่งใจไม่ได้
เลิ่งเชาถิงได้รับอีเมลพร้อมตัวเลือกมากมายสำหรับร้านค้าและอาคารสำนักงาน กู้หนิงอ่านอีเมลทันที มีร้านค้าให้เลือกห้าแห่งและทั้งหมดมีทำเลที่ตั้งดีเยี่ยม ค่าเช่าแตกต่างกันไปตามสถานที่ตั้ง กู้หนิงชอบตัวเลือกที่สามในตัวเลือกทั้งห้า
นอกจากนี้เธอยังมีทางเลือกสามทางสำหรับอาคารสำนักงาน มีสองห้องให้เช่าและอีกหนึ่งห้องพร้อมขาย อย่างไรก็ตามอาคารที่ขายได้ครึ่งตึกสูง 18 ชั้นมีขนาด 550 ตารางเมตร มันว่างเปล่าไม่มีแม้แต่ประตูหรือหน้าต่าง เจ้าของเดิมถูกตัดสินว่ามีความผิดในการหลีกเลี่ยงภาษีและได้หนีไปพร้อมกับเงินทั้งหมด ดังนั้นรัฐบาลจึงยึดมันในที่สุด