เธอ ‘หัวหน้าแม่มดแห่งเมียวเจี่ยง’ เกิดใหม่ในร่างสาวน้อยที่น่าสมเพชที่ถูกทุกคนรุมรังแก เธอกลายเป็นคนมีชื่อเสียงและโลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจบันเทิงและกลายเป็นเจ้าชายแห่งชาติที่มีเสน่ห์ต่อหัวใจของหญิงสาว
เธอ ‘หัวหน้าแม่มดแห่งเมียวเจี่ยง’ เกิดใหม่ในร่างสาวน้อยที่น่าสมเพชที่ถูกทุกคนรุมรังแก เธอกลายเป็นคนมีชื่อเสียงและโลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจบันเทิงและกลายเป็นเจ้าชายแห่งชาติที่มีเสน่ห์ต่อหัวใจของหญิงสาว
ถังหยวนกลั้นขำ ‘แค่ก แค่ก’ อะไรจะบังเอิญขนาดนี้! โต๊ะถูกส่งมาในขณะที่มันกำลังจะพูดอะไรบางอย่างพอดี
“ถังหยวนน้อย เจ้าอยากจะหัวเราะสินะ ถ้าอยากหัวเราะก็หัวเราะออกมาดังๆ ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก” อย่างมากที่สุด เธอก็แค่โยนมันลงไปในน้ำแล้วก็ต้มแค่นั้น
“ท่านลอร์ดจื่อ ข้าไม่ได้อยากจะหัวเราะจริงๆ นะขอรับ”
“หึ เจ้ากู่โง่” หลิงจื่อคลี่ยิ้ม
หลิงจื่อหัวเราะและเดินไปที่ประตู เธอเปิดประตูและปล่อยให้คนเข้ามา เธอกอดอกพิงผนัง มองดูพวกเขาอย่างเฉยเมย
คนเหล่านั้นวางโต๊ะลงและก็มีคนเข้ามาทีละคน พวกเขาเข้ามาติดตั้งคอมพิวเตอร์และสิ่งอื่นๆ
“พ่อซื้อข้อสอบที่จะออกสอบมาให้ คืนนี้ก็ดูข้อสอบพวกนี้ทั้งคืน พรุ่งนี้ก็อ่านหนังสือสอบที่บ้าน วันมะรืนก็จะสอบแล้ว” หลิงเจิ้นเซิงมองเธอพร้อมกับคำเตือนหลังจากที่พนักงานติดตั้งออกไปแล้ว
“อ้อ” หลิงจื่อรับคำเบาๆ
“ผมต้องทำให้หมดสองเล่มนี้?” เขาชี้ไปที่หนังสือสองเล่มบนโต๊ะและมองพ่อของตัวเอง “นี่มันแผนการสอนทั้งปีเลยนะครับ”
“ผมขอถามได้ไหมครับ? คุณพ่อที่รัก” หลิงจื่อยิ้มอย่างประชดประชันขณะที่ดวงตาของเธอกวาดไปทั่วใบหน้าของเขา "ผมอยากรู้มาก พ่อต้องการให้ผมเข้าไปที่ Molk หรือต้องการให้ผมอยู่ในทะเบียนบ้านของครอบครัวหลิงของพ่อกันแน่?”
“ลูกยังอยากเข้า Molk อยู่อีกรึ?” หลิงเจิ้นเซิงมองหลิงจื่อด้วยความรังเกียจในขณะที่เขาเดินไปรอบๆ ห้องของหลิงจื่อ “ตอนนั้นเราตกลงกันแล้วนี่ ตราบใดที่ลูกเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายอันดับหนึ่งได้ พ่อจะยอมให้ชื่อลูกเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของครอบครัวหลิง ถ้าลูกเข้าไม่ได้ ก็ไปเรียนโรงเรียนประจำ ส่วนชื่อของลูกก็ยังอยู่ในทะเบียนบ้านกับแม่ลูก”
“แล้วถ้าหากผมเข้าไปใน Molk ได้ล่ะ?” หลิงจื่อกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ถ้าลูกสามารถเข้าไปใน Molk ได้ ไม่เพียงแต่พ่อจะให้ชื่อของลูกปรากฏในทะเบียนบ้านของตระกูลหลิง ลูกยังสามารถขออะไรก็ได้ที่ลูกต้องการ ถ้ามันสมเหตุสมผล พ่อก็ให้ได้”
โอเค" หลิงจื่อยิ้มหลังจากยืนยันข้อตกลง เธอยังคงดูถูกเหยียดหยามเหมือนเดิม แต่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
หลิงเจิ้นเซิงเหลือบมองลูกชายอย่างเฉยเมย “นิสัยลูกคล้ายแม่ของลูกจริงๆ”
“ผมไม่มีแม่ตั้งแต่วันที่เธอส่งผมมาที่นี่แล้ว” หลิงจื่อยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจและเปิดประตู “พ่อออกไปได้แล้ว ผมอยากจะพักผ่อน"
“แม่ของลูกก็มีเหตุผลของตัวเอง” หลิงเจิ้นเซิงขมวดคิ้วเบาๆ เมื่อเห็นการแสดงออกของลูกชาย “ลูกไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว ต้องมีเหตุมีผลได้แล้ว”
“จะออกหรือไม่ออก?” หลิงจื่อชักหงุดหงิดกับความจู้จี้ของหลิงเจิ้นเซิง ผู้ชายคนนี้กล้าพูดถึงผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าเธอเท่านั้น หากอยู่ต่อหน้ามู่เสวี่ยหลิง ก็คงไม่กล้าปริปากพูดอะไรสักคำ
การทำดีกับเธออาจเป็นการทำร้ายเธอ เธอไม่รู้ว่าพ่อของเธอคนนี้มีประโยชน์อะไร
“ท่านลอร์ดจื่อ มีคนแอบฟังอยู่ที่ประตูขอรับ” ทันใดนั้นเสียงของถังหยวนก็เข้ามาในหัวของเธอ
ดวงตาของหลิงจื่อเป็นประกายและมุมริมฝีปากของเธอก็ขดเป็นรอยยิ้ม เธอเงยหน้าขึ้นมองหลิงเจิ้นเซิง และเสียงของเธอก็อ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย “พ่อครับ ผมขอถามอะไรอย่างหนึ่งสิครับ”
“หืม?” หลิงเจิ้นเซิงที่กำลังจะเดินออกไป หันกลับมามองหลิงจื่อ
“พ่อเป็นห่วงผมจริงๆ หรือเปล่าครับ?”
“ลูกเป็นลูกพ่อ พ่อย่อมเป็นห่วงลูกอยู่แล้ว”
“แล้วแม่ของผมล่ะ?” เสียงของหลิงจื่อต่ำเล็กน้อย “แม่บอกเสมอว่าพ่อจะกลับไปหาแม่ แม่รอมานานหลายปี แต่พ่อก็ไม่เคยกลับมา แม่เอาผมมาทิ้งไว้ที่นี่ ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวตามลำพัง ผมเกลียดแม่ แต่แม่เป็นแม่แท้ๆของผม ในเมื่อพ่อห่วงผมเหมือนเป็นลูกชายของพ่อ งั้นพ่อก็ต้องห่วงแม่ด้วยใช่ไหม?”