ตอนที่ 309 นักเขียน
“ฉันจำคุณได้ คุณบอกว่าคุณเป็นนักเขียน” กู้หนิงเอ่ย ผู้หญิงคนนั้นแปลกใจที่กู้หนิงมีความจำดี และรู้สึกประทับใจที่กู้หนิงยังจำเธอได้ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เธอก็โกรธจัด ชี้นิ้วไปที่ชายอ้วน “ผู้ชายคนนี้ชื่อว่าเฉินหัว เป็นผู้กำกับ เขาบอกว่าชอบนิยายของฉันและจะทำเป็นซีรีย์ พวกเราก็เลยมาเจอกันที่นี่ เขาสัญญาว่าจะซื้อนิยายของฉันถ้าฉันนอนกับเขา แต่ฉันปฏิเสธ! เขาก็เลยใช้กำลังบังคับ!”
ได้ยินเช่นนั้นทุกคนก็ไม่พอใจ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามีกฎที่ไม่ได้เปิดเผยมากมายในวงการบันเทิง แต่ก็เป็นที่ยอมรับไม่ได้ว่าชายคนนี้ใช้ความรุนแรงโดยเฉพาะในคลับของตระกูลซู่
ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็เกิดขึ้นกับกู้หนิง เธอมีแผนที่จะมีส่วนร่วมในวงการบันเทิง ในเมื่อนิยายของผู้หญิงคนนี้สร้างความประทับใจให้กับผู้กำกับ มันต้องเป็นข้อตกลงที่สร้างผลกำไรได้และเธอจะเป็นคนซื้อมันเอง!
“ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะพาคุณไปที่ปลอดภัย” กู้หนิงเอ่ย
“ขอบคุณมากค่ะ!”
“โทรเรียกตำรวจเถอะ” ซู่จินเฉินเอ่ย
กลุ่มของเฉินหัวขอร้องซู่จินเฉินทันที “อย่าโทรเรียกตำรวจเลยนะครับ เป็นความผิดของผมเอง ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
ซู่จินเฉินกลับเพิกเฉยและบอกให้ผู้จัดการคลับจัดการก่อนที่พวกเขาจะจากไป เมื่อพวกเขาออกไปข้างนอก ผู้หญิงที่เป็นนักเขียนคนนั้นก็สังเกตเห็นฉิวอี้ซิน และดวงตาของเธอก็สว่างขึ้นทันที
ฉิวอี้ซินเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่เธอยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักเพราะเธออยู่ในวงการนี้ได้เพียงสองปี
เมื่อเห็นคนตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นตัวเอง ฉิวอี้ซินก็ส่งรอยยิ้มเป็นมิตรไปให้ นักเขียนสาวดีใจมากแต่ไม่กล้าเข้าไปคุย
“คุณพักอยู่ที่ไหนคะ? พวกเราจะไปส่ง” กู้หนิงพูดกับนักเขียนสาว ตอนนี้ดึกมาแล้วและคงอันตรายถ้าเธอกลับบ้านคนเดียว
หญิงสาวดูเหมือนจะเกรงใจ “ที่พักฉันอยู่ไกลจากที่นี่มาก ฉันนั่งแท็กซี่กลับคนเดียวได้ค่ะ”
“คุณแน่ใจนะ? ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว”
“เอ่อ” หลังจากที่เพิ่งเกิดเรื่อง เธอก็ตัวสั่นด้วยความกลัว สุดท้ายเธอจึงพูดว่า “ฉันอยู่ที่โรงแรม XX”
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่คนเมืองหลวงเพราะเธอพักอยู่ที่โรงแรม และโรมแรมที่เธอพักก็อยู่นอกเมืองซึ่งไม่ปลอดภัย
“ที่นั่นไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ ทำไมคุณไม่พักกับฉันที่โรงแรมจินหลินล่ะ?” กู้หนิงเอ่ยปากชวน เธอจองโรงแรมไว้และยังไม่ได้เช็คเอ้าท์ ผู้หญิงคนนี้สามารถพักที่นั่นได้
“โอ้ ไม่ต้องหรอกค่ะ ขอบคุณมาก” โรงแรมจินหลินเป็นโรงแรมห้าดาวและเธอไม่มีเงินมากพอ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่พักที่โรงแรมนอกเมือง
“อย่ากังวลไปเลยค่ะ ฉันจองโรงแรมไว้แล้วแต่ไม่ได้พักหรอก ฉันไม่อยากเสียเงินทิ้งไว้เฉยๆ” กู้หนิงอธิบาย
“เอ่อ…” นักเขียนสาวลังเลและรู้สึกละอายใจ เธอไม่ได้กังวลว่ากู้หนิงจะทำร้ายเธอหรือเธอจะไม่ได้ถูกช่วยเหลือ
กู้หนิงไม่ได้ให้โอกาสเธอปฏิเสธ และดึงเธอขึ้นรถก่อนจะกล่าวอำลาซู่จินเฉินและคนอื่นๆ
ทุกคนล้วนเมา จึงไม่มีใครขับรถ ซู่จินเฉินได้จัดคนขับรถมาให้แล้ว
หลังจากนั้นซีหมิงก็ส่งข้อความถึงเพื่อนร่วมทีมเรดเฟรมที่เหลือทันที ข่าวใหญ่! เจ้านายของเรามีแฟนแล้ว! เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆทุกคนตกตะลึงหลังจากอ่านข้อความและคนแรกที่โทรหาซีหมิงคือซินเป่ย
“หมิง เกิดอะไรขึ้นกันแน่? จริงรึเปล่า? ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นไง? เธอทำงานอะไร?” เมื่อซีหมิงกดรับสาย ซินเป่ยก็รัวคำถามรัวๆ
“ไปถามบอสเองสิถ้านายอยากรู้” ซีหมิงจงใจป่วนเพื่อน
“นาย!” ซินเป่ยไม่สบอารมณ์ แต่ก่อนที่เขาจะพูดต่อ ซีหมิงก็กดวางสายอย่างเร็ว
ในนาทีต่อมาซีหมิงได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมทีมคนอื่น และเขาก็ให้คำตอบเดียวกัน ไม่มีใครกล้าถามเลิ่งเชาถิงด้วยตนเอง
เฉินเมิ่งและซีหมิงนั่งในรถคันเดียวกัน ระหว่างทางกลับไปที่อพาร์ทเมนต์ของซีหมิง เฉินเมิ่งกล่าวว่า“ นายไม่กลัวว่าบอสจะเอาคืนเมื่อเขารู้ว่านายบอกเพื่อนร่วมทีมคนอื่นรึไง?”
“ทำไมต้องกลัว? บอสเป็นคนพาแฟนมาเจอกับพวกเราเอง เขาอยากให้คนอื่นรู้” ซีหมิงกล่าว ถ้าเลิ่งเชาถิงไม่พาแฟนมา เขาก็คงไม่กล้าบอกคนอื่นหรอก
โรงแรมจินหลินอยู่ไม่ไกลจาก King’s Entertainment Club ดังนั้นพวกเขาจึงใช้เวลาไม่นาน
ระหว่างทางไปโรงแรม กู้หนิงก็ได้รู้ชื่อของนักเขียนสาว เธอชื่อว่า ต้วนลี่ซิน และเธออยู่เมืองอันดับสี่ เธอตีพิมพ์หนังสือนิยายหลายเรื่อง และเฉินหัวก็ชอบนิยายเรื่องล่าสุดของเธอซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับซึ่งเป็นละครแนวฮาเร็มของจักรพรรดิพวกเขาจึงนัดกันที่คลับ แต่โชคร้ายที่เธอเกือบโดนข่มขืน
เมื่อพวกเขามาถึงโรงแรม กู้หนิงก็บอกเลิ่งเชาถิงรอที่ลานจอดรถ เธอจะเดินไปส่งต้วนลี่ซินที่ห้อง
ต้วนลี่ซินตะลึงเมื่อเธอมาถึงห้องพักแล้วพบว่ามันคือห้องสูท “คุณกู้ นี่มัน…”
กู้หนิงไม่สนใจอาการตกตะลึงของต้วนลี่ซิน เธอวางการ์ดลงบนโต๊ะ “คุณต้วน บอกตามตรงนะคะ ฉันมีแผนจะเข้าร่วมธุรกิจบันเทิง ในเมื่อผู้กำกับคนนั้นชอบนิยายของคุณ แสดงว่านิยายของคุณต้องดีในระดับหนึ่ง ฉันอยากทำงานร่วมกับคุณ และคุณจะเป็นนักเขียนประจำของบริษัทของฉัน ส่วนเงินเดือนขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณค่ะ”
“อะไรนะคะ?” ต้วนลี่ซินทำตาโต เธอไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นจริง
“ฉันจริงจังค่ะ คุณมีเวลาคืนนี้คิดทั้งคืน ถ้าคุณเห็นด้วยและอยากร่วมมือกับฉันหรือมาทำงานกับฉัน พรุ่งนี้เราก็ค่อยคุยเรื่องรายละเอียดกันค่ะ ถ้าคุณไม่เห็นด้วยฉันก็จะไม่บังคับคุณ นี่เบอร์ของฉันค่ะ” กู้หนิงเอ่ย
แน่นอนว่าต้วนลี่ซินยิ่งกว่าเต็มใจที่จะทำงานกับกู้หนิง
หลังจากแลกเปลี่ยนเบอร์ กู้หนิงก็กลับออกไป
ตอนที่ 310: ประจำเดือนมา
หลังจากนั้นไม่นาน ต้วนลี่ซินก็ได้สติกลับมาและเริ่มเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง เธอเดินไปรอบๆ ห้องชุดหรูหราด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพักในโรงแรมระดับห้าดาว
เมื่อพวกเขากลับไปที่บ้าน เลิ่งเชาถิงถิงก็กอดกู้หนิงไว้ในอ้อมแขนทันทีราวกับว่าพวกเขาห่างกันมานาน
“ทำไมคุณถึงดื่มเก่งจัง?” เลิ่งเชาถิงถามและบ่นนิดหน่อย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจที่กู้หนิงไม่เมาเลยสักนิดแม้ว่าจะดื่มไปหลายแก้ว กู้หนิงรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ “คุณอยากให้ฉันดื่มไม่เก่งหรอคะ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันเมาระหว่างทานข้าวอยู่กับผู้ชายคนอื่นและไม่สามารถกลับบ้านได้ด้วยตัวเอง? คุณไม่กลัวว่าจะมีใครล่วงละเมิดทางเพศฉันหรอคะ?”
ได้ยินเช่นนั้นเลิ่งเชาถิงก็นิ่งไปและตระหนักว่ามันเป็นไปได้ เขาจึงกอดกู้หนิงไว้ในอ้อมแขนแน่นและพูดว่า “อย่าลืมห้ามเมาถ้าผมไม่ได้อยู่กับคุณ เข้าใจไหม? ที่จริงคุณไม่ควรดื่มเลยดีกว่า” ถ้าเธอไม่ดื่มก็ไม่มีโอกาสที่เธอจะเมา แต่ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้เพราะกู้หนิงต้องพบปะกับหุ้นส่วนทางธุรกิจของเธอ เลิ่งเชาถิงเข้าใจเรื่องนั้น แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะเตือนให้เธอระวังตัว
“ฉันไม่สามารถปฏิเสธที่จะดื่มได้ แต่ไม่ต้องกังวล ฉันไม่เมาแน่ค่ะ” กู้หนิงปลอบโยนเขา การมีแฟนที่อ่อนไหวแบบนี้มันเหนื่อยมาก แต่กู้หนิงก็มีความสุข
“คุณคิดจะกอดฉันอยู่แบบนี้หรอคะ?” เมื่อเห็นว่าเลิ่งเชาถิงไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเธอ กู้หนิงก็รู้สึกอยากหัวเราะขึ้นมา
“งั้นไปห้องนอนกัน!” จากนั้นเขาก็ดึงเธอให้ลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องนอน กู้หนิงหน้าแดงเพราะเธอคงไม่รอดพ้นมือเขาไปได้
“เอ่อ ฉันอยากได้เบอร์คนหนึ่งค่ะ คุณช่วยฉันๆได้ไหมคะ?” กู้หนิงถามและพยายามเอามือปัดเลิ่งเชาถิงที่เกาะเธอเหมือนปลิงออก
“ได้สิ แต่ต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์กับหมายเลขประจำตัวของเขา” เลิ่งเชาถิงตอบ
“คุณช่วยขอเบอร์โทรของผู้กำกับชื่อดังลู่เจินได้ไหมคะ?” กู้หนิงถาม
“ไม่มีปัญหา” เลิ่งเชาถิงด้วยความจริงใจ เขารู้จุดประสงค์ของเธอแต่ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม ตราบใดที่กู้หนิงต้องการบางสิ่งเขาจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ เขาไม่ต้องการให้กู้หนิงหันไปขอความช่วยเหลือจากผู้ชายคนอื่น
หลังจากพูดคุยกันเล็กๆน้อยๆ เลิ่งเชาถิงก็็ก็็Hddไม่สามารถรอได้อีกต่อไปและกดกู้หนิงลงบนเตียงจูบเธออย่างดุเดือด ขณะที่มือของเลิ่งเชาถิงเคลื่อนไปที่หน้าท้องของเธอ กู้หนิงก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่อบอุ่นไหลออกมาจากร่างกายช่วงล่าง "หยุดก่อนค่ะ" เธอจับมือเลิ่งเชาถิงออกทันที
“อะไรเหรอ?” เลิ่งเชาถิงมึนงง
“ฉันจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำด่วน” กู้หนิพูดพลางผลักเลิ่งเชาถิงออก วิ่งไปที่ห้องน้ำ เลิ่งเชาถิงถูกทิ้งไว้บนเตียงคนเดียวและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อกู้หนิงเธอออกมาจากห้องน้ำ เธอมองไปที่ชั้นในที่ถูกถอดวางทิ้งไว้และเห็นรอยเลือด เธอฝืนยิ้ม ประจำเดือนของเธอมาผิดเวลา! ดูเหมือนว่าเลิ่งเชาถิงคงต้องอาบน้ำเย็นเพื่อระงับความต้องการของตัวเองซะแล้ว
“ขอโทษค่ะ ประจำเดือนของฉันมา” กู้หนิงพูดกับเลิ่งเชาถิงอย่างอายๆหลังจากที่ออกจากห้องน้ำ เธอเปิดกระเป๋าเดินทาง โชคดีที่เธอคิดเผื่อว่าประจำเดือนของเธออาจมาเร็วเลยเตรียมมาด้วย สิ่งที่กู้หนิงพูดเหมือนกับถังน้ำเย็นที่เทลงบนศีรษะของเลิ่งเชาถิง แต่เขาก็ยังคงใส่ใจร่างกายของกู้หนิง “คุณรู้สึกไม่สบายตัวรึเปล่า?”
“ไม่ค่ะ” กู้หนิงส่ายหน้า
เธอเดินกลับไปที่ห้องน้ำพร้อมผ้าอนามัยในขณะที่เลิ่งเชาถิงก็เดินออกจากห้องนอนไปด้วย เมื่อกู้หนิงออกมาอีกครั้ง เลิ่งเชาถิงก็เดินเข้ามาพร้อมน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว “น้ำอุ่นช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น”
“ขอบคุณค่ะ” ถึงแม้กู้หนิงจะสบายดี เธอก็ไม่อยากให้เขาผิดหวัง
หลังจากนั้นเขาก็เตือนเธอให้พักผ่อนให้เพียงพอและเดินตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อจัดการกับตัวเอง กู้หนิงรู้สึกผิดเล็กน้อยแต่คิดว่าตลกดี
เลิ่งเชาถิงอาบน้ำเย็นก่อนที่จะกอดกู้หนิงแล้วหลับไปบนเตียง วันรุ่งขึ้นประมาณ 8.00 น. กู้หนิงกำลังทานอาหารเช้ากับเลิ่งเชาถิง ซื่อตู้เย่โทรหาเธอ บอกว่าเขากำลังจะไปเมือง B และเขาอาจจะได้พบกับเธอที่เมือง G
เลิ่งเชาถิงไม่พอใจที่ซื่อตู้เย่ยังคงโทรมา แต่เขาก็มีความสุขเช่นกันที่รู้ว่าซื่อตู้เย่กำลังจะจากไป ไม่กี่นาทีต่อมาโทรศัพท์ของกู้หนิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะ”
“คุณกู้ อรุณสวัสดิ์ค่ะ ต้วนลี่ซินเองค่ะ”
มีรอยยิ้มประดับบนริมฝีปากกู้หนิง “ขอทราบคำตอบของคุณได้ไหมคะ?”
“ค่ะ ฉันยินดีทำงานกับคุณค่ะ” ต้วนลี่ซินตัดสินใจจะทำงานกับกู้หนิง ดูเหมือนจะมั่นคงมากขึ้นหากเธอเข้าร่วมบริษัทของกู้หนิงในฐานะนักเขียนบท ตราบใดที่เธอยังเป็นนักเขียนบทในบริษัทของกู้หนิง เธอจะมีโอกาสและทรัพยากรมากขึ้นในการสร้าง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเธอ
สาขาวิชาเอกของต้วนลี่ซินคือการเขียนบทภาพยนตร์และโทรทัศน์ และเธอเป็นบัณฑิตที่ยอดเยี่ยมในระดับหนึ่ง เธอจะไม่ยอมให้ตัวเองพลาดโอกาสที่กู้หนิงมีให้ เธอจะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อเป็นนักเขียนบทที่โดดเด่นให้ได้!
ต้วนลี่ซินเฝ้าคิดถึงแต่เรื่องนี้และเธอก็ฝันตลอดทั้งคืน และแทบจะไม่ได้นอนเลยจนกระทั่งรุ่งสาง
เธอคิดว่ากู้หนิงคงตื่นขึ้นมาในเวลาประมาณ 8 โมงเช้า และเธอแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะโทรหากู้หนิง
กู้หนิงไม่ประหลาดใจ “ค่ะ ฉันจะไปเจอคุณที่โรงแรมและเราจะคุยรายละเอียดกัน”
“ได้ค่ะ!” ต้วนลี่ซินดีใจตัวลอย