ลูกไก่ ที่กำลังเดินข้ามถนนอยู่ดีๆก็โดนรถชนจนได้ไปเกิดใหม่ในร่างเด็กน้อย อายุสิบขวบปีแถมยังมีครอบครัวที่น่ารักอีก ใครจะไปคิดว่าจะได้ย้อนยุค
ลูกไก่ ที่กำลังเดินข้ามถนนอยู่ดีๆก็โดนรถชนจนได้ไปเกิดใหม่ในร่างเด็กน้อย อายุสิบขวบปีแถมยังมีครอบครัวที่น่ารักอีก ใครจะไปคิดว่าจะได้ย้อนยุค
“หลันเอ๋อร์ หลันเอ๋อร์เจ้าได้ยินแม่หรือไม่ อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะลูก พ่อเจ้ากำลังไปตามท่านหมอเถาอยู่”
เสียงใครนะช่างฟังดูอบอุ่นจริงๆ โอ้ยยย ทำไมมันปวดหัวแบบนี้ ปวดจนจะระเบิดแล้วววว ไม่นานความทรงที่มีอยู่ของมู่หลันฮวาคนเก่าก็ไหลเข้ามาเหมือนเขื่อนทะลัก ในความทรงจำของมูหลันฮวาคนเก่านั้นที่ลูกไก่สัมผัสได้นั้นมีความสุขอบอวลของครอบครัวนี้อย่างมาก และก็มีความเสียใจอยู่ส่วน สาเหตุก็เพราะตัวมู่หลันฮวาได้แอบท่านแม่ของเธอไปเล่นบริเวณริมแม่น้ำจึงทำให้มู่หลันฮวาตกลงไปหัวฟาดโดนโขดหินตรงข้างริมแม่น้ำจึงทำให้เสียชีวิต เด็กหนอเด็กเพราะความซนแท้ๆ แต่ไม่เป็นไรนะพี่สาวคนนี้จะดูแลครอบครัวหนูให้เองอย่าได้เสียใจเลยนะ
ดูเหมือนว่าร่างโปร่งแสงของมู่หลันฮวาจะรับรู้ได้จึงค่อยๆ สลายหายไป เอาว่ะ ลูกไก่สู้ๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้วอย่างน้อยก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลยเสียหน่อยก่อนที่จะมาอยู่ร่างนี้
“น้องหญิง พี่พาท่านหมอเถามาแล้ว หลันเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง” มู่เหยียนชิงกล่าว
“น้องกลัวท่านพี่ ลูกเลือดไหลไม่หยุดเลย” เสียงของท่านแม่มู่หลันฮวาร้องไห้ไม่หยุด เพราะกลัวว่าหลันเอ๋อร์ตัวน้อยจะไม่อยู่กับนางแล้ว
“หลันเอ๋อร์ต้องไม่เป็นไรเชื่อพี่นะ ในเมื่อท่านหมอเถามาแล้วเจ้าอย่าได้กังวลไปเลย” มู่เหยียนชิงเองก็เป็นห่วงไม่น้อยกว่าภรรยาของเขา
“เจ้าค่ะท่านพี่” มู่หลันจิงได้แต่อ้อนวอนในใจ สวรรค์โปรดอย่าได้พรากหลันเอ๋อร์ตัวน้อยไปจากนางเลย
มู่เหยียนชิงที่นั่งดูท่านหมอตรวจอาการของหลันเอ๋อร์อยู่นั้น พอเห็นท่านหมอเถาขยับลุกขึ้นจึงได้เอ่ยถามอาการของนาง
“ท่านหมอเถา หลันเอ๋อร์ลูกสาวข้าเป็นอย่างไรบ้าง” เหยียนชิงกล่าวอย่างร้อนรนด้วยความเป็นห่วงลูก
"เรียนท่านเหยียนชิง ตอนนี้มู่หลันฮวาลูกสาวท่าน นางไม่เป็นอะไรมากแล้ว แต่ช่วงนี้ต้องดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง
เนื่องจากเสียเลือดไปจำนวนนึง ฮูหยินมู่ท่านเอายาเทียบนี้ให้ลูกสาวท่านดื่มจนหมดเทียบนี้แล้วพักผ่อนซัก 4-5 วันนางก็ดีขึ้นแล้วขอรับ" ท่านหมอเถากล่าว
“ขอบคุณท่านหมอเถามาก” หลังกล่าวขอบคุณท่านหมอเถาเสร็จแล้ว จึงหันไปบอกมู่หลันจิงผู้เป็นภรรยาของให้เอายาไปต้มเพื่อให้มู่หลันฮวาดื่ม จึงเดินออกไปส่งท่านหมอเถาที่หน้าบ้านพร้อมกับยื่นเงินค่ารักษาให้ท่านหมอเถา 5 เหรียญเงิน แม้ค่ารักษาจะเป็นเงินจำนวนไม่น้อย แต่เพื่อหลันเอ๋อร์ลูกตัวน้อยอย่างนางแล้วมู่เหยียนชิงไม่เคยคิดเสียดายเลย
“ท่านพ่อขอรับ หลันเอ๋อร์เป็นเช่นไรบ้างขอรับลูกเป็นห่วงน้องยิ่งนัก” มู่เฟยชิงกล่าวถามไถ่บิดาเรื่องน้องสาว
“น้องเจ้าอาการดีขึ้นมากแล้ว เลือดก็หยุดไหลไปแล้ว เพียงแต่ต้องดูแลและให้นางดื่มยาให้หมดตามที่ท่านหมอเถาสั่งให้ครบก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว”
ทางด้านมู่หลันฮวา หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้วจึงได้ลืมตาขึ้นมาแล้วทบทวนในเมื่อเธอมาอยู่ในร่างนี้ ต่อไปนี้มู่หลันฮวาก็คือเธอ เธอก็คือมู่หลันฮวาไม่ใช่ลูกไก่อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงมองสำรวจร่างนี้ของมู่หลันฮวา แม้ว่าร่างกายนี้จะผอมไปบ้างแต่ก็ยังคงความน่ารักไม่น้อย ให้ตายเถอะรูปร่างหน้าตาผิวพรรณช่างต่างกับเธอในชาติก่อนลิบลับ โตไปคงงามมิใช่น้อยเลย แต่ไม่เป็นไรเธอให้อภัย เพราะเธอคือมู่หลันฮวาคนนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ได้แต่นึกขอบคุณท่านตาอยู่ในใจ
“หลันเอ๋อร์พี่ใหญ่มาแล้ว เป็นเช่นไรบ้างเจ็บปวดตรงไหนรึไม่” มู่เฟยชิงผู้รักน้องสาววิ่งเข้ามา
“ปวดหัวเจ้าค่ะพี่ใหญ่ หลันเอ๋อร์เจ็บ ฮือ ฮือ ฮือ” เมื่อยามที่มู่หลันฮวาได้เห็นหน้าตาของคนที่เป็นพี่ชายของนางนั้น มู่หลันฮวาได้แต่อุทานในใจ โอ้มายก็อดดดด หล่อมากไอดอลชัดๆ นี่แค่อายุ 13 ปีแล้วถ้าโตเป็นหนุ่มกว่านี้จะขนาดไหนพ่อคุณเอ๋ย ไม่ได้ๆ มู่หลันฮวาคนนี้จะไม่ยอมยกพี่ชายคนให้ใคร พี่ชายที่หล่องานดีและแสนจะอบอุ่นคนนี้นางจะยึดเอาไว้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
“ไม่เป็นไรนะหลันเอ๋อร์พี่ใหญ่อยู่ตรงนี้” มู่เฟยชิงจึงเดินเข้าไปกอดปลอกนาง ดีใจจังที่นางมีพี่ชายใจดีและอบอุ่น อ่อนโยน
“แฮ่ม!! ฟื้นขึ้นมาเจ้าคงหลงลืมไปแล้วกระมังว่ายังมีพ่อกับแม่เจ้าอยู่ตรงนี้ด้วยถึงได้ไปอ้อนแต่พี่ใหญ่ของเจ้า” กล่าวจบมู่เหยียนชิงและมู่หลันจิงเดินเข้าไปกอดบุตรสาวอย่างดีใจ
มู่หลันฮวาหันไปตามเสียงพูด นางไม่แปลกใจเลยเมื่อได้เห็นหน้าของคนเป็นพ่อและแม่ของนาง พ่อก็หล่อ แม่ก็งาม พี่ใหญ่ก็ได้ท่านพ่อ ครอบครัวนี้เป็นแหล่งรวมคนหน้าตาดีหรือไงนะ และเมื่อได้รับอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นของคนที่ขึ้นชื่อว่าท่านพ่อกับท่านแม่ที่ชิวิตก่อนของนางไม่เคยจะได้รับ น้ำตาก็พาลรื้นไหลออกมาอย่างมากมาย นางไม่เคยคิดเลยว่าครั้งนึงในชีวิตนางจะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์กับเขาด้วย มีทั้งพ่อ แม่ และพี่ชาย นางจึงตั้งใจเอาไว้ว่าไม่ว่ายังไงนางก็จะรักษาครอบครัวนี้ของนางให้มีแต่ความสุขตลอดไป
“หลันเอ๋อร์ รักท่านพ่อ รักท่านแม่ และก็รักพี่ใหญ่ที่สุดเลยเจ้าค่ะ”
“พี่ใหญ่คนนี้ก็รักน้องสาวคนนี้ที่สุด” มู่เฟยชิงกล่าวบอกกับนา'
“พ่อกับแม่ก็รักเจ้ามากเช่นกันหลันเอ๋อร์” เมื่อมู่เหยียนชิงกล่าวจบ มู่หลันจิงก็ได้นำยามาให้นางดื่มทันที
“ท่านแม่ ไม่ดื่มไม่ได้หรือเจ้าค่ะ มันขมมากเลยหลันเอ๋อร์ไม่อยากดื่มเลย” นางได้แต่ออดอ้อนผู้เป็นแม่
“โป๊กก!! ไม่ได้นะหลันเอ๋อร์ ร่างกายลูกยังไม่แข็งแรง ลูกต้องดื่มยาให้หมดเชื่อที่แม่บอกเถอะนะเด็กดี” หลังจากที่นางโดนท่านแม่แกล้ง จึงได้แต่ถอนหายใจแล้วยอมดื่มยาจนหมด
5 วันผ่านไปหลังจากที่ร่างกายของนางหายดีแล้ว นางจึงเดินไปสำรวจบริเวณรอบๆ บ้านที่มีพื้นที่พอให้ทำมาหากินประมาณ 5 หมู่ เดินเลยไปไม่ไกลก็เจอกับแม่น้ำ แต่เอ๊ะ มันคุ้นๆ อยู่นะแม่น้ำตรงนี้ดูไปดูมาก็พลันนึกออก ใช่แล้วมันคือที่ที่มู่หลันฮวาคนก่อนตกลงไป นางจึงละความสนใจแล้วเดินไปเรื่อยๆ จนถึงชายป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก อืม ลองเข้าไปหน่อยดีกว่า นางจึงเดินเข้าไปในป่าชั้นใน สายตาจึงไปสะดุดเข้ากับสมุนไพรชนิดหนึ่ง นั่นมัน!! โสมนี่นา หัวใหญ่มากๆ เลย เก็บไปดีกว่าแบบนี้นางก็จะมีเงินแล้วสิ แค่คิดว่าจะได้เงินก็ดีใจจนเนื้อเต้น มู่หลันฮวาจึงตัดสินใจขุดโสมขึ้นมา 5 ต้นใหญ่ๆ แล้วเอาผ้าห่อเดินกลับบ้าน
“หลันเอ๋อร์ นั่นน้องไปเก็บอะไรมา” เสียงของพี่ใหญ่ทำให้มู่หลันฮวาหันไปมองแล้วส่งยิ้มดีใจให้พี่ชาย
“พี่ใหญ่ ดูนี่สิว่าข้าเก็บได้อะไรมา” นางจึงเปิดห่อผ้าให้พี่ใหญ่ดู พี่ใหญ่ถึงกับตกใจนิ่งค้าง
มู่เฟยชิงที่ยังตกใจไม่หายก็ได้ยินเสียงมู่เหยียนชิงผู้เป็นบิดา
“หลันเอ๋อร์นี่ลูกเดินเข้าไปในป่าตัวคนเดียวใช่หรือไม่ มันอันตรายนะรู้มั้ยว่าพ่อเป็นห่วงเจ้าแค่ไหน” มู่เหยียนชิงจึงเข้าไปกอดปลอบบุตรสาว
“ลูกขอโทษเจ้าค่ะท่านพ่อ ที่ทำให้ท่านพ่อเป็นห่วง ต่อไปลูกจะบอกกล่าวแก่ท่านพ่อ ท่านแม่ และพี่ใหญ่นะเจ้าค่ะ ท่านพ่ออย่าโกรธหลันเอ๋อร์เลยนะเจ้าค่ะ” นางใช้สายตาออดอ้อนผู้เป็นบิดาจนต้องใจอ่อนให้นาง
“พ่อไม่โกรธเจ้าหรอก แต่พ่อแค่เป็นห่วงเจ้า” มู่เหยียนชิงกล่าวให้บุตรสาวเข้าใจ
“ท่านพ่อ ท่านดูนี่สิเจ้าค่ะข้าเก็บมาได้” นางจึงยื่นโสมหัวใหญ่ให้มู่เหยียนชิง
“หลันเอ๋อร์ นี่มัน โสมร้อยปีนี่ เจ้าไปเอามันมาจากไหนรึ” มูเหยียนชิงกล่าวถามบุตรสาวด้วยความดีใจเพราะโสมอายุกว่าร้อยปีใช่ว่าใครจะเจอกันได้ง่ายๆ
“ข้าไปเจอมันในป่าเจ้าค่ะท่านพ่อเลยเก็บออกมา ท่านพ่อ ท่านนำมันไปขายได้รึไม่บ้านเราจะได้มีเงินเยอะๆ” มู่หลันฮวากล่าวออกไปอย่างดีใจ
“ได้ๆ แล้วพ่อจะรีบเอาไปขายให้เดี๋ยวนี้เลย” มู่เหยียนชิงจึงได้ชักชวนบุตรชายเข้าไปขายโสมในเมืองทันที