คนเราควรตอบสนองอย่างไรเมื่อถูกจับได้ว่าพูดจาไม่ดีลับหลังคนอื่น?
เฉินโหรวหยูไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน เธอทำใจกล้าหน้าหนา ตอบเขาไปว่า “คุณหลี่พูดว่า พอจะมองออกว่า คุณหมอเหมิงเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมาก และมีอนาคตที่แสนสดใส”
“คุณหลี่มีไหวพริบดีนะครับ ผมตกหลุมรักคุณแล้วสิ” เหมิงกู้เดินไปนั่งด้านข้างของหลี่เจี้ยน เฉินโรวหยูอยากจะตบหน้าผากตัวเอง
แก้แค้น! เขากำลังแก้แค้นเธอ!
“เพื่อนของผมกลับไปแล้ว ผมเหงามากเลย” เหมิงกู้ยิ้มให้หลี่เจี้ยน ยิ้มของเขาก่อให้เกิดความกลัวในใจของหลี่เจี้ยน
นี่หมายความว่า..ว่า...คุณเหมิงต้องการทำอะไรบางอย่างกับเขา...ใช่ไหม? แต่เขาไม่ใช่แบบนั้นนะ
หลี่เจี้ยนจ้องเฉินโหรวหยูตาแป๋ว ส่งสายตาขอความช่วยเหลือ
เฉินโหรวหยูได้แต่กระพริบตาปริบๆ เธอมีความผิด แม้แต่ผายลมยังไม่กล้าเลย แล้วจะช่วยเขาได้ยังไง!
เหมิงกู้ยังคงมองหน้าหลี่เจี้ยนและยิ้มให้เขา มือของเขาเริ่มลูบต้นขาของหลี่เจี้ยน “ผมควรเรียกคุณหลี่ว่ายังไงครับ?”
“หลี่....หลี่เจี้ยน”
“อาเจี้ยน....อ่า....” เหมิงกู้ลากเสียงซึ่งทำให้หัวใจของเฉินโหรวหยูสั่นสะท้าน เขาพูดว่าอะไรนะ! อาเจี้ยน!?
(หลี่เจี้ยน - คำว่า 'เจี้ยน' หมายถึงสุขภาพแข็งแรงและมีพินอินเหมือนกับคำว่า 'ราคาถูก' ซึ่งเป็นการเล่นคำตัวอักษรจีนของทั้งสองคำจะแตกต่างกัน)
“อาเจี้ยน คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายครับ?”
หลี่เจี้ยนขนลุกซู่ทั้วตัวและไม่สนใจจะตอบคำถาม เขารีบกระเถิบขาออกจากเหมิงกู้ เหมิงกู้ไม่ได้ขยับเข้าหา เขาเพียงวางมือบนไหล่ของหลี่เจี้ยนเบาๆ “คุณไม่ต้องอาย ในฐานะหมอ พวกเราเห็นเรื่องนี้มามากและเปิดกว้างกับเรื่องนี้มาก”
เฉินโหรวหยูไม่สามารถทนได้อีกต่อไป “คุณหมอเหมิงคะ...”
แค่เธอเปิดปากพูด เขาก็หันควับมาจ้องเธอทันที เธอรีบหุบปากฉับ
“อาเจี้ยน เป็นเพราะว่าคุณมีประสบการณ์น้อย ความอยากรู้อยากเห็นของคุณก็เลยมีมาก” คำพูดพวกนี้หมายความว่ายังไง? หลี่เจี้ยนส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง เขาไม่อยากรู้แล้วและไม่ต้องการมีประสบการณ์ประเภทนี้
“ในเมื่อคุณไม่อยากรู้อยากเห็น ดังนั้นคงเป็นศีลธรรมของคุณที่ไม่ดี ไม่อย่างนั้นจะพูดอย่างภาคภูมิใจโดยไม่คิด ทำให้คนอื่นเกิดข่าวลือในทางไม่ดีได้เหรอ? รสนิยมทางเพศของคนอื่นขึ้นอยู่กับเจ้าตัว แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยไม่ทราบ? ถ้าคุณรู้สึกว่าง เบื่อ เหงา ก็หมกตัวอยู่บ้าน ใช้เวลาไปกับการดูหนัง แทนที่จะออกมาข้างนอกและมีความคิดลามกกับคนอื่น สิ่งนี้อาจจะทำให้สังคมเกิดความไม่ปลอดภัย คุณควรส่งกระจกดูตัวเองที่บ้าน คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกไปพบปะผู้คน ดูการแต่งตัวและน้ำมันบนเส้นผมของคุณสิ ไม่มีรสนิยมเอาซะเลย ไม่ต้องพูดถึงหน้าที่เหมือนคนอายุสี่สิบและยังมีสิวผดเต็มหน้า นัดบอดในสภาพแบบนี้ไม่คิดว่าทำให้สังคมเสื่อมลงหรอครับ?”
คำพูดรัวยาวโดยไม่หยุดหายใจ น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปร้อยแปดสิบองศา ต่างจากน้ำเสียงเคยใช้ในตอนแรกซึ่งทำให้หลี่เจี้ยนตื่นตะลึง
เฉินโหรวหยูหน้าแดงและรู้สึกว่าคำพูดของเขากระทบเธอเต็มๆ เหมือนเขากำลังตบหน้าเธอฉาดใหญ่ แบบเจ็บๆแรงๆ
แต่คนที่เจ็บกับคำพูดของเหมิงกู้ที่สุดยังคงเป็นหลี่เจี้ยน เขาพูดว่า ‘คุณ คุณ......’ อยู่นานและยังไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปาก ต่อหน้าเฉินโหรวหยูเขาไม่กล้าระบายความโกรธออกมา ประเด็นสำคัญคือหลังจากที่เขาระเบิดอารมณ์ เขาไม่มั่นใจว่าตัวเองจะเป็นคู่ต่อสู้ของเหมิงกู้ได้ เมื่อเขาเห็นเหมิงกู้ยังดูสงบและเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเขาถูกผู้ชายคนนี้กำลังสั่งสอน
“อาเจี้ยน คุณคิดว่าผมพูดผิดหรอ ผมพูดผิดตรงไหน ถ้าคุณมีความคิดเห็นอย่างอื่นก็พูดออกมาเถอะครับ พวกเราสามารถคุยกันได้ ถ้าเราจะลงลึกกว่านี้ ไม่เป็นไรนะครับ ผมไม่สนใจ”
มือชั่วร้ายนั้นเริ่มสัมผัสต้นขาของเขาอีกครั้ง
ทันใดนั้นหลี่เจี้ยนก็กระโดดผึง วิ่งจากไปทันที ไม่แม้แต่จะบอกลาเฉินโหรวหยู
เฉินโหรวหยูมองตามด้วยสายตาว่างเปล่า และไม่รู้จะตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ยังไง
หลังจากที่หลี่เจี้ยนจากไปแล้ว เหมิงกู้ก็หันมาเผชิญหน้าเฉินโหรวหยู เธอยืดหลังตรงเตรียมพร้อมรับ เธอรู้ว่าเธอเป็นรายต่อไปที่เขาจะจัดการ
“ผมกลับมาเพื่อจะบอกคุณว่าสุดสัปดาห์นี้หยินเซ่อมีงานเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อนๆมารวมตัวกัน ตอนแรกผมกะว่าจะมาชวนคุณ แต่ในเมื่อคุณเป็นคนสร้างข่าวลือและพูดจาไม่ดีลับหลังเพื่อนตัวเอง ผมคิดว่าทางที่ดีคุณไม่ควรไปงานเลี้ยง”
เธอมองเขาอย่างว่างเปล่า ใบหน้าร้อนวูบวาบ
“เกาอูหลานคงโทรมาชวนคุณไปงาน ผมหวังว่าคุณจะปฏิเสธ เตรียมเหตุผลที่จะใช้ปฏิเสธด้วยและอย่าทำให้คนอื่นดูแย่” น้ำเสียงของเขาราบเรียบ แต่สำหรับเฉินโหรวอยู คำพูดของเขานั้นรุนแรงมาก
เธอรู้ว่าเขาโกรธ
หลังจากเหมิงกู้พูดจบ ก็จากไปทันที
เฉินโหรวหยูนั่งอยู่ที่เดิมและรู้สึกอับอายมาก
เธอไม่ใช่คนแบบนั้นแต่ทำไมถึงพูดแบบนั้นออกไป? และเธอก็ถูกเขาจับได้ซึ่งทำเธอเถียงไม่ออก ในใจของเขา เธอคือคนที่ชอบซุบซิบนินทา ปล่อยข่าวลือและสร้างปัญหา เธอรู้สึกหดหู่มาก
เฉินโหรวหยูนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่นาน จากนั้นก็จ่ายเงิน หอบสังขารที่ไร้วิญญาณเดินไปที่ถนน เธอไม่ได้โบกแท็กซี่หรือขึ้นรถประจำทาง เดินจมความคิดไปเรื่อยจนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ไหน ขาสองข้างเริ่มเจ็บและเม็ดฝนก็ตกใส่หน้า เธอยกมือขึ้น เงยหน้ามองฝนที่กำลังตกลงมา
เธอถอนหายใจ เธอช่างเป็นผู้หญิงที่โชคร้ายจริงๆ ขณะที่กำลังจะมองหาป้ายรถเมล์ใกล้ๆเพื่อหาวิธีกลับบ้าน จู่ๆฝนก็เทลงมา เธอยกมือขึ้นบังศีรษะแล้วรีบวิ่งไปที่ทางเข้าร้านสะดวกซื้อ เมื่อไปถึงหน้าประตู เธอเห็นประตูกำลังเปิดออกและมีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับถือถุงช้อปปิ้ง ในขณะที่เขาพูดโทรศัพท์ มือก็ผลักประตูให้เปิดออก
“ซื้อมาแล้ว ซื้อมาแล้ว ของที่นายต้องการซื้อมาหมดแล้ว เส้นปลาหมึก เนื้อวัว มันฝรั่งทอด เบียร์ ถั่วแห้ง……อะไรนะ? ต้องการซุปเผ็ดด้วย? แค่เล่นไพ่นกกระจอกจะกินอะไรเยอะแยะ รู้รึเปล่าว่าตอนนี้ฝนตก? มีอะไรก็กินไปเถอะ ไอ้....”
ขณะที่เขาอ้าปากพูด เขาก็หันหน้ามา สายตาปะทะเข้ากับเฉินโหรวหยู
เยี่ยม เป็นเขาอีกแล้ว!
คุณหมอเหมิงกู้
ในชีวิตคนเรามักมีโอกาสมากมายได้พบเจอใครสักคน แต่ทำไมต้องเป็นเขาด้วยล่ะ?
เฉินโหรวหยูรู้สึกแย่ในใจ ทำไมเธอต้องบังเอิญเจอคนที่เพิ่งเจอด้วย? ถ้าไม่ใช่เขาคงจะดีไม่น้อย
สมองของเธอตีกันยุ่ง และภายใต้การจ้องมองที่ประหลาดใจของเหมิงกู้ เธอตัดสินใจหมุนตัวกลับ วิ่งตากฝนออกไป ดีกว่าถูกเขาทำให้อับอายอีกครั้ง
เขาคงไม่คิดว่าเธอตามเขามาใช่ไหม?
เขาคงไม่คิดว่าเธอเป็นบ้า ตั้งใจเข้าหาเขาอีกครั้งใช่ไหม?
เขาคงไม่คิดว่าเธอยังสนใจเขาอีกใช่ไหม?
เฉินโหรวหยูรีบวิ่งไปข้างหน้าท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก จากนั้นรถประจำทางก็มาถึง เธอไม่สนใจว่ารถประจำทางจะไปที่ไหน ทันทีที่ประตูเปิด เธอก็วิ่งขึ้นไป เธอนั่งลงที่ส่วนท้ายของรถด้วยสีหน้าลำบากใจ
หลังจากที่นั่งลง เธอก็หันกลับไปมองเหมิงกู้ เขาเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ข้างถนน เธอจำได้ว่านั่นเป็นรถของเขา
เธอหันหน้ากลับมา พิงหลังกับเบาะและถอนหายใจ เธอนั่งรถประจำทางในขณะที่เขามีรถขับ นี่เป็นสิ่งยืนยันว่าพวกเธอต่างกันราวฟ้ากับเหว มาจากคนละโลก
เดี๋ยวก่อนประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่เรื่องนี้ ประเด็นสำคัญคือเขาเป็นคนไม่ดีที่พูดจาไม่ดีลับหลังเธอ แต่ตอนนี้เธอกลายเป็นคนไม่ดีในใจเขาไปแล้ว นี่ถึงเป็นคนละโลกอย่างแท้จริง
ต่างคนต่างดูถูกกันและกัน และไม่มีทางได้พูดคุยกันอีกแล้ว
นี่แหละผลลัพธ์
เฉินโหรวหยูโชคไม่ดีที่ขึ้นรถผิดสาย และในที่สุดก็ต้องเปลี่ยนรถสามคันก่อนที่เธอจะถึงบ้านท่ามกลางสายฝน
เหลียงซีซีรออยู่ที่บ้านด้วยความตื่นเต้น อยากรู้ผลของการนัดบอด “เป็นไงบ้าง? คู่นัดบอดของเธอไม่ใช่สเปคเธอใช่ไหม?”
เฉินโหรวหยูพยักหน้า
“มีคนโผล่มาโดยบังเอิญไหม? คนที่เธอคาดไม่ถึง ทำหัวใจเธอตื่นเต้นตึกตักๆ?”
เฉินโหรวหยูพยักหน้าอีกครั้ง ตื่นเต้นหรอ? ตื่นเต้นจนตายเลยล่ะ!
“ว้าว อย่างที่ฉันพูดไว้ไม่มีผิด จากนั้นก็ฝนตกใช่ไหม บรรยากาศโรแมนติก”
เฉินโหรวหยูหันหน้ามาพร้อมกับหยดน้ำหยดติ๋งๆจากผม เธอพูดเบาๆว่า “ซีซี ถ้าการบังเอิญพบกันครั้งนี้เป็นเรื่องดี คงพูดได้ว่าโรแมนติก แต่ถ้าไม่ดีก็เรียกได้ว่าฝันร้าย”
ฝันร้ายนื้ทำลายสุขภาพจิตของเธอมากเกินไป เธอกะว่าจะเอาน้ำให้สบายตัวและเข้านอน เผื่อว่าจะฝันดีบ้าง
และเธอก็ฝันจริงๆ
ในความฝันของเธอ เหมิงกู้สวมเสื้อคลุมสีขาวแลดูเท่อย่าบอกใคร และพูดกับเธอเบาๆว่า "ผมขอโทษ ผมไม่ควรพูดกับพยาบาลของผมว่าคุณไม่ดี ทั้งหมดเป็นเพราะผมปากไม่ดีเอง คุณยกโทษให้ผมได้ไหม?"
อ๊าาาาา.....นี่มันน่าตกใจแล้ว เขาขอโทษเธอ!
สิ่งที่น่าตกใจกว่าคือการที่เธอตอบกลับอย่างหน้าไม่อายว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่โกรธเลย”
ไม่ ไม่ ไม่....ใครบอกว่าเธอไม่โกรธ? เห็นได้ชัดว่าจิตใจเธอถูกทำร้ายอย่างหนัก
แต่เหมิงกู้ไม่ได้ยินเสียงตะโกนในใจของเธอ ยังคงพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ในเมื่อคุณไม่โกรธแล้ว ไม่คิดจะพูดอะไรกับผมหน่อยหรอครับ?”
เธอควรจะพูดอะไรล่ะ? เธอกระพริบตาอย่างขวยเขิน
เดี๋ยวก่อนนะ นี่เธอชอบเขาอย่างนั้นเหรอ?
เขากำลังรอให้เธอสารภาพรักกับเขางั้นเหรอ?
สารภาพรัก? สารภาพรักอะไรเล่า! เห็นได้ชัดว่าเธอกับเขาเข้ากันไม่ได้สักกะผีก!
เธอดิ้นไปดิ้นมาในฝันขณะคิดไร้สาระ ทันใดนั้นใบหน้าของเหมิงกู้ก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายและคำรามว่า “ผมพูดขอโทษคุณด้วยใจจริงแล้ว คุณกับผู้ชายตัวเหม็นคนนั้นกล่าวหาว่าผมเป็นเกย์ ไม่คิดว่าควรพูดขอโทษผมหน่อยเหรอ? คุณรู้ว่าผมชอบผู้ชายเมื่อไหร่กัน? ผู้หญิงที่ชอบผมต่อคิวตั้งแต่หน้าประตูโรงพยาบาลจนถึงหน้าประตูบ้านคุณได้กระมัง คุณอยากไปถามพวกเธอไหมว่าผมชอบผู้ชายจริงๆรึเปล่า? คุณควรขอโทษผมซะ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ไม่จบแน่!”
ทันใดนั้นเฉินโหรวหยูก็ตกใจตื่นขึ้นมา
บ้าเอ้ย! นี่มันฝันร้ายชัดๆ