Your Wishlist

ปมรักถักทอดวงใจ (Chapter 2 – ไล่ตามเหมิงกู้)

Author: BuaElla แปล

เขาหล่อเหลา จองหองและรวยมาก ด้วยความตรงไปตรงมาและกล้าหาญ เธอไล่ตามเขาอย่างไร้ยางอาย ส่งของขวัญดอกไม้ให้เขาและพยายามเข้าใกล้เขาทุกครั้งที่มีโอกาส วันหนึ่งเพื่อนร่วมงานของเขาซุบซิบเกี่ยวกับเธอ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจถอยออกมา จากนั้นเขาก็ปฏิเสธเธอ และบอกว่าเธอกับเขาเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้น เธอหลบเลี่ยงเขา แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็หนีเขาไม่พ้น

จำนวนตอน : 89

Chapter 2 – ไล่ตามเหมิงกู้

  • 27/02/2564

เฉินโหรวหยูได้พบกับเหมิงกู้เพราะเพื่อนที่แสนดีของเธอ ‘เกาอูหลาน’ เหมิงกู้เป็นเพื่อนสามีของเกาอูหลาน ‘หยินเซ่อ’

 

วันหนึ่งหยินเซ่อและเพื่อนของเขามีเรื่องทะเลาะวิวาท และไปโรงพยาบาลที่เหมิงกู้ทำงานอยู่ เฉินโหรวหยูที่ตามพวกเขาไปด้วยก็ได้พบกับคุณหมอเหมิงกู้ ซึ่งไม่ว่าเขาจะชื่ออะไรหรือมีท่าทีอย่างไรก็ดูไม่เหมือนหมอเลยสักนิดเดียว

 

เขาบอกว่าแซ่พ่อของเขาคือเหมิง ส่วนแซ่ของแม่คือกู้ และชื่อของเขาคือเหมิงกู้

 

เมื่อเฉินโหรวหยูได้ยินเช่นนั้นก็อยากหัวเราะเพราะคนที่มีชื่อแบบนี้ก็กลายเป็นหมอได้

 

พอชื่อของเขามารวมกัน เขาจึงถูกเรียกว่า...คุณหมอเหมิงกู้ (ในภาษาจีนหมายความว่าหมอชาวมองโกเลีย)

 

ความประทับใจแรกต่อคุณหมอมองโกเลียคนนี้คือ.....เขาหล่อมากและตลกมาก

 

เธอชอบผู้ชายที่มีชีวิตชีวาและมีอารมณ์ขัน เพราะเธอเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสียและไม่คิดเล็กคิดน้อย ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจผู้ชายประเภทที่อ่อนโยนและอ่อนไหวง่าย

 

แต่เธอทำพลาด เธอไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างคนที่ร่าเริงและมีอารมณ์ขันกับ....คนที่หน้าด้านและปากร้าย

 

ในตอนนั้นเธออยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญของผู้หญิง เธออยู่ในวัยที่ควรแต่งงาน เธอไม่มีแฟนแถมยังต้องดิ้นรนทำงานคนเดียวในเมืองต่างถิ่น เธอต้องการการดูแลและความรัก

 

เมื่อมองย้อนกลับไป เธอต้องยอมรับว่าบางครั้งผู้หญิงในช่วงนี้ของชีวิตมักอ่อนไหวง่าย และก็ง่ายมากที่จะทำผิดพลาด ตอนนั้นเธอก็เป็นแบบนี้

 

เธอทำพลาดที่คิดว่าเขาเป็นคนอารมณ์ขัน จากนั้นชีวิตของเธอก็ถูกห่อหุ้มด้วยความผิดพลาดของเธอเอง

 

ตอนนั้นเธอมีสองทางเลือก หนึ่งคือเพื่อนที่แสนดีของหยินเซ่อ ‘เล่ยเฟิง’ นายตำรวจหนุ่มที่ใจดีและแสนสุภาพ ส่วนอีกคนคืออีตาหมอมองโกเลีย ‘เหมิงกู้’

 

แม้ว่าจะบอกว่าเป็นสองทางเลือก แต่ในความเป็นจริงเฉินโหรวหยูไม่ได้ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบกับคนใดคนหนึ่ง ตอนนั้นเธอแค่ได้พบกับผู้ชายสองคนที่มีคุณสมบัติที่ดีในเวลานั้นเท่านั้นเอง

 

เธอเก็บงำความรู้สึกของนักล่าไว้ในใจ มันเป็นปัญหาของผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง เธอยอมรับว่าเธอมีปัญหามากมาย และเธอก็เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆ

 

ช่วงเวลาสั้นๆเฉินโหรวหยูไม่รู้ว่าควรเลือกใคร ดังนั้นเธอจึงทำผิดอีกครั้ง เธอขอให้เพื่อนของเธอเกาอูหลานช่วยหาข้อมูลจากหยินเซ่อเกี่ยวกับผู้ชายสองคน

 

เธอแค่อยากรู้ว่าพวกเขายังโสดอยู่ไหม มีความสนใจงานอดิเรกอะไรบ้าง บลาๆๆ ในฐานะผู้หญิงยุคใหม่เธอคิดว่าสิ่งนี้จะปลอดภัยมากขึ้น และหลังจากได้รับข้อมูลแล้วเธอถึงตัดสินใจว่าควรไล่ตามใคร

 

ใช่ เธอไม่สนว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เธอไม่ใช่ผู้หญิงจ๋าหรือเป็นผู้หญิงที่ต้องเชื่อฟังโดยไม่มีคำถาม เธอแค่ต้องการเป็นผู้หญิงธรรมดาที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ชายที่ดี ที่มีงานทำมั่นคงและใช้ชีวิตที่สงบสุข

 

เธอพยายามอย่างหนักในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่และทำงานหนักเพื่องานของเธอ แล้วทำไมไม่พยายามอย่างหนักในการหาคู่ชีวิตตัวเองล่ะ

 

ดังนั้นหลังจากทราบว่าเล่ยเฟิงมีคู่หมั้นแล้ว เหมิงกู้ก็กลายเป็นเป้าหมายของเฉินโหรวหยูในทันที

 

นี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่สุดของเธอ

 

เมื่อผิดพลาดครั้งหนึ่ง ความผิดพลาดครั้งที่สองที่สามก็ตามมา และตามมาด้วยความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

เธอทำผิดโดยการเชื่อในความประทับใจแรกของเธอที่มีต่อเหมิงกู้ เธอไม่ได้ตระหนักถึงตัวตนที่แท้จริงของชายผู้น่ารังเกียจคนนี้ ซึ่งส่งผลให้เกิดความโชคร้ายต่อตัวเธอในอนาคต

 

เนื่องจากหยินเซ่อรู้ว่าเธอสนใจผู้ชายสองคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งนั่นหมายความว่าเหมิงกู้ก็น่าจะรู้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงใช้เรื่องนี้เยาะเย้ยเธอ

 

ความผิดพลาดครั้งใหญ่สุดของเธอคือการตั้งเป้าหมายผิด วิ่งไปผิดทาง และต่อมาเมื่อเธอต้องการถอยก็พบว่ามันสายไปแล้ว

 

เฉินโหรวหยูมองไปที่กองต้นหอมบนเขียง จากนั้นเธอก็นึกได้ว่าก่อนที่เธอจะสับต้นหอมเธอลืมล้างมัน เธอจำได้ว่าตอนที่ซื้อมาเธอเห็นโคลนเกาะที่ต้นหอม

 

ตอนนี้ควรทำไงดี?

 

แน่ใจได้แค่ไหนว่าหลังจากกินอาหารไม่สะอาดนี้เขาจะไม่ป่วย? แต่สำหรับคนป่วยจริงๆแล้วจะยังมีปัญหาอีกเหรอ?

 

เฉินโหรวหยูลังเล หรือจะทิ้งต้นหอมให้หมด? แต่เหมิงกู้ชอบกินต้นหอม โจ๊กที่ไม่มีต้นหอมจะยังน่ากินอยู่หรือ?

 

คิ้วของเธอขมวดเป็นปมและรู้สึกหงุดหงิด เห็นได้ชัดว่านี่เป็นปัญหาเพียงเล็กน้อยแต่ทำไมเธอต้องลังเลด้วยนะ

 

หัวของเธอรู้สึกร้อน เธอหยิบกะละมังเติมน้ำแล้วใส่ต้นหอมทั้งหมดลงในอ่าง อย่างน้อยก็ถือว่าเธอล้างต้นหอมแล้ว ต้นหอมลอยอยู่ในน้ำและสิ่งสกปรกก็จมลงไปด้านล่าง จากนั้นเธอก็ใช้มือของเธอตักต้นหอมขึ้นมา

 

โง่จริง!

 

เธอตบกะลังมังและเสียใจที่ตัวเองเชื่อฟังขนาดนี้

 

เธอยังโมโหให้เขาอยู่และตัดสินใจไม่สนใจเขา แต่พอเขาโทรมาหา เธอก็มาหาเขาทันที

 

จริงๆแล้วเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ยังไง? เธอพิงขอบโต๊ะและมองหม้อโจ๊กบนเตา

 

ตอนนั้นที่เธอตัดสินใจจะไล่ตามจีบเหมิงกู้ เธอวางแผนอย่างจริงจัง

 

สเต็ปแรก สร้างสถานการณ์พบกันโดยบังเอิญ

 

สเต็ปที่สองคือปรับให้เข้ากับความชอบของเขาและดึงดูดความสนใจจากเขาให้ได้

 

สเต็ปที่สามคือการรักษาความสม่ำเสมอและสารภาพความรู้สึก

 

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ สเต็ปที่สี่คือทะเบียนสมรส แต่งงาน และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

 

และถ้ามันราบรื่นขึ้นอีกหน่อย สเต็ปที่ห้าคือการให้กำเนิดทารกและเธอไม่จำเป็นต้องกังวลสำหรับข้าวของเครื่องใช้ชีวิตประจำวันอีกต่อไป

 

แล้วดูตอนนี้สิ! นี่แหละหนาที่เขาเรียกว่าชีวิต

 

เฉินโหรวหยูคาดไม่ถึงว่าเมื่อเธอทำตามสเต็ปแรก เธอก็พบกับความพ่ายแพ้แล้ว

 

เหมิงกู้ปฏิบัติหน้าที่ในคลินิกผู้ป่วยนอกหนึ่งวันต่อสัปดาห์ และในบางครั้งเขาก็ปฏิบัติหน้าที่ในหอผู้ป่วยในที่โรงพยาบาล เพื่อที่จะไล่ตามเขา เฉินโหรวหยูคำนวณเวลา ทำทุกวิถีทาง แสร้งทำเป็นป่วยและลงทะเบียนเพื่อรับการรักษาจากนั้นส่งดอกไม้และอาหารให้เขาเพื่อแสดงความขอบคุณ

 

เธอยังใช้ชื่อเกาอูหลานเพื่อนของเธอ และชื่อหยินเซ่อเป็นข้ออ้างในการออกเดทกับเขา

 

เธอคิดว่าเธอชัดเจนมาก และเขาต้องรู้ความหมายของเธอ แต่เขาไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ ราวกับว่าไม่เข้าใจสิ่งที่เธอทำ เขาทำตัวไร้เดียงสาและเป็นคนดี

 

ตอนนั้นเฉินโหรวหยูโง่เขลาและเธอไม่ใช่ทหารผ่านศึกในเกมประเภทนี้ อันที่จริงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอมุ่งหน้าไล่ตามจีบผู้ชายคนหนึ่ง ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

 

อาจเป็นเพราะเธอแสดงออกในทางที่ผิด เขาจึงไม่รู้สึกถึงมัน  หรือบางทีพวกเธออาจถูกแยกจากกันด้วยความสัมพันธ์ของเกาอูหลานและหยินเซ่อ และเขาไม่คิดที่จะเริ่มสานสัมพันธ์กับเธอ

 

ในเวลานั้นเธอเป็นคนโง่เขลาคนหนึ่งและรู้สึกขายหน้าอยู่บ้าง แม้ว่าเธอจะเป็นคนขี้อาย จองหองนิดหน่อย ด้วยเหตุผลหลายประการเธอไม่กล้าที่จะแสดงออกอย่างชัดเจนกับเหมิงกู้ แต่ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งกล้าแสดงออก ทุกวันเธอจะคิดหาวิธีแสดงตัวตนให้เมิ่งกูรับรู้ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอบังเอิญได้ยินบทสนทนาของพยาบาลที่โรงพยาบาล

 

 “เธอว่าเฉินโหรวหยูคนนั้นไร้ยางอายขนาดนี้ได้ยังไง คุณหมอเหมิงบอกชัดเจนว่าไม่สนใจเธอ แต่เธอก็ยังทำตัวติดกับเขาอยู่ได้”

 

“ด้วยคุณสมบัติของเธอ การจะหาแฟนสักคนคงยาก ไม่สวย ทำงานขายประกัน คิดว่าตัวเองรู้จักกับเพื่อนหมอเหมิง และคิดว่าเขาเป็นเป้าหมายที่จับได้ง่าย เธอควรสำเหนียกดูตัวเองว่าเหมาะสมกับคุณหมอรึเปล่า”

 

“ฉันคิดว่าคุณหมอเหมิงชอบพยาบาลเถียน พวกเขาชอบคุยและหัวเราะด้วยกันบ่อยๆ”

 

“น่าจะเป็นอย่างนั้น วันนั้นพยาบาลเถียนก็บ่นกับฉันเกี่ยวกับเฉินโหรวหยู บางทีหมอเหมิงอาจบอกอะไรบางอย่างกับเธอ ฉันไม่สนใจเรื่องซุบซิบหรอก ไม่อย่างนั้นฉันว่าจะคุยกับเฉินโหรวหยูและบอกเธอว่าอย่ามาอีกเลย น่าอายจะตายที่ผู้หญิงวิ่งไล่ตามผู้ชาย และยังทำให้เขาบ่นอย่างขมขื่นกับผู้หญิงอีกคน ที่ไหนในโลกไม่มีหญ้า? ไม่ว่าฝาจะต้องพอดีกับหม้ออะไรก็ตาม เราต้องเข้าใจสถานการณ์เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องขายหน้า เธอไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?”

 

“จริง ของขวัญที่เธอให้เขา หมอเหมิงไม่เคยเก็บไว้เลย ฉันคิดว่าดอกไม้คงมอบให้พยาบาลเถียน และลูกอมทุเรียนก็แจกจ่ายให้พยาบาลคนอื่นๆ ถ้าฉันเป็นเฉินโหรวหยู คงไม่กล้ามาอีกแล้ว”

 

เฉินโหรวหยูซ่อนตัวอยู่ที่มุม รับฟังความเห็นอกเห็นใจและความไม่พอใจที่ไม่มีที่สิ้นสุดต่อตัวเธอ เธอไม่มีหน้าจะเดินผ่านพวกเขา เธอล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าและถือลูกอมทุเรียนที่เธอนำมาในครั้งนี้ นี่คือลูกอมที่เธอโปรดปรานและสำหรับเธอมันมีราคาแพงมาก ตอนที่เหมิงกู้ยอมรับลูกอมจากเธอ เขายิ้มให้เธอจนทำให้เธอคิดว่าเขาก็ชอบมันเช่นกัน แต่ความจริงคือเขาไม่ได้ชอบมันเลย

 

อันที่จริงถ้าเขาไม่ชอบ เขาก็ควรบอกเธอไปตรงๆ ทำไมเขาถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ถ้าเขาต้องการที่จะไว้หน้าเธอ เขาควรบอกอะไรเธอบ้าง เธอจะได้เข้าใจ แต่เขาไม่ได้พูดอะไรต่อหน้าเธอ และหันไปบ่นให้คนอื่นฟัง นี่มันอะไรกัน?

 

ความคิดของเฉินโหรวหยูว่างเปล่า เธอรู้สึกอายและขายหน้ามากจนไม่สามารถขยับตัวได้ ทันใดนั้นเธอก็รู้ว่าบทสนทนาของพยาบาลหยุดลง และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมอง เธอก็เห็นพยาบาลเดินมายังมุมที่เธอยืนหลบอยู่

 

พยาบาลทำหน้าตื่นตกใจ ไม่คิดว่าคนที่เพิ่งเป็นหัวข้อสนทนาเมื่อสักครู่ยืนฟังพวกเธออยู่ ดวงตากลมโตของเฉินโหรวหยูสบเข้ากับดวงตาเล็กๆของนางพยาบาล

 

นางพยาบาลกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เมื่อเฉินโหรวหยูรวบรวมสติได้ เธอรู้ว่าสีหน้าเธอดูแย่มาก แต่ยังพยักหน้าและกล่าวว่า “ขอบคุณ” จากนั้นก็หมุนตัวเดินหนีไป

 

ขอบคุณ?!

 

ความจริงเธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงพูดแบบนั้น อย่างไรก็ตามเธอคิดว่าคงไม่ได้เจอเหมิงกู้อีกแล้ว

 

 

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป